E-r-o-s-a-g-a-p-e : Unlimited Love ^_^
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
18 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
++..Legend of Therabithia..++ ตำนานแห่งเทราบิเทีย (บทนำ :1)

--The Legend of Therabithia --

Prolouge : Tragedy of Balbarossa

1.

"ณ ที่แห่งหนึ่งสุดแสนไกล หัวใจผูกพันกันไว้ชั่วนิรันดร์"

ในคืนแห่งหนึ่งอันเงียบสงัด ไต้ต้นไม้ใหญ่ท่ามกลางสายลมที่โบกพัดอย่างแผ่วเบา หญิงสาวผมสีทองคนหนึ่งทรุดตัวลงนั่งพิงลำต้นของต้นไม้ด้วยท่าทางอ่อนแรง .

ขุดสีขาวทอผืนเดียวตลอดตัวที่เธอสวมใส่ขาดวิ่น ผมสีทองของเธอปลิวไสวไปตามสายลมอ่อนๆ ที่พัดเข้ามา เธอใช้มือเสยผมที่ปรกหน้าและทอดขาไปตามรากไม้และเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คืนนี้เป้นคืนพระจันทร์เต็มดวง..เธอเอื้อมมือหยิบขลุ่ยในกระเป๋าออกมาด้วยมือสั่นระริก ขลุ่ยเลาสีทองสะท้อนแสงจันทร์เป้นประกาย น้ำตาของเธอหยดลงบนผิวของขลุ่ยพร้อมกับเสียงสะอื้นให้เบาๆ

"ถ้าข้าเป่าขลุ่ยนี้.. ท่านสัญญานะ ว่าจะฟังจนจบเพลง"

ภาพของขายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยุ่เคียงข้างปรากฏขึ้นมาในความคิด เขาสวมเสื้อผ้าสีสันลวดลายสดใส ด้วยหมวกแบเรต์สีแดง และแว่นตาขอบกลมทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนร่าเริง หากแต่แววตาสีน้ำทะเลของเขาทอดยาวไปอย่างเศร้าสร้อย.. ใบหน้าของเขายิ้มน้อยๆ และพยักหนัาตอบคำหญิงสาวที่นั่งแอบอิงอยู่ข้างๆว่า "ข้าสัญญา"

หญิงสาวหยิบขลุ่ยขึ้นเริ่มเป่าเป็นทำนองเบาๆ ชายหนุ่มก็เริ่มร้องเพลง...

..ข้าเดินทางมาแสนไกล..
..หวังจะหยุดหัวใจไว้ตรงนี้..
..จะขอใช้ลมหายใจที่ฉันมี..
..สักวันหนึ่งที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน..

ร้องได้ถึงท่อนนี้..หญิงสาวก็หยุดเป่าขลุ่ยขึ้นมาดื้อ ๆ ชายหนุ่มก็หยุดร้องตามด้วย.. เขาได้ยินเธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือๆ ว่า "ข้าขอโทษ... ข้าเล่นไม่จบเพลงอีกแล้ว" ชายหนุ่มหันหน้ามาและยื่นมือลูบหัวหญิงสาวและโอบมาซบตรงบ่าด้วยความอ่อนโยน .."ไม่มีอะไรนะ คนดีของข้า.. ข้าเองก็คิดเนื้อต่อไปไม่ออกเช่นกัน"

หญิงสาวเงยหน้ามาดูก็พบว่าใบหน้าของชายหนุ่มก๋มีรอยน้ำตาซึมๆ เช่นกัน เธอเอื้อมมือไปถอดแว่นของชายหนุ่มออกมา

"เรมิเอล.." หญิงสาวใช้มือปาดน้ำตา "หลังจากวันนี้..ข้าจะได้พบท่านอีกไหม" ชายหนุ่มไม่ตอลกลับ ดึงตัวหญิงสาวเข้าไปกอด.."ไม่ เจ้าหญิงของข้า..ข้าจะอยู่กับท่านตลอดไป" ทั้งสองกอดกันแนบแน่นและเวลาก็เหมือนจะหยุดลง ณ ตรงนี้.. เสียงสะอื้นให้หยุดลงเหลือเพียงเสียงลมหายใจและสายลมที่พัดใบไม้ให้ปลิวไหว ประหนึ่งจะปลอบโยนหัวใจทั้งสองดวงให้คลายความระทม..

"เจ้าหญิงเซเลสเทีย!!" เสียงตะโกนทำลายความเงียบสงัด ทั้งสองคนผละออกจากกัน..ที่มาของเสียงเป็นชายชราในผ้าคลุมสีดำที่กำลังวิ่งมาอย่างตระหนกพร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้อง

"บรึม!!!" ทันใดนั้น ท้องฟ้าได้สว่างวาบดังกลางวัน หญิงสาวและชายหนุ่มแลเห็นว่ามีเสาไฟขนาดยักษ์กำลังกลืนกินปราสาทแห่งหนึ่งอยู่ และเปลงไฟก็ได้พุ่งออกมาจากทุกทิศทางตรงไปยังเมืองที่กำลังหลับไหล พร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้อง "ตูม ตูม ตูม!!!"

"ปราสาท นี่มันเกิดอะไรขึ้น ออร์ก้า " หญิงสาวเขย่าตัวพลางจะวิ่งไปแต่ขายชราคว้ามือและดึงกลับมาพร้อมกับใช้ผ้าคลุมคลุมตัวเธอไว้กอดและบอกว่า "เจ้าหญิง ท่านจงมากับข้า"

หญิงสาวสะบัดมือและวิ่งไปหาชายหนุ่ม แต่ชายหนุ่มกับจูงมือเขามาหาชายชราและบอกว่า "ท่านออร์ก้า ..ข้าต้องไปแล้วฝากดูแลองค์หญิงด้วย"
"เฟี้ยววว" ชายหนุ่มได้ยินเสียงและหันไปดูพบว่ามีลูกไฟพุ่งมายังเนินแห่งนี้ จึงผลักตัวหญิอสาวและชายชราออกไปทันที

"เปรั้ยง!!!"
แรงระเบิดทำให้หญิงสาวและชายชรากระเด็นลงมาจากเนิน ความที่เนินเป็นหญ้าให้ติดไฟได้ง่ายนัก ไฟได้ลามไปทั่วดังว่ากลายเป็นภูเขาไฟจากนรกก็ไม่ปาน

"เรมิเอล!!!" หญิงสาวได้สติรีบลุกไปหาชายหนุ่มแต่ชายชราดึงตัวไว้ "เราต้องรีบไปเจ้าหญิง" "เรมิเอล ออร์ก้า..ท่านพ่อท่านแม่ละ นี่มันอะไรกัน เรมิเอล..ไม่นะ" หญิงสาวร้องให้และจะวิ่งไปหา แต่ชายขราพูดว่า "ท่านจะทำให้สิ่งที่พระราชา และพระราชินี และเรมิเอลทำเพื่อปกป้องท่านสุญเปล่านะ ...ระวัง!!!

ชายชราร่ายเวทย์กันลูกไฟที่พุ่งมาทางนี้ ดังกับว่ามันรู้จักเป้าหมาย แรงปะทะทำให้เขากระเด็นไป..หญิงสาวรีบวิ่งไปดูอาการ "ออร์ก้า ...ท่านเป็นอย่างไรบ้าง...เลือด ..ไม่นะ" เจ้าหญิงเซเลสเทียแทบจะเป็นลมเมื่อเห็นเลือด ชายชรากัดฟันลูกขึ้นและรีบจูงมือเจ้าหญิงวิ่งไป

"ออร์ก้า..เสด็จพ่อเสด็จแม่เป็นไงบ้าง อยู่ที่ไหน" ชายชราไม่ตอบแต่พาหญิงสาวหลบห่าลูกไฟที่พุ่งมาอย่างไม่หยุดยั้ง จนมาถึงกลางป่าริมทางออกจากเขตเมือง..
"พระราชินี..โชเฟีย..ให้ข้ามาพาท่าน..ไปยังที่ปลอดภัย" ชายชราพูดอย่างตะกุกตะกัก "อ๊อก..." เขาไอออกมาเป็นเลือด เจ้าหญิงเซเลสเทียรีบฉีกส่วนหนึ่งของเสื้อของเธอซับแผลให้ "ออร์ก้า ท่านบาดเจ็บหนักมากเลย...ท่านควรจะพักที่นี่" ชายชรารีบปฏิเสธ

"ไม่ๆ ฝ่าบาท ไม่ปลอดภัยจนกว่าจะถึงที่นั่น" หญิงสาวสงสัย "ที่ไหน.."

"ตึง ตึง!" ไม่ทันได้ตอบ แผ่นดินก็สะเทือนจนทั้งสองคนรู้สึกได้ สายตาของชายชรามองหาที่มาของเสียงและก็ตาเบิกโพลงด้วยความตระหนก "กิกัส!! ไม่จริง!" ฝูงบักษ์ตัวใหญ่มหึมาดวงตาสีแดงเพลิงผลุดลุกมาจากป่า มันคล้ายจะมองหาใครสักคน..ลางสังหรณ์ของชายชรารู้ดีว่า มันกำลังมองหาทายาทคนสุดท้ายของราชวงศ์เทราบิเทีย .."เจ้าหญิงเซเลสเทีย"

"ว้ายยย..นั่นมันอะไรกันนะออร์ก้า" ชายชรากัดฟันพูดพลางค่อยๆ จูงมือหญิงสาวถอยหลังออกมาให้ห่างจากจุดที่สังเกตุเห็นได้มากที่สุด "กิกัส ยักษ์ในตำนาน หนึ่งในกองทัพปีศาจ..มีใครปลุกพวกมันมา..หรือว่า..ฝ่าบาทอัลวิส.."

"กรรรร!!" ยักษ์ตัวหนึ่งมองเห็นแสงสะท้อนจากชุดของเจ้าหญิงเซเลสเทียแล้ว และมันคำรามกึกก้องเพื่อเรียกตัวอื่นให้มอง "ไม่ได้การแล้ว เจิาหญิง ข้าจะให้แผนที่แก่ท่าน ท่านจงไปยังสถานที่นี้ วิ่งไปให้ไกลที่สุดและไม่ต้องมองกลับข้างหลัง ให้ท่านเป่าขลุ่ยที่ที่ฝ่าบาทให้ท่าน มันจะช่วยให้ท่านปลอดภัย...ไปเดี๋ยวนี้!!!" ชายชราเริ่มร่ายเวทย์มนต์ ชณะยักษ์ตัวหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาหาชายชรา "ไป!!!"

"ไม่..ออร์ก้า..ช้าจะไม่ไปคนเดียว ท่านบาดเจ็บอยู่.." เจ้าหญิงเซเลสเทียพยายามทัดทาน..."โฮกกกก" กิกัสตัวหนึ่งกระโดดจากเบื้องหลังมากระแทกพื้นดินดังสนั่น... เจ้าหญิงเซเลสเทียกระเด็นไปตามแรงกระแทก ขายชรารีบลุกขึ้นและกางบาเรียกันไว้ พลางหันมามองเจ้าหญิงสุดที่รักด้วยสายตาอาลัย

"หลานอา เจ้าเป็นความหวังสุดท้ายของเทราบิเทีย จงไปยังวิหารอาเทน่าโพลิส...ส่วนแกไอ้ปีศาจ ข้าจะกักขังแกไวตลอดกาล จงจำชื่อออร์ก้า นักปราบญ์มืดแห่งเทราบิเทีย... อัลเทม่า!!!!"

"บรึม!!!!" บาเรียกระจายออกและกลายเป็นแรงระเบิด ดังกึกก้อง ทุกสิ่งขาวโพลนเต็มไปด้วยแสง แต่กลับไม่ทำอะไรเจ้าหญิงเซเลสเทียเลย เธอเหมือนถูกคุ้มครองด้วยผลึกใสและลอยไปตามแรงระเบิดนั้น "ออร์ก้าาาาา!!!!" เธอตะโกนสุดเสียงทั้งน้ำตา..มองเห็นภาพมหานครบัลบารอสซ่า ตกอยู่ภายไต้ทะเลเพลิง ปราสาทราชวังและเสาไฟขนาดยักษ์ยังคงทำลายทุกสิ่ง..ท้องฟ้าแดงฉานไปด้วยสีเลือด..

นี่คือนรกบนดินก็มิปาน..

"ณ ที่แห่งหนึ่งสุดแสนไกล หัวใจผูกพันกันไว้ชั่วนิรันดร์"

หญิงสาวทอดกายลงพิงกับลำต้นของต้นไม้ซึ่งตอนนี้เหลือแต่ซากแล้ว นี่เป็นยามเช้า..วันใหม่เข้ามาถึงและพระอาทิตย์กำลังส่องแสง แต่เธอกลับมองไม่เห็นฟ้าอันสดใส มองเห็นเพียงแต่ท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยควัน นกกาบินส่งเสียงร้องกรีดไปถึงหัวใจของเธอ..เมืองหลวงบัลบารอสซ่าที่เคยคึกคักและมีสีสันยามเช้า ณ เวลานี้เงียบสงัดราวกับเมืองร้างไร้ผู้คน..เจ้าหญิงเซเลสเทียเป่าขลุ่ยเป็นทำนองเบาๆ

สำเนียงอันชวนเศร้าสร้อยนั้นทำให้เธอเองก็น้ำตาไหลไปด้วย..เธอนึกถึงในช่วงเวลาก่อนหน้านี้.. ในปราสาทเทราบิเทีย..

5 ชั่วโมงก่อนหน้านี้..

เรมิเอล หรือ เรมิล เป็นนักร้องมีชื่อเสียงของคณะโอลด์ฟาเธอร์.. ตณะละครสัตว์ที่เป็นที่นิยมที่สุด ที่มาเปิดการแสดงในเทราบิเทีย น้อยคนจะรู้ว่าเขาเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเพรสิเดียมรุ่นเดียวกับเจ้าหญิงเซเลสเทีย.. และไม่มีใครนอกจากเธอกับเขาที่รู้ว่า เธอเคยรู้จักเขามาแล้วตอนเด็ก และกลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง.. เมื่อคราวเจ้าหญิงเซเลสเทียอายุ 20 ปี พระราชาอัลวิสกับพระราชินีโซเฟียได้เสด็จทอดพระเนตรการแสดง และนั่นทำให้เธอจำเขาได้ และรบเร้าพระบิดาให้ชวนเรมิเอลมาเป็นอาจารย์สอนดนตรีให้กับเธอในวัง.. ซึ่ง ณ เวลานี้ เธอก็เรียนครบหลักสูตรแล้ว และถึงเวลาที่เรมิเอลจะต้องตามคณะไปแสดงในประเทศอื่น..

"เป็นอย่างไรลูกข้า..สอนยากง่ายเพียงใด" พระราชาอัลวิสตรัสถาม ชายหนุ่มโค้งคำนับถวายบังคม "ไม่เลยพระเจ้าข้า ทรงมีพระปรีชานัก" เรมิเอลทูลและหันไปมองเจ้าหญิงเซเลสเทีย "ไม่หรอก ข้ามิอาจเรียกว่าเก่ง เป่าได้ก้คงแต่เพลงอวยพรวันเกิดกระมังเสด็จพ่อ" พระราชาทรงพระสรวล .."งั้นเจ้าจะต้องมาสอนจนกว่าเจ้าหญิงจะเล่นเพลงในพิธีบูชาเทพเจ้าประจำปี ณ มหาวิหารอัลเทน่าได้"

ชายหนุ่มโค้งคำนับอีกครั้ง "รับทราบพะย่ะค่ะฝ่าบาท ..เวลานี้ข้าพระองค์จำเป็นต้องไปกับคณะของข้าพระองค์ ประมาณสักเดือนหน้าข้าจะกลับมาสอนเจ้าหญิงอีกครั้งพระเจ้าข้า" พระราชินีโซเฟียหันไปดุพระธิดา "เจ้าเองก็ต้องตังใจมากกว่านี้ ..เสด็จพ่ออุตส่าห์ให้ขลุ่ยออร์เฟอุสที่สืบทอดประจำราชวงศ์มาแก่เจ้า.. อย่าให้เสียเวลาท่านเรมิเอลเค้าต้องลำบากจากแดนไกล"

เรมิเอลอดยิ้มและขำไม่ได้ที่เจ้าหญิงโดนดุ "เพคะเสด็จแม่.." เจ้าหญิงพอเห็นเช่นน้นก็หันไปค้อนครูหนุ่มด้วยความเคืองขุ่นพระทัย .."เดี๋ยวเถอะ.."

ที่นอกท้องพระโรง.. ระหว่างเจ้าหญิงเดินมาส่งชายหนุ่ม.. ในอุทยานปราสาทเทราบิเทีย "ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะเป่าเพลงวันเกิดได้เพลงเดียว..ท่านนี่ข่างถ่อมตัวเหลือเกิน" เรมิเอลกล่าว หญิงสาวหัวเราะและหยิบขลุ่ยมาเป่าเล่นเพลง.."ณ ที่แห่งหนึ่งสุดแสนไกล หัวใจผูกพันกันไว้ชั่วนิรันดร์" "ท่านชอบเพลงนี้จริงๆนะ" ชายหนุ่มถาม หญิงสาวยิ้มๆ "ท่านคงจำไม่ได้หรอกว่าเพลงนี้เพลงอะไร"

ชายหนุ่มหยุดคิด "ข้าจำได้ละ..เพลงวันจบการศึกษาที่เปรสิเดียม" หญิงสาวพยักหน้า "ใช่ และเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ขึ้นไปอ่านกลอนบทนั้น..และท่านเองก็บรรเลงเพลงข้างหลัง"

"และท่านก็อ่านกลอนไม่มีจังหวะ ทำให้ข้าเล่นเพลงไม่เป็นเพลง..โอ๊ย" ชายหนุ่มหยอกหญิงสาว แต่เขาก็ถูกทุบทันที "ท่านน่ะแหละเป่าเพลงไม่ตรงจังหวะ ทำให้ข้าเสียสมาธิในการอ่าน.. ต้องทำโทษ" หญิงสาวจะหยิกแขนชายหนุ่มแต่เขาเอามือมาจับไว้ก่อน ความอบอุ่นที่มือของเรมิเอลทำให้เจ้าหญิงเซเลสเทียที่ไม่เคยถูกบุรุษแตะเนื้อต้องตัวมาก่อนชะงักและหน้าแดงซ่านด้วยความตกใจ..

"ขออภัยเจ้าหญิง.." ชายหนุ่มรีบปล่อยมือออกและเดินต่อไป เจ้าหญิงเซเลสเทียยิ้มน้อยๆ และเดินตามไปกล่าวว่า "เพื่อเป็นการไถ่โทษ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ท่านจะเปิดการแสดงในเทราบิเทีย ท่านจะต้องเล่นเพลงนี้ให้ข้าฟังในการแสดงคืนนี้!!"

ชายหนุ่มขมวดคิ้วบ่นอุบ "ได้ที..เอาเชียว" หญิงสาวหยิกแขนอย่างจัง "ว่างัยนะ" "เปล่าพระเจ้าข้า.." "งั้นท่านต้องพาข้าออกไปดูการแสดงของท่านในคืนนี้..เพื่อที่ข้าจะแน่ใจว่าท่านจะเล่นเพลงนี้ให้ข้าฟัง " เจ้าหญิงเดินมาอยู่ข้างหน้าและกอดอกว่าเขาจะต้องรับคำสั่งจากเธอ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ และคุกเข่าลงเอามือคำนับ "รับพระราชโองการด้วยเกล้า.." หญิงสาวตาโต

"จริงๆนะเรมิเอล ท่านสัญญาแล้วนะ .." ชายหนุ่มพยักหน้า "แต่ท่านจะต้องไปช่วยข้าร้องเพลงนี้ด้วย..เพราะข้าไม่มีเนื้อเพลง" "ข้าจำได้ขึ้นใจเรมิเอล.. งั้นคืนนี้ท่านต้องมารับข้านะ" ทั้งสองเดินมาถึงหน้าประตูอุทยาน ที่นั้นมีรถม้าของเรมิเอลจอดอยู่ ชายหนุ่มหันมาพูดกับเจ้าหญิงว่า

"ถ้าข้าเป่าขลุ่ยนี้.ท่านสัญญานะว่าจะฟังจนจบเพลง" หญิงสาวพยักหน้า "ด้วยเกียรติของราชวงศ์เทราบิเทีย ..ข้าสัญญา!!!"

(มีต่อ)


Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 12:24:00 น. 0 comments
Counter : 234 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

The Prophet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนบ๊องๆ คนหนึ่ง..
รักดนตรี เสียงเพลง
เตบอยากเป็นครูบ้านนอก
แต่ดันเป็นโปรแกรมเมอร์เมืองหลวง
ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
ฝันอยากจะเป็นบาหหลวง
แต่ดันแอบหลงรักสาวอยุ่ร่ำไป
ใครๆ บอกว่าเป็นคนดี แต่ตัวเองบอกว่าคงไม่ดีเท่าไร
อย่างน้อยก็หน้าตาหละ...
แต่เห็นหน้าตาอย่างนี้ ก้อจบปรัชญาราม นะคร้าบบบ
Friends' blogs
[Add The Prophet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.