www.englishgang.bloggang.com ยินดีต้อนรับ ผู้สนใจในภาษาอังกฤษทุกๆท่าน ชอบ-ไม่ชอบติชมประการใด คอมเม้นท์อย่างสุภาพนะครับ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

สาเหตุที่คนไทย...อ่อน อังกฤษ


หลายๆคนคงเคยมีคำถามเหมือนกับหัวข้อใน Blog นี้แล้วก็น่าจะเคยคิดหรือรู้สึกต่างๆตรงกับคำตอบที่ผมจะนำมาเฉลยว่า ทำไมคนไทย(บางคน)จึง...อ่อนภาษาอังกฤษ อะไรเป็นสาเหตุ ลองอ่านแล้วลองคิดเปรียบเทียบดูกับตัวเรานะครับว่าตรงไม๊

1. หลักสูตรการสอน
นี่มีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะขนาดภาษาไทย ภาษาแม่ของเราแท้้ๆ ต้องฟังก่อนไม่รู้กี่ปี จนพูดได้ แล้วจึงได้มาเรียนเขียนและไวยกรณ์ภายหลัง
ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนภาษาตามธรรมชาติ
(เริ่มต้นจากการฟังและพูดตาม)
แต่หลักสูตรภาษาอังกฤษในโรงเรียนไทยเนี่ยแปลก เราเรียนกันผิดแบบ ฟังยังไม่ได้ฟังเลย แต่เริ่มจาก Grammar เรียกว่าผิดตั้งแต่เริ่ม คือไปเน้นที่ Grammar จนทำให้เราต้องคอยคิดถึงมันตลอดเวลาที่จะใช้หรือจะพูด วนไปเวียนมาในหัว มากกว่า Mother tounge ซึ่งถูกปลูกฝังลงในจิตวิญญาณของเรา ไปตามเวลา



2. การขาดการฝึกฝน, ขี้เกียจ
การเรียนภาษาจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเหมือนวิชาทักษะอื่นๆ ซึ่งถ้าไม่ค่อยได้ใช้นานๆไป สมองก็จะค่อยๆลบเลือนทักษะเหล่านี้ออกไป นี่เป็นปัญหาใหญ่ของผู้เริ่มเรียนภาษา ก่อให้เกิดความไร้ประสิทธิผลในการเรียน
มีดไม่ได้ลับมันก็ไม่คม ภาษาอังกฤษก็เหมือนกันเรียนมาไม่ได้ใช้มันก็ลืม ยิ่งเริ่มเรียน(แค่นิดหน่อย)พอลืมไปก็เหมือนกลับไปที่ 0 รู้สึก blank อย่างแรงส่งผลกระทบไปยังข้อ 3 คือทัศนะคติ ว่าเรียนไปก็ไม่ได้อะไรรวมไปถึงทำให้ไม่กล้าพูดไปโดยปริยาย
ประมาณว่า
"Everytime when I have to speak English, my mind is always blank and never be confident."
"ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ แม่ค้า หรือ Taxi เราจะพบว่า skill หรือความสามารถในด้านภาษาไม่ได้แตกต่างจากเรา ความรู้เรื่องศัพท์ก็พอๆกันกับเรา แต่ดูเหมือนความมั่นใจ ของเขาจะมากกว่าเราที่เรียนมาภาษามามากกว่า"

3. ทัศนคติ
ข้อนี้เป็นผลลัพธ์สุดท้ายที่เกิดจาก 2 ข้อแรก ที่มาคอยถ่วงความก้าวหน้าในการเรียนรู้ภาษาของเรา พรรณนา ได้ 3 วัน 3 คืนไม่หมด แต่ผมยกตัวอย่างบางข้อๆที่เห็นกันบ่อยๆเช่น
"ดัดจริต" เวลาคนไทยเห็นคนไทยคนอื่นพูดอังกฤษ ก็มักจะมองว่าดัดจริต คนที่พยายามฝึกก็เลยไม่กล้าหนักเข้าไปอีก

"จับผิดเย้ยหยันคนอื่น"
"คนไทยเป็นพวกชอบจับผิด เวลาเห็นคนพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษผิดหน่อยก็หัวเราะหรืออาจจะเย้ยหยันในใจ ทั้งที่ตัวเองไม่กล้าที่จะใช้ด้วยซ้ำ
ซึ่งในความเป็นจริงคุณกำลังเย้ยหยันและดูถูกตัวคุณเองเต็มๆ และก็ทำให้ความกล้าของคุณที่มีน้อยอยู่แล้วต้องลดลงไปอีก"

ฝรั่งจริงๆ เวลาเราพูดกับเขา ถ้าเราพูดผิดเขาก็ไม่ว่าหรอกครับเขาอาจะขำหรือซีเรียสบ้างแต่ไม่ใช่ร้ายแรงเลยสำหรับเขา ก็เหมือนเวลาที่เขาพยายามสื่อสารภาษาไทยกับเรานั่นแหละ

"เรียนไปก็ไม่เห็นจะได้อะไร" อันนี้ก็มีสาเหตุมาจากข้อ 2 นั่นเอง
คือพอฝึกฝนไม่พอหรือขี้เกียจก็พาลคิดแบบนี้ไปด้วย ก็เลยยิ่งไปกันใหญ่นั่นเอง

"ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เรา" อันนี้ออกแนวชาตินิยม(แอบแฝง) ที่บอกว่าแอบแฝงก็คือว่า เป็นข้ออ้างให้ตัวเอง เพราะคนบางคนปรกติ ก็ไม่ได้รักชาติ หรือ รักหรือภูมิใจในวัฒนธรรมของเรา อะไรมากมาย แต่พอจะต้องใช้ภาษาก็กลับคิดว่ามันไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่เรา ซึ่งบางส่วนก็เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ข้อ 1 และ ข้อ 2 นั่นเอง

เพราะฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุดก็คือ "ลด ละ เลิก" ความคิดต่างๆเหล่านี้ออกไปจากใจของเรา และหมั่นฝึกฝนอย่างถูกต้อง
Try to forget these things and get enough practice.

Any suggestions or comments regarding to this stuff, feel free to let me know.




 

Create Date : 06 กันยายน 2555
19 comments
Last Update : 6 กันยายน 2555 19:44:51 น.
Counter : 19760 Pageviews.

 

ขอบคุณครับที่แวะไปเยี่ยมกันบล็อคของคุณให้ความรู้ดีเหมือนกัน

 

โดย: Johann sebastian Bach 17 กันยายน 2555 9:27:43 น.  

 

สวัสดีครับ


ผมเป็นคนหนึ่งเลยครับที่ไม่เกห่งภาษาอังกฤษ
ทั้งๆที่ผมขยันเรียนและตั้งใจเรียนมากๆ

"ทัศนคติ" เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่รักในภาษาอังกฤษ

ทัศนคติต่อครูผู้สอน
ทำให้ผมไม่รักภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เลย


ยังดีที่ผมเจอครูภาษาไทย ครูศิลปะที่ดี
เลยมีความสุขกับสิ่งนั้นได้อย่างยาวนานครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 20 กันยายน 2555 9:17:43 น.  

 

สวัสดีครับ


ผมเป็นคนหนึ่งเลยครับที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ
ทั้งๆที่ผมขยันเรียนและตั้งใจเรียนมากๆ

"ทัศนคติ" เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่รักในภาษาอังกฤษ

ทัศนคติต่อครูผู้สอน
ทำให้ผมไม่รักภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เลย


ยังดีที่ผมเจอครูภาษาไทย ครูศิลปะที่ดี
เลยมีความสุขกับสิ่งนั้นได้อย่างยาวนานครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 20 กันยายน 2555 9:17:53 น.  

 

55 ครับผม แค่นั้นคุณก็ได้สัมผัสกับทัศนะคติของตัวคุณเองแล้วครับได้ รู้สึกถึง ด้าน + ด้าน - ส่วนผมเนี่ย อย่าคิดว่าผมเก่ง ภาษาอังกฤษนะ ผมพอพูดได้ เขียนได้ แต่ผมไม่ถึงกับเก่ง ยังไม่คล่อง แต่ผมพยายามปรับปรุงและเน้นสิ่งที่เกี่ยวกับจิตใจของตัวเอง สอนตัวเองด้วย สอนลูกด้วย ทำให้ลูกดูด้วย ไปพร้อมกัน

 

โดย: Anglo 21 กันยายน 2555 0:22:53 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ


คนไทยเราเก่งกีฬาแบบบุคคลนะครับ
เพิ่งมาเห็นวอลเลย์บอลนี่ล่ะครับที่เก่งเป็นทีม 555

ถ้าเราเชื่อโค้ชและมีวินัย
ผมว่ากีฬาหลายประเภท
เราไม่แพ้ใครในโลกเลยครับ

ผมเล่นโกะไม่เป็น
แต่ชอบปรัชญาที่ซ่อนอยู่ในการเล่นครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 21 กันยายน 2555 5:56:30 น.  

 

ผมก็เล่นไม่ค่อยเก่งหรอกครับ คือโตมากับหมากรุก ไทย หมากรุกจีน ที่ต้องกินต้องรุกกันให้ตายไปข้าง เลยไม่ค่อยชอบโกะ แต่อยากสอนให้ลูกเขาได้ลองเล่นดูเพราะเขายัง Blank อยู่น่ะครับ

 

โดย: Anglo 21 กันยายน 2555 12:02:46 น.  

 

สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่เข้าไปฝากคอมเม้นท์ดี ๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับ ประโยคภาษาอังกฤษค่ะ

และเห็นด้วยกับความคิดวันนี้ค่ะ

ลูกชายเรียนภาษาอังกฤษ นอกเวลากับครูต่างชาติ ที่พูดภาษาไทยแทบไม่ได้ตั้งแต่อยู่ชั้น ป.1
ผู้ปกครองหลายท่าน(ต่างจังหวัดค่ะ)ไม่เห็นด้วย บอกว่าเรียนไปก็ไม่รู้เรื่อง

แต่ลูกชาย จะกล้าพูดกับคนต่างชาติ สังเกตุจาก เวลาไปเที่ยว มีฝรั่งมาทัก เข้าฟังสำเนียงออก และโต้ตอบได้ หรือที่สนามบิน เค้าจะฟังออก แม้ไม่หมดแต่จับใจความได้ค่ะ

 

โดย: ตาลเหลือง 24 กันยายน 2555 16:10:17 น.  

 

คุณตาล ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะครับ

 

โดย: Anglo 2 ตุลาคม 2555 17:22:51 น.  

 

ขอบคุณที่ไปชมบล็อกค่ะ สิ่งบันดาลใจที่ทำ ฺBlog Quates ก็เพียงแค่อยากรวบรวมเอาไว้เท่านั้นค่ะ ต้องขออนุญาตคุณ Anglo หากเอา Quates ที่ลงใน Blog คุณ ไปรวมไว้นะคะ

 

โดย: kochpon 3 ตุลาคม 2555 11:37:46 น.  

 

สวัสดีครับ
จริงครับภาษาต้องฝึกฝน
ภาษาไทยบางทียังพูดผิดๆถูกอยู่เลยครับ

 

โดย: จิรโรจน์ 4 ตุลาคม 2555 9:32:28 น.  

 

kochpon ได้เลยครับ ยินดีครับ

 

โดย: Anglo 4 ตุลาคม 2555 10:09:17 น.  

 

จิรโรจน์ สื่อสารได้ก็โอเคแล้วครับ พูดผิดๆถูกๆบางทีมันไม่ได้เพราะว่าภาษาเราไม่ดี แต่จริงๆภาษาอาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำ ทำให้บางทีอาจจะสับสนว่าควรจะนำเสนอยังไง ฝึกเยอะๆครับ more practice more fluency.

 

โดย: Anglo 4 ตุลาคม 2555 10:18:11 น.  

 

ได้เรียนรู้หลายๆ สิ่งจาก Blog นี้
ขอบคุณมากค่ะ

และขอบคุณที่ไปเยือน และอ่านข้อเขียนและบทประพันธ์ของคนรุ่นเก่า
ขอให้ย้อนไปอ่านเรื่องเก่า ๆ นะคะ
คุณพ่อเขียนไว้จากเรื่องจริง ๆ ค่ะ
เสียดายที่จะหายไป จึงนำมาไว้ใน pantip.com นี้ทั้งหมด

 

โดย: ธารน้อย 17 ตุลาคม 2555 4:04:18 น.  

 

LIKE

 

โดย: deco_mom 25 ตุลาคม 2555 15:31:54 น.  

 

ขอบคุณครับ เดโก ธารน้อย

 

โดย: Anglo 26 ตุลาคม 2555 9:40:35 น.  

 

สวัสดีครับ ท่าทางคุณก็มีความสนใจในการเมืองมากเหมือนกัน

 

โดย: Johann sebastian Bach 26 ตุลาคม 2555 16:01:01 น.  

 

เหมือนละครน้ำเน่าอ่ะครับ ไม่อยากดูแต่ก็ต้องจำใจดู

 

โดย: Anglo 28 ตุลาคม 2555 22:38:32 น.  

 

หัวข้อบล็อกน่าจะเขียนว่า
"เมื่อใดอยากให้ใจพบสุข...แต่พออยากได้ใจกลับทุกข์..."
มากกว่านะครับ

---------------

คนป่าหาธรรมฯ ขอบคุณมากครับผม

 

โดย: คนป่าหาธรรม 1 พฤศจิกายน 2555 12:37:57 น.  

 

อนาคตํ ปฏิกยิราถ กิจฺจํ มา มํ กิจฺจํ กิจฺจกาเล พฺยเธสิ

เตรียมกิจสำหรับอนาคตให้พร้อมไว้ก่อน
อย่าให้กิจนั้นบีบคั้นตัว เมื่อถึงเวลาต้องทำเฉพาะหน้า

วางแผนการดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบ ตลอดไป...นะคะ



ขอบคุณที่แวะทักทายกัน...นะคะ

เรื่องภาษาอังกฤษ เดี๋ยวนี้ยังดีขึ้นกว่าสมัย ๕-๖๐ ปีที่แล้ว
สมัยนั้นใครพูดอังกฤษเก่งหน่อย ก็หาว่ากระแดะ (ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพ)...อิ อิ

 

โดย: พรหมญาณี 18 ธันวาคม 2555 10:09:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Anglo
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




Friends' blogs
[Add Anglo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.