10 facts about coconut oil (10 ข้อเท็จจริงของน้ำมันมะพร้าว)

	1. All fats are not created equal Coconut oil contains short term medium-chain saturated fatty acids (MCFAs), which is a "healthy" form saturated fat compared to trans fat. Trans fatty acid consumption is linked with heart problems, depression and increased cholesterol levels. What does consuming MCFA fats in coconut oil mean for your body? Our body metabolises these fats in the liver, immediately coverting this into energy (fuel for the brain and muscle function) rather than it being stored as fat. 1. ไขมันแต่ละชนิดแตกต่างกัน น้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวโมเลกุลขนาดกลาง (MCFA) ซึ่งเป็นไขมันดี แตกต่างจาก ไขมันทรานซ์(trans fat) ซึ่งการบริโภคกรดไขมันทรานซ์จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจ, ภาวะซึมเศร้าและคอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น. กรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย? ร่างกายของเราจะดูดซึมไขมันอิ่มตัวนี้ทางตับอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นพลังงาน(พลังงานเลี้ยงสมองและกล้ามเนื้อ) มากกว่าการนำไปเก็บแบบไขมัน 2. Controls weight One 2009 study looked at the weight loss link between women's consumption of coconut oil and found that it reduces abdominal obesity. Researchers discovered coconut oil is easy to digest and also protects the body from insulin resistance. To try coconut oil for weight loss start by adding one teaspoon to your diet and gradually work your way up to four teaspoons per day. 2. ควบคุมน้ำหนัก ครั้งหนึ่งในการศึกษาวิจัยปี 2009 เรื่องการลดน้ำหนัก ระหว่างสตรีที่บริโภคน้ำมันมะพร้าว พบว่าช่วยลดความอ้วนและหน้าท้องของผู้หญิงได้ นักวิจัยค้นพบว่าน้ำมันมะพร้าวย่อยง่ายและป้องกันร่างกายจากภาวะการขาดอินซูลิน. การบริโภคน้ำมันมะพร้าวเพื่อลดน้ำหนักสามารถกระทำได้โดยการบริโภคจาก 1 ช้อนชาขึ้นไปจนถึง 4 ช้อนชาต่อวัน 3. Eases digestion If you suffer from poor digestion or tummy bloating try adding coconut oil to your diet. Coconut oil has been found to benefit digestive disorders including irritable bowel syndrome and microbial related tummy bugs. Fatty acids in coconut oil contain anti microbial properties, which have a soothing affect on bacteria, candida, or parasites that cause poor digestion. 3. ดูดซึมง่าย หากคุณมีปัญหาเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อให้ลองรับประทานน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้ออันเนื่องมาจากอาการผิดปกติในลำไส้และพยาธิสภาพ กรดไขมันในน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อจูลินทรีย์ ซึ่งจะไปยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราแคนดิด้า หรือปรสิตซึ่งล้วนก่อให้เกิดการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์ 4. manage type 2 diabetes A recent study by the Garvan Institute of Medical Research found that coconut oil protects against insulin resistance, reducing the risk of type 2 diabetes. MCFA fats are small enough to be absorbed into the cells where they're quickly converted to energy. It is this process that not only reduces the amount of fat we pack into storage, but improves insulin sensitivity. 4. จัดการโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การศึกษาล่าสุดโดย สถาบันวิจัยทางการแพทย์Garvan พบว่าน้ำมันมะพร้าวป้องกันการต่อต้านอินซูลินลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 กรดไขมัน MCFA มีขนาดเล็กพอที่จะดูดซึมเข้าสู่เซลล์ที่ซึ่งพวกมันจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นกระบวนการที่ไม่เพียงแค่ช่วยลดปริมาณของไขมันที่ร่างกายจัดเก็บ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลิน 5. Supports immunity Coconut oil is made up of healthy fats lauric acid, caprylic acid and capric acid which contain antifungal, antibacterial, antiviral prosperities to boost the immune system. Lauric acid contains the highest concentration of MCFA fatty acids, approximately 75 per cent. The body turn this fat into monolaurin which is claimed to help heal viruses such as herpes, influenza, cytomegalovirus, helicobacter pylori and candida. 5. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน น้ำมันมะพร้าวถูกสร้างขึ้นจากกรดไขมันสุขภาพ กรด lauric acid, กรด Caprylic acid และกรด Capric acid ที่ป้องกันเชื้อรา แบคทีเรีย, ไวรัส เพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย กรดลอริคมีความเข้มข้นสูงสุดของกรดไขมัน MCFA ประมาณร้อยละ 75 ร่างกายจะเปลี่ยนไขมันนี้เป็น monolaurin ที่ระบุว่ามีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เช่น เริม, ไข้หวัดใหญ่, เชื้อ cytomegalovirus, เชื้อ pylori Helicobacter และ เชื้อราแคนดิด้า 6. Boost metabolism A study reported in the Journal of Nutrition found that coconut oil boosts metabolism. Researchers found that participants who consumed two tablespoons of coconut oil per day burned more kilojoules than those who consumed less. A speedy metabolism helps boost the body's immune system and keep weight off. 6. กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ การศึกษาได้รายงานในวารสารโภชนาการพบว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญอาหาร. นักวิจัยกล่าวว่า อาสาสมัครผู้เข้าร่วมที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวสองช้อนโต๊ะต่อวันจะเผาผลาญอาหารได้หลายกิโลจูลส์มากกว่าคนที่ไม่ได้บริโภค กระบวนการเผาผลาญที่รวดเร็วจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและช่วยลดน้ำหนัก 7. Slows fine lines Coconut is not just for your cooking – it's a wonderfully hydrating treat for skin too. It keeps the skin's connective tissues strong, which prevents sagging and wrinkles. Apply coconut oil directly to your skin to soften the appearance of fine lines or use it daily on your face and body for a healthy glow. Be sure you use virgin coconut oil with no additives. 7. ลดรอยเหี่ยวย่น มะพร้าวไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประกอบอาหาร แต่มันยังส่วนช่วยถนอมผิวพรรณให้ชุ่มชื้นด้วย มันช่วยให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังมีความแข็งแรงซึ่งจะช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยและริ้วรอย ทาน้ำมันมะพร้าวโดยตรงกับผิวของคุณจะช่วยลดริ้วรอยต่างๆหรือใช้ทาบนใบหน้าและผิวกายประจำทุกวันเพื่อให้มีสุขภาพดีและสดใส ข้อควรระวังคือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่ปราศจากส่วนผสมอื่นๆ 8. Cooks in high temperatures Because coconut oil is a medium-chain saturated fatty acid, it gives it a higher smoking temperature than most polyunsaturated or monounsaturated oils. If you're preparing recipes that require high temperatures you should consider coconut oil for this type of cooking. Unlike olive oil which will oxidise at high temperatures, creating free radicals. 8. การประกอบอาหารในอุณหภูมิสูง เพราะน้ำมันมะพร้าวคือกรดไขมันอิ่มตัวโมเลกุลขนาดกลาง มันจะให้พลังงานความร้อนและอุณหภูมิที่สูงกว่าน้ำมันประเภทอื่นๆ ดังนั้นถ้าคุณต้องประกอบอาหารที่ต้องการอุณหภูมิสูงๆ คุณควรใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับการประกอบอาหาร แตกต่างจากน้ำมันมะกอกซึ่งจะถูกย่อยสลายได้ในอุณหภูมิที่สูง และก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ 9. Stops sugar cravings Instead of reaching for the lollie jar for an afternoon sweet hit, try eating a teaspoon of virgin coconut oil to beat sugar cravings. This is because good quality fat is more satiating than carbs, so if you cut down on sugar you will feel less 'ravenous'. Most of us do not realize but constant hunger is a major clue that your body is not being fed correctly. With the proper amounts of fats and protein, you can fuel your energy reserves properly, and come off the sugar roller coaster that many of us are on. 9. ลดปริมาณความต้องการน้ำตาล แทนที่จะไปหยิบโถลูกกวาดเอามารับประทานในตอนบ่าย, ลองทานน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชาจะช่วยลดความต้องการน้ำตาล. นี่เป็นเพราะว่า ไขมันดีจะทำให้อิ่มได้ดีกว่า คาร์โบไฮเดรต เมื่อคุณไม่ต้องการน้ำตาลคุณจะรู้สึกหิวน้อยลง พวกเราไม่ค่อยเชื่อในจุดนี้แต่ความหิวที่เกิดขึ้นมากเกินไปอาจจะทำให้ร่างกายได้รับอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ด้วยปริมาณของไขมันและโปรตีนที่เหมาะสมคุณสามารถที่จะมีพลังงานยาวนานและไม่ต้องพึ่งน้ำตาลอย่างที่หลายๆคนเป็นอยู่ อ่านเพิ่มเติม //www.bodyandsoul.com.au อ้างอิงจาก //www.ahealthyview.com.au

Create Date : 18 ตุลาคม 2555		0 comments
Last Update : 22 ตุลาคม 2555 22:42:19 น.
Counter : 10699 Pageviews.
Share Tweet