Lesson Two: ปุจฉา….
ในการสนทนา บ่อยครั้งที่เด็กไทยนอกจากขาดความกล้าในการพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่าจะถามคำถามอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะรอเป็นฝ่ายถูกถามแล้วค่อยตอบเป็นคำๆ ‘Yes, …No,…Ok…’ ง่ายสุดหากไม่รู้ว่าเค้าถามว่าอะไรหรือควรตอบอย่างไรก็ยิ้มสู้ หวังว่าคู่สนทนาจะเออออไปเองและหยุดถาม (หรือเปลี่ยนคำถามไปเลย) จะว่าไปแล้ว การที่เป็นสยามเมืองยิ้มก็ช่วยได้ในสถานการณ์คับขันหมือนกันหละครับ..

อย่างไรก็ดี เราควรทำความคุ้นเคยกับประโยคคำถามที่พบเจอกันบ่อยๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นการถามว่า ใคร อะไร อย่างไร ทำไม เป็นต้น

Who = ใคร
หากเราต้องการถามเกี่ยวกับคน เช่นว่า คนๆนี้คือใคร ใครอยู่ที่นี่ ใครมากับใคร ใครจะซื้ออะไร ฯลฯ ทุกคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นบุคลมักขึ้นต้นด้วย Who ครับ เช่น

Who is this? เค้าคนนี้คือใคร
Who is in this room? มีใครบ้างอยู่ในห้องนี้

สังเกตให้ดีครับ ‘Who’ ในคำถามจะใช้คู่กับ ‘is’ เป็นส่วนใหญ่เพราะเราไม่ทราบว่าคำตอบจะเป็นคนกี่คน จึงเดาไว้ว่าเป็นคนเดียว แต่หากเรารู้เนิ่นๆว่าเป็นหลายคน ก็ใช้ ‘are’ ได้เลยครับ เช่น

Who are they? พวกเขาเป็นใคร (ใช้แบบนี้ในกรณีที่เราเห็นจะๆว่ามีคนอยู่หลายคน)
Who else are coming? มีใครอื่นอีกที่จะมา (กรณีนี้เราเดาว่าจะมีคนหลายคนตามมาด้วย)

What = อะไร
หากเราต้องการถามเกี่ยวกับสิ่งของ เช่นว่า นี่คืออะไร คุณต้องการซื้ออะไร คุณต้องการทานอะไร อะไรอยู่ในกล่องนี้ ฯลฯ ทุกคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นสิ่งของมักขึ้นต้นด้วย What ครับ เช่น

What do you want to eat? คุณต้องการทานอะไร
What are you eating? คุณกำลังทานไรอยู่
What is that? นั่นคืออะไร

นอกจากนี้ เราสามารถเชื่อมตัว ‘บอกใบ้’เป็นคำบอกตัวสิ่งของที่เราต้องการถามถึง ให้วางเอาไว้ใกล้กับตัว ‘what’ ครับ เช่น

What time is it? มันเป็นเวลาอะไรแล้ว (คำใบ้ที่ใช้คือ time ดังนั้นคำตอบต้องบอกว่า time อะไร แบบไหน ก็คือเป็นเวลาเท่าไรนั่นเอง)
What food does she like to eat? อาหารอะไรที่หล่อนชอบ (คำใบ้ที่ใช้คือ food ดังนั้นคำตอบต้องบอกว่าเป็น food อะไร ประเภทไหน)
What color do you like? แปลตามตัวว่าสีอะไรที่คุณชอบ หรือคุณชอบสีอะไรนั่นเอง (คำใบ้ที่ใช้คือ color ดังนั้นคำตอบต้องบอกว่า color สีอะไร)

When = เมื่อไร
เราจะใช้ ‘When’ เมื่ออยากถามถึงเวลา เช่นว่า จะมาถึงเมื่อไร จะออกเดินทางเมื่อไร มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร ฯลฯ ทุกคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นสิ่งของมักขึ้นต้นด้วย When เช่น

When are we going home? พวกเราจะกลับบ้านได้เมื่อไร
When did she come here? หล่อนมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร
When was this school built? โรงเรียนนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่เมื่อไร

เท่านี้แหละครับ เราก็สามารถสื่อสารถามถึงเวลาว่าเมื่อไรได้อย่างง่ายๆ แต่ก็อย่าลืมนึกถึงลำดับเหตุการณ์ด้วยนะครับ หากคำตอบเป็นเวลาของสถานการณ์ที่ผ่านมาแล้ว (Past) verbs ที่เกี่ยวข้องก็ควรแปรตามไปครับ

Why = ทำไม
ต่อไป เราจะใช้ ‘Why’ เมื่ออยากถามถึงเหตุผลว่าทำไม เช่นว่า ทำไมคุณมาสาย ทำไมทำอย่างนี้ ทำไมไม่ไปโรงเรียน ฯลฯ ทุกคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นเหตุผลอธิบายต้องขึ้นต้นด้วย Why เสมอครับ เช่น

Why are you late? ทำไมคุณถึงมาสาย
Why is not she coming with you? ทำไมหล่อนไม่มากับคุณด้วย
Why you did this? ทำไมคุณถึงได้ทำแบบนั้น

เช่นเดียวกันครับ อย่าลืมนึกถึงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เราต้องการถามถึงเหตุผล (ที่มันเกิดอย่างนั้น) หากเราต้องการเน้นว่าเหตุการณ์มันผ่านมานานแล้วและเราต้องการคำตอบ ก็ให้ใช้ Past tense verbs หากเราไม่เน้นที่จุดเกิดของเวลาก็ใช้ Tense ปัจจุบันครับ เปรียบเทียบนะครับ

Why are you late? กับ Why were you late? ต่างกันที่ว่าประโยคที่สองเน้นความสำคัญว่าสายจริงๆ สายมากๆ สายเกินกว่าเวลาที่นัดมากๆ (อาจเป็นหลายชั่วโมงหรือข้ามวัน)

Why is not she coming with you? กับ Why was she not coming with you? ต่างกันตรงจุดเวลาที่ถามคำถาม เหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มากับเค้าหากเกิดขึ้นเมื่อวาน (หรือหลายวันผ่านมาแล้ว) แต่เพิ่งถูกถามวันนี้ ให้ช้ Past Tense ตามสมควร แต่หากเพิ่งเกิดขึ้นสักพักหรือเพิ่งเจอว่าเค้ามาคนเดียว ควรใช้คำถามแบบแรกครับ

Where = ที่ไหน
เราใช้ ‘Where’ เมื่ออยากถามถึงสถานที่ว่าที่ไหน เช่นว่า จะไปเทียวที่ไหนกันดี จะให้วางหนังสือเล่มนี้ที่ไหน คุณแม่ออกไปไหนฯลฯ ทุกคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นสถานที่ให้ขึ้นต้นด้วย Where เช่น

Where are we? พวกเราอยู่ที่ไหนเนี่ย
Where do you want to go? คุณต้องการไปที่ไหน
Where do you want to eat? คุณต้องการทานที่ไหน (ร้านไหนหรือตรงไหน)

Which = อันไหน
ต่อไป เราใช้ ‘Which’ เมื่ออยากให้ผู้ตอบเลือกว่าอันไหน ที่ไหน จาก choice ที่เห็น เช่น ต้องการซื้อเสื้อตัวไหน (เลือก) อยากทานข้าวร้านไหน (เลือก) ที่สำคัญเรามักมีตัว ‘บอกใบ้’เป็นสิ่งของที่เราต้องการให้คนถูกถามเลือก เอาไว้ใกล้กับตัว ‘which’ เช่น

Which shirt do you like? เสื้อตัวไหนที่คุณชอบ (which + shirt ขณะถามก็คงมีตัวเลือกมาให้ ตอบไปเลยครับว่าตัวไหน)
Which restaurant do you like? ร้านอาหารไหนที่คุณชอบ (which + restaurant ต้องเลือกจาก choice ที่มี ตอบไปเลยครับว่าร้านไหนจากร้านที่คิดหรือเห็นอยู่)
Which pen did you buy? ปากกาด้ามไหนที่คุณได้ซื้อ (which + pen สังเกตครับว่าประโยคนี้ใช้ Past tense เพราะเหตุการณ์ที่ซื้อปากกามันผ่านไปแล้ว ดังนั้นหากถามถึงปากกาที่ได้ซื้อไปก่อนหน้านี้แล้วว่าด้ามไหนต้องเปลี่ยน verbs ตามเวลาครับ)

How = อย่างไร
ท้ายสุด เราใช้ ‘How’ เมื่ออยากรู้คำตอบว่าอย่างไร เช่นว่า วิ่งได้เร็วแบบนั้นได้อย่างไร เรียนเก่งแบบนั้นได้อย่างไร ร้องเพลงเพราะแบบนั้นได้อย่างไร ฯลฯ คำถามที่ต้องการคำตอบอธิบายว่าทำแบบนั้นได้อย่างไรขึ้นต้นด้วย How ครับ เช่น

How did he run so fast? เขาวิ่งเร็วแบบนั้นได้อย่างไร
How did he do that? เขาทำแบบนั้นได้อย่างไร
How does she go to school everyday? หล่อนไปโรงเรียนทุกวันอย่างไร (ไปโดยอะไรนั่นเอง)

สังเกต สองประโยคแรกต้องการคำตอบอธิบายว่าทำแบบนั้นได้อย่างไรกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว จึงใช้ Past tense เราเน้นความต้องการได้คำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เค้าได้ทำมาก่อนหน้านี้ ส่วนประโยคที่สามใช้ Tense ปัจจุบันเพราะเป็นการถามหาคำอธิบายเกี่ยวกับกิจวัติประจำวันว่าทำแบบนั้นได้อย่างไรทุกวันๆ

นอกจากนี้ How ยังสามารถใช้ถามเจาะจงแบบตรงๆ ขอคำตอบเป็นจำนวนตัวเลข เช่นว่า เค้าคนนี้สูงเท่าไร หนังสือเล่มนี้ราคาเท่าไร โรงเรียนไกลจากที่นี่เท่าไร เป็นต้น เราต้องวางตัว ‘บอกใบ้’เป็นสิ่งที่เราต้องการคำอธิบาย เอาไว้ใกล้กับตัว ‘how’ เช่น

How tall is this man? เค้าคนนี้สูงเท่าไร (how + tall ถามความสูง)
How much is this book? หนังสือเล่มนี้ราคาเท่าไร (how + much ถามความเยอะของราคา)
How far is the school from here? โรงเรียนไกลจากที่นี่เท่าไร (how + far ถามความไกล)
How many students are here? มีนักเรียนที่นี่กี่คน (how + much ถามความเยอะจำนวน)

Image Hosted by ImageShack.us




Create Date : 11 มกราคม 2552
Last Update : 11 มกราคม 2552 13:57:56 น.
Counter : 932 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

K-phone
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



หวังว่าการเสนอแนะใน Blog ของผมจะมีประโยชน์บ้าง ไม่ได้เป็นการคิดค้นอะไรที่ใหญ่โต แต่เป็นการอาสานำเอาจุดเล็กๆมาฝึกฝน มาขยายเพื่อเกิดประโยชน์ในการใช้ภาษา หากท่านสมาชิกที่เยี่ยมชม Blog นี้มีข้อคิดเห็นก็ช่วยๆกันแนะนำส่งเสริมได้ครับ

Smiley






Free TextEditor
มกราคม 2552

 
 
 
 
1
2
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
11 มกราคม 2552