คุณคิดว่าประเทศไหนในอาเซียนที่เราน่าไปลองทำ e-commerce ด้วย

ช่วงที่ผ่านมาผมได้รวบรวมข้อมูลของประเทศต่างๆ ในอาเซียนเพื่อนำมาเขียนบทความด้าน e-Commerce ให้เว็บแห่งหนึ่ง แม้ว่าจะยังเขียนไม่เสร็จแต่มีข้อมูลน่าสนใจมาคุยให้ฟัง

ต่อไปนี้คือรายชื่อประเทศในอาเซียน จำนวนคนในประเทศที่เล่นอินเทอร์เน็ต และจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศนั้น

บรูไน: 318,900 จากประชากร 401,890 คน
กัมพูชา: 449,160 จากประชากร 14,701,717 คน
อินโดนีเซีย: 55,000,000 จากประชากร 245,613,043 คน
ลาว: 527,400 จากประชากร 6,477,211 คน
มาเลเซีย: 17,723,000 จากประชากร 28,728,607 คน
พม่า: 110,000 จากประชากร 53,999,804 คน
ฟิลิปปินส์: 29,700,000 จากประชากร 101,833,938 คน
สิงคโปร์: 3,658,400 จากประชากร 4,740,737 คน
ไทย: 18,310,000 จากประชากร 66,720,153 คน
เวียดนาม: 30,516,587 จากประชากร 90,549,390 คน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ

- แม้บรูไนกับสิงคโปร์มีจำนวนคนเล่นเน็ตเทียบกับประชากรทั้งหมดแล้ว คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก แต่ขนาดของตลาดเมื่อเที่ยบกับประเทศอื่นแล้วจัดว่าต่ำมากเนื่องจากเป็นประเทศเล็ก ดังนั้นผมมองว่าตลาด niche สำหรับสองประเทศนี้ไม่น่าสนใจนัก แต่ถ้าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้ การขายผ่านเว็บจัดว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว

- กัมพูชามีประชากรที่เล่นเน็ตคิดเป็นเพียง 3.1 % เท่านั้น (แต่กลับมีตลาดใหญ่กว่าบรูไน ฮะๆๆ) ข้อมูลเพิ่มเติมที่ผมหามาได้ก็คือ ทุกคนที่เล่นเน็ตนั้นเล่นเฟสบุ๊คได้ ดังนั้นจัดว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและน่าจะเติบโตได้ดีทีเดียว ปัญหาของการค้าขายก็คงอยู่ที่การเมืองเป็นหลัก แล้วประชาชนภายในประเทศก็คงไม่คุ้นกับการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเป็นแน่

- พม่ามีประชากรเยอะกว่ากัมพูชาเกือบ 4 เท่า แต่มีประชากรที่เล่นเน็ตคิดเป็นเพียง 0.2% เท่านั้นเอง (และหาข้อมูลในเฟสบุ๊คแล้ว ไม่เจอชื่อประเทศพม่าด้วยซ้ำ) เมื่อรวมกับภาพลักษณ์ทางการเมืองที่กำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น (อองซานซูจี... พูดชื่อนี้แล้วคงไม่ต้องอธิบายต่อ) ดังนั้นผมมองว่านี่แหละคือตลาดที่น่าสนใจที่สุดของอาเซียนในขณะนี้เมื่อมองในแง่ของศักยภาพในการเติบโต (ทั้งออนไลน์และออฟไลน์เลยครับ)

เพื่อเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของพม่า ลองเข้าเว็บโรงพยาบาลไทยที่ใหญ่ๆ ดูสิครับ จะเห็นว่ามีหลายเว็บเลยที่มีเวอร์ชันภาษาพม่าด้วยซ้ำ อ้อ แล้ววันที่ 1 พ.ค. นี้ผมก็จะไปเข้าคลาสเรียนภาษาพม่าของศูนย์ภาษาใน ม.นเรศวร เสียด้วย

ส่วนไทยนั้น มีคนเล่นเน็ตเพียง 27% เท่านั้น ฟังดูแล้วน่าแปลกใจไหมครับ สำหรับพวกเราชาวเฟสบุ๊คที่เช็ตสถานะแทบตลอดเวลา เราแทบคิดไม่ถึงว่ามีคนอีกเกือบ 3 ใน 4 ของประเทศที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตให้เล่น อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่า ทุกอย่างกำลังจะเริ่มเปลี่ยนไปภายใน 1-2 ปีนี้แหละ แต่ว่าเอาไว้คุยในครั้งหน้าดีกว่าครับ

เมื่อเห็นศักยภาพของตลาดอาเซียนขนาดนี้ แล้วยังรวมไปถึงการมาของประชาคมอาเซียน (รวมโปรเจ็คไชน่าซิตี้ไปด้วยก็ได้ เอ้า) สำหรับใครที่ยังซื้อหนังสือ โหลดโปรแกรม หรือทำอะไรบนคอมพ์ แล้วยังมองหาแต่ภาษาไทย ไม่คิดจะฝึกภาษาอื่นๆ บ้างเลย ก็มีโอกาสสูงที่จะพลาดโอกาสดีๆ ที่กำลังก้าวเข้ามาในอนาคตอันใกล้นี้

ในโลกปัจจุบัน การหยุดนิ่งก็เหมือนการก้าวถอยหลังแล้วล่ะครับ

------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้ผมจะเขียนบทความทั้งเรื่อง E-Commerce เรื่องภาษาอังกฤษ และเรื่องอื่นๆ อีกที่อยากคุย ใส่ไว้ใน fan page ก่อนแล้วก็อปมาวางไว้ที่บล็อกครับ ดังนั้นถ้าใครสนใจ ก็สามารถตามไปที่ //www.facebook.com/dr.ekkasit ได้เลย

หรือแวะไปดูสัมมนาการตลาดออนไลน์ที่ผมทำกับสถาบันปัญญาธุรกิจของเครือเนชั่นได้ที่ //www.nation-education.com/enews/SocialBeauty-Jun8/Outline.pdf

หรือถ้าสนใจสัมมนาการตลาดสถานพยาบาล ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ที่ผมทำร่วมกับรุ่นพี่ที่เป็นที่ปรึกษาการตลาดให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ //www.exitcorner.com ได้เลยครับ

Create Date : 23 เมษายน 2555		0 comments
Last Update : 23 เมษายน 2555 11:35:57 น.
Counter : 1025 Pageviews.
Share Tweet