พอพูดถึงเรื่องการตลาดออนไลน์แล้ว หลายคนอาจหลงเข้าใจผิดไปว่าเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าออกไปทางอินเทอร์เน็ตเฉยๆ ซึ่งนั่นเป็นไอเดียที่ผิดโดยสิ้นเชิง เนื่องด้วยการตลาดออนไลน์สำหรับองค์กรหรือแบรนด์นั้น ยังหมายถึงการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างและรักษาภาพลักษณ์ เพื่อพูดคุยติดต่อกับลูกค้า รับฟังคำติชมเพื่อนำมาปรับปรุง ทำ CRM ฯลฯ (แม้จะเป็นแค่ร้านค้าขายสินค้าออนไลน์ธรรมดา แต่ถ้ามีจำนวนลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ และคนจำชื่อร้านได้แล้ว ก็จัดว่าเป็นแบรนด์ๆ หนึ่งเหมือนกันครับ)

คราวนี้พอเข้าใจ concept ของการตลาดออนไลน์ผิดพลาด ผสมกับการเมินเฉยต่อความสำคัญของสื่อออนไลน์ องค์กรหรือแบรนด์บางรายก็ทำผิดพลาดกันง่ายๆ อย่างน่าเสียดาย ถ้าใครตามกระแสในเน็ตอยู่บ้าง ก็น่าจะพอรู้เรื่องราวในห้องโต๊ะเครื่องแป้งของเว็บพันทิปมาบ้าง ใครที่ยังไม่รู้เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ

เรื่องเกิดจากการที่มีสาวๆ ในห้องโต๊ะเครื่องแป้งบางคนมาวิจารณ์นิตยสาร Ray ของไทยในเรื่องคุณภาพของเนื้อหา แล้วก็มีนักเขียนของนิตยสารนั้นนำกระทู้ไปพูดพาดพิงในเชิงไม่ดีใน Instagram ของตัวเอง (อ้อ มีนางแบบของนิตยสารมาร่วมแจมด้วย) ทำให้เรื่องเริ่มบานปลายลุกลามมากขึ้น ... ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้ คงเห็นด้วยกับผมว่านี่มันยังไม่เกี่ยวกับองค์กรหรือแบรนด์นัก คนทำการตลาดออนไลน์ของนิตยสารคงไม่สามารถไปคุมพนักงานและนางแบบของตนได้ตลอดเวลา

แต่สิ่งที่นิตยสาร Ray ทำพลาดก็คือการควบคุมและจำกัดความเสียหายของเรื่องราวในครั้งนี้ เนื่องจากกระแสในพันทิปที่แรงจัดอยู่แล้วจากคำพูดแย่ๆ ของนักเขียน ทำให้มีคนเข้าไปคอมเม้นต์ในแฟนเพจของนิตยสาร Ray Thailand กันอย่างล้นหลาม แต่ admin ของแฟนเพจนั้น แทนที่จะยอมรับฟัง ขอโทษ และตอบว่าพร้อมจะแก้ไขปัญหา กลับเลือกที่จะ "ลบ" คอมเม้นต์บางอันออกไปเสียนี่ เท่านั้นล่ะครับ ไฟอารมณ์ที่แรงพออยู่แล้วก็ติดลมบนพรึ่บพรั่บ มีผู้ใช้อีกหลายคนตามเข้ามาคอมเม้นต์แบบว่า ลองดูสิ แกลบไป ชั้นก็จะเม้นเรื่อยๆ (ลองเข้าไปดูที่แฟนเพจได้ครับ ยังมีซากความเสียหายหลงเหลืออยู่พอสมคร)

สุดท้ายเรื่องก็ไปถึงนิตยสาร Ray ที่ญี่ปุ่น แล้ว ผอ. นิตยสาร Ray ของไทยก็ต้องออกมาโพสต์ขอโทษอย่างเป็นทางการในแฟนเพจ แต่ช้าไปเสียแล้วครับ ด้วยความเสียหายระดับนี้ ผมว่าทางนิตยสารเสียโอกาสทางการตลาดไปพอสมควรเลยทีเดียว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเสียแฟนนิตยสารแบบชั่วคราวไปขนาดไหน

เล่าตัวอย่างที่ผิดพลาดไปแล้วก็อยากเล่าเรื่องดีๆ ให้ฟังกันบ้างครับ หลายคนที่รู้จักผมในเน็ตบ้างคงจะรู้ว่าผมเป็นแฟนตัวยงของรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย จริงๆ ผมเป็นแฟนตั้งแต่เป็นรายการของญี่ปุ่นเลยต่างหาก เรียกได้ว่าพอมีประกาศว่าจะมีรายการนี้ในเวอร์ชั่นไทย ผมก็ตื่นเต้นแล้วเริ่มประชาสัมพันธ์ให้ก่อนเทปรายการครั้งแรกด้วยซ้ำ

แต่ปรากฏว่าในเทปแรกของรายการ กลับมีตอน "เชฟกระทะแหลก" ที่เอาตลกมาเล่นทำอาหารกัน เปลี่ยน theme ของรายการที่แฟนๆ คุ้นเคยไปอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญคือเปลี่ยนแล้วไม่ดีขึ้นเสียด้วย จนในคืนที่เทปแรกออกอากาศนั้น ฝูงชนที่เป็นแฟนรายการต่างเข้ามารุมวิจารณ์ในแฟนเพจเสียล้นหลาม เรียกได้ว่าโดนบ่นจนแทบจะล้มทั้งยืนกันในคืนนั้นเลยทีเดียว

สิ่งที่ admin ของแฟนเพจทำนั้น ก็คือ เลือกที่จะขอโทษในทันที พร้อมทั้งประกาศว่าจะมีการปรับปรุงรายการให้ถูกใจผู้ชมมากขึ้น และขอบคุณสำหรับเสียงติชมทั้งหลาย (เท่าที่ผมทราบ ไม่มีการลบคอมเม้นต์นะครับ เพราะผมก็ไปบ่นมาเหมือนกัน ได้ like มาหลายสิบอันจากการบ่นอันนั้นด้วยซ้ำ) และที่ได้ใจแฟนรายการมากๆ ก็คือ ในเทปที่สอง ผู้จัดทำรายการตัดส่วน "เชฟกระทะแหลก" ออกไปทั้งหมด (ทั้งๆ ที่ผมมั่นใจว่าน่าจะมีถ่ายเทปเก็บสำรองไว้แล้วหลายตอน) และปรับรูปแบบรายการจนกระทั่งตอนนี้มีแต่เสียงชื่นชมเป็นส่วนใหญ่ (ผมแวะไปทานอาหารของเชฟเอียนมาแล้วเรียบร้อย 555)

จากตัวอย่างตรงนี้ จะเห็นได้ชัดว่าสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็น social network นั้นมีพลังขนาดไหน และยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนทำตลาดออนไลน์หลายคนรู้ด้วยว่า อย่าใช้ social network เพื่อที่จะสื่อข้อความของแบรนด์ออกไปเท่านั้น ยังต้องรับข้อมูลกลับเข้ามาอีกด้วย เพราะว่าปัจจุบันนี้การสื่อสารเป็นสองทางครับ แล้วเสียงจากผู้ใช้นั้น ย่อมจะสำคัญกว่าเสียงจากแบรนด์เสมอ

------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้ผมจะเขียนบทความทั้งเรื่อง E-Commerce เรื่องภาษาอังกฤษ และเรื่องอื่นๆ อีกที่อยากคุย ใส่ไว้ใน fan page ก่อนแล้วก็อปมาวางไว้ที่บล็อกครับ ดังนั้นถ้าใครสนใจ ก็สามารถตามไปที่ //www.facebook.com/dr.ekkasit ได้เลย

หรือแวะไปดูสัมมนาการตลาดออนไลน์ที่ผมทำกับสถาบันปัญญาธุรกิจของเครือเนชั่นได้ที่ //www.nation-education.com/enews/SocialBeauty-Jun8/Outline.pdf

หรือถ้าสนใจสัมมนาการตลาดสถานพยาบาล ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ที่ผมทำร่วมกับรุ่นพี่ที่เป็นที่ปรึกษาการตลาดให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ //www.exitcorner.com ได้เลยครับ

Create Date : 07 พฤษภาคม 2555
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 14:49:34 น.		0 comments
Counter : 946 Pageviews.
Share Tweet