------------- คำนำ ออปชั่น ///-----------------
========== ปฐมลิขิต การเขียน เรื่อง ออปชั่นประยุกต์สำหรับตลาดไทย พศ 2555 ฉบับนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ เพื่อให้ตกเป็นสมบัติของลูกหลานต่อไป ผู้ใดจะนำไปเผยแพร่ต่อต้องขออนุญาต หมอสัจจะ ===============================================================
คำนำ ก่อนอื่น ผู้จะศึกษาเรื่องออปชั่น ควรมีความเข้าใจ เรื่อง หุ้น (Share or Equities ) และฟิวเจอร์ (ตราสารอนุพันธ์)( Derivatives ) ว่า เกี่ยวข้องกับคำว่า การลงทุน ( Investments ) หรือ การพนัน ( Games ) อย่างไร หุ้น มาจาก อดีต การทำกิจการอะไรสักอย่าง ถ้ามีการลงทุนด้วยทรัพย์สิน ที่ดิน หรือ เงิน หรือความคิด ทำงานด้วยกัน หรือค้าขายด้วยกัน เราเรียกว่า มี " หุ้นส่วน " เมื่อจำนวนผู้ร่วมหุ้นมีมากขึ้น เพื่อป้องกัน ความวุ่นวาย เสียหาย กฏหมาย สำหรับเรื่องนี้จึงมีการกำหนด ให้มีการจด เป็น " ห้างหุ้นส่วน " ให้ถูกกฏหมาย ก็มีรายละเอียด ต่อไปว่า จำกัด หรือ ไม่เขียนจำกัด ต่อท้ายด้วย ก็มีความหมาย แตกต่างออกไป เรื่องการ จำกัด การก่อหนี้ แล้วหุ้นส่วนต้องร่วมรับผิดชอบไหม ต่อมาก็มากขึ้นจนกฏหมายต้องกำหนด เป็น " บริษัท " ให้มีการจดทะเบียน มีหนังสือ บริคณท์สนธิ หรือหนังสือ แสดงรายละเอียดข้อตกลง กติกา ต่างๆๆ ทำไว้เป็นหลักฐานให้กรม ทะเบียนพานิชย์ เก็บรักษา ข้อตกลงเริ่มต้นของผู้ก่อตั้งครั้งแรก เมื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงใดใดต้องทำเป็นรายลักษณ์อักษร แจ้งต่อนายทะเบียนพายนิชย์ ด้วย แบบนี้จึงเรียก " การลงทุน" เพราะเมื่อจะมีการเพิ่มจำนวนคนเข้าไปร่วมทุน กฏหมาย กลัวการหลอกลวง แสดงเอกสารเท็จจึงกำหนดให้มีตลาดกลาง เพื่อ เป็นตลาดให้นำบริษัทที่จะระดมทุนเพิ่ม ต้องมาเข้าที่นี่ ให้เป็นสาธารณะมีระเบียบเดียวกัน ก็ต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทีทุนจดทะเบียนสูง และต้องก่อตั้งและทำกำไรมานานพอสมควรระยะเวลาหนึ่ง (ส่วนร้านค้าเล็กๆๆ การร่วมทุน ก็ยังมีและเกิดการ ฉ้อโกง ฟ้องร้องกันระหว่างพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือแม้แต่ สหกรณ์ใหญ่ๆๆ เป็นข่าวให้เห็นเสมอ ) ส่วนฟิวเจอร์ หรือ ตราสารอนุพันธ์ เป็นเพียง เอกสารสมมุติ ให้มีสินค้าอ้างอิง มากำหนดราคา ซื้อขายกันได้ในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็หมดอายุ จบกันไป มีคนกำไรมีคนขาดทุน ฝรั่งเขาจึงเรียกว่า " Zero Sum Game " แบบนี้แหละไทยเราเรียกว่า " การพนัน " ความจริง ที่เราต้องยอมรับกันตรงๆๆ 1 การลงทุนในบริษัทจริงๆๆ ที่ดำเนินการ ไปทุกวันอย่างปกติ และมีกไรต่อเนื่อง ราคาของหุ้น หรือมูลค่าของบริษัท ควรจะเพิ่ม ที่ละเล็กละน้อยไปตามวันเวลา แต่ความจริง คือราคาในกระดาน มันไม่ได้ปรากฏ ตามความจริงของบริษัท มันกลับไปแสดงตามอารมณื ตามเกมส์ ของคนที่เข้ามาซื้อขาย หรือตามข่าว ที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเลย ราคาสามารถ ขึ้นวันลงวัน ได้มากมาย ดังนั้น การลงทุน ในปัจจุบัน จึงห่างไกลจากความจริงของ บริษัท ไปแล้ว สำหรับหุ้น 2 หุ้น ราคาในกระดาน จะทำให้คนเข้ามาลงทุนกำไรได้ก็ต่อเมื่อหุ้นขึ้นเท่านั้น แต่ ในสภาพปัจจุบัน ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ยามที่เศรษฐกิจแย่ หุ้นตก คนถือหุ้น ไม่มีกำไราจากราคาหุ้นที่ตกลงเรื่อย บางครั้ง เป็นเวลาหลายๆๆปี และการจะตัดสินใจขาย ก็เสียดาย การเป็นเจ้าของมาตั้งแต่แรก หรือราคามันลงไปมากกว่าราคาที่ซื้อมา การขายจะขาดทุนมาก จึงเกิด ของใหม่ๆๆในตลาดเพื่อการป้องกันความเสี่ยง เพื่อเพิ่มทางเลือก ให้การลงทุน เป็นไปตามความคิด มากขึ้น ภาวะที่เห็นเศรษฐกิจจะแย่ การมองทิศทางลง ก็สามารถหากำไรได้จากผลิตภัณท์ใหม่ๆๆนี่ได้ และนี่คือที่มาของเกมส์ แข่งกันทางการมองทิศทางอนาคต " มองขึ้น " หรือ " มองลง " จึงเป็นที่มาของ ตราสารอนุพันธ์ " อนุภรรยา " มักจะสวยกว่าภรรยาหลวง การที่จะทำให้เกิด ความน่าสนใจทันยุคสมัยทันใจวัยรุ่น คือการรวยไว ดังนั้น ตราสารอนุพันธ์ จึงใช้เงินลงทุนน้อยกว่าจริง ด้วยเงินเพียง 10% โดยประมาณ มาวางไว้ เมื่อต้องการสัญญา ( เรียกว่า มาร์จิ้น ) แต่เนื่องจาก สินค้าอ้างอิง เป็นดัชนีเซท 50 ที่น่าจะยากต่อการ ควบคุม เพราะมันหมายถึงราคาของ บริษัทดีดี 50บริษัทที่มีมูลค่าซื้อขายมาก 50อันดับแรกของตลาด แต่เนื่องจากตลาดไทยเล็ก ยาม ตลาดเริ่มตก ดัชนีสีแดง คนก็เริ่มไม่เล่น คนมีเงินมากพอจะดัน หุ้นราคามากมากบางตัวจึงดันดัชนีเซท 50ให้ไปตามใจเขาได้ ดังนั้น ความจริงข้อ 2 ไม่ว่าหุ้น หรือ ตราสารอนุพันธ์ ในตลาดไทยมีคนควบคุมได้ ( จะแก้ได้ ก็ต่อเมื่อ กลต มีประสิทธิภาพ ) จาก สองเรื่องดังกล่าว ก็มาถึง " ออปชั่น " มี 2 บุคคลิค ใน อย่างเดียวกัน คือเหมือนหุ้นบางส่วน เหมือน ฟิวเจอร์ บางส่วน 1 ส่วนที่เหมือนหุ้น คือ การที่เล่นเป็นผู้ซื้อ แต่เป็น หุ้นที่เล่นได้ 2ทิศทาง คือ 1.1เปิดสถานะเป็นผู้ซื้อ เล่นทางขึ้น open /buy/call option หรือเรียก open /long/call option 1.2เปิดสถานะเป็นผู้ซื้อ เล่นทางลง open /buy /put option หรือเรียก open /long/put option จ่ายเงินแล้ว อยากขายปิดสถานะเมื่อไรก็ได้ก่อนหมดเวลาอายุสัญญา หรือหมดเวลา โบรคเกอร์เคลียร์ให้ว่าสัญญามีมูลค่าเท่าไร 2 ส่วนที่เหมือน ฟิวเจอร์ คือการเล่นเป็นผู้ขาย ก็มีการคิดมาร์จิ้นวางเงินเพียง 10% ของสัญญา ป้องกันการหนี เพราะ การเป็นผู้ขายของออปชั่น จะได้รับเงินไปเลย จึงทำให้เสมือน การเล่นได้เปรียบ คนซื้อ ไม่ใช้เงินก็ได้ หรือใช้เงินน้อย กว่าคนซื้อ มีสองแบบเช่น กันคือ 2.1เปิดสถานะเป็นผู้ขาย เล่นทิศทางลง open /sell /call option หรือ open /short/call option 2.2เปิดสถานะเป็นผู้ขาย เล่นทิศทางขึ้น open /sell /put option หรือ open /short/put oprion 3 หุ้นและฟิวเจอร์ การขาดทุน อาจจะ เกิด การหมดเลย หรือ บางส่วน หรือ เสมอตัวหรือกำไร การขาดทุนหรือ หมดตัว เป็นเรื่องไม่ง่ายนัก (แต่ฟิวเจอร์ อาจจะเห็นได้ยาม การกระชากขึ้นหรือลงรุนแรง ยามตลาดวิกฤต ) แต่ออปชั่นเป็นเรื่องที่ การขาดทุนหมด เงินที่ลงในสัญญานั้น ง่ายมาก เช่นราคาพรีเมี่ยม 5จุด พอผิดทางเกิน 5จุดมันก็กิน พรีเมี่ยมนั้นหมดแล้ว นี่คือความจริงที่เกิดประจำ ดังนั้น คนจะเล่นออปชั่น ต้องนึกว่านี่คือการพนันเป็นการแทงเป็นตาตา หรือทีที ไป แบบการแทงป๊อกเด้ง แต่เนื่องจากการมีงวดอายุสัญญา ในพอร์ตที่ แดงจนขาดทุน 99% แล้ว (ราคาต่ำสุดซื้อขายได้ 0.10) ดังนั้นจึงไม่หมด 100% ในพอร์ต การฟื้นกลับมามีโอกาสเขียวหรือกำไรยังเกิดขึ้นได้เสมอ จนกว่าจะหมดอายุแล้วถูกลบออกจากพอร์ต ดังนั้น ออปชั่นจึงมีอะไรที่มากกว่า หุ้นและฟิวเจอร์ จำเป็นต้องศึกษาให้ละเอียด มากหน่อย
Create Date : 03 มีนาคม 2555 |
|
14 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2555 5:00:57 น. |
Counter : 1505 Pageviews. |
|
 |
|