..LiFe iS a jOuRnEy..
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

: : Handwritten Notes : :

สุดสัปดาห์นี้เด็กๆ ได้หยุดเรียนติดต่อกันสี่วัน ผู้ใหญ่ก็เลยพามาหัวหินกันตามธรรมเนียม...

ธรรมเนียมที่ว่าก็คือถ้ามีวันหยุดต่อเนื่องหลายๆ วัน บ้านเราจะไม่กล้าไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกันเยอะๆ เพราะโรงแรมก็จองยากแล้วยังแพงหูฉี่... และอาจจะเจอกับคนเยอะ คิวยาว รถติด (ถ้าอย่างนี้ขออยู่บ้านสงบๆ ดีกว่า)

หัวหิน...จึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเราเสมอมา...

มาคราวนี้เราหอบงานที่มีกำหนดเส้นตายต้องเสร็จภายในกลางเดือนนี้มาด้วยพร้อมโน้ตบุ๊คอย่างโก้เก๋ เป็นทีว่าแสนขยันเอาการเอางาน...

แต่แล้วภายในสามวันสองคืนที่หัวหิน... เราก็ไม่ได้ลงมือทำงานซักกะตัว เพราะบรรยากาศโดยรวมไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยให้เกิดแรงบันดาลใจให้ขยันซักเท่าไหร่...

ประกอบกับก่อนมาเราได้เข้าห้องสมุด ได้ยืมหนังสือดีๆ มาหลายเล่มเลยเชียว ซึ่งจะต้องเอาไปคืนภายในวันจันทร์นี้เสียด้วย ก็เลยจำเป็นตะลุยอ่านโลดอย่างเอาเป็นเอาตาย...

เล่มแรกที่ได้อ่านและขอบันทึกไว้... ชื่อว่า


“The Art of the Handwritten Note”
– A Guide to Reclaiming Civilized Communication
เขียนโดย Margaret Shephard....




ตามประสาคนทำงานด้านการขีดๆ เขียนๆ เราจำเป็นต้องรีเฟรชตัวเองเรื่องการอ่านการเขียนอยู่เสมอ...

เล่มนี้เราอ่านแล้วประทับใจในความใส่ใจรายละเอียดของผู้เขียนแล้วยังได้ความรู้มากมายอีกด้วย...

ผู้เขียนได้ปรารภไว้บนแจ็คเก็ตปกด้านในอย่างน่ารักว่า... เวลาคุณได้รับจดหมายที่ส่งมาที่บ้าน มีทั้งจดหมายที่จ่าหน้าซองด้วยตัวพิมพ์ กับลายมือเขียน คุณอยากเปิดจดหมายแบบไหนอ่านก่อนกัน...

คุณจะเก็บจดหมายที่มีลายมือเขียนไว้เปิดอ่านหลังจากสะสางจดหมายเรียกเก็บเงิน...หรือจดหมายขยะทั้งหลายรึเปล่าล่ะ...

เธอให้ข้อคิดว่า จดหมายลายมือเขียนน่าจะถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและนำมาซึ่งความรู้สึกดีดี... แม้จดหมายลายมือเขียนธรรมดาๆ ก็ยังดีกว่าอี-เมล์ที่ว่าเยี่ยมที่สุด (ว่าเข้านั่น...)

เพราะทั้งสองอย่าง ก็ถือเป็น ”ข่าวสารไร้เสียง” ... การเลือกสรรกระดาษ ปากกา การกลั่นกรองความคิดก่อนจะเขียนลงไป การตั้งใจกับลายมือ... น่าจะเป็นสิ่งที่นำรอยยิ้มและความปลื้มใจมาให้ผู้รับมากกว่าจดหมายตัวพิมพ์ หรืออีเมล์ ที่ดูทันสมัยรวดเร็วก็จริงอยู่...แต่ก็มันเหมือนกับ “ไร้วิญญาณ” ไหมนะ...



ต่อจากสารบัญและคำนำ
ผู้เขียนยังได้ทักทายผู้อ่านด้วยลายมือเขียนของเธอ


หนังสือเล่มนี้มีตั้งหกบท หัวข้อต่างๆ ในแต่ละบท ได้แก่

...เหตุผลดีๆ ที่ควรจะเลิกใช้ข้ออ้าง (ไม่เขียนด้วยลายมือเขียน)
– Good Reasons to Stop Making Excuses

...จะเริ่มเขียนกันอย่างไรดี
– Getting in Touch with Yourself and with Each Other

...วิธีสื่อความหมายความเป็นตัวคุณบนกระดาษ
– How to Express Who You Are on Paper

…สูตรสำเร็จง่ายๆ ในการเขียน
– A Basic Recipe for Writing Any Note

…โอกาสต่างๆ ในการเขียนข้อความ ได้แก่ ขอบคุณ แสดงความเสียใจ การเชิญ
การขอร้อง การบอกรัก-บอกเลิก-บอกความชื่นชม และการแสดงความยินดี
– Opportunities to Write the Note That Counts :
Thank you, I’m Sorry, Come Over, Please,
I Love You, I Love You Not, I Like You, Congratulations

…การส่งความระลึกถึงในสารพัดรูปแบบ
– Thinking of You : Beyond the Note

เป็นหนังสือที่น่ารักน่าอ่าน และมีประโยชน์มาก... อ่านเพลินด้วยภาษาเขียนแบบเป็นกันเองและพลอยทำให้อยากเขียนจดหมายด้วยลายมือกับเขาไปด้วย...

ผู้เขียนเขาก็อุตส่าห์แทรกคำคมเก๋ๆ ไว้เป็นช่วงๆ เพื่อเชิญชวน และย้ำเตือน เช่น...

“The fondness for writing grows with writing.”
- EPECTETUS, 100 A.D.

“Fine writing is next to fine doing”
– JOHN KEATS

“Life is not so short but that
There is always time enough for courtesy.”

– RALPH WALDO EMERSON

“As cold water is to a thirsty soul, so is good news from a far country.”
– PROVERBS 25:25

“In our family an experience was not finished,
not truly experienced, unless written down and shared with another.”

– ANNE MORROW LINDBERGH


และต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวลีที่ผู้เขียนได้แนะนำไว้...
สำหรับ "การเขียนเพื่อขอร้องให้ช่วยเหลือ"...

Do Say :

I would be grateful for

Can you help me with

May I request

Would it be convenient

On behalf of my group

Let me know if this is inconvenient

It would be very kind of you to

Please allow my child to be absent from school

Please let me know if I should redirect my request

Would you be willing to

Don’t say :

Dear Occupant

Here’s a list of my demands

Why don’t you just

I want you to

I need this right away

I don’t have time to read your book for my term paper next week, so….

Please send me an expensive object with your autograph on it

You have to

You’d better

You don’t know me but

I need you to

Can you rush this

And while you’re at it




รายการสิ่งที่ควรเขียนใน Do's list นี่... อ่านแล้วได้ความคิดเลยนะคะว่า ใครบอกว่าฝรั่งเกรงใจไม่เป็น...

จริงๆ แล้วฝรั่งผู้ดีเขาก็มีมารยาท รู้จักแสดงความถ่อมตนที่คล้ายๆ รูปแบบของคำว่า “เกรงใจ” ของไทยในแบบฝรั่งเลยนะเนี่ย... เราเองเคยเจอคำขอประมาณนี้จากฝรั่งสมัยทำงานที่เก่า....

ส่วนรายการบัญชาการตาม Don’t's list นี่ก็เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้างเหมือนกัน อีตอนทำงานที่เดียวกันแต่เป็นคนเอเชียด้วยกันจ้ะ (อย่าให้บอกเล้ยว่าชาติไหน...)

นอกจากนี้ ผู้เขียนยังได้แนะนำ "เคล็ดลับการสร้างความมั่นใจในการเขียน" ไว้หลายข้อ อาทิเช่น...

...อย่าขีดฆ่าแล้วเขียนใหม่ในหน้าเดียวกันเกินสองจุด (แต่เราว่า..ไม่น่ามีซักจุดเลยจะดีมาก) เธอว่าเหมือนใส่เสื้อผ้าชุดสวยแต่มีรูโหว่...เขียนใหม่เลยเถอะ ใช้แผ่นเดิมเป็นร่างข้อความไปเลย... (เราว่านี่เองที่ทำให้คนหันไปใช้จดหมายพิมพ์คอมฯกันหมด เพราะขี้เกียจเขียนใหม่นี่แหละ)...

...ถ้าจดหมายของคุณจะต้องไปถึงผู้รับล่าช้าอย่างแน่นอน ก็อย่าเพิ่งเขียนขอโทษขอโพยตั้งแต่บรรทัดแรก มันจะเป็นการเน้นความผิดพลาดของคุณมากไปโดยไม่จำเป็น และดูเป็นการป้องกันตัวเองแบบน้ำขุ่นๆ ด้วย...

...อย่าเขียนชื่อผู้รับผิดเด็ดขาด... เขียนผิดอย่างอื่นในเนื้อความเขายังพอรับได้ (แต่ก็ไม่ควรมีเลย...จะดีที่สุด) เป็นการผิดมารยาทอย่างให้อภัยมิได้ เพราะฉะนั้น ก่อนจะเขียน ถ้าไม่ทราบก็ต้องสืบถามให้มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ก่อน...

...ใส่วันเดือนปีที่เขียนจดหมายทุกครั้ง แม้เป็นเพียงข้อความสั้นๆ ในโพสต์อิตโน้ตก็ควรใส่ด้วย... (เราเอง ใส่เวลาเข้าไปด้วยเสมอ... เพราะบางทีผู้รับจะแปลกใจที่ได้ทราบว่าเรานึกถึงเขาแม้ในเวลานั้นๆ)...

...การส่งข้อความแสดงความเสียใจ ควรเขียนด้วยลายมือ ถ้าส่งเป็นการ์ดก็ไม่ควรเซ็นชื่ออย่างเดียว ควรเขียนโน้ตสั้นๆ ไปด้วย (แม้จะขี้เกียจเขียนแค่ไหนก็ตาม... แค่คำว่า “ขอแสดงความเสียใจด้วย” ก็ยังดีกว่าไม่เขียนอะไรเลย...)

...ส่งคำขอบคุณภายในหนึ่งสัปดาห์ (หลังจากงานหรือการร่ำลา) และส่งคำแสดงความเสียใจภายในหนึ่งเดือน (หลังเกิดเรื่องเศร้า) ถ้าหลงลืม (หรือละเลย) จนล่าช้ากว่านี้ ก็ให้รีบส่งทันทีที่นึกได้... (Late is still a hundred times better than never)…

...ควรใช้กระดาษและซองของคุณเอง หรือกระดาษเขียนจดหมายที่เรียบหรูดูดี (จะหายากไหมละเนี่ย...ยุคนี้) อย่าใช้กระดาษเขียนรายงาน กระดาษสมุดฉีกริมห่วง (แบบที่ฉีกแล้วเป็นรูกลมๆ ขาดๆ น่ะ ... แฮ่ะๆ เราก็เคยใช้นะเวลารีบๆ ชุ่ยๆ ..) อย่าใช้กระดาษตราโรงแรมที่เก็บกลับบ้านมาด้วย (หรูระดับไหนก็อย่าใช้เลยจ้ะ) แต่ถ้าเขียนส่งให้ใครตอนที่คุณพักอยู่ที่นั่นก็พอได้นะจ๊ะ...(ความที่กระดาษเขียนจดหมายสวยๆ หายาก เราเลยใช่กระดาษ A4 ธรรมดาๆ เขียนเป็นประจำเลย...เฮ้อ ไม่ได้การละ เดี๋ยวกลับไปกรุงเทพฯ คงต้องไปจัดการหาอะไรที่มันดูดีกว่านี้มามั่ง...)



กระดาษโน้ตน่ารักเก๋ไก๋ ดูให้มีแรงบันดาลใจไปงั้นเอง...
Picture with courtesy of //www.southbeachgifts.com


โอ้ว... มีอีกเยอะเลย... Tips and Tricks น่ารักๆ ในมุมมองที่เราคิดไม่ถึง...

มีแม้กระทั่ง รวมคำขึ้นต้นและคำลงท้ายที่เหมาะสม คำที่ควรเขียนและไม่ควรเขียน การเลือกใช้คำให้เหมาะกับผู้รับ ไปจนถึงการเลือกซื้อปากกา...

ใครสนใจหนังสือเล่มนี้ ลองไปหาซื้ออ่านกันได้... สำนักพิมพ์นี้อยู่ที่อเมริกานู่นแน่ะค่า เมืองไทยไม่ทราบว่ามีใครสั่งมาขายละเปล่า เราก็อยากได้อยู่เหมือนกัน...

จัดพิมพ์โดย Broadway Books, a division of Random House, New York, U.S.A. //www.broadwaybooks.com




ต้องเขียนด้วยปากกาบนกระดาษกันจริงๆ นะคะ...
ไม่เอาประเภทโหลดฟ้อนท์ลายมือมาพิมพ์น้าาา...


ว่าแต่อ่านบล็อกนี้จบแล้ว...

จขบ.ขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาเขียนจดหมาย โปสการ์ด หรือบัตรอวยพร ด้วยลายมือเขียนส่งให้คนรู้จัก ญาติสนิทมิตรสหายกัน ตามแต่โอกาสจะอำนวย...

เขียนแล้วติดแสตมป์ส่งทางไปรษณีย์แบบคลาสสิค (หรือจะส่งด้วยมือตนเองก็ยังได้นะ เอาไปวางบนโต๊ะเขาเลย)...

เพราะถ้าเรามัวแต่เพลิดเพลินกับการพิมพ์อีเมล์กันเป็นล่ำเป็นสัน ไม่เห็นความสำคัญของการเขียนด้วยลายมือเขียนกันอีกต่อไปแล้ว... ก็ทำให้ทักษะการเขียนของเราเสื่อมถอยลงไปทุกวันๆ...

อย่างเราเอง ทุกวันนี้ วันไหนเอาแต่นั่งหน้าจอคอมฯ ไม่ได้เขียนหนังสือนานๆ พอมาเริ่มจับดินสอปากกาเขียนบนกระดาษ... กร๊ากกกก... มือแข็งทื่อเชียว ลายมือก็ยึกยือ เขียนได้แป๊บๆ ก็เมื่อย...

จำได้ว่าสมัยเด็กๆ นักเรียนประถมต้องมีการบ้านคัดไทย เราได้เรียนแบบเรียนคัดลายมือของนายเนย อิศรางกูร ณ อยุธยา... ทุกครั้งเราต้องบรรจงคัดลายมือให้สวยๆ ครูจะได้ให้คะแนนเต็มทุกที...

ลองกลับมาสู่ความเรียบง่ายของจดหมายที่ใช้ลายมือเขียนกันบ้างไหมคะ เดินไปหยอดตู้ไปรษณีย์แถวบ้านนี่ละ จูงน้องหมาไปเดินเล่นด้วยก็ได้...

ฟังดูย้อนยุคไปหน่อยใช่ไหมคะ... เอาน่า ฝีกมือกันไว้ก่อนก็ดีนะคะ... เผื่อวันนึงไฟฟ้าดับทั้งโลก ไม่มีคอมฯใช้ รับรองได้เขียนจดหมายกันมือระวิงกันแน่นอน...





 

Create Date : 06 ธันวาคม 2551
24 comments
Last Update : 10 เมษายน 2552 20:55:45 น.
Counter : 8897 Pageviews.

 

Just dropping by to say hello ka.

 

โดย: CrackyDong 6 ธันวาคม 2551 17:19:14 น.  

 

สวัสดีค่ะแม่แดง คร้า อยากจะบอกว่าแม่มณี ลายมือ ดูไม่ได้เลยอะค่ะ เขียนแบบติดกันจนดูยากมากค่ะ เพราะติดจากการเขียนภาษาอังกฤษ ค่ะ อิอิ ข้ออ้าง

ความจริงคือ ลายมือไม่สวย มันหวัดมากๆอะค่ะ สงสารคนอ่าน ค่ะ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งเขาก็ชอบจะส่ง การ์ดปีใหม่ แบบใช้ลายมือเขียนส่งให้เราประจำ เขาบอกว่าได้บรรยากาศดี

แม่มณีว่า พิมพ์เอาน่าจะสวยกว่านะ อิอิ ดีใจได้เป็นที่2 เย้ๆๆ

have a nice day na kra

you got a tag ค่ะแม่แดงคร้า

แม่มณี

 

โดย: แม่มณีหลินเอ๋อ (ย่าชอบเล่า ) 6 ธันวาคม 2551 18:18:35 น.  

 

อ้อ หัวหิน นี้ไม่ได้ไปนานแล้วอะคะ ไปครั้งสุดท้ายก็น่าจะสัก2ปีมาแล้วอะค่ะ เที่ยวเผื่อ ด้วยนะ ฝากหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ ด้วยค่ะ 555555

(ใจคอแม่มณีจะ ยืมจมูกคนอื่นหายใจซะแย้ว อิอิ)

 

โดย: แม่มณี อีกรอบ (ย่าชอบเล่า ) 6 ธันวาคม 2551 18:20:42 น.  

 

เห็นด้วยเลยค่ะว่า ตอนนี้ใช้นิ้วจิ้มดีดจนพอไปเขียนหนังสือนี่ มือแข็งเลย ลายมือที่เคยสวยตอนนี้ก็เห่ยไปทันที

 

โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ 6 ธันวาคม 2551 18:33:09 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่แดง

เห็นด้วยเลยค่ะว่าเรื่องการเขียนด้วยลายมือเนี่ยเป็นเรื่องที่แสดงความตั้งใจของผู้ส่งเลยนะคะ

เจ้านายของมดเป็นฝรั่ง เวลาส่งการ์ดปีใหม่ให้ลูกค้า จะเขียนด้วยลายมือตัวเองทุกใบ เฉพาะเจาะจงให้คนนั้นด้วย ไม่ใช่เขียนข้อความเดียวกันทุกใบ

แต่ผู้จัดการคนไทยนี่ เซ็นต์ชื่อเฉยๆเลยค่ะ เวลาเราเป็นผู้รับ ความรู้สึกมันต่างกันเลยนะคะ

ปล. หน้งสือ milly-molly-mandy นั้นแนะนำว่าให้เอาเล่ม The Adventures of Milly-Molly-Mandy เพราะเป็นเล่มรวม เท่ากับซื้อ 4 เล่มรวมกัน แถมราคาเท่ากันอีกด้วย

หวังว่าพี่แดงจะชอบนะคะ ส่วนมดนั้นหลงรักหนังสือเล่มนี้เต็มๆเลยค่ะ

 

โดย: nanida 6 ธันวาคม 2551 18:48:32 น.  

 

Photobucket


พิมพ์เอาละกันนะคะพี่แดง เขียนลงคอมแบบนั้นไม่ค่อยถนัดค่ะ ไว้มีโอกาสเขียนลงกระดาษหาพี่แดงเมื่อไหร่ คงได้แกะลายมือกันสนุกไปเลย

หนังสือเล่มนี้น่าสนใจดีนะคะ เอ็มก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเขียนจดหมายเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยอมรับค่ะว่าตั้งแต่มี e-mail ก็เขียนจดหมายน้อยลงกว่าแต่ก่อนเยอะเลย พี่แดงล่ะคะ ชอบเขียนจดหมายหรือเปล่า ... พูดถึงว่า ถ้าได้จดหมายพิมพ์กับจดหมายลายมือมา เอ็มมักจะแกะอันพิมพ์ก่อนค่ะ ไม่ใช่ว่าชอบนะคะ แต่อยากจะเก็บอันที่เป็นลายมือเอาไว้ดื่มด่ำซาบซึ้งทีหลัง ... กระดาษเขียนจดหมายสวยๆ เดี๋ยวนี้หาซื้อยากจริงอย่างที่พี่แดงว่าค่ะ แปลกดีนะคะ เมื่อสิบปีก่อน ยังมีขายอยู่เกลื่อน อะไรๆมันเปลี่ยนไปเร็วจริงๆ แต่ในฐานะผู้รับ จะเขียนใส่กระดาษสมุดหรืออะไรมา เอ็มก็ดีใจทุกครั้งค่ะ

แต่ถ้าหากว่าไฟดับทั้งโลกอย่างที่พี่แดงเขียนในตอนท้าย เห็นทีพวกเราคงต้องเริ่มเลี้ยงนกพิราบสื่อสารกันด้วยแล้วล่ะค่ะ ^^

Enjoy the weekend นะคะ

ป.ล. อยากเห็นลายมือพี่แดงจังเลยค่ะ :)

 

โดย: discipula 6 ธันวาคม 2551 19:04:14 น.  

 

อ่านแล้วได้ความรู้สึกที่ดีมากครับ ทำให้อยากจับปากกาขึ้นมาเขียนจดหมายบ้าง ช่วงนี้ก็ใกล้จะส่ง ส.ค.ส. กันแล้วครับ

 

โดย: Insignia_Museum 6 ธันวาคม 2551 20:36:53 น.  

 

กะลังคิดอยู่เหมือนกันว่าเขียนโฆษณาชวนเชื่อให้เพื่อนๆ ใช้ลายมือเขียน แต่ จขบ. ไม่ยักกะเขียนมั่ง...
หากระดาษก็ไม่มี เลยใช้สมุดฉีกเจ้าเก่าไปพลางๆ ก่อนละกันนะคะ...


 

โดย: จขบ. เองค่ะ (Devonshire ) 6 ธันวาคม 2551 21:01:30 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่แดง

หนูเองก็ชอบการเขียนมากกว่าการพิมพ์ค่ะ

ช่วงนี้ยังพอได้ส่งโปสการ์ดที่เขียนด้วยลายมือบ้าง

แต่จดหมาย ไม่ได้เขียนนานมากๆ แล้ว

เพราะเขียนไปหาใครเค้าก็ไม่ค่อยจะตอบกัน

ดันโทรศัพท์กลับมาแทนเสียอย่างนั้น

โชคดีที่คณะหนูเค้าสนับสนุนให้เด็กใช้มือเขียนค่ะ

เพราะมันเป็นการพัฒนาสมอง(อันนี้อาจารย์ที่สอนพูดเองนะคะ)

การใช้นิ้วจิ้มแป้นคีย์บอร์ดอย่างเดียว

ไม่เพียงพอให้กล้ามเนื้อมือแข็งแรง

และส่งกระแสประสาทไปกระตุ้นสมองค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นการจดเลกเชอร์ หรือทำรายงาน

ใช้มือเขียนทั้งหมด เพราะจะใส่รูปที่ตัวเองสเกตช์ เข้าไปได้ง่ายด้วย

เด็กๆ รุ่นน้องหนูเริ่มน่าเป็นห่วง เพราะเริ่มจะใช้คอมแทนมือมากขึ้น

ทั้งเขียนหนังสือทั้งเขียนแบบเลย

หนังสือที่พี่แดงแนะนำน่าอ่านมากๆ ค่ะ มีอะไรดีๆ ที่ควรรู้เยอะเลย


ไว้โอกาสหน้าจะมาคอมเม้นท์บล็อกพี่แดงด้วยลายมือตัวเองนะคะ



 

โดย: มังกรเขียวหัวฟู (cruduslife ) 6 ธันวาคม 2551 21:36:29 น.  

 

เขียนด้วยลายมือ ??
ยังอยากทำนะคะ แต่สงสารคนอ่านค่ะ

เขียนจดหมาย เราใช้ email
เขียนโน้ตสั้นๆ แนบเสนองาน เราต้องพิมพ์ กลัวนายอ่านผิด แล้วจะไม่อนุมัติ

แต่ถ้าเป็นการเขียนคำอวยพรบนการ์ด
บนหนังสือที่ส่งเป็นของขวัญ
เราจะเขียนด้วยลายมือ
พัสดุหรือจดหมายที่ส่งทางไปรษณีย์ถึงเพื่อน
เราก็เขียนด้วยลายมือเช่นกัน
แต่ต้องมี "ปล. ลายมืออ่านยากหน่อยนะ" ไปด้วยซะทุกครั้ง

เห็นด้วยกับผู้เขียนเรื่องการให้ความสำคัญกับจดหมายลายมือ
เราก็เองก็เป็น ...กว่าจะเลือกกระดาษซอง เขียนเสร็จ ไปส่ง เรายังเลือกแสตมป์เลย
เดี๋ยวนี้ไปรษณีย์ปรับปรุงใหม่ ไปส่งหน้าเคาน์เตอร์ ชั่งน้ำหนัก ก็ออกมาเป็นสติกเกอร์ระบุมูลค่าส่งซะแล้ว
ไม่สวยเลย .....ก็เลยต้องซื้อแสตมป์เก็บไว้บ้าง...ใช้บ้าง ....ตามสถานการณ์

 

โดย: นัทธ์ 6 ธันวาคม 2551 22:18:35 น.  

 

หวัดดียามดึกเที่ยงคืนค่ะพี่แดง ลูกสาวคนเล็กพี่แดงเกิดวันพ่อด้วยเหรอคะ ดีจังเลยเป็นวันหยุดของครอบครัว ได้ฉลองไปทั้งสองโอกาสพร้อมกันเลย เค้กเอสแอนพีได้กินครั้งสุดท้ายที่สุวรรณภูมิอ่ะค่ะ พี่แดงไปหัวหินไปปราณกินอาหารทะเลซะอิ่มแปร้เลยสิคะ คิดแล้วก็น้ำลายสอ แฮ่ๆๆ พรุ่งนี้พาลูกไปสอบขอเป็นกำลังใจให้น้องเค้าด้วยนะคะ

เห็นเม้นต์พี่แดงตามบ้านต่างๆ แอบขำ มีบอกสถานที่ด้วยอ่ะ ตั้วแต่หัวหิน บางกอก ยันสุขุมวิท 555

 

โดย: prunelle รอบหนึ่ง (prunelle la belle femme ) 7 ธันวาคม 2551 0:08:51 น.  

 

หนังสือเล่มนี้น่าสนใจนะคะ มีเคล็ดลับการเขียนสอดแทรกด้วย ช่วงนี้ไม่ได้อ่านอะไรเป็นเล่มเลยอ่ะค่ะ นอกจากจะอ่านเรื่องงานแล้วเวลาอยากพักก็มาอ่านเล่นใน bloggang

การเขียนเพื่อขอร้องให้ช่วยเหลือน่ะ Please... นี่ได้ใช้บ่อยมากค่ะที่ทำงาน เห็นด้วยกับพี่แดงค่ะที่ว่าใครบอกว่าฝรั่งเกรงใจไม่เป็น จากประสบการณ์ที่เจอมาด้วยตัวเองนี่ บางทียังต้องคิดเลยว่าเค้ายิ่งกว่าเกรงใจอีกอ่ะค่ะ ให้เกียรติเราและมารยาทดีมากๆ แต่เราก็อยากให้เค้ารีเล็กซ์ ไม่ต้องเกรงใจอะไรกันมาก ก็ทำเนียนๆ หัวเราะเฮฮาไป พอสนิทกันระดับหนึ่งก็รู้กัน มันเลย feel comfortable มากขึ้น

ส่วนตัวชอบเขียนจดหมายกะโปสการ์ดค่ะ ไดอารี่หยุดเขียนมาตั้งแต่อายุ 18 ละ เพราะว่ามีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้นเลย ส่วนลายมือน่ะเหรอคะ เป็นคนที่เขียนตัวหนังสือตัวโตและกดปากกาอ่ะค่ะ พยายามเขียนตัวเล็กแล้ว บางทีมันลืม เลยใหญ่คับที่มากๆ ว่าแต่พี่แดงเขียนได้ไงอ่ะค่ะ font ลายมือพี่แดงมีหลายแบบมาก

 

โดย: prunelle la belle femme 7 ธันวาคม 2551 0:22:25 น.  

 

Photobucket

ไม่แน่ใจว่าเขียนหวัด+ตัวเล็ก

ไปหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขียนแล้ว

มันจนเกือบหยุดไม่ได้เชียวค่ะ


มีความสุขมากๆ นะคะ

 

โดย: มังกรเขียวหัวฟู+ยุ่ง (cruduslife ) 7 ธันวาคม 2551 11:18:00 น.  

 

ทุกวันนี้ผมเองก็ยังเขียนจดหมายหาเพื่อน ๆ โปสการ์ดบ้าง เขียนด้วยลายมือตัวเอง

ผมเชื่อความอบอุ่นที่คนอ่านจะพบในตัวอักษรของเราน่ะครับ

มีความสุขมาก ๆ ครับ

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 7 ธันวาคม 2551 12:37:20 น.  

 

Falling Slowly เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Once ค่ะ

เพลงในเรื่องนี้เพราะมากๆ แต่หนังบางช่วงหนูดูแล้วจะหลับ ฮ่าๆ

เดี๋ยวหนูส่งที่อยู่ไปให้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ถึงไม่ได้เรียนมัณฑนศิลป์ แต่สุดท้ายก็ได้ทำงานครีเอทีฟ

เป็นก๊อปปี้ไรเตอร์ หนูว่าเจ๋งมากๆ เลยนะคะ

เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันหลายคน(รวมทั้งหนูด้วย)

ก็ใฝ่ฝันอยากทำงานแนวๆ นี้

เพราะเรียนสถาปัตย์มันอาจจะตกงาน เหอะๆ

แล้วบางคนพอเข้ามาเรียนก็ประกาศตนตั้งแต่ปีแรกว่า

เรียนจบมาจะไม่ทำงานเป็นเต็คโดยเด็ดขาด (เวรกรรมจริงๆ)

พรุ่งนี้วันจันทร์มีเรียนแต่เช้าเลยค่ะ ตอนนี้เลยขอพักให้สะใจ


มีความสุขมากๆ นะคะ

 

โดย: มังกรเขียวยังหัวฟู+ยุ่ง (cruduslife ) 7 ธันวาคม 2551 16:56:22 น.  

 

เห็นด้วยกับพี่แดงค่ะว่าลายมือน้องเจื้อยแจ้วสวย เป็นเอกลักษณ์ แปลกไปจากลายมือวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่เราเห็นสมัยนี้ ... ลายมือพี่แดงก็สวยอ่านง่ายนะคะ ชอบลายมือภาษาอังกฤษของพี่แดงจังเลยค่ะ

วันนี้อากาศเป็นยังไงมั่งคะพี่แดง เห็นบอกว่าไปตระเวนถ่ายรูปมา ถ้าอากาศดีก็คงได้รูปสวยๆเยอะเลยนะคะ โรงเรียนเก่าของพี่แดงก็อยู่แถวนั้นเหรอคะ เดี๋ยวขอนึกก่อนค่ะว่าย่านนั้นมีโรงเรียนอะไรบ้าง (ไม่ใช่ถิ่นหนูซะด้วย)

วันนี้ร้านรวงที่นี่ปิดกันหมดเลยค่ะ อากาศก็ไม่ค่อยดี เอ็มอ่านหนังสือ ทำงานอยู่กับบ้านนี่ล่ะค่ะ อ่อ พี่แดงคะ ถ้าพี่แดงอยากได้หนังสือเล่มด้านบน แล้วหาที่เมืองไทยไม่ได้ บอกเอ็มได้นะคะ เห็นที่นี่มีขายอยู่ค่ะ

Enjoy the evening ค่ะ ^^

 

โดย: discipula 7 ธันวาคม 2551 18:57:44 น.  

 

เป็นความคิดที่ดีมากๆเลยค่ะ

แต่ลายมือเราไม่สวย เวลาเขียนทีไรคนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ

เวลาเราได้รับการ์ดหรือจดหมาย ถ้าคนเขียนเขียนด้วยลายมือตัวเอง เราจะรู้สึกดีมากๆเลย

เหมือนกับว่าเขาใส่ใจ ใส่ความปราถนาดีมากับจดหมายนั้นด้วย เพราะเค้าตั้งใจเขียนเอง

ชอบความคิดนี้มากๆเลยค่ะ

 

โดย: Suessapple 7 ธันวาคม 2551 19:19:12 น.  

 

สวัสดีครับพี่แดง

ผมชอบเขียนจดหมายมากครับ
ตอนนี้ก็มีพี่ๆน้องๆหลายคนในบล็อก
ที่กำลังชวนกันเขียนจดหมายและโปสการ์ดครับ


ผมเตรียมทำ สคส.ไว้แล้วครับ
ตอนนี้ก็เหลือแต่ลงมือเขียนครับ
ประมาณ 80 ฉบับ....

รบกวนขอที่อยู่พี่แดงได้มั้ยครับ
(ที่หลังไมค์ครับ)
ผมอยากส่ง สคส.ให้พี่เช่นกันครับ





วันนี้ครึ่งเช้าผมไปงานธรรมะสายมหายานมาครับ
พอเที่ยงๆก็พามาดามกับหมิงหมิงไปเดินห้าง
เย็นก็ไปเดินอีกห้าง

วันนี้ครบทั้งทางโลกทางธรรมเลยครับ


 

โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 7 ธันวาคม 2551 20:08:25 น.  

 

สวัสดีตอนเย็นครับพี่เเดง

ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเขียนอ่านยาก เเละ ลายมือก็ไม่ดีเอาเลย เเต่ผมเป็นคนชอบเขียนจดหมายมากเลยครับ เเต่ตอนเขียนก็ไม่ได้พิถีพิถันอะไรมากนัก

หลายปีก่อนต้องเขียนเกือบทุกวันเลยครับ เขียนติดต่อกันมาก็หลายปีอยู่ ตอนนั้นรู้สึกว่าหาซื้อเเสตมป์ค่อนข้างยาก ยังจะตู้ไปรษณีย์อีก หายากมากเลย เเต่เดี๋ยวนี้เเสตมป์หาง่ายเเล้ว เพราะมีขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป

ไม่ค่อยได้รับจดหมายจากใคร เลยไม่เเน่ว่า ระหว่างจดหมายที่พิมพ์กับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ ตัวเองอยากจะเปิดอ่านอันไหนก่อน เเต่เห็นด้วยกับที่ว่า จดหมายลายมือดูจะสื่อถึงความตั้งใจของคนเขียนได้ดีกว่านะครับ ขอให้พี่มีความสุขมาก ๆ นะครับ

 

โดย: Wild Strawberries 7 ธันวาคม 2551 21:02:27 น.  

 

หวัดดีค่ะพี่แดง เพิ่งไปอ่าน tag บ้านน้องเจื้อยมา
ไม่ได้จบท่าพระจันทร์ค่ะ แต่ว่าตอนอยู่ กทม สามปีสุดท้ายอยู่อพาร์ทเม้นต์กะเพื่อนแถวๆแบงค์ชาติอ่ะค่ะ แล้วเพื่อนสนิทก็ทำงานที่ธรรมศาสตร์ เลยได้เข้าไปกินข้าวในนั้นบ่อย นัดกินส้มตำกันที่ถนนพระอาทิตย์ก็บ่อย แบบว่าไปเนียนๆแถวนั้น ฮ่าๆๆ

พี่แดงไปตระเวณถ่ายรูปแถวท่าพระจันทร์แล้วพ่อค้าแม่ขายเค้าดุเหรอคะ? เคยเจอหนหนึ่งตอนไปเที่ยวงานวัดอินทร์เมื่อหลายปีก่อนแบบว่าถือกล้องไปถ่ายงานวัด ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุนอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ แล้วก็กำลังเล็งถ่ายร้านก๋วยเตี๋ยว พ่อค้าตะโกนออกมาดักเลยว่าถ่ายอะไร ไม่ให้ถ่าย ไม่ให้ถ่าย เลยเหวอเล็กน้อย เหอะๆๆ

 

โดย: prunelle la belle femme 7 ธันวาคม 2551 21:11:42 น.  

 

พี่แดงขา เจื้อยแจ้วส่งที่อยู่ให้ทางอีเมล์แล้วนะคะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

 

โดย: มังกรเขียวหัวฟู (cruduslife ) 7 ธันวาคม 2551 21:48:45 น.  

 

หนังสือน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ และคนที่มาคอมเม้นท์ก็น่าตามลายแทงไปที่บล็อกจังค่ะ

 

โดย: chinging 9 ธันวาคม 2551 11:25:10 น.  

 

สมัยนี้หันไปใช้อีเมล สื่อสารทางสายมากขึ้น ไปรษณีย์ยังต้องยกเลิกโทรเลข มาช่วยกันส่งจดหมาย เยอะๆ อุดหนุนกิจการไปรษณีย์ดีกว่า ได้อารมณ์ที่ต่างไปด้วย เหมือนข้างบน

 

โดย: ก้าวไปตามใจฝัน 10 ธันวาคม 2551 10:10:27 น.  

 

เมื่อก่อนชอบเขียนจดหมายมากค่ะ มีเพนเฟรนด์มากมาย เขียนจดหมายถึงนักฟุตบอล ถึงดาราขวัญใจเราก็มี เขียนได้หลายต่อหลายหน้า เขียนเสร็จถึงกับเหยียดแขนไม่ได้ เพราะงอแขนนานเป็นชั่วโมง เจ็บไปหมด

ตอนนี้ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แรงบ้าน้อยลง เลยเลิกเขียนถึงดารากับนักฟุตบอลไป เหลือเพนเฟรนด์ชาวฟินแลนด์อยู่คนนึง เขียนถึงกันมาจะ 10 ปีแล้ว กำลังเสาะหาเพื่อนทางจดหมายใหม่ๆ เพราะว่าอยากกลับไปเขียนตัวอักษรมาก

 

โดย: The Field Where I Died 17 ธันวาคม 2551 0:09:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Devonshire
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add Devonshire's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.