Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
"สวนสัตว์สนาน" (บทที่ 20)


บทที่ 20






ไม่มีอะไรออกจากปากแคร์อีก..ทำไมน่ะหรือ


“งี๊ด..งี๊ด..”
โจอี้ออกจากกรงวิ่งพล่าน

“คิดถึงอีกแระ” เวลานี้คำติดปากโจมีแต่คิดถึง..เอ..เหมือนใครนะ

“โจอี้คิดถึงแคร์หรอ..” แคร์ตั้งท่าลากผ้าห่มเดินตามโจอี้

“แคร์!..” ผมรั้งตัวแคร์ไว้ ดึงผ้าห่มออกจากมือ โยนขึ้นบนเตียง “ดูซิโจอี้กำลังทำอะไร?”

“โจอี้อึ๊!..” ทั้งโจและแคร์ร้องแทบจะพร้อมกัน กระโดดขึ้นบนเตียง

“เหม็น!..” แคร์ร้องขึ้นคนแรก

“โห!..” โจอุดจมูก ตั้งท่าลงจากเตียง

“อย่าเพิ่งลงมานะ!..” ผมร้องห้าม “อึ๊โจอี้หยดไปทั่ว ขืนลงมาจะได้เหยียบและแทะ อยู่บนเตียงให้น้ามิวเช็ดก่อน”

“แคร์จะทนไม่ไหวค่ะน้ามิว”

“ทนไม่ได้ก็ต้องทน..เอ..โจอี้ท้องเสีย กินอะไรมานะ?” ผมย่องๆ เด็ดกระดาษทิชชูคลุมลงบนหยดอึ๊โจอี้ซับส่วนที่เป็นน้ำ

“โจอี้กินส้มตำ” โจเสียงอู้อี้เพราะบีบจมูกพูด

“พูดเป็นเล่น” มือสวมถุงพลาสติกเช็ดอึ๊ใส่ถุงอีกใบ

“เมื่อกลางวันแคร์ป้อนส้มตำให้โจอี้กิน” โจเล่า

“ไม่ได้ใส่พริกสักหน่อย” แคร์แย้ง

“ใส่” โจเถียง

“ใส่เม็ดเดียว แคร์กินเผ็ดมากไม่ได้ค่ะน้ามิวขา..” สารภาพเสียงหวาน


“ลงจากเตียงกลับห้องได้!..” สักพักเมื่อผมเช็ดอึ๊เสร็จ..สองสามเที่ยวพร้อมเช็ดน้ำจนเกือบหมดกลิ่น “ทีหลังอย่าป้อนอะไรประหลาดๆ ให้โจอี้อีก”

“โจอี้ร้องอยากกินเองค่ะ” แคร์ชี้แจงเพิ่ม

“อย่ามา..” โจหอบผ้าห่มสองผืนออกจากห้อง “พี่เห็นแคร์บีบปากโจอี้ บังคับให้มันกิน”

“พี่โจอย่าบอกน้ามิวนะ”



เมื่อเด็กสองคนออกจากห้อง ผมเปิดประตูหน้าต่างทุกบานไม่พะวงว่ายุงจะบินเข้า เปิดพัดลมเบอร์แรงสุดวางไว้หน้าประตูระเบียงเพื่อเป่ากลิ่นเหม็นออกจากห้องและไล่ยุงที่จะเข้ามาด้วย..สวมถุงพลาสติกทับถุงทิชชูเช็ดอึ๊อีกชั้น มัดแน่นวางไว้ที่ระเบียง รอทิ้งถังขยะตอนเช้า

นึกถึงเรื่องที่โจเล่าค้างไว้เกี่ยวกับนายบัสหายตัวไป..หลานชายผมคงไม่รู้ว่าเพื่อนของเขายังอยู่ดี เพียงแต่ไม่อยากมาสุงสิงกับครอบครัวของเราอีกแล้วเท่านั้น..ทำไมผมรู้?..เมื่อเย็นที่ผมออกตามหากวักทอง เลี่ยงไม่ได้ที่จะขี่รถผ่านบ้านของบัส..ไม่ได้สอดรู้สอดเห็น..ก็รั้วบ้านออกจะโปร่ง ผมมองเห็นบัสกำลังนั่งเล่นกับสุนัขของเขาบนสนามหญ้า..ผมรีบเร่งความเร็วให้พ้นบ้าน แน่ใจว่าพวกผมคงเป็นส่วนเกินในชีวิตบัสแล้วแน่นอน..ที่มั่นใจอย่างนั้น..ผมเคยเป็นตัวแทนของบ๊อบบี้ดัลเมเชียลสุดรัก..แต่ที่บัสกอดเมื่อเย็นไม่ใช่เจ้าหมาขาวจุดดำตัวนั้น..กลายเป็นตัวใหม่ที่ไม่ใช่กระอย่างน้ามิว

ก่อนจะผล็อยหลับผมแว่วคำยืนยันของแคร์เรื่องพี่ชายของเธอกับบัส..ถึงจะเป็นคำพูดลอยๆ ไม่จริงจังอะไร แต่เมื่อผสมกับความรู้สึกจากปากโจและจิตอกุศลของผม..ผมเริ่มกังวลเรื่องหลานชาย..ห่วงความสัมพันธ์เริ่มเกี่ยวพันกันอย่างไม่มีใครทันรู้ตัว..โตที่สุด มีภาวะรู้ผิดชอบมากที่สุดในห่วงนี้คือผม..จะต้องทำตัวให้เหมาะสม ไม่ทำร้ายจิตใจใครทั้งสิ้นรวมถึงตัวเองด้วย

ชีวิตของผมดำเนินไปอย่างยุ่งเหยิงตามระเบียบของมัน..เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตว่ายุ่งเหยิง แต่ทุกวันนี้..อาจเพราะหน้าที่งานอาชีพเพิ่มมากขึ้น อาจเพราะความเจริญเติบโตของชีวิตคนรอบข้างที่ผมเกี่ยวข้องด้วย ความเจริญที่มาพร้อมการเติบโต การเติบโตที่มาพร้อมความเสื่อมชราของบางคน




วันหยุดถัดมา..

“มิว!..” พี่สาวเรียกเสียงดัง..ผมกำลังเคลียร์งานที่หอบมาทำที่บ้าน

“คร๊าบบ” ไม่ต้องสังหรณ์ใจก็รู้ว่าเป็นเรื่องเดิมๆ

“ช่วยตามหากระถินหน่อย..ตั้งแต่เช้าไม่เห็นหน้าเลย”

“พี่กะให้แมวทุกตัวมารายงานตัวสามมื้อหลังอาการเลยใช่ม๊ะ?” ทุกวันนี้พี่สาวผมเป็นอย่างนั้นจริง..วันละสามสี่ครั้งจะตะโกนเรียกชื่อแมวๆ ที่มีอยู่ ถ้าไม่ขานรับหรือไม่โผล่หน้าให้เห็นพี่จะส่งเสียงอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพบ ไม่เกรงใจใครทั้งสิ้น รวมถึงแม่ที่บางครั้งกำลังงีบหลับ

“ผมกำลังติดพันงานที่หอบมาทำอยู่..แปป..เสร็จงานแล้วจะช่วยออกตามหาครับ” กว่าจะเสร็จงานกระถินคงกลับมาและออกไปอีกรอบ..ตามหากระถินยากกว่ากวักทองเพราะคุณเธอไม่เคยเดินดิน อยู่บนต้นไม้และที่สูงตลอด


“ถินเอ๊ยถิน..” หนึ่งชั่วโมงต่อมา..เสียงแหลมดังทำลายสมาธิของคนทั้งบ้าน..ผมทำงานเพลินและไม่มีท่าจะเสร็จง่ายๆ

“กระถินยังไม่มาเลยค่ะคุณป้า” แคร์เล่นต่อจิ๊กซอร์กับคุณยายหน้าร้านขายของ

“แม่..” เสียงพร้อมเอาเรื่อง “มิวมันออกไปตามหากระถินหรือยัง?”

“เอ..โอ้!” แม่พบชิ้นจิ๊กซอร์ที่กำลังมองหาอยู่ “เอ..”

“แม่ก็อีกคน ไม่รักลูกๆ ของหนู..” คนอะไรค้อนแม่ “มิว!..มิว!..”

“น้ามิวไม่อยู่ครับ” โจโผล่หน้าจากชั้นสอง..แก้ต่างให้ผมหรือรำคาญเสียงป้าไม่แน่ใจ

“เฮ้อ!..” กระแทกเท้าออกจากบ้านอีกครั้ง “เป็นกันหมดทั้งบ้าน ไม่รักไม่เมตตาสัตว์”

“ทำไมเขาจะไม่รัก..” แม่พึมพำ “รักอย่างมีสติ ไม่บ้าคลั่งอย่างแกนี่”

“แว่วๆ แม่ว่าอะไรหนูหรือ..” พี่สาวกลับเข้ามา ไม่ตั้งใจหาเรื่อง แก้เขินที่จะนั่งพักตากแอร์เย็นมากกว่า

“แกทำตัวให้ลำบากมากมายทำไม แมวมันไม่อยู่นิ่งหรอกนอกจากเหนื่อย หิวและง่วง ที่ไหนที่ปลอดภัยอบอุ่นและอิ่มท้องมันก็จะอยู่ที่นั่นไม่ไปไหน เชื่อแม่สิ”

“จะว่าโรคจิตก็ได้ หนูเป็นอย่างนั้น ห่วงพวกเขาสารพัดกลัวจะได้รับอันตราย”

“คนหายเขายังต้องทิ้งระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงถึงแจ้งความได้ นี้อะไรกันไปโรงพักวันละสามสี่ครั้ง”

“ไม่รู้ละ..” วางแก้วน้ำ “หนูจะออกตามหาต่อ ว่าจะไปหาที่สนามไดร์กอล์ฟที่อยู่ติดกับหมู่บ้าน บางทีกระถินอาจอยู่ที่นั่น”

“ไม่ฟังใครเลย”


“ใช่สิ..หนูมันสติไม่ดี..ไม่ใช่คนสติดีแต่ใจดำอย่างคนที่นี่” ปิดประตูปัง





Create Date : 09 กันยายน 2557
Last Update : 9 กันยายน 2557 17:12:59 น. 0 comments
Counter : 1328 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.