~ ความหมายของคำว่า "เจ" ~



"กินเจ" เป็นคำที่คุ้นหูกันมากสำหรับบรรดาสาธุชนผู้ใฝ่ใจในการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย แต่สำหรับคนทั่วไปส่วนใหญ่ยังคงคิดกันไปว่า การกินเจเป็นเรื่องของคนที่เชื่อบาปเชื่อบุญมากกว่า จะเห็นว่าแท้จริงแล้วการกินเจเป็นเรื่องของเหตุและผลที่ถูกต้องดีงาม มีคำกล่าวว่า "คนเราจะยืนได้ ขาทั้งสองต้องแข็งแรงเสียก่อน" ความหมายก็คือ ก่อนที่เราจะลงมือปฏิบัติการงานใดๆ ก็ตาม จำเป็นต้องมีพื้นฐานที่มั่นคงเสียก่อน สิ่งสำคัญสองประการที่จะช่วยเหลือค้ำจุนให้เรามีรากฐานที่มั่นคง ได้แก่

ประการที่ 1 คือ "ความรู้" เราต้องศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะปฏิบัติให้ดีเสียก่อน โดยอาศัยการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน มามากพอสมควร

ประการที่ 2 คือ "สติปัญญา" เราต้องรู้จักใช้สติปัญญาเข้าไปพิจารณาความรู้เหล่านั้นอย่างรอบคอบ จนบังเกิดความเข้าใจกระจ่างชัดถึงเหตุและผล โดยถูกต้องถ่องแท้ หากจะลงมือปฏิบัติการใดๆ โดยขาดทั้งความรู้และสติปัญญาพิจารณา ก็ยากที่จะสำเร็จลุล่วงไปได้ เมื่อไม่ศึกษาก็ไม่รู้ รู้แล้วไม่พิจารณาก็ไม่เข้าใจ แต่ผู้ที่ศึกษาจนเข้าใจดีแล้ว ยังไม่ลงมือปฏิบัติก็ไร้ประโยชน์ โอสถทิพย์แม้จะวิเศษล้ำเลิศสักปานใด หากคนไม่ยอมกิน ผลดีนั้นก็ไม่มีทางจะเกิดขึ้นแก่เขาได้เลย การกินเจเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ผู้ที่ได้ปฏิบัติแล้วเท่านั้นจึงจะประจักษ์แจ้งถึงคุณวิเศษ อันล้ำเลิศได้ด้วยตนเอง

บทความเรื่อง "การกินเจ" นี้ จึงมุ่งหวังให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาในอีกแง่มุมหนึ่งของการกินเจ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน และเรียนรู้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไปภายหน้า ฉะนั้นขอให้ผู้ที่มีรากบุญกุศล อันสร้างสมมาแล้วในอดีต และตั้งใจจะปฏิบัติบำเพ็ญต่อไปในชาตินี้ควรศึกษา "การกินเจ" ให้เข้าใจกระจ่างแจ้ง เมื่อใดที่ศรัทธามั่นคงดีแล้ว จิตย่อมบังเกิดมีพลังแกร่งกล้า สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลาย บนเส้นทางของการบำเพ็ญธรรม และแล้วเมื่อนั้นเราก็จะสามารถบรรลุสู่เป้าหมายอันสูงสุดไปได้โดยไม่ยากเลย

ความหมายของคำว่า "เจ"

คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ "อุโบสถศีล" หรือ "รักษาศีล 8" จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีล ของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมเรียก "การไม่กินเนื้อสัตว์" ไปรวมกันคำว่า "กินเจ" ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วย ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ฉะนั้นความหมายก็คือ "คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า "กินเจที่แท้จริง" ดังนั้น คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ "ถือศีลกินเจ" จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว

ตามร้านขาย "อาหารเจ" เราจะพบเห็นตัวอักษร คำนี้อ่าน "ไจ" (เจ) แปลว่า "ไม่มีของคาว" เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9 จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง ปักอยู่ตามแผงขายอาหารเจมองเห็นเป็นที่สะดุดตาแก่คนทั่วไป ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีวิต สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสอมว่า "การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ การปฏิบัติธรรม รักษาศีลของความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหาเมตตากรุณาธรรมโดยแท้ อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกชีวิตบนโลก"

ข้อควรปฏิบัติในการรับประทานอาหารเจ

1.) พืชผักและผลไม้ เป็นของคู่กันเสมอ นอกจากผักสดๆ ที่นำมาปรุงเป็นอาหารแล้ว คนกินเจจำเป็นต้องรับประทานผลไม้สดๆ หลังอาหารทุกมื้ออย่างสม่ำเสมอ การเลือกซื้อผักผลไม้เพื่อนำมาปรุง และการบริโภคในแต่ละวันควรจัดให้ได้ครบตามสีของธาตุทั้ง 5 ดังนี้
1. สีแดง (แดงส้ม, แสด, ชมพู) สัญลักษณ์ ธาตุไฟ

2. สีดำ (น้ำเงิน, ม่วง) สัญลักษณ์ ธาตุน้ำ

3. สีเหลือง (เหลืองแก่, เหลืองอ่อน) สัญลักษณ์ ธาตุดิน

4. สีเขียว (เขียวเข้ม, เขียวอ่อน) สัญลักษณ์ ธาตุไม้

5. สีขาว (ขาวนวล, ขาวสะอาด) สัญลักษณ์ ธาตุโลหะ

ตารางผัก, ผลไม้ แบ่งตามทั้ง 5 หมู่สี ผัก ผลไม้

  • สีแดง
  • มะเขือเทศ, พริกสุก, หัวแครอท ฯลฯ มะละกอ, ส้ม, แตงโม ฯลฯ
  • สีดำ
  • มะเขือม่วง, เผือก, เห็ดหูหนู ฯลฯ ละมุด, ลูกหว้า, องุ่น ฯลฯ
  • สีเหลือง
  • ฟักทอง, ข้าวโพด, พริกเหลือง ฯลฯมะม่วง, กล้วย, ทุเรียน ฯลฯ
  • สีเขียว
  • ผักคะน้า, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้ง ฯลฯ ฝรั่ง, ชมภู่, มะเฟื่อง ฯลฯ
  • สีขาว
  • หัวผักกาดขาว, ผักกาดขาว, กระหล่ำดอกมะพร้าว, น้อยหน่า ฯลฯ

    ผักผลไม้ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือเป็นประเภทยาก เช่น พวกผักผลไม้เมืองหนาว ควรยึดหลักราคาถูก ประหยัด แต่มีคุณประโยชน์สูง จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รู้จักฉลาดกิน ฉลาดใช้ ประหยัดยอด ประโยชน์เยี่ยม

    ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผักผลไม้หลายหลาก ตลอดปีเราสามารถหามาบริโภคได้ไม่ขาดแคลน จึงควรเลือกซื้อมาปรุงและบริโภคให้ครบทั้ง 5 สี โดยสลับเปลี่ยนหมุนเวียนนำมาบริโภคในแต่ละวันโดยไม่ซ้ำกัน และไม่ควรเลือกทานเฉพาะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ตนชอบ โดยไม่คำนึงถึงคุณประโยชน์หลายๆ ท่านเลือกรับประทานผักผลไม้เฉพาะอย่างเพื่อความอร่อยเท่านั้น เป็นการรับประทานอาหารเจที่ยังไม่ถูกหลัก

    2.) เมล็ดธัญพืช นอกจากผักผลไม้ที่ต้องรับประทานให้ครบทุกสีเป็นประจำแล้ว เมล็ดธัญพืชได้แก่ ถั่ว ถั่วแปลกแข็งทุกประเภท พืชที่เป็นหัวในดิน เช่น เผือก มัน กลอย มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยเฉพาะเมล็ดถั่วมีสารอาหารครบทุกหมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต คือแป้งและน้ำตาล โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่หลายชนิด คนที่กินเจควรรับประทานถั่วทั้ง 5 สีเป็นประจำ ได้แก่ ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่งเหลือง ถั่วเขียว ถั่วขาว

    ถั่วทั้ง 5 สีนี้ ราคาไม่แพงมีอยู่แพร่หลาย บางทีก็ทำเป็นของหวานต่างๆ เช่น ถั่วดำบวช ถั่วแดงต้มน้ำตาล ถั่วเหลืองน้ำกะทิ (เต้าส่วน) ถั่วเขียวต้มน้ำตาลกรวด ถั่วลิสงอบ หรือเคลือบน้ำตาล ลูกเดือยบวช ถั่วขาวกวน ฯลฯ สำหรับถั่วขาวไม่ค่อยจะมีการปลูกแพร่หลายในประเทศไทย แต่ก็สามารถรับประทานถั่วลิสงซึ่งให้ประโยชน์ทดแทนกันได้

    ทุกคนควรรับประทานถั่วดังกล่าวหมุนเวียนไปให้คบทุกสีจะทำให้ร่างกาย ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ และช่วยเสริมให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทำงานได้ดียิ่งขึ้น

    เนื้อเมล็ดในของพืชผัก อันได้แก่ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม มันฮ่อ นับเป็นของขบเคี้ยวที่คนกินเจรู้จักดี เนื้อในของเมล็ดพืชดังกล่าว เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมายหลายชนิด ซึ่งทรงคุณค่าทางโภชนาการอย่างยิ่ง

    ถั่วทั้ง 5 สีที่ให้คุณประโยชน์ต่ออวัยวะหลักภายใน

    1. ถั่วแดง (RED BEANS) ให้คุณต่อหัวใจ

    2. ถั่วดำ (BLACK BEANS) ให้คุณต่อไต

    3. ถั่วเหลือง (SOY BEANS) ให้คุณต่อม้าม

    4. ถั่วเขียว (GREEN BEANS) ให้คุณต่อตับ

    5. ถั่วขาว (WHITE BEANS) ให้คุณต่อปอด

    ธาตุทั้ง 5 สี ถั่วแต่ละสี บำรุงอวัยวะ ธาตุไฟ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุไม้ ธาตุโลหะ แดง ดำ เหลือง เขียว ขาว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วขาว หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด

    3.) การได้รับประทานสาหร่ายทะเลทั้งสดและแห้งพร้อมทั้งใช้เกลือทะเลมาปรุงลงในอาหาร ทั้ง 2 อย่างนี้มีไอโอดีน ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคคอพอกได้เป็นอย่างดี

    4.) งาขาวและงาดำ ในอาหารและขนมคนกินเจควรใช้งาปรุงผสมด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงาขาวหรืองาดำ เพราะในเมล็ดงามีกรดไขมันไลโนเลอิค (LINOLEIC ACID) ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายมากแต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้

    สำหรับผู้ทำอาหารเจรับประทานเอง ให้นำงาขาวมาล้างเอาผงฝุ่นออกจนสะอาดดี ตักใส่ตะแกรงทิ้งไว้ให้หมาดแล้วใช้ไฟอ่อนๆ คั่วในกระทะจนสุกเหลืองพอเย็นจึงนำมาโขลกหรือ ปั่นให้แตกด้วยเครื่อง จะทำให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันที่อยู่ในเมล็ดดียิ่งขึ้น งานที่บดแล้วจะมีกลิ่นหอมสามารถนำใช้ปรุงอาหาร และขนมได้ทุกประเภท ทำให้มีรสดี หอมน่ารับประทาน โดยปกติผู้ที่กินเจควรรับประทานงานในปริมาณวันละ 2 ช้อนโต๊ะ ก็นับว่าเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย

    5.) ผู้ที่กินเจ ไม่ควรรับประทานรสจัดเกินไป เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด ขมจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด รสชาติที่จัดมากๆ จะส่งผลไปถึงอวัยวะหลักดังนี้

  • รสขม
  • ส่งผลต่อ หัวใจ
  • รสเค็ม
  • ส่งผลต่อ ไต
  • รสหวาน
  • ส่งผลต่อ ม้าม
  • รสเปรี้ยว
  • ส่งผลต่อ ตับ
  • รสเผ็ด
  • ส่งผลต่อ ปอด

    6.) หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง เครื่องกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ควรหันมารับประทานอาหารสดที่ปรุงใหม่ๆ จะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า

    7.) เครื่องดื่ม คนกินเจควรดื่มน้ำผลไม้สดๆ ตามธรรมชาติ เช่น น้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำสับปะรด น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก น้ำมะตูม ฯลฯ น้ำผลไม้ดังกล่าวจะทำให้ร่างกายและผิวพรรณสดชื่นเปล่งปลั่ง เราควรงดน้ำหวานที่ปรุงแต่งรสและเจือสีสังเคราะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงพิษภัยจากสิ่งปลอมปน และนอกจากการดื่มน้ำผลไม้สดๆ แล้ว ทุกคนต้องดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว เป็นประจำ

    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นหลักความรู้ในการปรุงและบริโภคอาหารเจ ซึ่งคนกินเจต้องยึดถือปฏิบัติ เพื่อให้ได้มาซึ่งพลานามัยที่สุขสมบูรณ์พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ ...

    ที่มา : www.banfun.com/culture/je01.html


    เทศกาลกินเจที่จะถึงนี้ ขอให้เพื่อนๆที่ทั้งทานอาหารเจและไม่ทาน มีความสุขมากๆนะครับ ส่วนคุณแม่ผมตอนนี้แผลผ่าตัดเรียบร้อยดี คาดว่าอีกไม่กี่วันคงจะกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ...

    สุขสันต์วันศุกร์ครับ บ๊าย บาย ...







    Create Date : 20 ตุลาคม 2549
    Last Update : 20 ตุลาคม 2549 8:41:49 น. 30 comments
    Counter : 734 Pageviews.

     
    เจไม่เจ กินได้หมดเลยค่ะ .... ....


    โดย: ZAZaSassY วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:9:17:03 น.  

     
    กินเจ แต่ดื่ม กอฮอ


    โดย: erol วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:9:34:02 น.  

     
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะคุณพ่อน้องบัว
    ยินดีด้วยค่ะที่คุณแม่จะได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว
    ช่วงนี้น้องบัวปิดเทอมแล้วใช่มั้ยคะ
    สุขสันต์วันศุกร์และลองวีคเอนค่ะ


    โดย: Petit Patty วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:9:38:34 น.  

     
    กินก้อกิน


    โดย: ตามใจคุณสามี (buo ) วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:9:52:19 น.  

     


    โดย: กุมภีน วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:10:12:09 น.  

     
    กินทุกปีคร้าบ
    ชอบผักๆๆ กินผักๆๆๆๆ


    โดย: mingky วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:10:34:49 น.  

     
    ไม่เคยกินจริงๆ จังๆ เลยค่ะ แบบว่าไปเจออาหารไม่อร่อยเลยทำให้
    ไม่อยากกินเลยอ่ะค่ะ

    แต่ว่าสำหรับคนชอบก็ดีนะค่ะ เหมือนได้หยุดกินสัตว์ใหญ่ได้สักพัก


    โดย: JewNid วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:12:46:41 น.  

     
    แวะมาทักทายค่ะ


    โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:13:05:34 น.  

     
    อาหารเจ..เราชอบค่ะ..
    แต่ไม่ถือศีล กินเจค่ะ..มานมายมีเวลานะค่ะ

    ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจที่มอบให้ค่ะ

    คุณรู้เรื่อง กล้วยไม้ดีนะค่ะ..
    ขอบคุณสำหรับสิ่งที่บอกและเพิ่มกำลังใจ

    เราทนต่อสภาพแวดลอ้มได้ดี
    เช่นเดียวกับกล้วยไม้ที่เราชอบค่ะ

    cattleya...ค่ะ



    โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:13:09:32 น.  

     


    โดย: Zantha วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:13:19:20 น.  

     
    เด็ก ๆ แถวบ้านกินเจกันวันเว้นวันเลยครับ

    "เจเล่" แบบเยลลี่เหมือน "ปีโป้" น่ะครับ


    โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:13:27:00 น.  

     
    เราก้ออัพเรื่องกินเจเหมือนกัน มะกี้เอง หุหุ


    โดย: mingky วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:13:46:54 น.  

     


    ปีนี้ตั้งใจจะกินให้ครบ 9 วันให้ได้ครับ

    มาร่วมกันถือศีล ละเว้นชีวิต กินเจกันนะครับ


    โดย: haku (Haku_one ) วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:15:14:39 น.  

     
    จะพยายามทำอาหารเจกินบ้างค่ะ
    อ่านแล้ว รู้สึกว่าอาหารเจดีต่อสูขภาพมากๆเลย


    โดย: grippini วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:16:24:06 น.  

     
    เริ่มกินตั้งแต่วันนี้แล้วค่ะ ล้างท้อง อิอิ


    โดย: zMee วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:12:44 น.  

     
    ดีจังเลยค่ะ
    นี่แจงก็ตุนผักไว้แล้วค่ะวันนี้


    โดย: เลดี้อลิเซีย วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:20:15:25 น.  

     


    มาทักทายรอบดึกวันศุกร์จ้า สบายดีนะคะ

    พรุ่งนี้แล้ว ..เตรียมล้างท้องรอกินเจกันรึยังคะ อิอิ


    โดย: copbureau วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:23:46:28 น.  

     
    ดีค่ะ เคยกินเจมาสองครั้ง รู้สึกดีมากๆ รู้สึกว่าร่างกายเราสะอาดเพราะเราทำบุญ แต่มีอยู่ช่วงนึงไม่ได้คิดว่าทำเพื่อทำบุญ แต่ทำเพื่อลดความอ้วนค่ะ แป้กเลยค่ะ แทนที่น้ำหนักจะลด กลับขึ้นเอาๆ จากนั้นมามันก็ไม่เคยจะผอมลงอีกเลยอ่ะค่ะ


    โดย: สร้อยสายรุ้ง วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:2:50:26 น.  

     
    ขอบคุณมากๆค่ะ
    ช่วงนี้ตาก็เริ่มทานเจเหมือนปกติทุกปี
    แต่คราวนี้ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นเยอะเลย...
    เดี๋ยวต้องไปหาผลไม้ สีกันก่อนค่ะ...


    โดย: Tante Ta วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:6:51:29 น.  

     
    แวะมาอ่านครับ ได้สาระดีมากเลยครับ


    โดย: Bluejade วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:7:33:26 น.  

     

    แวะมาเยี่ยมเยียนคะ
    ไม่ได้มาหลายวัน
    คิดถึงกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ

    ได้สาระดีมากๆคะ
    อยากทานเจเหมือนกันคะแต่ทำไม่ได้เสียทีเลย


    โดย: miz u so much วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:18:02:24 น.  

     
    ขอบคุณที่แวะไปชม blog ของผมนะครับ


    โดย: Bluejade วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:7:17:50 น.  

     
    มาเอาใจช่วย ขอให้คุณแม่หายป่วยเร็ว ๆ นะคร้าบ

    ผมไม่กินเจอะคับ ทานผักไม่เก่ง ได้แต่ถือศีลอย่างเดียว


    โดย: 90210 วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:19:10:02 น.  

     
    วันนี้กินเจฝีมือคุณแม่ อร่อยมากๆเลยล่ะคับ

    สวัสดีคับ มีความสุขวันหยุดนะคับ


    โดย: mingky วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:20:12:44 น.  

     




    สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


    เกิดอาการผิดปกติที่ดวงจิต
    เป็นเพราะพิษคำนึงคิดห่วงหา
    อยากให้เธอเคียงข้างตลอดเวลา
    เมื่อเวลาที่หัวใจฉันนั่นคิดถึงเธอ


    ** มีความสุขมากๆๆในวันนี้นะจ้า **


    อยากทานเจจังเลยแต่หายากอะทางเนี่ย เศร้า..


    โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:23:59:09 น.  

     
    จขบ เริ่มทานรึยังคะ...


    โดย: copbureau วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:9:48:54 น.  

     
    ทานเจได้วันเดียวเองค่ะ ว่าแต่กิ๊ฟกินน้ำปลาได้ไม๊คะ
    ไม่รู้ว่าเจป่าว


    โดย: grippini วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:21:15:15 น.  

     
    ทานมา 5-6 ปีแล้วมั้งครับ อิอิ
    ถึงเทศกาลเจทีไร อยากกลับ กทม. ไปหาอะไรกินแถวเยาวราช


    โดย: T_Ang วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:22:40:11 น.  

     
    โมกลับมาแย้วค่ะ.....

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ


    โดย: Love U forever. วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:22:59:29 น.  

     
    เหอ เหอ เจเป็นบางมื้อครับ


    โดย: DAN_KRAB (DAN_KRAB ) วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:0:22:58 น.  

    ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
    Comment :
      *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
     

    เลโอนิดาส
    Location :


    [ดู Profile ทั้งหมด]

    ฝากข้อความหลังไมค์
    Rss Feed

    ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




    Group Blog
     
    <<
    ตุลาคม 2549
    1234567
    891011121314
    15161718192021
    22232425262728
    293031 
     
    20 ตุลาคม 2549
     
    All Blogs
     
    Friends' blogs
    [Add เลโอนิดาส's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.