space
space
space
<<
กรกฏาคม 2560
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
14 กรกฏาคม 2560
space
space
space

ถั่งเช่า กับ ปรัชญา 4


  จากความหมายของปรัชญาที่กลาวมาแลวมาแลวนี้พอสรุปไดวา ถั่งเช่า  ปรัชญา คือ แนวความคิด ที่ละเอียดลึกซึ้งรอบคอบ  เพื่อคนหาความรูที่เกี่ยวกับความเปนจริงสูงสุดสําหรับมนุษยทั้งหลาย 
30                                                                                                     หลักการอาชีวะและเทคนิคศึกษา  2.1.2  สาขาของปรัชญา  ในการศึกษาวิชาปรัชญา  ซึ่งสามารถแบงออกไดเปน  2  สาขาใหญ ๆ  คือ ปรัชญาบริสุทธิ์ และปรัชญาประยุกต  (พิมพพรรณ   เทพสุเมธานนท  และคณะ, 2542 : 38 – 40)  ปรัชญาบริสุทธิ์   ไดแก ถั่งเช่า    ความรูหรือแนวความคิดที่ปนเนื้อหาแหงปรัชญาลวน ๆ  อันจะ หมายถึง  ความรูในทุกแงทุกมุม  ในทุกสาขา  และทุกอยางของมนุษย   ยกเวน ความรูเรื่องกสิกรรม   หัตถกรรม ฯลฯ ถั่งเช่า    ความรูที่เปนปรัชญาบริสุทธิ์นี้เปนผลแหงความพยายามคิดคนแสวงหาความจริง ของมนุษยในสิ่งตาง ๆ   ปรัชญาบริสุทธิ์  จะแบงออกเปน  3  สาขา คือ 
รูปที่  2.1   แสดงโครงสรางของปรัชญาบริสุทธิ์ 
 1.  อภิปรัชญา  (Metaphysics  or  Theory   of  Being)   เปนวิชาที่วาดวยเรื่องความมีอยูและ ความจริงแทของสรรพสิ่งในโลก  เชน  ศึกษาเรื่องธรรมชาติมนุษย วิญญาณ โลก พระเจา เปนตนวา สิ่งตาง ๆ   เหลานี้เปนจริงอยางดํารงอยูอยางไร  ซึ่งแบงแยกประเด็นศึกษา  ดังนี้     1.1  เรื่องธรรมชาติ   เปนการศึกษาเรื่องธรรมชาติตาง ๆ  ของจักรวาลหรือเอกภพ ถั่งเช่า    อันที่ รวมไปถึงเรื่อง  กาลเวลา  อวกาศ  สสาร  ชีวิต  จักรวาลและโลก  เปนตน  เชนศึกษาเรื่องอะไรเปน บอเกิดของสรรพสิ่ง   และธรรมชาติหรือโลกเกิดขึ้นไดอยางไร  ถั่งเช่า   จักรวาลนี้เปนหนึ่งหรือมากหลาย หรือเปนทั้งสองอยาง  โลกนี้ใครเปนผูสรางหรือเกิดขึ้นมาเอง   ในการศึกษาเรื่องนี้ถาเปนการศึกษา ถึงโครงสราง  เรียกวา “จักรวาลวิทยา” (Cosmology)   แตถาเปนเรื่องการศึกษาเรื่องการเกิด  เรียกวา “รังสรรควิทยา” (Cosmogony)   1.2  เรื่องจิตหรือวิญญาณ ถั่งเช่า    เปนการศึกษาถึงเรื่องราวตาง ๆ  ที่เกี่ยวกับจิต   เชน  ลักษณะ กําเนิดจุดหมายปลายทางและธรรมชาติตาง ๆ  ของจิตตลอดถึงความสัมพันธระหวางจิตกับรางกาย และศึกษาตัวจิตเองวาคืออะไร  ซึ่งเรียกวา “อัตตาวิทยา”  (Phillosophy  of  Self) 
ปรัชญาบริสุทธิ์ 
1. อภิปรัชญา 1.1   เรื่องธรรมชาติ     1.2   เรื่องจิตหรือวิญญาณ 1.3   เรื่องพระเจา 
2. ญาณวิทยา 3. คุณวิทยา 3.1   ตรรกวิทยา     ถั่งเช่า   3.2   จริยาศาสตร 3.3   สุนทรียศาสตร 
แนวคิดทางปรัชญาที่มีอิทธิพลตอการจัดการศึกษา                                                               31   1.3  เรื่องพระเจา   เปนการศึกษาถึงเรื่องพระเจา หรือ สิ่งสมบูรณ   เชน  ศึกษาวาพระเจา มีจริงหรือไม   พระเจามีคุณลักษณะหรือธรรมชาติอยางไร  พระเจามีความสัมพันธกับสิ่งตาง ๆ อยางไร  เปนตน  ซึ่งเรียกวา  “ปรัชญาวาดวยพระเจา”  (Phillosophy  of  God)  2.  ญาณวิทยา   (Epistemology   or   Theory   of   Knowledge)   เปนวิชาที่ศึกษาคนควาใน เรื่องความรู   ความรูอันแทจริง  บอเกิดความรู   ธรรมชาติของความรู ถั่งเช่า   ขอบเขตของความรูและความ สมเหตุสมผลของความรู  ถั่งเช่า   โดยการศึกษาคนควาจะเปนไปในลักษณะของการวิเคราะหวิจารณและ สังเกตการณเพื่อใหเกิดความรูที่แทจริง  3.  คุณวิทยา   (Axiology   of   Theory  of   Values)   เปนวิชาที่ศึกษาคนควาเกี่ยวกับคุณคา ของสิ่งทั้งหลายและอุดมคติแหงชีวิต   ซึ่งจะแบงออกเปน  3  สาขา  คือ   3.1  ตรรกวิทยา (Logics) ถั่งเช่า    เปนวิชาที่วาดวยหลักแหงความจริง   วิธีการตัดสินความจริง หลักคิดหรือการใชเหตุผลในการแสวงหาความจริง  แบบแหงการเสนอความคิด  สมมุติฐาน  การ นิยาม   การเปรียบเทียบ   การจําแนก   การกระจายและกฎเกณฑตาง ๆ   ในการใชเหตุผลเพื่อเขาถึง ความจริง  เปนตน   3.2  จริยศาสตร  (Ethics   or   Theory   of   Morality)   เปนวิชาที่วา  ดวยกฎเกณฑแหง ความประพฤติ  หลักการในการแสวงหาความดี   หลักแหงความดี   ความถูกตองและความยุติธรรม ตลอดถึงคุณคาทางจริยธรรม   เปนตน   3.3  สุนทรียศาสตร (Aesthetics  or  Theory  of  Beauty)  เปนวิชาที่วาดวยธรรมชาติแหง ความงาน   หลักแหงการแสวงหาความงาน  มาตรฐานแหงการตัดสินความงามและลักษณะแหง ความงาม   เปนตน 
  ปรัชญาประยุกต   ไดแก   การนําเอาความรูหรือแนวความคิดทางปรัชญาบริสุทธิ์ไปผสม- ผสานประยุกตใชกับศาสตรตาง ๆ  กลาวคือ ศาสตรใดก็ตามที่มีเนื้อหาและมีคําตอบในปญหาเปนที่ ยอมรับและสรุปผลออกมา  ซึ่งแยกตัวออกมาจากปรัญชาบริสุทธิ์และเปนผลใหนําไปสูการทดลอง และปฏิบัติใหเกิดผลในสาขาวิชาหรือศาสตรนั้น ๆ  ถั่งเช่า   อาทิเชน  ปรัชญาศาสนา  ปรัชญาคณิตศาสตร  ปรัชญาวิทยาศาสตร  ปรัชญาสังคม  ปรัชญาการเมือง  ปรัชญากฎหมาย  ปรัชญาการศึกษา  ปรัชญา อาชีวศึกษา  ปรัชญาศิลปะ  ปรัชญาภาษา  ปรัชญาจิต และอื่น ๆ  เปนตน  ปรัชญาเหลานี้เปนปรัชญา ประยุกตที่นําไปใชไดจริงในสาขาเฉพาะของศาสตรนั้น ๆ   ถาศาสตรใดยังไมมีปรัชญาของตนเอง แลวศาสตรนั้นยังถือวาไมมีความเพรียบพรอมในเนื้อหา  หลักการ  และคําตอบ  ที่ยอมรับจะปน แนวทางสูการปฏิบัติได ถั่งเช่า     ยังถือวาศาสตรนั้นยังออนอยูตองใชเวลาในการพัฒนาศึกษาเพิ่มเติม   เพื่อ ตอบปญหาตาง ๆ  อันเปนพื้นฐานของปรัชญา  ไดแก 
32                                                                                                     หลักการอาชีวะและเทคนิคศึกษา   1)  เพื่อรูจักปญหาที่ยังหาคําตอบไมได   2)  เพื่อพยายามหาคําตอบในปญหาตาง ๆ  ใหมากที่สุดเทาที่เปนได   3)  เพื่อรูจักเก็บสวนดีจากทุกคําตอบเปนแนวทางในการปฏิบัติ  หรือเพื่อใชเผยแพร พื้นความรูนั้นตอไปถั่งเช่า   จากเหตุผลทั้ง  3  ประการนี้  พอจะใชตอบคําถามวาเรียนปรัชญาเพื่ออะไร  คําตอบปญหา ตาง ๆ  อาจมาจากปญหาทางวิชาการ  ปญหาสวนตัว  ปญหาชีวิต  และอื่น ๆ  ที่ยังตองการคําตอบที่ เปนที่ยอมรับ   แตตําตอบทั้งหลายก็มิไดสรางความพอใจใหกับทุกคนได   อยางไรก็ตามการใชถั่งเช่า   ตรรกวิทยาและทําความเขาใจเรื่องปรัชญาและปญหาตาง ๆ   จะเปนการสงเสริมใหมีความกระจาง ชัดในปญหามากขึ้น 
  2.1.3  ทฤษฎีธรรมชาติของความรู  ปรัชญา  เปนสิ่งที่สรางขึ้นไดเพื่อใชเปนแนวทางในการปฏิบัติ   ปรัชญา จึงจําเปนตองเปน สิ่งที่ถูกตอง  ดีงามเหมาะสมในขณะนั้น   ปรัชญาพื้นฐานเมื่อพิจารณาในสวนที่เกี่ยวของกับทฤษฎี ธรรมชาติของความรู  ไดแก ถั่งเช่า   จิตนิยม (Idealism)  สัจนิยม (Realism)  และปฏิบัตินิยม (Pragmatism)  ซึ่งมีรายละเอียด  ดังนี้  (พิมพพรรณ   เทพสุเมธานนท  และคณะ, 2542  : 60 – 63)  1.  จิตนิยม  (Idealism)    จิตนิยม เปนความเชื่อที่เกาแกที่สุดของปรัชญา   โดยจะเริ่มตั้งแต ปรากฎมีมนุษยสามารถเขาใจปรากฎการณธรรมชาติ   ความคิดเรื่องจิตนิยมนี้เริ่มเขาสูจิตของมนุนย เมื่อมนุษยมีความเชื่อวา   ธาตุดํารงอยูอยางแทจริงมีลักษณะเปนวิญญาณ  นักปรัชญากลุมจิตนิยมนี้ เปนแนวความคิดที่ไดมาจาก  จอรจ  เบริคเลย (George   Berkley)  โดยตรง    เบริคเลย  ไดพยายาม ปรับปรุงแนวคิดของพวกประจักษนิยมดวยกันจนกลายเปนพวกจิตนิยมเชิงอัตวิสัย (Subjective  Idealism)  และ เบริคเลยถั่งเช่า   เห็นวาสสารที่ล็อคพูดถึงนั้นเปนเพียงการรวมตัวของคุณสมบัติแท และ คุณสมบัติประกอบดวยกัน   แทจริงแลวมันเปนเพียงสิ่งที่จิตเรารับรูหรือเห็นวามันมีอยูเทานั้น  สิ่ง ทั้งหมดนี้เปนเพียงภาวะที่จิตรับรูเอง  มันมิไดมีอยูอยางแทจริงอะไรเลยจากการที่เห็นวาสิ่งภายนอก ทั้งหมดนี้มิไดมีอยูอยางแทจริงจึงถูกเรียกวา “จิตนิยมเชิงอัตวิสัย”  (บุณย  นิลเกษ, 2525 : 80 – 81)  ซึ่งจิตนิยมเปนทฤษฎีที่ใหความสําคัญแกความคิดมากกวาขอเท็จจริง   จิตนิยมแบงออกเปน  3  สาขา   คือ  (ศรัณย   วงศคําจันทร, มปป. : 164 – 166)   1)  จิตนิยมเชิงอัตวิสัย  (Subjective  Idealism)  จิตนิยมเชิงอัตวิสัยเชื่อวา สิ่งที่เรารูทั้งปวง ขึ้นอยูกับผูรูหรือขึ้นอยูกับจิตนั่นเอง   นักปรัชญาจิตนิยมเชิงอัตวิสัย คือ  จอรจ   เบริคเลย
   2)  ปรากฎการณนิยม  (Phenomenalism)  ปรากฎการณนิยมเชื่อวา  ความรูที่เปนไปได นั้น  คือ  ความรูเกี่ยวกับปรากฎการณเทานั้น  ความรูเกี่ยวกับวัตถุนั้นเปนความรูตรงและขึ้นอยูกับ การคิดของจิต   นักปรัชญาปรากฎการณนิยม  คือ  อิมมานูเอล  คานท 
แนวคิดทางปรัชญาที่มีอิทธิพลตอการจัดการศึกษา                                                               33   3)  จิตนิยมเชิงปรวิสัย  (Objective   Idealism)    จิตนิยมเชิงปรวิสัยเชื่อวา  วัตถุทุกชนิด เปนจริงดวยตัวของมันเองแตไมเปนอิสระจากจิตโดยสิ้นเชิง  วัตถุมิไดเปนอิสระจากจิตคือตองมีจิต เปนพื้นฐานในการรูวัตถุ    แตในขณะเดียวกันถาไมมีจิตรับรูวัตถุ  วัตถุมีอยูและอยูอยางที่มันเปน (วัตถุเปนจริงดวยตัวของมันเอง)  นักปรัชญาจิตนิยมเชิงปรวิสัย คือ จอรจ  วิลเฮลม  ไฟรดริช  เฮเกล  2.  สัจนิยม  (Realism)   สัจนิยมมีความเชื่อวา ผัสสะหรือประสบการณ   มีสวนเขาถึงความ จริงไดเชนกัน    สิ่งที่เรารูโดยตรงจากประสบการณนั้นไมขึ้นอยูกับจิตของผูรับรู  กลาวคือ  จิตของ ผูรับรูไมไดเปลี่ยนแปลงรูปแบบของความจริงสิ่งที่ปรากฎตอประสาทสัมผัสของเราอยางไร  ความ จริงก็เปนอยางนั้นไมมีความแตกตางระหวางสภาพที่ปรากฎกับสภาพที่เปนจริงอาจจะมีบางอยางที่ ประสาทสัมผัสของเรารับไมไดเพราะประสาทสัมผัสของเรามีขอบเขตจํากัดในการรับรู   สัจนิยม เปนทฤษฎีที่ใหความสําคัญแกความมีอยูของวัตถุวาเปนจริง ถั่งเช่า        สัจนิยมแบงออกเปน  3  สาขา  คือ  (สุจิตรา  รณรื่น, 2532 :  54 – 56)   1)  สัจนิยมแบบผิวเผิน  (Native   Realism)    สัจนิยมแบบผิวเผิน  ที่เชื่อวาความจริงเปน เอกเทศในตัวมันเอง   ไมขึ้นกับการรับรูของจิตหรือผูรู  ไมวาจะมีใครไปรับรูมันหรือไม  มันก็คงมี อยูตามปกติของมัน   และมันก็ปรากฎตอประสาทของเราตามที่มันเปนความเปนจริงของแตละสิ่ง เปนอยางไร   จิตของเราสามารถถายแบบไดหมดไมวาจะเปนขนาด   สี  รูปราง  เสียง  อุณหภูมิ  ซึ่ง สิ่งเหลานี้เปนคุณภาพ  (Quality)  ที่มีอยูจริงของวัตถุภายนอก  มิใชเปนสิ่งที่จิตสรางขึ้น   2)  สัจนิยมแบบตัวแทน  (Representative   Realism)   สัจนิยมแบบตัวแทน  เชื่อวาเราไม สามารถเขาถึงความจริงโดยตรง   แตเขาถึงดวยขอมูลอันเปนตัวแทนของความจริง  นักปรัชญาสัจนิยมแบบตัวแทนนี้  คือ  จอหน  ล็อค (John   Locke)   ล็อค  ไดกลาววา  การรับรู (Perception) โลก ภายนอกโดยผานทางมโนคติ (Idea)  มโนคติมี  2  ทาง  คือ  ประสาทสัมผัส (Sensation) คือการรับรู ถั่งเช่า   ขอมูลจากภายนอก  เชน  นัยนตาเห็นดอกกุหลาบ (ขอมูลภายนอก)  มโนคติของดอกกุหลาบเกิดขึ้น ในจิตสิ่งที่รับรูจึงไมใชดอกกุหลาบแตเปนมโนคติของดอกกุหลาบ (มโนคติไดจากประสาทสัมผัส ถั่งเช่า   ชัดเจนกวามโนคติไดจากการไตรตรอง)   การไตรตรองเปนขอมูลภายในซึ่งจะเกิดไมไดหากไมผาน ประสาทสัมผัสมากอน  เชน  ถาไมเคยเห็นดอกกุหลาบมากอนก็จะไมสามารถนึกถึงดอกกุหลาบได   




Create Date : 14 กรกฎาคม 2560
Last Update : 14 กรกฎาคม 2560 19:39:24 น. 0 comments
Counter : 216 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

Principe Del Sole
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add Principe Del Sole's blog to your web]
space
space
space
space
space