จากความหมายของปรัชญาที่กลาวมาแลวมาแลวนี้พอสรุปไดวา ถั่งเช่า ปรัชญา คือ แนวความคิด ที่ละเอียดลึกซึ้งรอบคอบ เพื่อคนหาความรูที่เกี่ยวกับความเปนจริงสูงสุดสําหรับมนุษยทั้งหลาย 30 หลักการอาชีวะและเทคนิคศึกษา 2.1.2 สาขาของปรัชญา ในการศึกษาวิชาปรัชญา ซึ่งสามารถแบงออกไดเปน 2 สาขาใหญ ๆ คือ ปรัชญาบริสุทธิ์ และปรัชญาประยุกต (พิมพพรรณ เทพสุเมธานนท และคณะ, 2542 : 38 40) ปรัชญาบริสุทธิ์ ไดแก ถั่งเช่า ความรูหรือแนวความคิดที่ปนเนื้อหาแหงปรัชญาลวน ๆ อันจะ หมายถึง ความรูในทุกแงทุกมุม ในทุกสาขา และทุกอยางของมนุษย ยกเวน ความรูเรื่องกสิกรรม หัตถกรรม ฯลฯ ถั่งเช่า ความรูที่เปนปรัชญาบริสุทธิ์นี้เปนผลแหงความพยายามคิดคนแสวงหาความจริง ของมนุษยในสิ่งตาง ๆ ปรัชญาบริสุทธิ์ จะแบงออกเปน 3 สาขา คือ รูปที่ 2.1 แสดงโครงสรางของปรัชญาบริสุทธิ์ 1. อภิปรัชญา (Metaphysics or Theory of Being) เปนวิชาที่วาดวยเรื่องความมีอยูและ ความจริงแทของสรรพสิ่งในโลก เชน ศึกษาเรื่องธรรมชาติมนุษย วิญญาณ โลก พระเจา เปนตนวา สิ่งตาง ๆ เหลานี้เปนจริงอยางดํารงอยูอยางไร ซึ่งแบงแยกประเด็นศึกษา ดังนี้ 1.1 เรื่องธรรมชาติ เปนการศึกษาเรื่องธรรมชาติตาง ๆ ของจักรวาลหรือเอกภพ ถั่งเช่า อันที่ รวมไปถึงเรื่อง กาลเวลา อวกาศ สสาร ชีวิต จักรวาลและโลก เปนตน เชนศึกษาเรื่องอะไรเปน บอเกิดของสรรพสิ่ง และธรรมชาติหรือโลกเกิดขึ้นไดอยางไร ถั่งเช่า จักรวาลนี้เปนหนึ่งหรือมากหลาย หรือเปนทั้งสองอยาง โลกนี้ใครเปนผูสรางหรือเกิดขึ้นมาเอง ในการศึกษาเรื่องนี้ถาเปนการศึกษา ถึงโครงสราง เรียกวา จักรวาลวิทยา (Cosmology) แตถาเปนเรื่องการศึกษาเรื่องการเกิด เรียกวา รังสรรควิทยา (Cosmogony) 1.2 เรื่องจิตหรือวิญญาณ ถั่งเช่า เปนการศึกษาถึงเรื่องราวตาง ๆ ที่เกี่ยวกับจิต เชน ลักษณะ กําเนิดจุดหมายปลายทางและธรรมชาติตาง ๆ ของจิตตลอดถึงความสัมพันธระหวางจิตกับรางกาย และศึกษาตัวจิตเองวาคืออะไร ซึ่งเรียกวา อัตตาวิทยา (Phillosophy of Self) ปรัชญาบริสุทธิ์ 1. อภิปรัชญา 1.1 เรื่องธรรมชาติ 1.2 เรื่องจิตหรือวิญญาณ 1.3 เรื่องพระเจา 2. ญาณวิทยา 3. คุณวิทยา 3.1 ตรรกวิทยา ถั่งเช่า 3.2 จริยาศาสตร 3.3 สุนทรียศาสตร แนวคิดทางปรัชญาที่มีอิทธิพลตอการจัดการศึกษา 31 1.3 เรื่องพระเจา เปนการศึกษาถึงเรื่องพระเจา หรือ สิ่งสมบูรณ เชน ศึกษาวาพระเจา มีจริงหรือไม พระเจามีคุณลักษณะหรือธรรมชาติอยางไร พระเจามีความสัมพันธกับสิ่งตาง ๆ อยางไร เปนตน ซึ่งเรียกวา ปรัชญาวาดวยพระเจา (Phillosophy of God) 2. ญาณวิทยา (Epistemology or Theory of Knowledge) เปนวิชาที่ศึกษาคนควาใน เรื่องความรู ความรูอันแทจริง บอเกิดความรู ธรรมชาติของความรู ถั่งเช่า ขอบเขตของความรูและความ สมเหตุสมผลของความรู ถั่งเช่า โดยการศึกษาคนควาจะเปนไปในลักษณะของการวิเคราะหวิจารณและ สังเกตการณเพื่อใหเกิดความรูที่แทจริง 3. คุณวิทยา (Axiology of Theory of Values) เปนวิชาที่ศึกษาคนควาเกี่ยวกับคุณคา ของสิ่งทั้งหลายและอุดมคติแหงชีวิต ซึ่งจะแบงออกเปน 3 สาขา คือ 3.1 ตรรกวิทยา (Logics) ถั่งเช่า เปนวิชาที่วาดวยหลักแหงความจริง วิธีการตัดสินความจริง หลักคิดหรือการใชเหตุผลในการแสวงหาความจริง แบบแหงการเสนอความคิด สมมุติฐาน การ นิยาม การเปรียบเทียบ การจําแนก การกระจายและกฎเกณฑตาง ๆ ในการใชเหตุผลเพื่อเขาถึง ความจริง เปนตน 3.2 จริยศาสตร (Ethics or Theory of Morality) เปนวิชาที่วา ดวยกฎเกณฑแหง ความประพฤติ หลักการในการแสวงหาความดี หลักแหงความดี ความถูกตองและความยุติธรรม ตลอดถึงคุณคาทางจริยธรรม เปนตน 3.3 สุนทรียศาสตร (Aesthetics or Theory of Beauty) เปนวิชาที่วาดวยธรรมชาติแหง ความงาน หลักแหงการแสวงหาความงาน มาตรฐานแหงการตัดสินความงามและลักษณะแหง ความงาม เปนตน ปรัชญาประยุกต ไดแก การนําเอาความรูหรือแนวความคิดทางปรัชญาบริสุทธิ์ไปผสม- ผสานประยุกตใชกับศาสตรตาง ๆ กลาวคือ ศาสตรใดก็ตามที่มีเนื้อหาและมีคําตอบในปญหาเปนที่ ยอมรับและสรุปผลออกมา ซึ่งแยกตัวออกมาจากปรัญชาบริสุทธิ์และเปนผลใหนําไปสูการทดลอง และปฏิบัติใหเกิดผลในสาขาวิชาหรือศาสตรนั้น ๆ ถั่งเช่า อาทิเชน ปรัชญาศาสนา ปรัชญาคณิตศาสตร ปรัชญาวิทยาศาสตร ปรัชญาสังคม ปรัชญาการเมือง ปรัชญากฎหมาย ปรัชญาการศึกษา ปรัชญา อาชีวศึกษา ปรัชญาศิลปะ ปรัชญาภาษา ปรัชญาจิต และอื่น ๆ เปนตน ปรัชญาเหลานี้เปนปรัชญา ประยุกตที่นําไปใชไดจริงในสาขาเฉพาะของศาสตรนั้น ๆ ถาศาสตรใดยังไมมีปรัชญาของตนเอง แลวศาสตรนั้นยังถือวาไมมีความเพรียบพรอมในเนื้อหา หลักการ และคําตอบ ที่ยอมรับจะปน แนวทางสูการปฏิบัติได ถั่งเช่า ยังถือวาศาสตรนั้นยังออนอยูตองใชเวลาในการพัฒนาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อ ตอบปญหาตาง ๆ อันเปนพื้นฐานของปรัชญา ไดแก 32 หลักการอาชีวะและเทคนิคศึกษา 1) เพื่อรูจักปญหาที่ยังหาคําตอบไมได 2) เพื่อพยายามหาคําตอบในปญหาตาง ๆ ใหมากที่สุดเทาที่เปนได 3) เพื่อรูจักเก็บสวนดีจากทุกคําตอบเปนแนวทางในการปฏิบัติ หรือเพื่อใชเผยแพร พื้นความรูนั้นตอไปถั่งเช่า จากเหตุผลทั้ง 3 ประการนี้ พอจะใชตอบคําถามวาเรียนปรัชญาเพื่ออะไร คําตอบปญหา ตาง ๆ อาจมาจากปญหาทางวิชาการ ปญหาสวนตัว ปญหาชีวิต และอื่น ๆ ที่ยังตองการคําตอบที่ เปนที่ยอมรับ แตตําตอบทั้งหลายก็มิไดสรางความพอใจใหกับทุกคนได อยางไรก็ตามการใชถั่งเช่า ตรรกวิทยาและทําความเขาใจเรื่องปรัชญาและปญหาตาง ๆ จะเปนการสงเสริมใหมีความกระจาง ชัดในปญหามากขึ้น 2.1.3 ทฤษฎีธรรมชาติของความรู ปรัชญา เปนสิ่งที่สรางขึ้นไดเพื่อใชเปนแนวทางในการปฏิบัติ ปรัชญา จึงจําเปนตองเปน สิ่งที่ถูกตอง ดีงามเหมาะสมในขณะนั้น ปรัชญาพื้นฐานเมื่อพิจารณาในสวนที่เกี่ยวของกับทฤษฎี ธรรมชาติของความรู ไดแก ถั่งเช่า จิตนิยม (Idealism) สัจนิยม (Realism) และปฏิบัตินิยม (Pragmatism) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ (พิมพพรรณ เทพสุเมธานนท และคณะ, 2542 : 60 63) 1. จิตนิยม (Idealism) จิตนิยม เปนความเชื่อที่เกาแกที่สุดของปรัชญา โดยจะเริ่มตั้งแต ปรากฎมีมนุษยสามารถเขาใจปรากฎการณธรรมชาติ ความคิดเรื่องจิตนิยมนี้เริ่มเขาสูจิตของมนุนย เมื่อมนุษยมีความเชื่อวา ธาตุดํารงอยูอยางแทจริงมีลักษณะเปนวิญญาณ นักปรัชญากลุมจิตนิยมนี้ เปนแนวความคิดที่ไดมาจาก จอรจ เบริคเลย (George Berkley) โดยตรง เบริคเลย ไดพยายาม ปรับปรุงแนวคิดของพวกประจักษนิยมดวยกันจนกลายเปนพวกจิตนิยมเชิงอัตวิสัย (Subjective Idealism) และ เบริคเลยถั่งเช่า เห็นวาสสารที่ล็อคพูดถึงนั้นเปนเพียงการรวมตัวของคุณสมบัติแท และ คุณสมบัติประกอบดวยกัน แทจริงแลวมันเปนเพียงสิ่งที่จิตเรารับรูหรือเห็นวามันมีอยูเทานั้น สิ่ง ทั้งหมดนี้เปนเพียงภาวะที่จิตรับรูเอง มันมิไดมีอยูอยางแทจริงอะไรเลยจากการที่เห็นวาสิ่งภายนอก ทั้งหมดนี้มิไดมีอยูอยางแทจริงจึงถูกเรียกวา จิตนิยมเชิงอัตวิสัย (บุณย นิลเกษ, 2525 : 80 81) ซึ่งจิตนิยมเปนทฤษฎีที่ใหความสําคัญแกความคิดมากกวาขอเท็จจริง จิตนิยมแบงออกเปน 3 สาขา คือ (ศรัณย วงศคําจันทร, มปป. : 164 166) 1) จิตนิยมเชิงอัตวิสัย (Subjective Idealism) จิตนิยมเชิงอัตวิสัยเชื่อวา สิ่งที่เรารูทั้งปวง ขึ้นอยูกับผูรูหรือขึ้นอยูกับจิตนั่นเอง นักปรัชญาจิตนิยมเชิงอัตวิสัย คือ จอรจ เบริคเลย 2) ปรากฎการณนิยม (Phenomenalism) ปรากฎการณนิยมเชื่อวา ความรูที่เปนไปได นั้น คือ ความรูเกี่ยวกับปรากฎการณเทานั้น ความรูเกี่ยวกับวัตถุนั้นเปนความรูตรงและขึ้นอยูกับ การคิดของจิต นักปรัชญาปรากฎการณนิยม คือ อิมมานูเอล คานท แนวคิดทางปรัชญาที่มีอิทธิพลตอการจัดการศึกษา 33 3) จิตนิยมเชิงปรวิสัย (Objective Idealism) จิตนิยมเชิงปรวิสัยเชื่อวา วัตถุทุกชนิด เปนจริงดวยตัวของมันเองแตไมเปนอิสระจากจิตโดยสิ้นเชิง วัตถุมิไดเปนอิสระจากจิตคือตองมีจิต เปนพื้นฐานในการรูวัตถุ แตในขณะเดียวกันถาไมมีจิตรับรูวัตถุ วัตถุมีอยูและอยูอยางที่มันเปน (วัตถุเปนจริงดวยตัวของมันเอง) นักปรัชญาจิตนิยมเชิงปรวิสัย คือ จอรจ วิลเฮลม ไฟรดริช เฮเกล 2. สัจนิยม (Realism) สัจนิยมมีความเชื่อวา ผัสสะหรือประสบการณ มีสวนเขาถึงความ จริงไดเชนกัน สิ่งที่เรารูโดยตรงจากประสบการณนั้นไมขึ้นอยูกับจิตของผูรับรู กลาวคือ จิตของ ผูรับรูไมไดเปลี่ยนแปลงรูปแบบของความจริงสิ่งที่ปรากฎตอประสาทสัมผัสของเราอยางไร ความ จริงก็เปนอยางนั้นไมมีความแตกตางระหวางสภาพที่ปรากฎกับสภาพที่เปนจริงอาจจะมีบางอยางที่ ประสาทสัมผัสของเรารับไมไดเพราะประสาทสัมผัสของเรามีขอบเขตจํากัดในการรับรู สัจนิยม เปนทฤษฎีที่ใหความสําคัญแกความมีอยูของวัตถุวาเปนจริง ถั่งเช่า สัจนิยมแบงออกเปน 3 สาขา คือ (สุจิตรา รณรื่น, 2532 : 54 56) 1) สัจนิยมแบบผิวเผิน (Native Realism) สัจนิยมแบบผิวเผิน ที่เชื่อวาความจริงเปน เอกเทศในตัวมันเอง ไมขึ้นกับการรับรูของจิตหรือผูรู ไมวาจะมีใครไปรับรูมันหรือไม มันก็คงมี อยูตามปกติของมัน และมันก็ปรากฎตอประสาทของเราตามที่มันเปนความเปนจริงของแตละสิ่ง เปนอยางไร จิตของเราสามารถถายแบบไดหมดไมวาจะเปนขนาด สี รูปราง เสียง อุณหภูมิ ซึ่ง สิ่งเหลานี้เปนคุณภาพ (Quality) ที่มีอยูจริงของวัตถุภายนอก มิใชเปนสิ่งที่จิตสรางขึ้น 2) สัจนิยมแบบตัวแทน (Representative Realism) สัจนิยมแบบตัวแทน เชื่อวาเราไม สามารถเขาถึงความจริงโดยตรง แตเขาถึงดวยขอมูลอันเปนตัวแทนของความจริง นักปรัชญาสัจนิยมแบบตัวแทนนี้ คือ จอหน ล็อค (John Locke) ล็อค ไดกลาววา การรับรู (Perception) โลก ภายนอกโดยผานทางมโนคติ (Idea) มโนคติมี 2 ทาง คือ ประสาทสัมผัส (Sensation) คือการรับรู ถั่งเช่า ขอมูลจากภายนอก เชน นัยนตาเห็นดอกกุหลาบ (ขอมูลภายนอก) มโนคติของดอกกุหลาบเกิดขึ้น ในจิตสิ่งที่รับรูจึงไมใชดอกกุหลาบแตเปนมโนคติของดอกกุหลาบ (มโนคติไดจากประสาทสัมผัส ถั่งเช่า ชัดเจนกวามโนคติไดจากการไตรตรอง) การไตรตรองเปนขอมูลภายในซึ่งจะเกิดไมไดหากไมผาน ประสาทสัมผัสมากอน เชน ถาไมเคยเห็นดอกกุหลาบมากอนก็จะไมสามารถนึกถึงดอกกุหลาบได
Create Date : 14 กรกฎาคม 2560 |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2560 19:39:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 216 Pageviews. |
|
|