~~~ รวมพล "คนเครียด" ~~~


ปัจจุบันความเครียดครองเมือง ทุกย่อมหญ้ามากไปด้วยคนเครียด มากเสียจนผมรู้สึกกลัว กลัวว่าสักวันจะโดนโดดกัดลำคองามระหงที่* หวงแหน เลยต้องเขียน Blog นี้ขึ้นมา ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยกรอเขี้ยวที่แหลมคมให้ทื่อลงสักนิด (ก็ยังดี)

เรามาทำความรู้จักกับความเครียดกันสักนิด... ย้อนกลับไปสู่การกำเนิดจักรวาล

อะไรนะ! ย้อนไกลไปเหรอ งั้นเอาใกล้ๆ หน่อยแล้วกัน

มนุษย์มีสมองใหญ่กว่าสัตว์อื่น จึงฉลาดกว่า แต่โลกนี้ไม่ต้องการให้มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ จึงกระทำการดังนี้

ให้มนุษย์ใช้ความฉลาดพัฒนาสิ่งต่างๆ ได้ แต่ต้องพกความเครียดติดตัวมาด้วย (ใครไม่ใช้ไม่ถือว่าผิดกติกา)

เมื่อมีความเครียดติดตัว มนุษย์ก็กลัวเขาจะว่ามีสมบัติไม่รู้จักใช้ กระวีกระวาดที่จะใช้ แต่ดันใช้ผิดที่ผิดทาง (ความจริงความเครียดก็มีประโยชน์นะ หากใช้อย่างถูกวิธี) แถมยังเสริมสร้างความเครียดอยู่เป็นนิจ คือ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย กลับอดีตบ้าง ไปอนาคตบ้าง ขึ้นสวรรค์บ้าง ลงนรกบ้าง ตามฤทธิ์ตามเดช กระทั่งความเครียดผลิดอกออกผลเต็มสมอง

มนุษย์ฉลาดจึงคิดได้มาก เมื่อคิดได้มากจึงเห็นถึงความน่ากลัวต่างๆ บนโลก เมื่อเกิดความกลัว ความระแวงระวังจึงเป็นเงาตามตัว และความฉลาดก็ทำให้รู้ว่า ไม่มีทางที่จะป้องกันได้ทุกสถานการณ์ เลยเกิดความเครียด (แค่นึกก็เครียดแล้ว)

นี่แค่ความเครียดที่เกิดจากความคิดนะ

ยังมีความเครียดที่เกิดจากการเจ็บป่วยของร่างกายอีก เช่น ปวดหัว ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดสารพัดปวด ( แต่ปวดใจไม่เกี่ยว อันนี้ถือว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง ) ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหัวใจ ระบบกล้ามเนื้อก็มีส่วน

เมื่อทำความรู้จักกับความเครียดแล้ว มาหาวิธีกำจัดมันดีกว่า แต่ถ้ารักไม่ต้องการจะผลักมันออกไปจากใจ หยุดอ่านเสีย... (เดี๋ยวเครียด)



สำหรับผู้อยากกำจัด อ่านต่อ...

พวกแรกเกิดจากปัญหาด้านจิตใจ พวกนี้ง่ายหน่อย แค่พยายามดึงความคิดให้อยู่กับปัจจุบัน น่าจะพอบรรเทา

เชื่อไหม? ความทุกข์ล้วนเกิดมาจากการส่งใจไปคิดถึงอดีตหรือไม่ก็อนาคต หากไม่เชื่อลอง...

เมื่อเกิดความเครียดให้เอาจิตไปจับอยู่ที่ลมหายใจ ดูสิว่าเราหายใจถูกวิธีหรือเปล่า หายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบ ใครหายใจเข้าท้องยุบ หายใจออกท้องพอง ถือว่าหายใจไม่เป็นนะครับ ดูไปสักพักจะเห็นว่าไอ้เจ้าความเครียดมันหายไป

อะไรนะ!

ยากเหรอ เอาน่า แรกๆ ก็ติดๆ ขัดๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็ชิน เพื่อสุขภาพกายสุขภาพใจของเราเอง คิดบวกไว้ ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามของมนุษย์หรอก (ฉลาดซะอย่าง)

ถ้าแค่นี้ว่ายาก ลองมาดูอีกพวกนะครับ

พวกหลังนอกจากต้องรักษาด้านจิตใจแล้วยังต้องรักษาด้านร่างกายด้วย คือ ต้องไปพบแพทย์ หายามารักษาอาการผิดปกติของร่างกาย แต่ก็เนาะร่างกายก็เต็มไปด้วยกองโรคอยู่แล้ว ยามดีใช้ ยามไข้ก็ต้องรักษา หากกายมันทนไม่ไหวก็ตายไปเองแหละ อย่าคิดมาก ใครไม่ตายสิน่าคิด

อีกวิธีในการขจัดความเครียด อันนี้ถือว่าเป็นการรักษาขั้นสุดยอด

นั่นคือ... เข้ามาคุยกับผมไง ผมจะช่วยเติมส่วนที่ขาด ลดสิ่งที่เกิน แต่ถ้าเติมไปเติมมาแล้วออกอาการล้นๆ ก็ตัวใครตัวมันนะครับ

เอาน่า! อย่างน้อยเกินก็ดีกว่าขาด เนาะ


ปล. ขอบพระคุณทุกความรู้ที่เกี่ยวกับโรคเครียด ผมอ่านมาจากหลายที่ รวมทั้งนึกคิดไปเรื่อยเปื่อย อย่าถือเป็นข้อมูลจริงจังนัก เพราะนี่คือคอลัมน์ “น้ำลายแตกฟอง”









~ น้ำลายแตกฟอง ~

~ เพื่อนคนแรก ~
~ นายจะงอนไปถึงไหน ~
~ กลับไปเยี่ยมเพื่อน Blog คนแรกกันเถอะ ~
~ ท่านทำ Blog กันทำไม??? ~
~ เรื่องของคนขี้สงสัย ~
~ ใครคือเพื่อนคนแรกใน Blog ของท่าน ~
~ ชวนคุยเรื่อง "ไข่" ~
~ รวมพล "คนเครียด" ~






Create Date : 25 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2551 10:49:08 น. 9 comments
Counter : 804 Pageviews.

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

แบบว่ากำลังเครียดอยู่ เลยเข้ามาอ่านดูครับ

แต่อ่านจบแล้วก็ยังเครียดอยู่นะ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:38:46 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องความเครียด
ตอนนี้ไม่เครียดค่ะ
เพราะรู้ว่าความเครียดเกิดจากอะไร
ขจัดออกไปหมดแล้ว
เลยสบายๆ ค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:44:25 น.  

 
ปัญหาที่ว่านั้น............คืออยากรวย
ชาวโลกจึงจำซวย......ทั่วหน้า
การพนันมีหวย...........ไพ่บ่อน โกงแฮ
กินชาติเผ่นหนีจ้า.......เหนื่อยล้า หมาหลงฯ




โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:21:26 น.  

 
:: คุณอาคุงกล่อง ::

ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน ไม่หายเครียดไม่เป็นไร แค่ได้เห็นรอยยิ้มก็ชื่นใจแล้วครับ


:: คุณอุ้มสี ::

ยินดีด้วยครับ ที่ค้นพบที่สาเหตุของความเครียด และสามารถกำจัดมันออกไปจากใจได้


:: คุณต้นกล้า อาราคิน ::

ขอบคุณมากครับที่แวะมาแป่ะโคลงแฝงความหมายลึกซึ้ง


โดย: ชวนคุย วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:59:52 น.  

 
จ๊ะเอ๋! คุณชวนคุย
... แวะมาบอกว่า เครียด ช่วงนี้ ง่วงด้วย นอนไม่พอ ไม่กล้าอ่าน blog นี้ เด๊ยวเครียดเพิ่ม ... หลังงานเกษตร กำแพงแสน แล้วจะกลับมาอ่านนะ สัญญา เกี่ยวก้อยด้วย


โดย: เจ้าจัน วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:37:39 น.  

 
วันนี้ตื่นเช้า ... อากาศหนาวดี ... อารมณ์ดี จึงเข้ามาอ่านหน้านี้ ... เพื่ออ่านแล้วเครียด ... ความอารมณ์ดีจะได้ผ่อนเบาได้ .. .... อ่านแล้วไม่เห็นจะเครียดตามเลย .. ได้สาระกลับไปอีกต่างหาก...

... จะเล่าให้ฟังค่ะ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา จันหอม นอนไม่คอยหลับ กังวลใจไปเรื่อยเปื่อย ส่งผลให้นอนไม่พอ ช่วงบ่ายก็ทำงานไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพราะง่วง ... เอาละว้า! ทนไม่ได้ละที่จะเกิดเรื่องแบบนี้กับเรา จึงหาทางแก้ไข...

... หากนอนไม่หลับ จันหอมใช้วิธีท่องบทสวดมนต์ ทำสมาธิก่อนนอน ท่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหลับ ปรากฏว่าใช้ได้ผลอ่ะค่ะ... หลับสนิท.... แม้ตื่นมากลางดึก ก็รู้สึกว่านอนอิ่ม .... จะเอาไปใช้ก็ได้นะค่ะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อิอิ...

.... เพื่อน ๆ ใช้วิธีไหน แก้อาการนอนไม่หลับบ้างค่ะ ... แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะ....

ปล. ขอบคุณเจ้าบ้าน ชอบหาเรื่อง ให้ได้เรื่อง ....


โดย: เจ้าจัน วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:28:21 น.  

 
:: คุณเจ้าจัน ::

ผมไม่ค่อยมีอาการนอนไม่หลับนะครับ จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนเกินกำหนดมากกว่า

แต่ก็เคยมีบ้างเหมือนกันที่รู้สึกว่านอนไม่ค่อยหลับ วิธีแก้ก็คือ...

"นอนสมาธิ"

วิธีนี้ผมคิดค้นขึ้นจากด้วยความสามารถส่วนตัวล้วนๆ แบบว่ารู้จักใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบตัวอ่ะนะ เกิดขึ้นตอนไปนั่งสมาธิตามวัด แล้วเห็นว่ามันชอบหลับเหลือเกิน หัวทิ่มหัวตำ ตกกุฏิมาหลายรอบ ก็เลยเอามาประยุกต์ใช้ ปรากฏว่า...ได้ผลชะงัด

ลองทำเพียงแป๊บเดียว... ฟื้นเช้า

ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ


โดย: ชวนคุย วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:19:58:18 น.  

 
เอมเป็นพวกแรกค่ะคุณหมอชวนคุย
เครียดจากการพะวงหน้าพะวงหลัง

การอยู่กับปัจจุบันขณะ โดยใช้เครื่องมือที่ธรรมชาติให้ติดตัวมา
คือ ลมหายใจของเรา ร่างกายของเรา
สามารถช่วยได้จริงๆ นะคะ

อย่างที่คุณหมอชวนคุยว่าไว้
ตอนเริ่มฝึกใหม่ๆ นี่อึดอัดกระท่อนกระแท่นมากอยู่เชียว
เทคนิคอยู่ตรงที่ เริ่มจากดันหลังให้ตรง (คือ นั่งตัวตรงนั่นเอง)
แล้วตามลมหายใจเข้า-ออก อย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งหมดนี้ฟังเขามา และกำลังฝึกให้ตัวเองเคยชินค่ะ

---------------------------

***อย่าถือเป็นข้อมูลจริงจังนัก เพราะนี่คือคอลัมน์ “น้ำลายแตกฟอง”

จึ๋ยส์
เชื่อไปแล้ว เป็นจริงเป็นจังนะคะนี่


โดย: บุษบาหน้าจอ วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:23:10:13 น.  

 
ขอบคุณ สำหรับสาระ ดีๆ ค่ะ


โดย: ครูกญิง (tingnongnoy ) วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:20:45:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชวนคุย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Blog นี้ไม่หวังอะไรมากไปกว่าให้ท่านกลับออกไปพร้อมรอยยิ้ม
... ...






Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
25 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ชวนคุย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.