มิถุนายน 2558

 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
 
 
1 ปีที่ผ่านมาจากเด็กในระบบโรงเรียนปกติ กลายมาเป็น เด็กบ้านเรียน เป็นยังไงบ้างนะ ... # ตอนที่ 3

ตอนที่ 2 (<< สนใจเข้าไปย้อนอ่านได้นะคะ) ที่ผ่านมาพูดถึงเรื่อง ทัศนศึกษา กันแล้ว ขอบันทึกต่อถึงกิจกรรมของสองสาวกับ "ค่ายธรรมชาติ" ค่ะ 


 photo 1-year-for-ptt-6.jpg



ส่วนตัวแม่เกศชอบที่จะเข้าป่า เดินป่า สัมผัสไอดิน กลิ่นต้นไม้ ฟังเสียงนกมากกว่าไปเที่ยวทะเล และคิดว่า เด็กๆ น่าจะชื่นชอบ (เหมือนแม่บ้าง) การเข้ามาเรียนที่ปฐมธรรมเป็นการเปิดประสบการณ์ในผืนป่าของลูกอย่างแท้จริงค่ะ 



ครั้งแรกของลูกในการเดินป่าจำนวนหลายชั่วโมง ... ครั้งแรกของลูกในการออกไปค้างแรมนอกบ้านโดยไม่มีพ่อแม่หลายวัน ... และเป็นครั้งแรกของลูกที่ "ลูกกลับมาเล่าให้แม่ฟังว่า มีความสุข สนุกมากแค่ไหนกับการสัมผัสชีวิตธรรมชาติ" ไม่ว่าจะเป็นเขาใหญ่ หรือ เจ็ดคต เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน 


หลายคนที่รู้หรือติดตามเฟซบุ๊คแม่เกศ พอทราบว่าลูกจะไปเข้าค่ายธรรมชาตินานแบบนี้ คำถามที่เกิดขึ้นเสมอ "กล้าจัง ปล่อยลูกไปได้นานแบบนี้" 



 photo 1-year-for-ptt-9.jpg


มันไม่ใช่ความกล้าหรอกค่ะ แต่เป็นความมั่นใจที่เราเชื่อว่า สักวันลูกก็ต้องเติบโต สักวันลูกก็ต้องก้าวเดินด้วยตัวเองปราศจากพ่อแม่รอบกาย สุดท้ายแล้วก็คือ ความเชื่อที่ว่า ลูกมีศักยภาพมากกว่าที่เราคิด รวมถึงการบ่มเพาะและเลี้ยงลูกในแบบฉบับของเราที่ทำให้เรามั่นใจที่จะต้องการให้ลูกได้รับประสบการณ์ชีวิตเหล่านี้ 


 photo 1-year-for-ptt-7.jpg


ลูกก็คือ มนุษย์คนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับผ้าสีขาวสะอาด ปราศจากการแต่งแต้มสีสัน สภาพแวดล้อม รวมถึงพ่อแม่อย่างเราล่ะค่ะที่จะเป็นส่วนหนึ่งของลูก เป็นโลกของลูกในการสร้างสี เติมแต่งสิ่งต่างๆ ลงไปในผ้าผืนนี้ การเรียนรู้ของลูกจึงไม่ใช่มีเพียงแค่การอยู่ในห้องเรียน นั่งอ่านหนังสือหรือฟังครูสอนค่ะ การเปิดโลกการเรียนเพื่อรู้ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น จะให้ลูกรู้จะคิด รู้ที่จะจัดการกับปัญหาจากสถานการณ์ที่ต่างกันไป แม่คิดว่าน่าจะเป็นผลดีกับลูก แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะสังเกตกับผลที่จะเกิดขึ้นด้วย 

การเลี้ยงลูกในแบบของแม่จึงเป็นเหมือนการเรียนรู้อะไรบางอย่าง เรียนรู้ที่จะรู้จักลูก เรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือ เรียนรู้ที่จะคิดอย่างมีสติผ่านการประมวลผลไม่ว่าจะเกิดจากการสังเกตเห็น หรือพบเจอตรงๆ ชัดเจน แล้วจัดการกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไร เพื่อให้ส่งผลที่ดีกับลูกให้มากที่สุด 



การไปค่ายธรรมชาติของที่นี่ ไม่ได้ไปพร้อมกันทั้งหมด แบ่งแยกเป็น เด็กโต (ป.4-6) และเด็กเล็ก (ป.1-2) เพื่อให้คุณครูดูแลเด็กได้ทั่วถึง ผู้ปกครองสบายใจ ไม่ต้องกังวลมากนักค่ะ 


 photo 1-year-for-ptt-8.jpg


ส่วนตัวอย่างที่แม่เกศบอก แม้ว่าแม่จะมีความมั่นใจและมีความเชื่อแบบนั้น แต่ก็มีความจำเป็นในการสร้างกำลังใจให้ลูกในการจากบ้านครั้งแรกด้วยค่ะ ด้วยเราเองรู้จักลูกมากกว่าใคร เรารู้ว่าเราควรจะต้องพูดอย่างไรเพื่อให้ลูกเข้มแข็งพอที่จะเผชิญกับสิ่งที่เค้าเองก็คาดเดาไม่ได้ และ (เดาได้เลยว่า) มีกลัวในใจ 



ก่อนไปแม่เกศคุยกับลูกสาวคนโต (และคนกลางด้วยค่ะ ... แต่ไปคนละครั้งกัน)



"การที่หนูไปเข้าค่ายในครั้งนี้เป็นการออกจากบ้าน นอนค้างที่อื่นโดยที่ไม่มีพ่อแม่ แต่พ่อแม่ยังอยู่กับหนูเสมอไม่ว่าหนูจะไปที่ไหน แม่อยู่ที่ใจ เหมือนคุณยายถึงแม้คุณยายจะไม่อยู่ คุณยายก็อยู่กับแม่เสมอเหมือนกัน หนูรักพ่อแม่ยังไง พ่อแม่รักหนูแบบนั้น พ่อแม่อยู่ในใจหนูเสมอ 


ไปครั้งนี้พ่อแม่อยากให้หนูสนุก ไปเรียนรู้ในสิ่งที่หนูไม่เคยไป ไม่เคยเห็น เป็นประสบการณ์ชีวิต ถ้าเจออะไรที่ทำไม่ได้ก็ตั้งสติ แล้วก็ทำ สิ่งที่ทำลงไปอาจจะไม่ได้ผลที่ดีไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยหนูได้ลงมือทำไปแล้ว 


พ่อแม่ไม่ได้สนใจมากว่าผลงานของหนูจะต้องสวยที่สุด ดีที่สุด แต่สิ่งที่พ่อแม่ภูมิใจที่สุดคือ หนูคิดเอง ทำเอง แต่ถ้าจะทำได้สวยและดีด้วยก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก แต่ก็อย่าไปกลัว ถ้าหนูมีความพยายามและทำไปเรื่อยๆ หนูจะทำได้และทำดีขึ้นไปเอง ถ้าเจออะไรแล้วกลัว ไม่รู้จะแก้ไขยังไง ร้องไห้ได้แต่เหมือนกับที่แม่เคยสอน คนมีอยู่ 3 แบบ เมื่อเจอสิ่งที่เป็นปัญหา


1. มีสติมาก - เจอแล้วมีสติ ไม่ร้องไห้ แล้วคิดหาทางแก้ไข
2. มีสติปานกลาง - เจอแล้วร้องไห้ ร้องไห้ผ่านไป 5 นาที 10 นาทีแล้วก็หยุดร้องไห้ มีสติขึ้นมา คิดหาทางแก้ไข
3. มีสติน้อยหรือไม่มีสติเลย - เจอแล้วร้องไห้ ร้องไห้ผ่านไป 5 นาที 10 นาทีแล้วก็ยังคิดไม่ออก แล้วก็คิดวนไปมาว่ากลัว แก้ไขไม่ได้ แล้วก็ร้องไห้ต่อไปอีก


แม่ไม่ว่า ถ้าหนูคิดไม่ออกแล้วจะร้องไห้ กลัวแล้วร้องไห้ เพราะแม่รู้ว่าหนูเป็นยังไง แต่เมื่อร้องไห้แล้วควรรู้ว่า ต้องทำยังไงต่อไปนะลูก ขอให้หนูโชคดีกับการไปเข้าค่ายครั้งนี้และกลับมาอย่างปลอดภัยนะคะลูก" 


 photo 1-year-for-ptt-10.jpg


แน่นอนค่ะว่า ลูกไม่ทันฟังแม่พูดจบย่อมร้องไห้ แต่แม่เชื่อว่า จะเป็นการร้องไห้ตอนนี้แค่นั้น เมื่อหนูไปเข้าค่ายแล้ว หนูจะจำคำพูดของแม่ได้ น้ำตาของหนูในวันนั้นจะเป็นสิ่งที่สร้างความเป็นตัวตนของลูกแม่เพิ่มขึ้น



และเป็นจริงตามนั้นเลยค่ะ เพราะช่วงที่เข้าค่ายคุณครูจะส่งไลน์มาให้ผู้ปกครองดูตลอดเวลา หลังจากกลับมาก็สอบถามคุณครูก็รับรู้ว่า หนูเข้มแข็ง อึดและอดทนมากเกินตัว 


 photo 1-year-for-ptt-11.jpg


โอกาสที่จะทำให้ลูกได้เจอประสบการณ์แบบนี้ไม่ง่ายนัก และมันทำให้แม่ต้องคิดว่า แม่ต้องทำอย่างไร พูดอย่างไรกับลูก เพื่อให้หนูเข้าใจเจตนารมย์ที่แม่ต้องการสื่อ แม่ไม่ได้หวังว่าจะให้หนูเข้มแข็ง กล้าหาญ ไม่กลัวอะไรเลย เพราะมันขัดกับบุคลิกและนิสัยของทั้งสองคน แต่แม่ค่อยๆ ประคับประคองและคอยเป็นเบื้องหลังที่สร้างหนูให้เป็นผู้ใหญ่ที่คิดเป็น ทำเป็นในสักวัน 



ขอบคุณปฐมธรรมที่ตอบโจทย์ของแม่ในการร่วมสร้างเด็กคนหนึ่ง หรืออีกหลายคน ให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจทีละน้อยจริงๆ ค่ะ





Create Date : 18 มิถุนายน 2558
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 3:07:34 น.
Counter : 1697 Pageviews.

14 comments
  
โหวต Parenting Blog ให้เลยนะครับคุณเกศ

ต้องชื่นชมวิธีการเรียนรู้จากธรรมชาติเช่นนี้จริงๆ
เก่งทั้งเด็ก พ่อแม่และครูเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:7:18:40 น.
  

มาชมกิจกรรมเด็กเรียนรู้จากธรรมชาติ
ดีต่ะ ฝีกเด็กให้รู้จักช่วยตัวเอง
โดย: newyorknurse วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:8:59:46 น.
  
ดีที่สุดเลยค่ะ ซีก็ ป.1 แล้ว ไปได้ใช่ไหมค่ะ อยากทราบลายละเอียดจัง

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Dondaran Parenting Blog
โดย: kae+aoe วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:12:47:11 น.
  
ไปค่ายธรรมชาติแบบนี้เป็นประสพการณ์ที่ดีเลยค่ะ
เป็นการฝึกเด็กในหลายๆด้านด้วย
5 วัน 4 คืน เนี่ยนานพอสมควรเลยแหละ
แต่ถ้าเชื่อใจคุณครูและผู้ดูแล ก็ไม่น่าห่วงค่ะ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:13:33:11 น.
  
ตามมาอ่านต่อค่ะ
เป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่ลูกได้รับนะคะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:15:24:21 น.
  
กรี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ มากรี๊ดก่อนค่าาา
คุณเกศสอนลูกดีจริง ๆ ค่ะ ประทับใจท่อนนี้มาก ๆ

สิ่งที่พ่อแม่ภูมิใจที่สุดคือ หนูคิดเอง ทำเอง แต่ถ้าจะทำได้สวยและดีด้วยก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก แต่ก็อย่าไปกลัว ถ้าหนูมีความพยายามและทำไปเรื่อยๆ หนูจะทำได้และทำดีขึ้นไปเอง

เด็กจะมีกำลังใจมาก หากพ่อกับแม่ภูมิใจในตัวเค้านะคะ
โดย: Close To Heaven วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:16:15:18 น.
  
สุดยอดเลยค่ะ อยากให้มี บ้านเรียน แบบนี้ใกล้ ๆ ตัวบ้าง ที่เคยเห็นใน ภก. พอมีเด็กเยอะ ก็เปลี่ยนแนว ปรับตัวเองไปเป็น รร. เต็มรูปแบบซะงั้น

สาว ๆ ๆ ของคุณเกศโชคดีที่มีคุณแม่ (และคุณพ่อ) เก่ง ๆ แบบนี้ ....ชื่นชมจากใจค่ะ
โดย: Athita Tick IP: 115.31.154.226 วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:16:26:58 น.
  
แบ่งระดับแบบนี้ก็ดี แบบนี้เด็กไม่มากเกินไปทำให้ดูแลได้ดี

เห็นมีเลอะด้วย ตรงนี้ผมรู้สึกมันมีเหตุผลกว่าวิชาเรียนลูกเสือในส่วนของกิจกรรมเข้าค่าย

ลูกเสือเข้าค่ายเหมือนครูทำเพื่อสนองตัณหาตนเอง เอาสีเอาถ่านมาทาหน้าเด็กซึ่งสมัยนั้นผมมองว่าไม่เข้าท่า ตอนนี้ก็ยังมองว่าไม่เข้าท่า ถ้าสามารถทาให้ออกมาสวยๆ แบบที่นักมวยปล้ำทา แบบนี้ผมว่ามันจะดูเท่กว่าเยอะ

ก็ถือเป็นความทรงจำที่ดีๆ ของเด็กๆ นะครับ ยิ่งเละยิ่งมากประสบการณ์นะ

+
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 มิถุนายน 2558 เวลา:23:26:31 น.
  
เด็กๆในภาพดูมีชีวิตมากๆเลยครับ ไม่เหมือนโฆษณาโรงเรียนบางที่ เด็กดูเหมือนโดนบังคับให้ถ่ายรูป
ช่วงนี้อยู่แต่ในเมือง อยากออกไปสัมผัสธรรมชาติแบบนี้อีกครับ ขอตามพวกเด็กๆไปเข้าค่ายด้วยคนจิ
โดย: ชีริว วันที่: 19 มิถุนายน 2558 เวลา:0:38:48 น.
  
สวัสดีครับคุณเกศกลับมามีบล็อกใหม่แล้วนะครับ

อ่านแล้วรู้สึกดีพยักหน้าหงึกๆ อิอิ ^^

"ดอกไม้บานย่อมบานเมื่อถึงเวลา

เรามีหน้าที่ดูแลเลี้ยงดูจนถึงวันนั้น"

เด็กๆที่ถูกเลี้ยงมาอย่างเห็นคุณค่าของตัวเอง

มีความมั่นใจในตัวเอง มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี

จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นคนดีของสังคมได้

เป็นกำลังใจให้กับความมุ่งมั่นและทุ่มเทนะครับผม อิอิ ^^
โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 มิถุนายน 2558 เวลา:16:22:56 น.
  
5 วัน 4 คืน กลับการออกนอกบ้านครั้งแรกโดยไม่มีพ่อแม่

เก่งมากเลย...

ชอบวิธีการรายงานผลของครูผ่านไลน์ให้ผู้ปกครองทราบด้วยค่ะ เห็นแบบนี้แล้วสบายใจหน่อยเนาะ

เด็กๆ ดูมีความสุขทุกคนค่ะ ลั้ลลามาก เพื่อนๆ ทำอะไรได้ เค้าก็อยากทำได้เนาะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 มิถุนายน 2558 เวลา:20:32:28 น.
  
สวัสดีวันหยุดค่ะ คุณเกศ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
blueberryblossom Photo Blog ดู Blog
Dondaran Parenting Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 มิถุนายน 2558 เวลา:14:28:46 น.
  
สวัสดียามค่ำค่ะ
โดย: praewa cute วันที่: 22 มิถุนายน 2558 เวลา:18:58:03 น.
  
อยากให้ลูกเรียนโฮมสคูลมากๆ เลยค่ะ ปัญหาคือ ยังไม่มีแม้แต่แฟน ^^"
โดย: gluhp วันที่: 25 มิถุนายน 2558 เวลา:23:26:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dondaran
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]