เก็บมาฝากจากงาน Jamsai Love Moment ค่ะ

จั่วหัวเรื่องว่าเก็บมาฝาก แต่ก็เก็บอะไรมาได้ไม่มากนักหรอกค่ะ เพราะฝีมือการถ่ายรูปห่วยมาก รวมกับคุณภาพกล้องถ่ายรูปง่อยเงือก เอาน่ะ… ถึงฝืมือไม่ดี อุปกรณ์ไม่เด่น แต่ความตั้งใจเต็มเปี่ยมนะคะ

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 มีนาคม 2552) ฉันไปงานสัปดาห์หนังสือมาค่ะ ตามที่นัดกับน้องๆที่มารับของรางวัลจากการคืนกำไรครั้งที่ 1 ค่ะ

ไปถึงงานประมาณ 11 โมงนิดหน่อย พอไปถึงก็เดินหาบูธแจ่มใสสักหน่อย คราวนี้อยู่ด้านนอกบริเวณ Main Foyer บูธ X12 ค่ะ โอ้ว…คนมากมาย ตั้งอกตั้งใจซื้อหนังสือกันอย่างเป็นระเบียบค่ะ น่ารักมากๆ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้หรอกนะคะ ยังเขินอยู่ค่ะ ไม่กล้าดึงกล้องออกมาถ่ายรูป

ดูบูธแจ่มใสแบบปลื้มๆ หุหุ…ขอใบสั่งซื้อมาดูด้วยค่ะ ต๊าย…’สาปอสูรวุ่นรัก’ ขึ้นป้ายว่า ‘Best Seller’ ด้วยเน้อ ใครยังไม่ได้ซื้อ รีบไปซื้อด่วนนะคะ เดี๋ยวหนังสือหมดแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะคะ (โฆษณาขายของอีกแล้ว อิอิ)

ยืนเก้ๆกังๆได้แป๊บนึง ก็เดินไปห้อง Auditorium เพื่อไปงาน Jamsai Love Moment ค่ะ เพราะคิดว่าน้องๆคงอยู่กันแถวๆนั้นแหละ

ไปถึงหน้างานเพียงแค่โชว์หนังสือของสำนักพิมพ์ไหนก็ได้ ก็จะได้รับหนังสือทดลองอ่าน ‘บันทึกคุณหญิงไอรีน เล่ม 1’ กับ ‘ราตรีกลางตะวัน’ เป็นแบบ Two in one ค่ะ ดีว่าพลิกดูอีกด้านก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นหน้าแตก เพราะโวยวายจะขอทั้งสองเล่ม

นอกจากนี้ยังจะได้รับโปสการ์ดกับที่คั่นชุดพิเศษด้วยค่ะ เป็นแผ่นยาวติดกัน แต่ดึงแยกออกจากกันได้ ช่วงเช้าเป็นรูปบ้านฝรั่งสวยๆ หน้าปก DOL



ส่วนช่วงบ่ายเป็นรูปบ้านเก่าๆ เก๋ๆ ของหนังสือพีเรียดที่ออกช่วงนี้ค่ะ มีรูปมาโชว์ด้วยเน้อ เอาไว้โอกาสเหมาะๆ ฉันจะเอามาแจกในบล็อกนะคะ



เข้าไปถึงในงานกำลังสนุกกันอยู่เชียวค่ะ สามนักเขียนแนว DOL อัญชรีย์ ฌามิวอาห์ และภัสรสา (มีน้องคนอ่านเรียกว่าภัสรา…ซะงั้น) กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ค่ะ

กองบ.ก. แจ่มใสก็น่ารักมากๆค่ะ หาน้ำ กาแฟ ขนมมาเลี้ยงฉันเพียบ ก็เปรมไปสิคะ หุหุ กินฟรีรอบแรก

หลังจากนั้นก็เป็นการเล่นเกมส์ชิงของรางวัลค่ะ น้องๆนักอ่านชี้ให้ฉันดูของรางวัล กรี๊ด…นาฬิกาสาปอสูรวุ่นรักน่ารักสุดๆ อยากได้อ่ะ ไปทำหน้าละห้อยใส่ทีมงานแจ่มใส ซึ่งก็ยืนยันว่าพี่มีสิทธิ์ได้ค่ะ แต่ต้องเล่นเกมส์นะคะ เดี๋ยวนาฬิกาจะแจกในช่วงบ่าย



(รูปนาฬิกามัวซัวหน่อยนะคะ ฝืมือแย่ก็อย่างนี้แหละ)

มารู้ทีหลังว่าน้องนีน่าได้ไปค่ะ (คุณน้องมาเยาะเย้ย เอ๊ย…บอกเล่าฝากในบอร์ดของศุวิลาที่แจ่มใสค่ะ) ยินดีด้วยจริงๆค่ะ แหม…อยากได้จังเลยอ่ะ น้องนีน่ามีเล่นเกมส์ชิงนาฬิกาสาปอสูรวุ่นรักมั้ยคะ พี่จะได้ไปเล่นด้วย

ฉันก็เลยเก็บตกรูปน้องๆที่ได้รางวัล นี่ค่ะโฉมหน้าคนเก่งค่ะ รางวัลมีทั้งหนั้งสือ และของพรีเมี่ยม แจ่มใสขนมาแจกแบบอยากให้คนอ่านกำไรกันเลยล่ะค่ะ



อีกรูป



และอีกรูป



ส่วนรูปนี้ ภูมิใจเสนอมากค่ะ นี่แหละ ความตั้งใจสุดๆของน้องๆ มีทั้งเปิดคู่มือ โทรศัพท์ถามเพื่อน แล้วดูสิคะ ยกมือแบบมั่นใจมาก ตอบคำถามในห้องเรียนยังไม่มุ่งมั่นเท่านี้เลยค่ะ



ฉันก็ไปเล่นเกมส์กับเขาด้วยนะคะ (ด้วยความตั้งใจว่าถ้าได้รางวัลจะเอามาแจกในบล็อกค่ะ) แต่…ทีมงานแจ่มใสขำกลิ้ง บอกฉันว่า “พี่พลคะ พี่ยกมือได้ช้ามากค่ะ”

อายจังค่ะ การตอบสนองต่อสิ่งเร้าถูกทำลายไปกับการเวลา น้องๆยกกันไปเสร็จแล้ว ฉันเพิ่งค่อยๆยกมืออวบๆขึ้น เอ่อ…ช้าที่สุดเลยค่ะ

เหอะ…เห็นอย่างนี้ก็เถอะ สมัยฉันยังเรียนมัธยมปลายอยู่ (โปรดอย่าถามว่าเมื่อกี่ปีมาแล้ว) ฉันเป็นตัวแทนโรงเรียนไปตอบปัญหาภาษาอังกฤษของบริษัทเชลล์ด้วยค่ะ ตอนนั้นฉันกดปุ่มได้เร็วมาก จนชนะรอบแรกแบบไม่ต้องลุ้น ส่วนรอบต่อมา…แพ้ค่ะ เพราะกดเร็ว ตอบเร็ว แต่ผิด…แย่อ่ะ ตอบผิดติดลบ สรุปว่าทีมฉันตอบถูกเยอะกว่าคู่แข่ง แต่ตอบผิดเสียจนถูกหักคะแนนแพ้ไปเลย…แย่จัง

อ้าว…นอกเรื่องไปเสียไกล กลับเข้าเรื่องมาใหม่ แต่มีอยู่เกมส์นึง พอจะเล่นไหวค่ะ เป็นเกมส์ต่อคำพังเพยที่มีสัตว์อยู่ด้วย ถึงฉันจะไม่ชนะในเกมส์นี้ แต่คำตอบของฉันเนี่ย เจ๋งสุดๆ จนน่าจะให้รางวัลพิเศษ (คิดเอาเอง) คำพังเพยของฉันมีว่า ‘วัวพันหลัก รักพันใจ’ เรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นค่ะ ช่วยกันทำมาหากินสุดๆ เนอะอุรัสยาเนอะ

จบงานช่วงเช้า ทีมงานก็น่ารักอีกค่ะ ชวนทานข้าวด้วย ฉันก็อิดออด แหม…เขินอ่ะ มาเที่ยวเล่นแท้ๆ แต่สุดท้ายก็กินค่ะ…ฟรีอีกรอบ ซึ่งเป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะข้าวกล่องอร่อยค่ะ เป็นปลาผัดกับหัวหอม มีไข่ดาวแถมให้ด้วย ดีที่มีข้าวให้ทานนะคะ เพราะให้ออกไปแย่งซื้ออาหารเอง ก็คงจะลำบากอยู่ไม่น้อย ถ้าไปอีกแวะไปทานข้าวฟรีอีกดีกว่า…เย้ย พูดเล่นค่ะ

ช่วงบ่ายฉันก็เข้ามาในงานอีกรอบค่ะ แต่ไม่ได้อยู่เล่นเกมส์ด้วยหรอกนะคะ รู้ตัวแล้วว่าไม่มีหวัง ได้คุยกับเพื่อนนักเขียน และมอบของให้น้องนีน่าและน้องก้อยแล้ว ก็ถือว่าภารกิจในวันนี้เสร็จสิ้นค่ะ อ้อ…ได้แจกโปสการ์ดกับที่คั่นหนังสือให้น้องๆไปได้หลายคนเหมือนกัน

เหอะ…แต่ภารกิจเดินดูหนังสือในงานน่ะ แทบจะไม่ได้ทำเลยค่ะ เพราะคนเยอะมากๆ ซื้อหนังสือได้แค่ 3 เล่มจาก 2 บูธก็ไม่ไหวแล้ว เผ่นกลับบ้าน (ที่จริงไปเดินเล่นในห้างต่อ) ไปเลยค่ะ

หมดแล้วค่ะ เก็บตกมาได้แค่นี้เอง ใครยังไม่ได้ไปงาน Jamsai Love Moment รีบหาโอกาสไปกันให้ได้นะคะ เพราะของรางวัลแจกเยอะมากเลยค่ะ แถมยังมีมุมให้อ่านหนังสือฟรีกันแบบชิลๆด้วยค่ะ ถ้าไม่หวังอะไรมาก แค่เข้าไปดื่มน้ำฟรี กับนั่งพักขาสักหน่อย ก็ยังคุ้มเลยค่ะ

Create Date : 30 มีนาคม 2552		6 comments
Last Update : 30 มีนาคม 2552 23:41:16 น.
Counter : 1278 Pageviews.
Share Tweet