ลูกช้างขึ้นดอย ปี51
ปีสุดท้ายก็ไปไหว้พระธาตุ ไปถ่ายรูปตระกูล ไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ไปเจอพี่ที่จบไปแล้ว และเดินลงดอยกับเพื่อนๆ (ไปตามความเชื่อ ที่บอกว่าปีสี่ต้องเดินลงดอย ไม่ลงไม่จบ แต่ใครๆก็บอกว่าไม่จริง)
..
ตื่นตั้งแต่หกโมงกว่าๆ มาอาบน้ำสระผม และเตรียมตัวไปเดิน เตรียมของเสร็จ ก็ออกจากหอแปดโมงไปกินข้าว และก็ไปจอดรถทิ้งไว้ในมอ แถวๆอ่างแก้ว เพราะใกล้หน้ามอสุดๆแล้ว (ช่วงเช้าถนนปิด ไปไม่ได้)
จากนั้นก็เดินจากหน้ามอไปขึ้นรถแดง ปีสี่อย่างพวกเราต้องขึ้นรถอยู่แล้ว เดินไม่ไหวจริงๆ เพราะ พอไม่มีแรงกดดันจากพวกพี่ๆเหมือนปี 1 พวกเราก็ไม่มีแรงให้เดินขึ้นได้เหมือนตอนนั้น
ไปหยุดที่แรก ตรงที่พักครึ่งทาง คือ ไฟป่า (เรียกสั้นๆว่าไฟป่า แต่เรียกยาวๆว่าอะไรก็ไม่รุ้) กดออดจะลงตั้งแต่หน้าไฟป่า แต่รถไม่ยอมจอดให้ บอกว่า จอดไม่ได้ ต้องไปจอดโค้งหน้า ซึ่งโค้งหน้าก็คือ แถวยาวเหยียดของวิศวะ ขอบอกว่า ยาวจริงๆ หมดไปโค้งนึงเต็มๆ พวกเราก็ต้องจอดหน้าขบวนเสลี่ยงของคณะวิศวะ (ก็คือหน้าสุดของขบวนขึ้นดอย) แล้วก็เดินกลับมาจุดพักที่ไฟป่าอีกที
โอ้วว ไม่อยากจะเชื่อ คณะนี้ผู้ชายเยอะจริงๆ
พักรอ จนน้องๆคณะเราเดินมาถึง พร้อมพี่ๆ พอดีคณะขึ้นมาเป็นคณะต้นๆ ก็เลยถึงเร็วหน่อย (แถมยังโดนคณะอื่นแซงอีกแน่ะ ปกติมีแต่แซงเค้านะจ๊ะ น้องๆ)
พอน้องคณะมา พวกเราก็ไปต่อ ขึ้นรถแดงไปจนถึงยอดดอย ไปรอดูที่โค้งสปิริต ก็รอดูจนถึงคณะตัวเอง ก็เดินขึ้นมาที่พักมาพักกินข้าวกับน้องๆและเพื่อนๆ ถ่ายรูปตระกูล ถ่ายรูปเพื่อนๆกันก็ตรงนี้แหล่ะ
อ้อ ระหว่างรอดูคณะวิ่งขึ้นโค้งสปิริต เจอสาวเกาหลีสองคน เพื่อนเราไปเจอมาเค้าก็เลยมายืนดูกับเพื่อนเรา เราก็ไปคุยกับเค้า บอกว่า ชอบซีรีส์เกาหลีมากเลย แต่เค้าฟังไม่เข้าใจ เราก็เลยยกตัวอย่างไปว่า คอฟฟี่ ปริ้น กงยู เค้าก็บอก โอ้ๆๆ กงยูสูงมาก หล่อมาก เราก็บอก ใช่ๆ เราชอบหุ่นเค้ามากๆเลย ฮ่าๆ เค้าก็บอก ใช่ๆ ชอบเหมือนกัน ทำนองนี้
คุยยังไม่จบ คณะแรกวิ่งขึ้นมา เลยผละจากเค้าแล้วรีบไปอัดคลิปเก็บ ยังคุยกันไม่จบเลย เสียดายจริงๆ (ก็ยังไมได้พูดถึง ดงบัง เลย แฮะๆ)
โค้งสปิริต คือ โค้งสุดท้ายก่อนถึง ตั้งแต่ตรงคำว่ายินดีตอนรับ ขึ้นไปเส้นข้างบน เป็นโค้งที่สูงและยาวมาก เคยเป็นหน้ามืดกับโค้งนี้มาแล้ว ถ้าไม่มีคนฉุดช่วยไว้นี่คงโดนเหยียบตายไปแล้วล่ะ
แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ ... คนเยอะมาก เลยไม่ได้ทำอะไรเลย ถ่ายรูปก็ไม่ได้ถ่าย ฮะๆ
หลังจากนั้นก็กลับลงมา แล้วก็เดินลงดอย ใช้เวลาไป สามชั่วโมงครึ่ง ซึ่งสำหรับเราแล้ว ถือว่าเร็วมาก เพราะว่า กะไว้ซักห้าชั่วโมงถึงอะไรแบบนี้
ระหว่างทางก็เจอเพื่อนเป็นระยะๆ พักตลอดทุก 1-2 กิโล จริงๆแล้วฟังดูเหมือน 1 กิโลมันนิดเดียว แต่บนดอย 1 กิโลมันไกลมากๆ ดูเหมือนไกลกว่าปกติเยอะ
โชคดีที่อากาศไม่ร้อน แดดไม่แรง แถมยังมีลมเป็นบางช่วง ทำให้เดินสบายหน่อย แต่ที่แย่คือ ไม่มีน้ำขายเลยเกือบตลอดทาง มาเจอร้านขายน้ำก็เกือบจะตีนดอยแล้ว
เหนื่อยมากถึงมากที่สุดในชีวิตอีกครั้ง แต่ก็ยังดีกว่าตอนปี 1 ตอนนั้นเจ็บขามาก แต่ก็อุตส่าห์ไม่ยอมนั่งรถ เดินมาถึงเป็นคนสุดท้ายของคณะ ลากกันมากับเพื่อนสามคน
กลับถึงหอ นี่แทบจะเดินไม่ได้กันเลยทีเดียว วันจันทร์ไปเรียน ขึ้นบันไดคงทรมานน่าดู เห้ออ
เห็นดอยสุเทพแล้วนึกทุกทีว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอ่อนแอ ขี้โรค อย่างเราจะเคยวิ่งขึ้น และเดินลงมาแล้ว ภูมิใจกับตัวเองจริงๆ ฮ่าๆ
ปล, จริงๆมีรูปเยอะนะ แต่ขี้เกียจย่อรูปอ่ะ
Create Date : 06 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2551 14:16:54 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1156 Pageviews. |
|
|
|
โดย: yosita_yoyo วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:13:20 น. |
|
|
|
โดย: boatboat วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:59:35 น. |
|
|
|
โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:00:21 น. |
|
|
|
โดย: VELEZ วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:07:09 น. |
|
|
|
โดย: pumpond วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:33:59 น. |
|
|
|
โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:45:53 น. |
|
|
|
โดย: nssr@2527 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:28:42 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:40:35 น. |
|
|
|
โดย: numainew วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:0:29:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|