1 ปีผ่านไป กับงานแรกในชิวิต
ไม่น่าเชื่อว่า เราไม่ยอมอัพบล็อกหน้านี้เลย ตั้งแต่ได้ทำงาน มันเป็นอะไรที่เหนื่อยจริงๆ แล้วก็ไม่มีเวลาด้วย คือ.. อันนี้ก็ไม่จริงเท่าไหร่ เพราะว่า จริงๆมันมีเวลาว่าง แต่ทำงานเสร็จก็อยากจะพักผ่อน ไม่มีอารมณ์มาอัพไดอารี่เลย เสียใจอยู่เหมือนกันที่ทิ้งไว้นานขนาดนี้ งั้นเล่ารวมๆเลยก็แล้วกัน..
.
1 ปีที่ผ่านมา เราได้อะไรเยอะมากจากงานนี้ งานจริงๆ งานแรกในชีวิต กับการเป็นพนักงานออฟฟิศ
เราสมัครไปเป็น เลขานายฝรั่ง ซึ่งการเป็นเลขาก็ทำให้เราเข้าใจตัวเองว่า เลขไม่ใช่ทางเราเลย ไม่ชอบจริงๆที่ต้องถูกใช้ไปทำนู่นทำนี่ให้เจ้านาย แต่เราก็ทำด้วยความเต็มใจนะ เพราะมันเป็นงาน แค่ความรู้สึกมันขัดแย้งกันนิดหน่อย ทำเลขาไปได้3 เดือน ก็โดนย้ายมาเป็น HR
พอได้มาเป็น HR แล้วก็แอบเศร้า สงสัยอยู่ว่า เราทำงานไม่ดีหรือเปล่าเค้าถึงย้าย เพราะถึงจะแค่ไปซื้อกาแฟ แต่เราก็ตั้งใจทำนะ ตอนนั่งรถกับเจ้านาย ได้คุยกับเค้า แล้วเค้าก็บอกว่า เค้าเห็นว่าเราทำได้มากกว่านั้น เค้าเลยให้ย้ายไปทำงานที่มันสามารถใช้ศักยภาพของเราได้อย่างเต็มที่ เราก็รู้สึกขอบคุณเค้า เพราะมันเป็นสิ่งที่เราเรียนมา แล้วเราก็หวังว่าจะได้ทำงานนี้ในอนาคตเหมือนกัน (แต่เราก็ยังแอบสงสัยว่า หรือเจ้านายแค่พูดให้สบายใจ)
แต่เป็น HR เป็นอะไรที่แตกต่าง ... ก็สนุกไปอีกแบบ ถึงจะเป็นงานนั่งบนโต๊ะตลอด ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนตอนเป็นเลขา แต่งานนี้มีอะไรให้ทำตลอดเลย เพราะว่า เราเป็นรุ่นบุกเบิก บริษัทเพิ่่งเปิดตอนเราเข้างาน ทุกอย่างก็ต้องสร้างขึ้นมาเองพร้อมๆกันกับบริษัท พอได้มาทำ HR จริงๆ มันก็ต่างจากตอนเรียนค่อนข้างเยอะ ตอนเรียน ไม่ต้องเข้าใจจริงๆ อ่าน+ท่อง ทฤษฎีไปสอบ ก็สอบได้ แต่พอทำงานจริงๆ มันต้องปรับเอาทฤษฎีมาใช้กับงานด้วย อย่างกฏหมายแรงงาน เราแทบจะท่องโดยไม่ต้องดูได้ ตอนเรียน (ช่วงสอบ) แต่มาตอนนี้ ตอนที่เราต้องใช้มันจริงๆ กลับทำให้เรารู้ว่า มันพลิกได้ตลอด แล้วก็ขึ้นอยู่กับ เคส ที่เจอด้วย
เจ้านายทำให้เราได้เปิดหูเปิดตา และเปิดโลกกว้างอีกด้วย เราต้องขอบคุณเจ้านายมากๆ ที่เชิญเราไปเยี่ยมชมบริษัทแม่และไปร่วมงานเลี้ยงคริสมาสที่ Wales, UK
ที่นี่เราได้เจอเพื่อนร่วมงานชาวเวลส์ เราได้ไปดูว่า เค้าทำงานกันยังไง เราได้เห็นว่า มันช่างแตกต่างจากที่ไทยเหลือเกิน และที่เห็นได้ชัด ยกตัวอย่างได้เลยคือ เรื่อง Facebook, เราไม่เคยเห็นใครในออฟฟิศที่อังกฤษเปิด Facebook ได้มากเท่าที่ไทยเลย เค้าทำงานกันจริงๆ พอกลับบ้านไปเค้าถึงจะเล่น ไปเจอจังๆแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกเลยว่า คนไทยเสพติด Social Networking กันมากเกินไปจริงๆ
อันนี้เราไม่ได้เทิดทูนต่างชาติหรอกนะ เราก็มองเห็นว่า ฝรั่งที่ทำงานกับเราเค้ามีข้อเสียตรงไหน และตรงไหนที่เราไม่ควรจะเอามาทำตาม
.
บทสรุป
ผ่านไป 1 ปี เรามั่นใจว่า เราว่าเราเปลี่ยนไปในทางที่ดี และก็โตขึ้นเยอะเลยล่ะ หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหลายๆอย่าง ต้องรับมือกับมันด้วยตัวเอง ต้องเรียนรู้อะไรมากมาย แต่ดีจริงๆที่มีเพื่อนร่วมงาน กับ เจ้านาย คอยช่วยเหลือ เรารู้สึกซึ้งใจจริงๆ ไม่งั้นเราก็คงไม่ผ่านมาได้ขนาดนี้
แต่ว่า... ณ จุดๆนี้ เราก็ลาออกจากงานเรียบร้อยแล้ว ทำงานครบ 1 ปีเต็ม รู้สึกผิดกับเจ้านายเหมือนกัน แต่เนื่องจากปัญหาหลายๆอย่างที่ทำงาน บวกกับมาคิดๆดู งานที่นี่มันไม่ใช่งานที่มีอนาคต เราเลยคิดว่าจะกลับมาโฟกัสเรื่องเรียนดีกว่า
วันนี้ก็เลยไปปรึกษาเอเจนซี่เรื่องเรียนโทที่อังกฤษมา ว่ามีที่ไหนน่าสนใจ มีทุนอะไรบ้างตอนนี้ แล้วก็ตัดสินใจเรียน IELTS ทบทวนอีกสักหน่อย ก่อนไปสอบจริง (เคยเรียนไปบ้างแล้วตอนอยู่ ออส)
อาทิตย์หน้าเริ่มเรียนจริงๆ แล้ว... ก็ลองดูว่าจะเป็นไงต่อไป
Create Date : 07 มีนาคม 2554 |
Last Update : 7 มีนาคม 2554 18:41:44 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1070 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:20:29:01 น. |
|
|
|
โดย: vootb วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:20:34:39 น. |
|
|
|
โดย: Navee (chanavee's ) วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:20:37:53 น. |
|
|
|
โดย: Yee (sizeXXL ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:3:12:23 น. |
|
|
|
โดย: secondcar (loveyoupantip ) วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:18:29:21 น. |
|
|
|
โดย: jodtabean (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:1:34:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|