<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
16 มิถุนายน 2549
 
 
แมวนางกวักโชคลาภ



แมวนางกวัก ( MANEKINEKO )

" มาเนคี เนะโกะ " ( MANEKI NEKO )
นั้นคืออะไร ? และหมายถึงอะไร ?


Can You Explain the Japanese " LUCKY CAT ? "

เรามาทำความรู้จักเรื่องและตำนานของแมวที่กำลังนั่งทำท่ากวักมืออยู่นั้นเลยดีกว่า





แมวตัวเมียตัวที่กำลังทำท่ากวักมือเหมือนเรียกแขกหรือผู้ที่จะมาเยือนตัวนี้ ของคนญี่ปุ่นนั้นได้ตั้งชื่อให้ว่า
" มาเนคี เนะโกะ" ( MANEKI NEKO ) แปลชื่อตามศัพท์ ก็จะได้ออกมาว่า " มาเนคี " คือกวัก หรือเรียกโชค "
เนะโกะ " คือคำ เรียกชื่อสัตว์เลี้ยงพันธุ์หนึ่งคือ แมว


เรื่องราวของแมวซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งนี้นั้น ได้เล่ากันว่า แมวได้เข้ามามีบทบาทและเป็นสัตว์เลี้ยงของชาวญี่ปุ่น โดยการได้ถูกนำข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศจีนผืนแผ่นดินใหญ่ มานานมากกว่า 1000 ปีมาแล้ว และยัง สันนิษฐานว่าการที่แมวได้ถูกเรียกจนกระทั่งได้กลายมาเป็นสัญญาลักษณ์และมีชื่อเสียงว่าเป็น " LUCKY CAT ? " ของ คนญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้นั้น คงจะมีเหตุที่เกี่ยวพันตามมาพร้อมด้วยกับตัวแมว ตามความเชื่อถือของคนจีนที่มีเขียน อยู่ในสุภาษิตบทหนึ่งที่ว่า " neko kao aratte mimi o kotsureba sunawaji kekkuyobu " ( เมื่อแมวทำท่าล้างหน้า ถูหู เมื่อ ไหร่เมื่อนั้นแขกก็จะมาเยือน ) ที่คนญี่ปุ่นได้รับฟังและกล่าวถึงความสำคัญของแมวตอนสมัยที่แมวได้มาถึงญี่ปุ่นในตอนสมัยแรก ๆ...


และยังมีเรื่องที่ได้ถูกเล่าขานมาจากวัด " โชเน็นจิ " เมืองเกียวโตอีกอย่างมาว่า

แมวสีขาว (สามารถทำให้โชคชะตาดี )

แมวสีดำ (จะช่วยป้องกันจากโรคร้าย)และยังกล่าวไว้ว่า

แมวสีทอง ( จะทำให้ร่ำรวยเงินทอง )

แมวที่ยกขาเท้าหน้า ข้างขวาขึ้นบน (จะเรียกโชคและความสุข )

แมวที่ยกขาเท้าหน้าข้างซ้ายขึ้นบนนั้น ( จะเรียกแขกและผู้
มาเยือน ขายอะไร ก็จะขายดิบ ขายดี )


ได้มีเรื่องเล่าถึงความเป็นมาของ " มาเนคี เนะโกะ "
(MANEKI NEKO)กันอยู่หลายอย่างตามแต่ละสมัยที่เกิดขึ้น


เรื่องที่เล่าถึงกำเนิดของ " มาเนคี เนะโกะ " ( MANEKI NEKO ) ที่เก่าแก่และดั้งเดิมที่สุดนั้น ก็เห็นว่าจะมีอยู่ เรื่องเดียวที่มีชื่อเสียงมากกว่าเรื่องอื่น ๆ จนเกือบที่จะพูดได้ว่าเป็นเรื่องจริง ๆ เรื่องแท้ ๆ เลยทีเดียวนั้น ก็มีอยู่ว่านานมาแล้วที่วัด " โกโตกุจิ " ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่เล็ก ๆ ไม่มีชื่อเสียงและมีบทบาทสำคัญอะไรมากมายในสมัยนั้น ตั้งอยู่ในตำบล " เซตากายะ " ที่วัดนี้มีหลวงพ่อผู้ยากจนได้อาศัยอยู่กับแมวสีขาวปลอดตัวหนึ่ง และถึงแม้ว่าจะยากจนข้าวปลาอาหารที่มีไว้สำหรับเป็นอาหารของหลวงพ่อเองนั้นก็น้อยนิดจนเรียกว่าไม่ค่อยจะพอ แต่ด้วยความที่ท่านนั้นทั้งรักและเอ็นดูแมวตัวนี้มาก ท่านจึงมักจะแบ่งอาหารของท่านที่มีอยู่น้อยนิดนั้น ให้แมวได้กินทุกครั้งไม่เคยให้ต้องอดและหิวด้วยตลอดมา...และในทุกวันและทุกครั้งที่ได้ให้อาหารกับแมว ท่านก็จะเอามือลูบหัวของมันไปแล้วพูดกับมันว่า " ดูซิ..หลวงพ่อ ละก็เอ็นดูและสงสารเจ้ามากมายขนาด นี้ทีเดียวนะ เจ้าช่วยตอบแทนด้วยการนำสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาให้บ้างสิ " ท่านจะพูดคุยกับมันเหมือนเป็นญาติมิตรที่สนิทสนมกัน มาช้านานเลยทีเดียว


แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นในฤดูร้อนของวันหนึ่งเข้า วันนั้นหลวงพ่อท่านได้เดินไปที่หน้าวัด แล้วท่านก็พลัน ได้เห็นว่าได้มี " ทาก้า โทรี " ( ซามูไรผู้ล่าสัตว์ด้วยนกอินทรีย์ ) มายืนเมียงมองอยู่ที่หน้าวัดกับพวกบริวารกลุ่มหนึ่ง และเมื่อ " ทาก้า โทรี " กับบริวารกลุ่มนั้นได้มองมาเห็นหลวงพ่อเข้าก็เดินเข้ามาที่ใกล้ ๆ แล้วพูดบอกกับหลวงพ่อว่า " เมื่อสักครู่นี้ ตอนที่พวกเราได้กำลังที่จะเดินผ่านมาทางหน้าวัดนี้อยู่พอดีนั้น ได้มองเห็นแมวสีขาวตัวหนึ่ง ทำท่ากวักมือเรียกหลายครั้งหลายหน เหมือน อย่างกับจะเรียกให้เขามาในวัด ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว พวกเราให้เป็นสงสัยกันอย่างมากว่ามีอะไรที่ในวัดนะ จึงได้มายืนมองดูกันอยู่อย่างที่ หลวงพ่อได้เห็นนี่แหละ แต่ว่าไหนก็หยุดลงตรงนี้แล้ว ก็ขออนุญาติเข้าไปนั้งพักให้หายเหนื่อยในวัดสักหน่อยได้ไหม หลวงพ่อ " หลวงพ่อเมื่อได้ฟังดังนั้นก็กล่าวอนุญาติและได้เชิญผู้คนเหล่านั้นให้เข้าไปข้างใน และขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปนั้น ก็เกิดความปรวนแปลของดินฟ้าอากาศขึ้นมาอย่างกระทันหัน ท้องฟ้ามืดมนดำมืดไปหมด แล้วฝนก็ได้ตกลงมาอย่างหนักอย่างไม่มีเคล้ามาก่อนเลยว่าตก ลมนั้นก็เกิดโฮมพัดกระหน่ำขึ้นมาอย่างแรง และอยู่ ๆ พลันฟ้าก็ได้ผ่าลงมาที่ตรงหน้าวัดนั้น เสียงสนั่นหวั่นๆไหวไปหมด " ทาก้า โทรี " ผู้นั้นให้เกิดความปิติและดีใจเป็นอย่างมาก และได้พูดขึ้นว่า " เป็นเพราะแมวได้กวักมือเรียกให้เข้ามาหลบฝน เลยพ้นเคราะห์จากการต้องถูกฟ้าผ่าตายหมดทั้งขบวนมาได้ พวกเราโชคดีอย่างมากที่เชื่อคำเชิญของแมวตัวนั้น " แล้ว " ทาก้า โทรี " ผู้นั้นก็ได้แนะนำตัวว่า เขานั้นมีนามว่า " อี่อี่ นาโอตากะ " เป็นโตโน่ผู้ร่ำรวยของเมืองคิโคแนะเลยทีเดียว จึงด้วยการเป็นเช่นนี้...ท่านซามูไรที่เป็นถึงโตโน่ซามะผู้นั้น จึงขออนุญาติหลวงพ่อขอเป็นผู้อุปถัมและขอเกื้อกูลวัดแห่งนั้น ตั้งแต่บัดนั้นมาเลยทีเดียว ส่วนแมวตัวนั้น เมื่อมันอายุมากขึ้นก็ได้ตายลงไป หลวงพอท่านก็ได้สร้าง " โอฮากะ " ( หลุมศพ ) บรรจุมันไว้อย่างดี จารึก ชื่อไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่า แมวตัวนี้เป็นแมวที่สามารถจะบรรดาลเปลี่ยนโชคชะตาให้ได้ จนมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้





Create Date : 16 มิถุนายน 2549
Last Update : 20 มิถุนายน 2549 15:11:08 น. 0 comments
Counter : 575 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ศศินันท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




[Add ศศินันท์'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com