อีกมุมมองหนึ่งของประเทศจีน (2)

วันนี้ลองมาดูอีกด้านของประเทศจีน จริงๆแล้วจีนมีความสามารถในการสร้างความเจริญทางด้านวัตถุได้มากมาย ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษที่มอบความยิ่งใหญ่ไว้ในด้านสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างให้เราได้ดูได้ชมกันจนปัจจุบันนี้ นั่นคือกำแพงเมืองจีน มาจนถึงยุคปัจจุบัน จีนสามารถส่งดาวเทียมของตัวเองขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ ทัดเทียมรัสเซีย ลแะสหรัฐอเมริกา การจัดกีฬาระดับโลก เช่นโอลิมปิกเกมส์ ที่ปักกิ่งเมื่อปี 2008 และการเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo ในปีนี้ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ สิ่งก่อสร้างต่างๆ สามารถเนรมิตรขึ้นมาได้ ใช้เทคโนโลยี่ทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล้วนใช้ความสามารถของคนจีนภายในประเทศ และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่ง นักกีฬาของจีนทุกชนิดทุกประเภทนั้นสามารถที่จะพัฒนาเพื่อเป็นนักกีฬาแข่งในระดับโลกได้ .....แต่จีนนั้นมุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านวัตถุมากจนลืมบางอย่าง ที่สำคัญไป ลืมเรื่องของการพัฒนาทางด้านจิตใจ สร้างจิตสำนึกให้กับส่วนรวมของสังคม ลืมเรื่องระเบียบของสังคมไป สิ่งที่ผมจะยกตัวอย่างต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ประสบพบด้วยตัวเอง ที่เห็นกันอยู่ประจำ

... ไม่มีความเกรงใจ คนจีนนั้นส่วนมากมักจะพูดเสียงดัง พูดเร็ว และพูดำได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณจะนั่งในรถเมล รถไฟฟ้า อยู่ในลิฟท์ อยู่ในสำนักงาน หรือที่สาธารณะต่างๆ เขาสามารถที่จะตะแบงพูดเสียงดังๆ ได้ตลอดเวลา

... ไม่มีระเบียบ ในหลายๆเรื่องเช่นการลัดคิว ไม่ว่าคุณจะรอกดเงินจากตู้ ATM หรือรอชำระเงินในร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารอย่าง kfc หรือ mcdonald's เขาก้พร้อมที่จะแทรกคิวของเราได้ทันที ดังนั้นเราเอง แม้กระทั่งเรายืนโบกแท็กซี่จอดต่อหน้าเรา เขายังแทรกตัวเข้าไปนั่งในรถได้ก่อนเรา

... วินัยจราจร ไม่มีเอาซะเลยละ แท็กซี่สามารถจอดรถได้ทุกที่ๆมีผู้โดยสารโบก หรือเรียก ไม่เว้นแม้กระทั้งกลางทางแยก รถส่วนตัวจอดได้ทุกที่ตามใจผู้จอด จอดรอขวางทางเข้าออกซอย อาคารทั้งๆที่มีรถรอเข้าออกอาคารรอและติดกันเป็นแถวยาว กลับกรถกันได้ทุกที่ ทุเลนขอให้ไม่มีรั้วหรือเกาะกลางถนนกัน สามารถโยนขวดน้ำหรือขยะออกนอกรถได้ทันที เมื่อไม่ต้องการใช้มัน แต่เรื่องวินัยจราจรขอยกเว้นเว้นรถถเมล์ที่วิ่งโดยสารประจำทาง จอดทุก ไม่จอดรับ-ส่งนอกป้าย ไม่มีแถมป้าย

... ขยะ เป็นเรื่องที่ชินชาแล้วสำหรับผม เพราะทุกคนมีหน้าที่ทิ้งขยะลงบนพื้น ถังขยะตามถนนไม่เคยเต็ม เพราะเขาทิ้งลงบื้นถนน ทางเดิน วางไว้บนพุ่มไม้ ของทุกชนิดที่ไม่ใช้แล้วเขาจะโยนออกนอกร้าน รวมถึงเศษอาหารกล่องโฟมใส่อาหาร ถุงพลาสติก คนเดินเท้าต้องมีหน้าที่หลบเอาเอง
ผมเห็นภาพที่ คนเดินแปะสติกเกอร์เบอร์โทรของแหล่งเงินกู้นอกระบบ แล้วมีเจ้าหน้าอีกกลุ่มหนึ่งถืออุปกรณ์ (เกียงสำหรับโบกปูน) คนละอัน เคยแซะสติกเกอร์ออกจากพื้นทางเดิน ดูๆแล้วก็ขำ คนติดก็ติด เจ้าหน้าก้เดินแกะตามหลัง หน้าที่ใครหน้าที่มัน จริงๆแล้วผมว่าเจ้าหน้าที่หน้าจะใช้วิธการที่ดีกว่านี้อเพื่อป้องกันการกระทำแบบนี้ แต่เพื่อผมบอกว่า กลัวว่าเจ้าหน้าเหล่าเขาจะไม่มีงานทำ ต้องเดือดร้อนรัฐบาลต้องดูแลหรือหางานอื่นให้ทำอีก

... การสูบหรี่ เขาสูบกันได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งในร้านอาหาร ร้านตัดผม กว่าจะทานอาหารเสร็จ หรือตัดผมเสร็จก็เมาบุหรี่พอดีเลย บางคนมืออุ้มลูกน้อยปากคาบบุหรี่ เรื่องนี้ไม่มีการรณรงค์จากทางราชการเลย การโฆษณา การจำหน่ายบุหรี่ สามารถทำได้เต็มที่ ข้อกำหนด ข้อห้ามเรื่องการสูบ ข้อบ่งบอกถึงโทษหรือภัยก็ไม่มีให้เห็น
ผมเคยพาเพื่อนนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งกลับไปที่ไทย แล้วพาเข้าไปพักในโรงแรม ขณะที่ผมทำเรื่องเช็คอิน ห้องพักให้เขา เขาจุดบุหรี่สูบในล๊อบบี้ของโรงแรม เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ของโรงแรมต้องเชิญให้ออกไปสูบที่ข้างนอก เขาบอกว่า สามวันที่อยู่ กทม เป็นช่วงที่ทรมาฯที่สุด ครั้งต่อไปคงจะไม่มาอีกแล้ว เพราะสูบบุหรี่ที่ไหนก็ไม่ได้

...หวยและการพนัน ที่นี่มีหวยออนไลน์ ออกรายวัน มีมากถึง 4แบบทั้งของรัฐบาลกลางและของท้องถิ่น รวมถึงพนันฟุตบอลแบบออนไลน์ แต่ที่ที่ดูก็ไม่้เห็นจะเป็นการมอมเมาประชาชนของเขา เพราะเขาคุมการเล่นเพียงราคาเดียว คือใบละ 2หยวน ทุกมุมของถนน ทุกย่านจะมีร้านจำหน่ายหวยออนไลน์ ฟุตบอลออนไลน์แต่ดูปริมาณการเล่นก็ยังดูบางเบา หรือน้อยกว่าคนไทยในวันที่หวยออก ส่วนไพ่ นั้นเขาสามารถจัลกลุ่มกันเล่นได้ตามพื้นที่สาธารณะ ความจริงก็ถือว่าผิดกฏหมายแต่ก็เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาเห็นว่าไม่ได้มีเรื่องทะเลอะกันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องจับ ส่วนไพ่นกกระจอกนั้น เป็นที่นิมยมเล่นกันตามสถานที่ชุมชน ภัตราคาร หรือโรงแรมจะมีห้องสำหรับเล่นไพ่นกกระจอกไว้บริการลูกค้า

...การบ้วนหรือถุยน้ำลายลงบนพื้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งในร้านอาหาร เมื่อปีที่แล้วบริษัทของเราถึงกับให้พนักงานที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ให้ออกจากงาน เพราะการบ้วนน้ำลายลงบนพื้นของสำนักงาน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมากที่เราจะยอมรับได้

...ความแล้งน้ำใจของผู้ชาย เรื่องนี้เห็นได้จากการใช้บริการขนส่งสาธารณะ เช่นรถไฟฟ้า รถเมล์ ซึ่งในส่วนของผู้ใหบริการพยายามทำเพื่อให้เกิดการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น เด็ก คนชรา หรือสตรี จะเห็นจนชินตา หรือแทบทุกเที่ยวก็ว่าได้ ที่ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายลุกให้ คนชรา หรือเด็กนั่ง แทนที่จะเป็นฝ่ายชายมากกว่า และก็มีบ่อยครั้งที่กระเป๋ารถเมล์ต้องเดินมาขอร้องให้ผู้ชายลุกเพื่อให้สตรีที่ตั้งครรภืได้นั่ง
และที่เห็นแล้วนึกขำอยู่ในใจ หนุ่มสาวคู่หนึ่งควงกันขึ้นมาบนรถเมล์ มีที่นั่งว่างอยู่ที่เดียว ฝ่ายชายได้นั่ง ฝ่ายหนิงยืนและหิ้วของ ผมว่าถ้าเป็นหนุ่มสาวของไทยก็คงต้องเลิกกันตั้งแต่วันนั้นแล้วละ

ความจริงโดยส่วนตัวของคจีนเป็นคนน่ารัก มีไมตรี แต่ขาดเรื่องของการรับผิดชอบต่อส่วนรวม หากทางการจะรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง ผมว่าบ้านนี้เมืองนี้จะมีเสนห์ขึ้นมากเลย แต่ปัจจุบันเรื่องเหล่านี้เริ่มมีการปลุกฝังจากโรงเรียนให้กับเด็กรุ่นใหม่แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลเพียงใดเพราะเด็กจะได้รับอิทธิพลเกี่ยวกับพฤตกรรมจากทางบ้านมากกว่า

พักตอนนี้ไว้เท่านี้ก่อน เอาไว้มาเล่าต่อในครั้งต่อไปนะครับ

Create Date : 29 ธันวาคม 2553		1 comments
Last Update : 29 ธันวาคม 2553 17:41:51 น.
Counter : 937 Pageviews.
Share Tweet