ยุทธวิธีการบริหารจาก 8 กรณีศึกษา (เรื่องนี้คุณต้องอ่าน)

ยุทธวิธีการบริหารจาก 8 กรณีศึกษา






1.   จางเซียเหลียง ถือเป็นจอมพลคนสำคัญในรัฐบาลเจียงไคเช็ค ได้เปิดเผยเรื่องราวในชีวิตว่ามีผู้หญิงมาติดพันอยู่ 11 คน เขามีชู้อยู่คนหนึ่งแซ่จ้าว นางคนนี้สมสู่ติดพันกันตั่งแต่นางอายุ 16 ปี ในบริบทความสัมพันธ์ทางชู้สาว กล่าวกันว่าถ้าคนเราคบกัน 1 ปี ถือว่าเป็น”ชู้”  ถ้าคบกัน 3 ปีถือว่าเป็น “กิ๊ก”  แต่นี่จางเซียเหลียงคบหากับนางจ้าวอยู่ด้วยกันถึง 60 ปี และเมื่อจางเซียเหลียงมีอายุยืนถึง 100 ปี เรื่องนี้เลยกลายเป็นความรักอมตะ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า เรื่องหลายเรื่องไม่ได้ดูที่ทำหรือไม่ทำ แต่ดูที่ว่าท่านทำนานแค่ไหน
 
2.   ในต้นยุคสาธารณะรัฐประชาชนจีน มีโสเภณีเด่นดังอยู่นางหนึ่ง ทั้งรูปสวยและมีความรู้มากมายมีชื่อว่าหงษ์น้อย ในยุคนั้นถ้านางพัวพันกับชาวนาหรือกรรมกรก็คงถูกกวาดล้างอย่างไม่ไว้หน้า แต่นางเป็นชู้กับนายพลไช่เอ๋อ นางเลยมีชื่อจารีกไว้ในประวัติศาสตร์จีน ดังนั้นถ้าหากว่านางหงส์น้อยได้ไปคบกับประธานาธิบดี นางก็อาจจะได้เป็น First Lady ในประวัติศาสตร์ก็ได้ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า คุณจะทำอะไรไม่สำคัญ สำคัญว่าคุณทำกับใคร
 
3.   เกิดไฟไหม้ที่โรงอาบน้ำหญิง มีหญิงเปลือยกายล่อนจ้อนวิ่งหนีตายออกบนท้องถนนหลายคน ตาแก่คนหนึ่งเห็นเข้าก็ร้องตะโกนโห่ฮา ทำให้บรรดาหญิงเปลือยนึกขึ้นได้ต่างพยายามเอามือปกปิด แต่จุดล่อแหลมมีอยู่หลายจุด จึงต่างจ้าละหวั่นทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายตาแก่ก็ตะโกนบอกว่า “ปิดหน้าซิโว้ยก็เพราะข้างล่างมันเหมือนกันหมด” นิทานเรื่องนี้ให้แนวความคิดว่า ในความฉุกเฉินไม่อาจทำอะไรได้รอบคอบทั้งหมด ให้จับจุดสำคัญก็พอ
 
4.   สาวใหญ่นางหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ดิฉันเสียบกระเป๋าสตางค์ไว้ในยกทรงตอนที่เบียดเสียดอยู่ในรถไฟใต้ดิน แล้วถูกหนุ่มหล่อสูงวัยล้วงกระเป๋าไป ตำรวจขมวดคิ้วแล้วสอบสวนว่า คุณถูกชายหนุ่มล้วงในจุดล่อแหลมขนาดนี้คุณไม่รู้สึกตัวเลยหรือ สาวใหญ่ตอบอย่างเหนียมอายว่า ก็ฉันไม่นึกว่าเค้าตั้งใจจะล้วงกระเป๋านี่ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การทำให้ลูกค้าตกอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มจนพอใจที่จะถูกรีดเงิน เป็นชั้นเชิงสูงสุดทางธุรกิจ
 
5.   บริษัทแห่งหนึ่งพยายามแก้ปัญหาความสกปรกในห้องน้ำชายด้วยการติดข้อความหน้าโถปัสสาวะว่า “ก้าวเข้าในอีกนิดใกล้ชิดอารยะธรรม” แต่พื้นก็ไม่วายมีฉี่เรี่ยราดเปียกแฉะอยู่ตลอด บริษัทศึกษาบทเรียนอย่างจริงจังแล้วปรับแผนเปลี่ยนป้ายใหม่ดังนี้ “ฉี่ไม่ตรงเป้าแสดงว่าของคุณอ่อน ฉี่เล็ดออกมาก่อนแสดงว่าของคุณสั้น” ผลปรากฏว่าพื้นสะอาดขึ้นกว่าเดิมมากมาย นิทานเรื่องนี้ให้แนวความคิดว่า การให้คำแนะนำกับลูกค้าต้องเป็นรูปธรรมและแทงถูกใจดำ
 
6.   วันหนึ่งเลขานุการสาวตีหน้าขึงขังกับผู้จัดการแล้วบอกว่า “ดิฉันตั้งท้อง” ผู้จัดการได้ยินดังนั้น แต่ยังคงก้มหน้าอ่านเอกสารก่อนตีหน้าตายแล้วพูดว่า “ผมทำหมันตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ลูกชายเกิด” เลขานุการได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดตกตะลีงอยู่พักใหญ่ แล้วตีหน้ายิ้มขึ้นมาพูดว่า “ดิฉันพูดเล่นค่ะ” ผู้จัดการเงยหน้าขึ้นมาแล้วบอกว่า “ผมก็เหมือนกัน” แล้วก้มหน้าจิบน้ำชาอ่านเอกสารต่อ นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า คนที่อยู่ในสังเวียนต้องไม่ตระหนกตกใจง่ายเมื่อเจอกับภาวะวิกฤต แม้มีปืนเล็งมาก็ตั้งตัวรับได้
 
7.   เกิดเรื่องบังเอิญมีชายหนุ่มสามไปขอลูกสาวบ้านนี้ในคราวเดียวกัน ว่าที่พ่อตาบอกให้แต่ละคนแนะนำตัว คนแรกบอกว่าผมมีเงิน 10 ล้าน คนที่สองบอกว่าผมมีคฤหาสน์มูลค่า 20 ล้าน ว่าที่พ่อตาฟังแล้วรู้สึกพอใจมาก แล้วหันไปถามหนุ่มคนที่สาม “แล้วคุณล่ะมีอะไรบ้าง” หนุ่มคนที่สามตอบวา “ผมไม่มีอะไรเลย มีแต่ลูกผมที่อยู่ในท้องลูกสาวคุณพ่อครับ” หนุ่มคนแรกกับคนที่สองได้ยินแล้วรีบลาจากไป  นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่า อำนาจการแข่งขันไม่ได้อยู่ที่กำลังทรัพย์แต่อยู่ที่การจัดการวางคนของเราในตำแหน่งที่สำคัญ
 
8.   เถ้าแก่เบื่อเมียลับเต็มทน ส่วนเมียลับเริ่มแก่ตัวจึงของเงินค่าเลี้ยงดูเป็นก้อนใหญ่ เถ้าแก่ปรึกษาผู้จัดการคนสนิทคิดจะฆ่าปิดปากหล่อนเสีย แต่ผู้จัดการคนสนิทออกอุบายให้เถ้าแก่ออกเงินหนึ่งแสนหยวนให้เมียลับไปเรียน MBA โดยให้เหตุผลว่าเพื่อยกระดับการศึกษา เมื่อเมียลับได้ไปเรียนต่อ ในห้องเรียน MBA นั้นมีแต่นักศึกษาระดับเถ้าแก่ ซึ่งต่างเกิดหลงไหลเสน่ห์ของนักศึกษาเมียลับคนนี้ ไม่ช้าไม่นานเมียลับก็ไม่ขออยู่กับเถ้าแก่ แถมยังให้เงินหนึ่งล้านหยวนแก่ผู้จัดการเป็นค่าปิดปาก นิทานเรื่องนี้ให้แนวความคิดว่า การจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพของธุรกิจ วิธีที่ดีที่สุดคือย้อมแม้วตกแต่งแล้วแปลงค่าทรัพย์สินให้เป็นทุน ไม่ใช่ทิ้งไปหรือให้ย่อยสลายเอง


 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2563		0 comments
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2563 19:13:16 น.
Counter : 698 Pageviews.
Share Tweet