Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

โบรกแนะเก็งกำไร 18 บจ.ขาขึ้น ดัชนีลุ้นไปต่อ น้ำมันหนุนพลังงาน เก็บค้าปลีกที่ laggard

ที่มา ข่าวหุ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.44 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 31.61 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หลังจากแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 29 มิ.ย.) พร้อมกับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวกแต่อ่อนแรงลงจากช่วงเปิดตลาด นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ดีดตัวต่อและราคาน้ำมันฟื้นตัวแรงช่วยหนุนหุ้นพลังงาน และเน้นหุ้นที่ไม่เปิดโดดมาก รวมทั้งไม่ไล่ราคาหุ้น เน้นกลุ่มค้าปลีก สื่อสาร และขนส่ง เก็งกำไร 18 หุ้นเด่น ได้แก่ HMPRO, ROBINS, GLOBAL, ADVANC, JAS ,THCOM, TRUE, BECL, AOT, SAMART, RS, BLAND,KBANK,PTTEP, CPF, TISCO, DTAC, CK

แนวโน้มตลาดวันนี้: คืบหน้าแก้หนี้ยุโรปหนุนหุ้นดีดตัวต่อ กลยุทธ์การลงทุน: เก็งกำไร

ภาพรวมตลาดวันนี้น่าจะสดใสต่อเนื่องจากท้ายสัปดาห์ก่อนได้ ท่ามกลางการดีดตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ, ยุโรป และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นจำนวนมากเมื่อวันศุกร์ หลังผู้นำยุโรปได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันว่ากองทุนคุ้มครองยูโรโซนจะสามารถเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ได้โดยตรงตั้งแต่ปีหน้า โดยไม่ส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศสมาชิกยูโรโซนเพิ่มสูงขึ้นและยังสามารถแทรกแซงตลาดพันธบัตรเพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีศก.อ่อนแอได้ด้วย ขณะที่ต่างชาติโหมยอดซื้อสุทธิหุ้นไทยไปกว่า 5.7 พันล้านบาท อีกทั้งการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกมากกว่า 9% จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของหุ้นพลังงานได้มาก ดังนั้น SETI น่าจะดีดตัวมุ่งทดสอบ1180 จุด กันอีกรอบ

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น: เก็งกำไรต่อตามโมเมนตัมเชิงบวกของตลาดและจะปรับเพิ่มพอร์ตเป็น 50-75% เมื่อดัชนีสามารถปิดเหนือระดับ 1180-1190 ได้ อย่างแข็งแกร่ง แต่หากยังยืนไม่ได้ให้คงถือพอร์ตที่ 30% ต่อไป แนวต้าน : 1173-1180 แนวรับ : 1158-1150

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 30% : เงินสด 70%

ถือต่อในพอร์ต: CPF, TISCO, DTAC, CK

หุ้นที่ปรับออก : SIRI

หุ้นที่แนะนำ :

PTTEP เก็งกำไร FV 204 บาท กรอบเทรดระยะสั้น ต้าน 173.5-175 รับ 167 Cut loss 163

KBANK เก็งกำไร FV 192 บาท กรอบเทรดระยะสั้น ต้าน 165-167 รับ 161.50 Cut loss 157

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นโลกปิดบวกในระดับ 3% หลังที่ประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปบรรลุข้อสรุปมาตรการสำคัญในการแก้ปัญหายุโรปได้แก่ 1) การอนุมัติให้สามารถนำเงินจากกองทุน EFSF และ ESM ไปเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคารของเอกชนในยุโรปได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณของประเทศที่ประสบปัญหาไม่เพิ่มขึ้น 2) การอัดฉีดเงิน 1.2 แสนล้านยูโร เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มทุนในฐานคารเพื่อการลงทุนยุโรป 3) การผ่านแผนต้านวิกฤติ 2 ฉบับ ซึ่งจะช่วยควบคุมต้นทุนการกู้ยืมของของประเทศที่ประสบปัญหา โดยไม่เพิ่มภาระการรัดเข็มขัดเพิ่ม นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบการจัดตั้งหน่วยงานควบคุมดูแลภาคธนาคารของภูมิภาคนำโดย ECB ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะนำไปสู่ “สหภาพธนาคารยุโรป” ต่อไป เรามองว่าความกังวลของตลาดทุนน่าจะบรรเทาลง สินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นขึ้น จะหนุนการฟื้นตัวของหุ้นพลังงาน ซึ่งจะทำให้ตลาดมีโอกาสขึ้นทดสอบ 1200 หรือกระทั่งจุดสูงสุดเดิมที่

1246 หรือสูงกว่าในระยะต่อไป แต่ในระยะสั้นผลประกอบการไตรมาส 2/55 ที่ส่วนใหญ่อ่อนแอ จะทำให้หุ้นผันผวนดังนั้นหากไม่ได้ซื้อไว้ ไม่ควรเข้าซื้อแบบไล่ราคา

กลยุทธ์เก็งกำไรวันนี้โดยทั่วไปเน้นหุ้นที่ไม่เปิดโดดมาก ในกลุ่มต่อไปนี้ หุ้นค้าปลีกที่ laggard เช่น HMPRO ROBINS GLOBAL หุ้นสื่อสารและขนส่ง อาทิ ADVANC JAS THCOM TRUE BECL AOT และหุ้นเล็กที่พื้นฐานดีหรือที่ผลประกอบการจะออกมาดี อาทิ KCE TRC IHL TOG LHK NMG BLAND DEMCO เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน: การแกว่งตัวของดัชนีที่ไม่หลุด 1155-1160 ลงไปยังให้น้ำหนักกับการขึ้นสู่ 1200+/- หรือสูงกว่า หุ้นแนะนำ SAMART RS BLAND

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10%เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downsideของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS

บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ มองตลาดตอนนี้อยู่ในช่วงใกล้จุด Peak ของข่าวบวก และยังมองว่าด้วยดัชนีที่ขึ้นมาแรง เราให้เน้นฝั่งขายก่อนที่จะรู้ผล ECB - หุ้นยุโรปปรับขึ้นแรงเกินคาดหลังมีข่าวใหม่เรื่องผู้นำ EU เตรียมให้ ESM เพิ่มทุนให้กับธนาคารที่มีปัญหาได้โดยตรง ทำให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องการที่ธนาคารเหล่านี้ต้องการเงินทุน โดยเฉพาะสเปนที่มีการคาดกันว่าเม็ดเงินที่ต้องใช้เพิ่มทุนให้กับธนาคารจะอยู่ราว 7 หมื่นล้านยูโร โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสเปนปรับร่วงลงเหลือ 6.32%

โดยสรุป เรามองว่าแม้ตลาดวันนี้มีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นตามข่าวบวกจากสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานที่แนวโน้มดีดแรงตามราคาน้ำมันที่พุ่งกว่า 10% แต่เรามองว่าจุด Peak ของข่าวบวกจะจบลงในสัปดาห์นี้ และคาดว่าตลาดทั้งสัปดาห์จะถูกทำให้เหวี่ยงโดยการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนที่คาดว่าจะยังออกมาชะลอตัว (ยังไม่มีทิศทางว่าจะกลับมาดีได้ในเร็วๆ นี้)

ส่วนตัวเลข PMI ของจีนวานนี้ซึ่งแม้จะออกมาที่ 50.2 ดีกว่าที่ตลาดคาดกันไว้ที่ 49.8 แต่ก็ยังอยู่ในทิศทางที่อ่อนตัวลงและเป็นการแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 เดือน ซึ่งสิ่งที่เรากังวลหลังจากนี้ได้แก่ การประกาศตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาส 2/55 ที่จะประกาศออกมาในช่วงกลางเดือนจะอ่อนตัวลงเช่นกัน ทำให้ในช่วงระยะสั้น เรามองตลาดแนวโน้มขึ้นทดสอบเพียง 1,200 จุด (ปรับขึ้นจาก 1,180 จุดที่มองเมื่อสัปดาห์ก่อน) แต่ยังไม่เปลี่ยนมุมมองว่าตลาดในช่วงนี้อยู่ใกล้ระดับจุด Peak ในช่วงสั้น และหากไม่มีมาตรการเพิ่มเติมจาก ECB หรือ BOE ออกมา เรามองว่าตลาดพร้อมที่จะโดนขายทำกำไรออกมาเช่นกัน




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 2 กรกฎาคม 2555 16:03:54 น.
Counter : 2229 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.