Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
โบรกแนะเก็งกำไร 12 หุ้นแกร่ง ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวลง หันมาเน้นกลุ่มเสี่ยงต่ำ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.53 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.83 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวลงในกรอบและผันผวนสูง แต่เป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้น เก็งกำไร 12 หุ้นเด่น ได้แก่ INTUCH, DTAC,BGH, HEMRAJ ,STANLY, SAT, MINT, CFRESH,TK, BJC ,TICON, SMT

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : Sideways ในกรอบ 1196-1214 กลยุทธ์การลงทุน : “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ในกรอบ

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังเป็นช่วงแกว่งตัวในกรอบต่อไป โดยมีความผันผวนระหว่างวันค่อนข้างสูง ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายดูเบาบางลงจากช่วงก่อนหน้า แม้จะยืนเทรดเหนือ 1200 ก็ตาม แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่โดดเด่นพอจะผลักดันการฟื้นตัวต่ออย่างแข็งแรง เป็นผลให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับเข้ามาให้เห็นกันตลอดทาง และดูเหมือนว่าตลาดจะอ่อนไหวต่อข่าวในระยะสั้นมากพอควร ดังนั้น นักลงทุนจึงควรเก็งกำไรแบบระวังตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแรงซื้อสุทธิต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติยังช่วยทำหน้าที่ในการประคองการอ่อนตัวของตลาดได้ค่อนข้างดี แต่น่าระวังแรงซื้อที่เริ่มลดน้อยลงยังสะท้อนภาพการชะลอดูปัจจัยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน : ในระยะสั้นเน้นเก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” โดยในวันนี้น่าระวังหุ้นพลังงานจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกกว่า 1.79% วานนี้ แนวต้าน : 1210-1214 แนวรับ : 1200-1196

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, MINT, DTAC, CFRESH

หุ้นที่ปรับออก : TISCO, SCC

หุ้นที่ปรับเข้า :1. TK แนวโน้มฟื้นตัวตามอุตฯ ยานยนต์ FV 15.80 บาท กรอบเทรดระยะสั้น ต้าน 12.7 รับ 11.7 Cut loss 11.5 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ เรายังมองว่าตลาดปรับลงเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นซื้อ...เพื่อรอรีบาวด์!!!

กลยุทธ์: เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้ารับเมื่อตลาดปรับตัวลงได้ โดยหุ้นที่แนะนำในช่วงนี้ยังเน้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศเป็นหลักจากแนวโน้มกำไรที่ยังมีการเติบโตสูง รวมถึงหุ้นที่มีประเด็นสนับสนุน เช่น กลุ่มสื่อสาร กลุ่มอาหาร กลุ่มบันเทิง กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งกลุ่มค้าปลีก ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกกับ BJC (TP 45) จากแผนการขยายธุรกิจที่จะส่งผลดีกับแนวโน้มรายได้และกำไรในอนาคต

หุ้นเด่นทางเทคนิค   TICON, SMT , GLOW (SBL)

แนวโน้ม ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกยังกดดันตลาดหุ้นประเทศต่างๆ อีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐช่วงนี้ออกมาไม่ดีนัก ขณะที่การร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐก็ถ่วงราคาหุ้นกลุ่มพลังงานลงมาด้วยจากข่าวเกี่ยวกับการระบายน้ำมันในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐและยุโรป ขณะที่ SET ก็ขยับขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับระดับสูงสุดของช่วงนี้ที่ 1214 จุดอยู่แล้ว ทำให้การทำปิด window dressing ในรอบนี้อาจจะเป็นแค่เพียงแรงซื้อพยุงตลาด มากกว่าที่จะเป็นการผลักดันดัชนีให้บวกขึ้นต่อแรงๆ ก็เป็นไปได้ FSS จึงคาดว่าแม้ SET จะปรับตัวลงตามบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก แต่ก็น่าจะไหลลงในกรอบจำกัด และด้วยสภาพคล่องในตลาดที่ยังมีสูง ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศก็ยังเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงท้ายสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีแรงซื้อเพื่อลุ้นผลการประชุม รมว.คลังยูโรโซน ที่จะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย (30-31 มี.ค.) การปรับลงของ SET จึงยังมองว่าเป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว เพื่อเทรดดิ้งตามรอบในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขายต่อไปได้ แนวรับ  1200-1198 , 1194-1190  จุด    แนวต้าน  1207-1210 , 1214  จุด

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสฯ แกว่งตัวลง เนื่องจากกระแสทุนต่างชาติเริ่มชะลอ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ถึงแรงเหวี่ยงของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.พ. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปรับลดลง ขณะที่ราคาน้ำมัน

ก็อ่อนลงตามเช่นกันท่ามกลางข่าวลบอีก 2 ข่าวที่เป็นเฉพาะตัวของตลาดน้ำมันได้แก่ i) สำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่สูงถึง 7.1 ล้านบาร์เรล และ ii) กระแสข่าวว่าฝรั่งเศสและอังกฤษอาจเจรจาร่วมกับสหรัฐฯ ในการปล่อยสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ออกมา อย่างไรก็ดีค่าเงินหลักๆ อย่างยูโร/ดอลล่าร์ฯ ดูนิ่งๆเนื่องจากฝั่งยุโรปก็มีความกังวลเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยนักลงทุนกำลังจับตาประเทศสเปนที่จะแถลงงบประมาณและยอดขาดดุลที่ปรับใหม่ในคืนวันศุกร์นี้ ว่าสเปนจะสามารถคุมเป้าขาดดุลการคลังให้อยู่ในกรอบ 3% ของจีดีพีได้หรือไม่ ส่วนในคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อตลาด ได้แก่ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.48 แสนตำแหน่งในสัปดาห์ที่แล้ว

กลยุทธ์: คงคำแนะนำเดิม คือราคาหุ้นใหญ่ๆ ขณะนี้มีความเสี่ยงทางลงอยู่ ไม่แนะให้ซื้อ เราแนะให้เลือกเล่นในกลุ่มสื่อสารและกลุ่มเสี่ยงต่ำอย่างการแพทย์ ซื้อ INTUCH*, DTAC* และ BGH* ส่วนหุ้นมีประเด็นข่าวบวกมองกลุ่มยานยนต์และนิคม หลังจาก Honda มีแผนซื้อที่ดินเพิ่มในนิคมของ HEMRAJ ซึ่งหากเป็นจริงจะส่งผลดีต่อ HEMRAJ รวมทั้งหุ้นที่เป็น supplier ของ Honda เช่น STANLY (ตัวนี้เราไม่ได้วิเคราะห์เชิงพื้นฐาน)

บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ หุ้นสหรัฐฯ ปรับลง แม้ดูดี แต่ยังแย่กว่าคาด – ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้แกว่งในแดนลบหลังจากตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัว 2.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.0% ซึ่งทำให้ภาพตลาดวานนี้ออกแนวเกร็งๆ และไม่กล้าที่จะปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังไม่เห็นการปรับตัวลงแรงเช่นกัน แม้จะมีความกังวลเรื่องราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรงจาก 2 ปัจจัย 1. สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับพุ่งขึ้นเกินคาด และ 2. ข่าวเรื่องบางประเทศในยุโรปเตรียมปล่อยน้ำมันฉุกเฉินออกมา (ต่อเนื่องจากกรณีอิหร่าน) ซึ่งทำให้วานนี้การที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับร่วงลงหนักๆ จะตกอยู่ที่หุ้นน้ำมัน ส่วนคืนนี้ยังคงต้องลุ้นตัวเลข GDP ไตรมาส 4/54 ประกาศครั้งสุดท้าย ซึ่ง Consensus มองว่าจะทรงตัวที่ +3% ทำให้เรามองว่าผลจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับร่วงวานนี้จะไม่กระทบหุ้นฝั่งเอเชียมากนัก โดยประเด็นจากจีนวันนี้อยู่ที่การประกาศงบของ CNOOC ที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งทำให้เรามองว่าหุ้นจีนที่วานนี้ปรับร่วงลงแรงจากความกังวลเรื่องผลการดำเนินงานในบางบริษัทจะกดดันตลาดน้อยลง และพอมีหวังการ Rebound จากจีนได้บ้างในวันนี้




Create Date : 29 มีนาคม 2555
Last Update : 29 มีนาคม 2555 19:53:14 น. 0 comments
Counter : 548 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.