Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
โบรกแนะเก็งกำไร 5 หุ้นเด่น ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลงตามตปท. แบ่งพอร์ตลุ้นประชุมอียู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.43 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.78 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลังความหวังเรื่องการจัดเตรียมมาตรการทางการเงินขนาดใหญ่ในการควบคุมวิกฤติหนี้ยูโรโซนอ่อนลง นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยมีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามตลาดต่างประเทศ เก็งกำไร SAT, KBANK, TUF, PTTGC และ KCE และหุ้นที่ laggard ตลาดมาก ได้แก่ KTB, BAY, TCAP, TMB, BANPU, TRUE, THAI, STA, IVL



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: อ่อนตัวตามปัจจัยภายนอก ระยะสั้นเน้นหาจังหวะทยอยขายทำกำไร

เพิ่งเริ่มการพักฐานวานนี้เป็นวันแรกหลังการปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการติดต่อกัน ขณะที่ความหวังเรื่องการจัดเตรียมมาตรการทางการเงินขนาดใหญ่ในการควบคุมวิกฤติหนี้ยูโรโซนอ่อนลง หลังประธานอีซีบีไม่ส่งสัญญาณว่าอีซีบีจะปรับเพิ่มปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลครั้งใหญ่ในเร็วๆนี้ และยังกล่าวว่าเศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเยอรมนียังได้ปฏิเสธมาตรการที่จะให้ใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารแก่ ESM และมาตรการออกพันธบัตรยูโรโซนร่วมกัน ทำให้มอง SETI มีโอกาสพักตัวตามบรรยากาศลงทุนจากภายนอก แต่การซื้อสุทธิต่อเนื่อง 7 วันทำการติดต่อกันของต่างชาติน่าจะช่วยประคองการอ่อนตัวได้ระดับหนึ่ง มองแนวรับแถว 1030 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นเน้นหาจังหวะในการทยอยขายทำกำไรออกไปบางส่วนก่อน แนวต้าน : 1050-1055 แนวรับ : 1035-1030

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50-75% : เงินสด 50-25%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, KBANK, TUF, PTTGC

หุ้นที่ปรับออก : SIRI, PTT

หุ้นที่ปรับเข้า :KCE ยัง laggard กลุ่มในช่วงการฟื้นตัวหลังน้ำท่วม แนะนำเก็งกำไรตามสัญญาณทางเทคนิค ต้าน 5.70-6.10 รับ 5.10 cut loss 5.00 บาท

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันศุกร์เปิดร่วง 1.0-1.5% ด้วยความผิดหวังต่อผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) กดดันสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก โดยสิ่งที่ ECB ประกาศเมื่อคืนประกอบด้วย i) การลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดตลอดกาลที่ 1.0% ii) การให้เงินกู้ระยะ 3 ปีแก่ธนาคาร iii) การลดเงื่อนไขของหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ต้องวางกับ ECB เพื่อกู้เงิน แต่ทั้งหมดไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนตลาด เนื่องจากECB ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการออกมาตรการแข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งเรื่องนี้สร้างความผิดหวังพอควรเนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดคิดว่า ECB จะซื้อพันธบัตรยุโรปมากขึ้นหากกลุ่มยุโรปสามารถตกลงกันเกี่ยวกับการคุมเข้มทางการคลังในการประชุม EU summit วันนี้ แต่ถ้อยแถลงของ ECB ทำให้ตลาดกังวลว่าถึงแม้จะมีการคุมเข้มใดๆ ออกมา ก็อาจจะไม่เห็น ECB ซื้อพันธบัตรมากขึ้นก็ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่สร้างความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยเยอรมันออกมากล่าวช่วงกลางดึกว่าคัดค้านแผนการบางข้อในร่างของ EU Summit เช่นการดำเนินการกองทุนช่วยเหลือ 2 กองทุนพร้อมกัน กล่าวคือEFSF กับ ESM ดังที่กล่าวไปเมื่อวาน รวมทั้งการออกยูโรบอนด์เพื่อลดต้นทุนให้กับประเทศที่มีปัญหา

ด้านคณะกรรมการธนาคารยุโรปก็ออกมาเพิ่มวงเงินที่คาดว่าธนาคารยุโรปต้องเพิ่มทุน จากเดิม 1.06 แสนล้านยูโรเป็น 1.15 แสนล้านยูโร ทั้งนี้ปัญหาหลักขณะนี้ค่อนข้างสับสนว่าตลาดการเงินคาดหวังอะไรจากการประชุม EU Summit ในคืนนี้ หลังจากถ้อยแถลงของ ECB และการคัดค้านของเยอรมัน ทำให้เราตั้งคำถามว่าผู้นำยุโรปจะเหลือเรื่องอะไรคุยกันบ้างในการประชุม

กลยุทธ์: คาดว่า SET เปิดมาต่ำแล้วจะฟื้นขึ้นได้บ้าง แนะให้พอร์ตเทรดดิ้งขายหุ้นออกในช่วงดีดกลับเพื่อรอดูพัฒนาการของยุโรปในช่วงหยุด 3 วัน ส่วนพอร์ตถือได้ถึงปลายปี 2554 ให้ถือหุ้นต่อเนื่องจากเรายังมองสถาบันไทยกลับมาซื้อหุ้นในโค้งสุดท้าย บวกกับนักลงทุนต่างชาติที่มองระยะยาวยังทยอยเข้าซื้อหุ้นไทยตามคำแนะนำเชิงบวกของโบรกเกอร์ต่างประเทศ

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกทั่วโลกปรับตัวลดลงจาก 3 ปัจจัยหลักทางยุโรป ได้แก่ 1) ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาระบุว่าการที่ ECB พร้อมจะดำเนินมาตรการพิเศษกว่าปกติ ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการจะเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศประสบปัญหาอย่างที่ตลาดคาด แต่จะเป็นการดำเนินมาตรการควบคุมแบบผ่อนคลายต่อธนาคารพาณิชย์ในยุโรป 2) European Banking Authority (EBA) ออกมาเปิดเผยผลการทดสอบความแข็งแกร่ง (stress test) ของธนาคารพาณิชย์ในยุโรป โดยระบุว่าภาคธนาคารต้องการเม็ดเงินเพิ่มประมาณ 114.7 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นประมาณ 8 ล้านยูโรจากการทดสอบในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

เราคาดจะเห็นการเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์ยุโรปในช่วงครึ่งแรกปี 2555 3) การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (EU Summit) ที่เริ่มต้นขึ้นโดยการประชุมระหว่างอาหารค่ำ ยังไม่มีการพูดถึงการนำมาตรการเร่งด่วนหรือชั่วคราวมารับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องปัญหาหนี้สินของกลุ่มประเทศยูโร ทำให้ตลาดวิตก เพราะหากต้องการให้ทุกประเทศดำเนินมาตรการด้านการคลังที่เข้มงวดและมีวินัยการคลังมากขึ้น ผ่านการแก้สนธิสัญญายุโรป น่าจะเกิดความยากลำบากในการได้ข้อสรุปและที่สำคัญไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่า มี.ค.55 ตลาดจึงลดความคาดหวังเชิงบวกต่อการประชุมลงในมุมมองของเรา

ข้อมูลทางฝั่งยุโรปเมื่อคืนโดยรวมไม่ได้เป็นลบ เพียงแต่ไม่ดีมากเท่ากับที่นักลงทุนตั้งความหวังไว้จึงเกิดแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงออกมา ทั้งนี้นักลงทุนยังต้องติดตามการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันนี้หรือที่อาจจะต่อเนื่องไปในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเรายังคาดจะเห็นที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลง/มาตรการที่ตลาดพึงพอใจ

กลยุทธ์การลงทุน: หุ้นไทยอาจแกว่งตัวในแดนลบตามตลาดต่างประเทศ ผู้ที่มีหุ้นอาจพิจารณาถือบางส่วนไว้ลุ้นขายในสัปดาห์หน้าเพื่อเก็งการแก้ปัญหายุโรป (ประชุม 9 ธ.ค.54) ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดคำแนะนำ จากช่วงนี้ถึงสัปดาห์หน้า ยังเน้นพิจารณาทยอยขายทำกำไร (sell into strength) หุ้นที่ขึ้นมามาก หรือ Outperform กว่าตลาดรวม หากจะเก็งกำไรควรเน้นในหุ้นที่ laggard ตลาดมาก ได้แก่ KTB, BAY, TCAP, TMB, BANPU, TRUE, THAI, STA, IVL

สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See และรอสัญญาณกลับเข้าไปซื้อใหม่ ซึ่งเราคาดว่าช่วงม.ค.-ก.พ.55 ตลาดจะมีการปรับตัวลงส่วนนักลงทุนที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต อาจใช้จังหวะการปรับขึ้นรอบนี้ใน

การลดการถือครองหุ้น โดยเฉพาะที่มีกำไรอยู่

ที่มา ข่าวหุ้นออนไลน์

แบบบ้าน ใต้ถุนสูง สไตล์โมเดิร์น


Create Date : 09 ธันวาคม 2554
Last Update : 9 ธันวาคม 2554 11:41:40 น. 0 comments
Counter : 342 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.