::::::::My..Life.. It..Go..On!.::::::::
::Meaning of Life::::

::Meaning of Life::
::คือความหมาย..ในรายทาง::




....ใครบางคนในหัวใจ..เคยพูดกับฉันว่า "จุดมุ่งหมายของการเดินทาง..คือรายทาง" ...

ในชีวิตคนทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้..มีชีวิตไหนบ้างที่คิดว่าตนเองนั้นสมบูรณ์แบบและเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง ทุกคนเกิดมาพร้อมความเว้าแหว่งและขาดวิ่นไม่ในแง่ใดก็แง่หนึ่งเสมอ เพราะนั่นคือกฎธรรมชาติของชีวิต..อันเป็นกฎที่เป็นนิรันดร....ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง.....
ถ้าถามว่าสิ่งที่คนเราต้องการในชีวิตมีอะไรบ้าง การสาธยายเป็นคำพูดหรือข้อเขียน ดูจะเป็นเรื่องยุ่งยาก มากมายเสมอ เพราะความสมบูรณ์ของชีวิตเป็นรูปแบบของสิ่งที่เป็นนามธรรม มิใช่รูปธรรมแบบที่ตาสามารถมองเห็น และมือสามารถสัมผัสได้ สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกได้ตลอดช่วงเวลาที่เติบโตมานั่นก็คือ..การใช้ชีวิตอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ เป็นศิลปะชนิดหนึ่งที่เข้าใจและทำได้ยากมาก ฉันเองไม่นิยมชมชื่นคนเก่งเท่าไรนัก แต่มักชื่นชมคนมีศิลปะของการใช้ชีวิตที่ดีมากกว่า เพราะนั่นหมายถึงเค้าจะสามารถฝ่าฟันและแก้ปัญหาในชีวิตได้ด้วยดี ไม่ซวนเซ ไม่เสียศูนย์ และ ยังสามารถหยัดยืนเป็นส่วนประกอบเล็กๆของโลกได้อย่างมีความสุขและสวยงาม ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องยากกว่าการบริหารหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ยากกว่าการบริหารงบดุลในบัญชีของธุรกิจใหญ่ หรือการพาธุรกิจใหม่ให้ยอดขายเจริญเติบโตขึ้นเป็นเป็นเท่าทวีในแต่ละปี..แต่ในขณะเดียวกันหลักของศิลปะการใช้ชีวิตนี้ ก็ไม่มีบทเรียนที่เป็นหลักสูตรแบบแผนให้เราได้ศึกษา ไม่มีกฎข้อใดตายตัว ไม่มีตัวเลือกให้เราเลือก ไม่มีแม้แต่ข้อแนะนำให้เราทำตาม ไม่มีพี่เลี้ยงให้เราได้ปรึกษา หรือไม่มีแม้แต่พระคัมภีร์ให้เราได้ยึดเหนี่ยวศรัทธา ทั้งหมดทั้งมวลของศิลปะแห่งการใช้ชีวิตนี้....มันคือเรา....มันคือใจและกายของเราเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้เราได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุขในทุกๆวันของชีวิต.....

รายทางที่ผ่านมาในชีวิต เคยสักครั้งไหม? ที่คุณย้อนกลับไปมองถึงสิ่งเล็กๆที่คุณเคยผ่านมันมา เคยมั๊ย?ที่จะก้มดูดอกไม้เล็กๆริมทางเดิน ดูมันผลิดอกสีสวยสดอย่างสนใจและจดจ่อ เคยมั๊ย?ที่คุณจะมองเห็นก้อนกรวดบนถนนและใส่ใจพิจารณาในสีสันรูปทรงของมัน เคยมั๊ย?ที่คุณเห็นผีเสื้อแสนสวย ที่บินมาดื่มกินเกสรดอกไม้ เพียงเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่อีกเพียง14วันบนโลกใบนี้ แล้วคุณรู้สึกได้มั๊ย?ถึงความสุขใจเล็กๆในสิ่งที่ได้เห็น และความสุขใจที่ได้มีชิวิตอยู่ในวันนี้ หลายคนส่วนใหญ่มุ่งสู่ความสำเร็จ อันเป็นยอดของปลายทางแห่งชีวิตอย่างรีบร้อนและไม่ใส่ใจต่อสรรพสิ่งรอบข้าง หลายคนบอกว่าไม่มีเวลาสำหรับสิ่งไร้สาระเหล่านี้หรอก ( แล้วสิ่งใดหรือ?คือสาระสำหรับชีวิตคุณ ) บางคนยึดติดอยู่ในเงินตราและวัตถุ ชื่อเสียงเกียรติยศ จนไม่สามารถมีความสุขกับสิ่งเล็กๆในชีวิตเหล่านี้ได้เลยตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา และอีกหลายๆคนที่เหยียบย่ำผู้อื่นเป็นบันไดเมื่อถึงตอนที่ต้องปีนสู่เส้นทางที่ลาดชัน และอีกหลายๆคนที่เอารัดเอาเปรียบพวกพ้อง น้องพี่และโกหกหลอกลวงเพื่อนฝูงเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเพียงคนเดียว จนไม่สามารถที่จะรักษาเพื่อนฝูงคนใดไว้ได้นาน เพราะไม่มีใครทนถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ได้ตลอดเวลา และไม่มีใครอยากที่จะคบหากับคนชนิดนี้ด้วยความจริงใจ เค้าจึงไม่มี "เพื่อน"ที่เป็น"เพื่อนแท้"ได้นานตลอดเส้นทางของชีวิตที่ก้าวเดิน และอีกหลายๆคนมีความเชื่อไปอีกแบบ พวกเขาเชื่อว่าการละทิ้งความสุขเล็กๆเหล่านี้ ก็เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทางสู่ความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า ในยอดสูงสุด ของยอดเขาแห่งชีวิตที่กำลังพยายามจะไปให้ถึง แล้วหลังจากนั้นค่อยเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านี้ในยอดเขาแห่งความสำเร็จนั้นดีกว่า....
แต่คุณรู้มั๊ย? ว่าสิ่งต่างๆตามริมทางเหล่านี้นี่แหละ ที่มันเป็นป้ายสัญลักษณ์บอกทางให้คุณเดินขึ้นสู่ยอดเขาได้อย่างไม่หลงทาง เพราะจริงๆแล้วบนยอดเขาแห่งความสำเร็จที่คุณพยายามจะไปให้ถึงอย่างเร่งร้อนและเชื่อว่ามันจะเป็นที่ที่จะสามารถทำให้คุณมีความสุขกับสิ่งที่อยู่บนนั้นได้ แต่ฉันกลับคิดว่าสิ่งที่อยู่บนยอดเขานั้น หรือสิ่งที่คุณคาดหมายว่ามันจะมอบความสุขให้หัวใจของคุณได้เมื่อคุณครอบครองมัน สิ่งเหล่านั้น นั่นก็คือสิ่งต่างๆที่คุณละทิ้งมันมาตลอดเวลาตามรายทางของชีวิตที่ผ่านมานั่นแหละ เพราะในความจริงแล้วดอกไม้ ( ครอบครัว ) ,ก้อนหิน ( การงาน ) ,ผีเสื้อ ( ความรัก ) และ อากาศ บริสุทธิ์ ( เพื่อนแท้ )..สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็คือสิ่งที่รอคุณอยู่บนยอดเขา รอเพื่อจะสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตคุณนั่นเอง...แต่...บางทีคุณอาจจะเดินทางไปไม่ถึงมันก็ได้ ไอ้ยอดเขาแห่งความสำเร็จที่คุณใฝ่ฝันถึงนั้น..และอาจทำได้แค่เพียงหลงวนอยู่บนเส้นทางเดิมๆวนอยู่อย่างนั้นรอบแล้วรอบเล่า โดยที่คุณไม่รู้ตัว นั่นก็เพราะคุณรีบจนลืมทำเครื่องหมายบนก้อนหิน..จำรูปทรงของก้อนหินไม่ได้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นหินก้อนเดิม และคุณทะเยอทะยานจนวิ่งเหยียบดอกไม้ที่เป็นพันธ์ที่ขึ้นเฉพาะตรงจุดนี้ และเมื่อเหยียบย่ำมันคุณก็จะมองไม่เห็นดอกไม้ได้อีก แต่ถ้าคุณสนใจมันสักนิดคุณก็จะรู้ได้ว่า คุณหลงวนอยู่บนเส้นทางสายเดิม..และถ้าคุณอยากถามเส้นทางกับผีเสื้อ..คุณคงตามหาเธอไม่เจอ เพราะคุณได้ทำลายสิ่งสำคัญในชีวิตเธอจนเธอไม่อาจที่จะอยู่รอเพื่อให้คุณกลับมาทำลายมันได้อีก..และเมื่อคุณเดินขึ้นสู่ยอดเขาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ คุณก็จะเจอกับความกดอากาศที่ต่ำ จนคุณแทบจะไม่มีอากาศริสุทธ์ให้ใช้หายใจ..แล้วในที่สุดคุณก็อาจจะพาร่างกายที่ซูบโทรม และหัวใจที่เปลี่ยวเหงา หลงไปบนเส้นทางที่วกวนจนตกลงไปในเหว หรือบางทีคุณอาจจะเหน็ดเหนื่อยที่ต้องต่อสู้กับสิ่งต่างๆคนเดียวเพราะไร้เพื่อนร่วมทาง ( ก็คุณขโมยน้ำและอาหารของเค้ามา และหวังว่าเค้าจะอดอาหารตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ฮึ! ) จนในที่สุดคุณก็ท้อถอยและวางมือ เดินกลับลงเขาไป..อย่างไม่ได้อะไรติดมือ.....
เวลาในชีวิตของคนเราทุกคน สั้นลงเรื่อยๆ เราทุกคนต่างเดินทางมุ่งหน้าไปสู่ความตายตามสัจธรรมของโลกอันเป็นนิรันดร ไม่มีใครที่จะหนีพ้นในความตายและสัจธรรมข้อนี้ไปได้..เพราะฉะนั้น...............
*จงเก็บเกี่ยวรายทางของชีวิตอันสวยงามที่ผ่านมา..ไว้ให้มากที่สุดและจงใช้ชีวิตให้ดีที่สุด...
*จงรักษาดอกไม้ ( ครอบครัว ) ของคุณไว้ให้ดีทีสุด เพราะนี่เป็นครอบครัวเดียวที่คุณมีบนโลกใบนี้ และพวกเค้าจะเป็นกำลังใจเดียวของคุณ ในยามสุดท้ายของชีวิต...
*จงรับผิดชอบต่อก้อนหินของคุณ ( การงาน ) ให้ดีที่สุด และต่อสู้แข่งขันในเกมส์ของงานอย่างมีสปิริตและขาวสะอาด เพราะเมื่อจบเกมส์คุณอาจจะยังเหลือเพื่อน หรือ ผู้ช่วยเหลือที่ดีอยู่ก็ได้..ใครจะรู้!
*จง ทะนุถนอมผีเสื้อ ( คนรัก ) ที่บินอยู่ข้างๆกายคุณไว้ให้ดีที่สุด เพราะมันอาจเป็นคำตอบให้กับคำถามของคุณได้ ในวันที่คุณอาจหลงทางจนไปต่อไม่ถูก และมันก็เป็นสิ่งเดียวที่จะนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้มามอบให้คุณ มาเป็นน้ำหวานในชีวิตคุณเพื่อช่วยคุณในการฟื้นฟูร่างกาย และ จิตใจ..หลังจากที่คุณตกจากยอดเขาของชีวิตแล้ว อย่างสะบักสบอม..........
*จงรักษาอากาศบริสุทธิ์ ( เพื่อนแท้ ) ไว้ให้มากพอ เพราะเมื่อคุณเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆความกดอากาศจะต่ำลงเรื่อยๆ และ อากาศบริสุทธิ์แบบนี้จะมีน้อย จนถึงน้อยมากๆบนยอดเขาแห่งความสำเร็จนั้น..
และสุดท้ายจงดำรงค์อยู่ด้วยหัวใจ ด้วยร่างกายที่พร้อมจะตายเสมอ ก่อนที่ความตายอันเป็นจุดจบสุดท้ายจริงของชีวิตทุกชีวิตจะมาเยือน.....




Create Date : 08 มีนาคม 2551
Last Update : 8 มีนาคม 2551 23:16:30 น. 1 comments
Counter : 230 Pageviews.

 
ดีจัง ขอบคุณนะคะ

ชีวิตคือการเดินทาง
ที่อยู่ระหว่างท้องแม่และสุสาน
แต่ละชีวิตมีเวลาอยู่ไม่นาน
และไม่พอที่จะเดินผ่านโลกอย่างจุใจ
รู้ไว้เถิดในการเดินทาง
ทุกทุกก้าวย่างคือความแปลกใหม่
ในความซ้ำซากที่บางอย่างแตกต่างออกไป
เพียงแค่เราเอาใจใส่รายละเอียดชีวิต


โดย: gluhp วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:1:41:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

to-be-love
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add to-be-love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.