All About Intouch's Family
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
17 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
*** ตัวเหลือง ***

---------------------------
หมายเหตุ ขออนุญาตเขียนย้อนหลังก่อน จะได้บันทึกเรื่องราวของน้องอินทัชตั้งแต่เกิดครับ
---------------------------

หลังจากออกจากโรงพยาบาล น้องอินทัชและคุณแม่มือใหม่ ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างนอนข้างล่าง หรือนอนข้างบน

เพราะแผลผ่าตัด ทำให้ไม่ควรเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ

เราสองคนจึงสรุปว่านอนข้างล่าง เพราะโชคดีที่บ้านเคยลงทุนซื้อโซฟาดีๆ ไว้ตัวหนึ่ง ตัวใหญ่ นอนกลิ้งได้ นอนสบาย ไม่ร้อน ไม่ปวดหลัง

ส่วนน้องอินทัช ก็มีเตียงไม้บราวฟาร์ม แบบโยกได้ สีขาว ได้มรดกมาจากลูกเพื่อนภรรยา ซึ่งมีน้ำหนักมาก เลยไว้ชั้นล่าง

ส่วนชั้นบนก็เป็นเตียง เพลย์เพล (ไม่รู้เขียนถูกเปล่า) ของ Camera มรดกจากหลานผมเองเหมือนกัน



สิ่งสำคัญในการเตรียมบ้านรับลูกน้อย คือ ความสะอาด และสภาพแวดล้อม ที่อากาศต้องถ่ายเทได้ดี

ตำแหน่งวางเตียงต้อง ไม่ถูกรบกวนมากเกินไป และอุ่นพอที่จะนอนได้สบายๆ แม้ผ้าห่มละหลุด



แต่ถึงกระนั้น วันสองวันแรก น้องอินทัชก็ไม่วายที่จะโดนยุงกัด ซึ่งผมคาดว่าน่าจะมาจากแขกที่มาเยี่ยมที่บ้าน ประตูเปิดเข้าเปิดออกบ่อยๆ เพราะช่วงหลังมานี้ บ้านก็กลับมาเหมือนเดิมคือ ไม่ค่อยมียุงให้เห็น

ทำให้ต้องรีบไปซื้อ มุ้งมาเลยครับ


ด้วยความเป็นคนขี้งก โดยสันดาน 555 ผมเลยเลือกมุงผู้ใหญ่ เพราะสามารถคลุมได้หมด

ไม่เลือกมุ้งเด็ก เพราะมันเล็ก และสุดท้าย มันก็ใช้ลำบาก


แต่เอาเข้าจริงๆ มุ้งผู้ใหญ่มันคลุมหมดทั้งเตียงก็จริง แต่ใต้เตียงบางทีมันมียุงแอบอยู่ ก็สามารถลอดออกมากัดอินทัชได้

วันสองวันต่อมา ก็ต้องวิ่งกลับไปซื้อมุ้งเด็กมาอยู่ดีครับ


ช่วงนี้ผมยังไม่ค่อยเป็นพ่อเลี้ยง เต็มตัวสักเท่าไร เพราะคุณภรรยายังคงอยู่บ้านในระยะพักฟื้นตัว ยังใช้วิธีเข้าเวร ผลัดกันเลี้ยง

แต่ผมก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่หลักๆ คือ อาบน้ำ ซื้อของใช้จำเป็น และให้ความสะดวกทุกอย่างที่ภรรยาต้องการ (อันนี้งานหลายเรื่อง จุกจิก 555)


หลังจากเริ่มปรับตัวได้ บรรยากาศภายในบ้านก็ดีพอที่จะต้อนรับสมาชิกใหม่ ก็มีเรื่องให้กวนใจคือ ลูกตัวเหลือง


ความจริงพยาบาล บอกตั้งแต่วันที่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วว่า น้องอาจมีอาการตัวเหลือง เพราะเริ่มเหลืองแล้ว

แต่ภายใน 7 วันที่กลับไปอยู่บ้าน ถ้าเหลืองไม่ถึงเท้า ไม่เป็นไร


ผมก็สังเกตุทุกวันครับ ก็เหลืองที่หน้า แต่ไม่ลงไปถึงเท้า แต่ตาเหลืองอยู่พอควร เหมือนคนติดเหล้าเลย


ไอ้เราก็เชื่อพยาบาลครับว่า ยังไม่ถึงเท้าไม่เป็นไร แต่ความจริง ถ้าตาเหลืองด้วย ก็รีบไปหาหมอดีกว่า


วันนั้นเป็นวันที่น้องอายุครบ 6 วันพอดี ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ของภรรยา ทนไม่ไหว เลยโทรไปถามพยาบาล สุดท้ายคุณพยาบาลเลยบอกให้รีบมาโรงพยาบาล เพราะเหลืองขึ้นตานี้อันตรายเหมือนกัน


วันนั้นอินทัช เลยออกจากบ้านครั้งแรก ก็ไปโรงพยาบาลเสียแล้ว

ไปถึงประมาณ 8 ทุ่มกว่าๆ


ด้วยความเป็นพ่อแม่มือใหม่ ลืมทุกอย่าง ไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย ทั้งๆ ที่จัดกระเป๋าไว้แล้ว ต้องไปขอนมห้องเด็กอ่อนทาน

*** ตรงนี้สำคัญนะครับ พ่อแม่มือใหม่ทุกท่าน ต้องเตรียมกระเป๋าน้องไว้ให้พร้อมเสมอและห้ามลืมหยิบขึ้นรถเป็นอันขาด ***

ไปถึงคุณหมอก็เจาะเลือด เพื่อวัดค่าตัวเหลือง ได้ค่าเท่ากับ 12 พอดี แต่คุณหมอดูอายุแล้วบอกว่า ไว้พรุ่งนี้เย็นๆ มาตรวจอีกที ดีกว่า


คือ ค่าตัวเหลือง นั้น สำหรับทารกแรกเกิด ระยะปลอดภัยคือ ต่ำกว่า 12 ลงมา แต่ถ้า 12-15 คือ อันตราย และเกิน 15 คือ อันตรายมาก ต้องฉายแสงโดยด่วน

น้องอินทัชได้ 12 พอดีในวันที่ 6 คุณหมอเลยให้ดูอาการอีกที หากวันที่ 7 ซึ่งถือว่าเลยระยะอันตรายแล้ว ค่ายังไม่ลด ก็ต้องฉายแสง แต่โชคดีวันต่อมา ค่าลดลงเหลือ 7

เลยไม่ต้องฉายแสง


อาการตัวเหลืองของน้องอินทัช หายดีประมาณครบเดือน สีตัวก็เป็นสีขาวเหมือนปกติ ตาก็กลับมาขาวเหมือนปกติ


 







-----------------------

ภาวะตัวเหลืองทำให้ผมเข้าใจอย่างหนึ่งนั่นคือ สัญชาตญาณความเป็นแม่

ผู้หญิงทุกคนผมเชื่อเองนะครับว่า ร้อยละ 90 ต้องมีสัญชาตญาณความเป็นแม่อยู่ในตัว และปรากฎออกมาทันทีที่มีลูก

แต่ของผู้ชายผมว่ามีน้อย สัญชาตญาณความเป็นพ่อนั้นผมว่าน้อย และอาจไม่เหมือนกันทุกคน


สัญชาตญาณความเป็นแม่ อยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกเป็นหลัก แต่สัญชาตญาณความเป็นพ่อ ส่วนใหญ่แล้วอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลเสียมากกว่า

การเลี้ยงลูกที่ดี จึงควรใช้สัญชาตญาณทั้งสองคน มารวมกันชั่งนำ้หนักให้ดี อย่างกรณีของตัวเหลือง สำหรับผม ผมรอได้คือหมายถึง รอให้ครบ 7 วันได้ เพราะแม้ตัวเขาเหลือง แต่ก็ไม่ได้เหลืองมาก คือ เหลืองคงที่ ไม่ได้เพิ่มขึ้น


ความรู้สึกผมคือ ยังได้อยู่ เพราะผมใช้หลักเหตุและผล เหตุคือ เด็กอาจมีอาการตัวเหลืองภายใน 7 วันแรก และค่อยๆ ลดลง หลัง 7 วัน ถ้าเป็นเช่นนี้ผลคือ ไม่ต้องไปหาหมอ ให้เจ็บตัว

แต่ความเป็นแม่ ที่เป็นห่วงโดยอารมณ์ ย่อมเป็นกังวล


การชั่งน้ำหนักคือ ดูทางเลือกที่มี และดูผลดีผลเสียที่ตามมา


ผมชั่งน้ำหนักแล้ว จึงเลือกที่จะให้ภรรยาโทรหาพยาบาลแผนกเด็กอ่อนก่อน นั้นเอง


เช่นเดียวกับกรณีล่าสุด น้องอินทัช มีอาการมีเสมหะ เนื่องจากภรรยาผมไม่สบาย เลยติดไปด้วย

ความรู้สึกของคนเป็นแม่ก็เป็นห่วง และกลัวไปต่างๆ นานา ว่าลูกจะเป็นโรคอะไรหรือเปล่า เป็นภูมิแพ้หรือเปล่า

แต่เหตุและผลของผมคือ แม่เป็นไข้ ลูกก็ติดไปด้วยเป็นธรรมดา เพียงแต่ถ้ามีไข้ก็ควรพาไปหาหมอ ถ้าไม่มี ยิ้มได้ กินเก่ง ก็ถือเป็นปกติ
 

สุดท้าย ก็ใช้ วิก ทาที่หน้าอก หลังและคอ น้องอินทัชก็หายใจสบายขึ้น ไม่มีเสียงออกมาอีก


 






Free TextEditor



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2551 9:38:58 น. 3 comments
Counter : 2303 Pageviews.

 
ยิ่งเป็นแม่ รู้เลยว่ารักลูกแค่ไหนค่ะ


โดย: AM NUCH วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:43:23 น.  

 
น่ากิน

เอ้ย น่ากอดจังเลยอะ น่าร๊ากกกกกกกกซ่ะ

เมื่อรัยเบ็นซ์จะได้เห็นหน้าลูกบ้างอ่า.............20 วีคล่ะ

แวะมาเยี่ยมเบล๊อคเบ็นซ์บ้างน่ะค่ะ


โดย: golf_benz วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:39:48 น.  

 
น้องอินทัชน่ารักมากเลยค่ะ
ยังไงเป็นกำลังใจให้ครอบครัวนี้ด้วยคนนะค่ะ
ขอให้น้องสุขภาพแข็งแรงเลี้ยงง่ายๆโตไวๆนะค่ะ


โดย: ฟ้า (pimjan.h ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:25:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

avatayos
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ปัจจุบันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง

สำหรับบล็อกนี้ เขียนขึ้นเพื่อเป็นบันทึกเรื่องราวชีวิตของน้องอินทัชไว้จดจำ และเป็นข้อมูลสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ให้ได้อ่านกันสนุกๆ ด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add avatayos's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.