All About Intouch's Family
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
กลับมาแล้ว...(ตอนที่ 3)...เจอดี ผีตีสาม


ก่อนไปขอนแก่น

ผมกับภรรยา เจอดีทุกๆ ตีสาม มาหลายวันแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะตามไปถึงขอนแก่น

คืนนั้น คืนแรกที่เรานอนที่โรงแรม อย่างที่บอกว่าพอหลับกันหมด ก็หลับสบาย ไปพักหนึ่ง อินทัชก็ตื่นมาร้องไห้ ไม่รู้ว่าเพราะหิวหรือหนาว เนื่องจากปกติแฟนจะเป็นคนตื่นมาดูครับ คือ ถ้าหิว ก็ดูดนมจากอกได้เลย แปะเดียวก็หลับต่อ

เลยกลายเป็นหน้าที่ภรรยามาโดยตลอด

คืนนั้นก็เช่นกัน น่าจะเที่ยงคืนที่อินทัชตื่นขึ้นมา ภรรยาผมก็กลัวว่าอาจจะหนาวไป หรือร้อนไป เพราะแอร์ที่โรงแรม แบบว่ามันดีเกินไปหน่อย เวลาเย็นก็เย็นสุดๆ พอตัดก็ร้อนจนรู้สึกได้ถึงจะทำงานอีก

ก็เลยอุ้มอินทัชมานอนด้วยกัน ตรงกลางเตียง

จริงๆ ผมไม่ชอบเท่าไร ที่พาลูกมานอนเตียง เพราะต้องหัดเป็นนิสัยไว้ ว่าของใคร ที่ใคร เขาจะได้มีระเบียบจนโต ไม่ใช่เหมือนหลายๆ ครอบครัวที่ลูกติดเตียงพ่อแม่ ไม่ยอมไปนอนเตียงอื่นๆ โดยส่วนตัวแล้วผมกะว่า ถ้าเปิดประตูลงบันไดเป็นเมื่อไร ผมก็แยะห้องให้ลูกทันที ส่วนตอนนี้เขาก็นอน playpen ของเขาเอง ในห้องพ่อแม่


แต่คืนนั้น กรณีพิเศษเลยยกเว้น


พออินทัชได้นอนตรงกลางก็หลับสบาย จนถึงตีสาม....

แล้วจู่ๆ ผีที่ตามรังควานเรามาหลายคืน ก็ตามมาถึงที่นี่ ด้วยรูปแบบการหลอกหลอนเหมือนเดิม



(กรุณาออกเสียงตามแบบช้าๆ ๆๆ แล้วค่อยออกเสียงต่อเนื่องยาว)

"แง่...แง้....แง.......แงแงแงแงแง"










อินทัชร้องเหมือนเช่นทุกคืนครับ หาสาเหตุไม่ได้มาหลายคืนแล้ว ร้องตอนตีสามได้ทุกวัน เริ่มจากส่งเสียงเบาๆ เล็กๆ ไม่ต่อเนื่องจน เปร่งเสียงร้องอย่างต่อเนื่อง (เป็นนาฬิกาปลุกพ่อแม่ทุกตีสาม)

ถ้าเป็นปกติที่บ้าน ก็จะเปิดไฟไปอุ้มอินทัชขึ้นมา พออินทัชได้สติเขาก็จะยิ้ม แล้วก็มานานเล่นบนเตียงกับพ่อแม่ จับหน้าจับตา เอามือคลำหน้าคลำตา จนพอใจ ก็จะเริ่มส่ายหัวไปมา แล้วก็หลับต่อ พอหลับแล้วสักพักจึงอุ้มลงเตียงอินทัชเหมือนเดิม


ทั้งหมดกินเวลาไม่เกิน 15 นาที


แต่พออินทัชตื่นตีสามที่โรงแรม เราก็ทำตามปกติ เปิดไฟที่หัวเตียง


ทันใดนั้นเอง ก็เจอดีจริงๆ จนได้





เปิดไฟปุ๊บ เกิดแสงแวบหนึ่ง สว่างไปทั่วห้อง แล้วก็ดับมืดลง พร้อมเสียงดัง "ปุ"










หลอดไฟที่หัวเตียง ระเบิดครับ


โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอันตรายใดๆ


เลยเรียกพนักงานมาจัดการ พนักงานก็เลยเปลี่ยนห้องใหม่ให้ทันที


ส่วนอินทัช ก็เหมือนเดิม ตื่นมา งงๆ คราวนี้ไม่เล่นเหมือนเคย คงเป็นเพราะตื่นมาแล้ว ภาพที่เห็นไม่ใช่บ้านตัวเอง บวกกับปกติอุ้มแล้วต้องวางลงเตียง

พักเดียว ยังขนของกันไม่เสร็จเลย ก็หลับไปแล้ว


งานนี้เลยได้ย้ายห้องกันกลางดึก


จัดข้าวของเสร็จ ก็จับอินทัชนอนลงเตียง แล้วพ่อแม่ก็หลับตามไปจนเกือบแปดโมงเช้านู้น อินทัชถึงจะตื่นมาเรียกอีกทีหนึ่ง


สำหรับวันนี้ตอนแรกว่าจะเข้าเมืองขอนแก่น พาอินทัชไปไหว้พระธาตุขามแก่นเสียหน่อย


แต่ทุกคนลงความเห็นเดียวกันว่า ขี้เกียจ เพราะร้อน


เลยได้แต่นั่งๆ นอนๆ ดูโทรทัศน์ จนบ่ายๆ ก็พาอินทัชกลับโรงแรม



พอได้แอร์เย็นๆ เท่านั้นละครับ อินทัชก็ทานนม 6 ออนซ์ หมด (แต่ไม่รวดเดียว เพราะกลัวจะเป็นผีแอ็กโซซิสอีก)

พอหมด แล้วก็หลับยาวจนถึงเย็นเลย

------------------------------------------------------------

อินทัชกับป้าหมี แฝดคนละฝากับแม่อินทัช
------------------------------------------------------------

ตกเย็น ก็ไปทานข้าวกับคุณตา สั่งอาหารจากร้านอาหารของที่บ้านมานั่งทานที่โถงตัวบ้านคุณตาแทน


ทานเสร็จ ก็รีบกลับโรงแรม เพราะยุงเยอะ แล้วก็ร้อน


กลับมาที่โรงแรม ก็ไม่รู้เป็นอะไรกัน หรืออาจจะเพราะว่าร้อนกันทั้งวัน อินทัชเองก็ทานนมเสร็จ อาบน้ำเสร็จ ก็หลับยาวจนถึง...



ถึง....



ตีสาม...​เหมือนเดิม


ผีเด็ก...ตามมาหลอกหลอนพ่อแม่มันอีกแล้ว


ก็เลยจับอินทัชมานอนเตียง เหมือนเช่นที่บ้าน แล้วอินทัชก็หลับยาวจนเช้า




ก็เก็บข้าวของ นั่งดูเคเบิล ฉายเรื่อง คนบ้าหมาว้อ



หนังตลก ที่มีมุกตลกๆ อยู่เยอะเลย

ดูเพลินจนคุณยายอินทัช ต้องโทรตาม ว่าจะมาพาไปเลือกตั้งเมื่อไร


คือ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ชุมแพมีการเลือกตั้ง น้าเกียรติ ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเดิม ก็ต้องลงเลือกใหม่ ตามกฎหมาย ก็ถือเป็นโชคดีไป เพราะน้าพู่ ซึ่งอยู่กรุงเทพฯ ที่ตามกลับบ้านมาด้วยนั้น เลยได้มีโอกาสเลือกตั้งกับเขา


ส่วนภรรยาผม หมดสิทธิ์ เพราะย้ายเข้าบ้านที่นนทบุรีมานานแล้ว


-------------------------------------------------------------

อินทัช กับพี่ปังปอนด์ อินทัชชอบสาวขาว
-------------------------------------------------------------

เลือกตั้งเสร็จ ก็ยิงรถยาวจนถึง ชัยภูมิ (กะว่าวิ่งรถยาวจนกว่าอินทัชจะตื่น ก็มาตื่นตอนวิ่งมาร้อยกว่าโล)


เลยซื้อของกินรองท้องนิดหน่อย เพราะโปรแกรมเที่ยวประจำขากลับบ้านคือ แวะฟาร์มโชคชัย ทานสเต็กกัน


กว่าจะถึงสเต็กโชคชัย เราจะผ่านบริเวณที่เขาขายเครื่องหินต่างๆ ที่นำมาจากด่านเกวียน (มาจากปากช่อง กลับกรุงเทพฯ จะอยู่ก่อนถึงเขื่อนลำตะคอง) ตรงนี้ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะบริเวณนี้ขายถูกกว่าที่ด่านเกวียน จุดนี้ผมคิดเห็นว่า ด่านเกวียนกลายเป็นแห่งท่องเที่ยวเกินไป ทำให้หลายร้านขายปลีกแพง

ส่วนร้านที่มารับขายส่ง ก็ขายราคาปกติ

ร้านที่รับมา ก็ย่อมต้องตั้งราคาจูงใจ หน่อย เพราะเป็นทางผ่านเดียวกัน

บางทีเลยได้ราคาคิดๆ แล้วถูกกว่า เพราะไม่ต้องไปถึงด่านเกวียน

งวดนี้ตั้งใจมาซื้อตุ๊กตาสุนัข เอาไปวางเป็นป้ายหลุมศพ สุนัขที่บ้านซึ่งพึ่งเสียไปไม่นาน ฝั่งไว้สวนหลังบ้าน

เลยได้ตุ๊กตาสุนัขมาตัวละ 100 แต่ขายเป็นคู่ 200 บาท

แล้วก็เหลือบไปเห็นอ่างน้ำพุอีก บอกราคามา 800 แต่ไม่มีเครื่องปั้มน้ำ หมดพอดี ต่อไปต่อมา เหลือ 600 บาท

-------------------------------------------------------------

ก่อนออกรถ ไปฟาร์มโชคชัย
-------------------------------------------------------------

หลังจากซื้อเสร็จ ก็วิ่งต่อมาอีกนิดเดียว ไม่ถึง 40 กิโล ก็จะถึงฟาร์มโชคชัย ที่นี้ผมว่าสเต็กอร่อยที่สุดในละแวกนี้แล้ว ไม่ได้โฆษณาให้นะครับ แต่เท่าที่ทานมาทุกร้าน สเต็กโชคชัย คุ้มค่า อร่อยสมราคาที่สุด


เนื่องจากกรรมวิธี Dying (การหมักเนื้อในห้องเย็น อะไรสักอย่างจำไม่แม่นเท่าไร) ที่เป็นวิธีการของที่นี่ ทำให้สเต็กเนื้อ นุ่มและหวานอร่อยกว่า


แต่ถ้าเราสั่งสเต็กปกติ ก็ไม่อร่อยนะ ดังนั้นผมแนะนำถ้ามาโชคชัย ก็ควรกินสเต็กที่ผ่านกรรมวิธีนี้ แพงหน่อย แต่อร่อยชัวร์ครับ

งานนี้สามคนหมดไปพันนิดๆ


แล้วก็รู้สึกเหมือนทุกครั้ง คือ อิ่มแล้ว บอกเลย "ไม่มากินอีกแล้ว" แต่พอกลับบ้านขอนแก่นทีไร ก็อยากแวะทานทุกที


งานนี้ขึ้นรถได้ อินทัชหลับยาว ถึงกรุงเทพฯ เลย ไม่รู้เหนื่อยอะไรนักหนา




พอกลับถึงบ้าน รู้อย่างหนึ่งเลยว่า อินทัชจำบ้านได้แล้ว เพราะออกอาการดีใจจนออกนอกหน้า

ทริปนี้ทำให้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง หากต้องพาเด็กเล็กไปเที่ยว ความจริงก็เหมือนการเตรียมไปเที่ยวทั่วไปละ

1. การเตรียมข้าวของ ต่อให้ทำรายการแล้วก็ตาม ก็ควรเอาของขึ้นรถพร้อมกันหมด ตรวจสอบอีกที (คือ ผมเอาขึ้นรถตอนดึก เพราะคิดว่าตอนเช้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนของขึ้นรถ แต่ความจริง มีของหลายอย่างที่อินทัชยังต้องใช้อยู่ ซึ่งสุดท้ายก็ลืมเอาขึ้นรถไป อย่างเสื้อกล้าม)

2. การเตรียมข้าวของ ควรจัดคนเดียว ตอนคิดรายการช่วยกันคิดได้ แต่ตอนจัดควรจัดคนเดียว เพราะของบางอย่าง เช่น ที่ดูดน้ำมูก ต่างคนต่างคิดว่าหยิบแล้ว สุดท้ายไม่ได้เอาไป

3. สถานที่ซึ่งไปพัก ต้องแน่ใจว่า สะอาด ปลอดภัย อย่างที่เลือกพักโรงแรม เพราะที่บ้าน เป็นบ้านคนไทย สไตล์ต่างจังหวัด ไม่มีมุ้งลวด (มีแต่ขาดไปแล้ว) มีฝุ่นแม้จะถูจนสะอาดแล้วก็ตาม ไม่นานก็มีฝุ่นกลับมา

งานนี้เลยสรุปกันว่าจะติดแอร์กันเสียที เพื่ออินทัชในอนาคตเลยนะเนี่ย

4. เด็กอาจจะทานน้อยกว่าปกติ ไม่ว่าด้วยสาเหตุจากร้อน เหนื่อย หรือตื่นตาตื่นใจ ก็ต้องทำใจ อย่าไปฝืน

5. ของสำคัญอีกอย่างที่ควรนำไปทุกครั้งจนกว่าเด็กจะโต คือ ผ้าปูที่นอน เพราะแม้โรงแรมที่เราคิดว่าสะอาดแล้ว แต่ก็อาจไม่สะอาดที่สุดสำหรับเด็ก นอกจากนี้ผ้าปูที่นอนยังใช้ได้สารพัดประโยชน์

-------------------------------------------------------------

อินทัช กับคุณยายอินทัช
-------------------------------------------------------------


หลังจากกลับมาได้วันหนึ่ง แม่อินทัช ก็ได้ข่าวจากเพื่อนรักว่าจะแต่งงานช่วง 21-22 เดือนนี้

งานนี้อินทัชเลยได้ไปเที่ยวขอนแก่นอีกแล้ว

แต่ครั้งนี้ไปตัวเมืองเลย กะว่าจะนอนโซฟิเทล (เปลี่ยนเป็น ภูแมน แล้ว)


ดังนั้นการไปทริปหน้า ก็คงไม่เหมือนทริปนี้ แถม เพื่อนๆ ที่ติดรถไปด้วย ก็ชอบเที่ยวกันทั้งนั้น งานนี้คงมีภาพไปเที่ยวกลับมาบ้างแล้ว






Create Date : 04 มีนาคม 2552
Last Update : 4 มีนาคม 2552 12:41:49 น. 7 comments
Counter : 1021 Pageviews.

 
ช่วยเปลี่ยนสีพื้นด้วยค่ะ มันทรมานสายตามากเลย


โดย: 123 IP: 58.137.128.179 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:13:18:39 น.  

 
แม่ขอบคุณที่แนะนำ ยังคิดอยู่เลยว่า ทำยังไงให้ตัวหนังสือมันใหญ่ขึ้น เห็นบล๊อกของคนอื่นเขาทำได้สารพัด แม่ทำไม่เป็นจริงๆ ครั้งแรกที่เขียนบล๊อก แม่ก็ใช้ Text aditor
แต่มันไม่สะดวกเวลาเราจะแก้ไข เพราะมันเป็นโค๊ดไปหมด จึงปล่อยเลยตามเลย

มีบางครั้งที่จะลองศึกษาจากเวปอื่นแต่ไม่ค่อยมีเวลา เอาแค่เขียนบล๊อกและเข้าไปเยี่ยมบรรดาเพื่อนสมาชิกก็ต้องใช้เวลาเป็นสองสามชม. ซึ่งแม่จะใช้เวลากับคอมฯมากนักไม่ได้ เนื่องจากงานของแม่มีให้ทำทั้งวัน(งานบ้านค่ะ)

มีอะไรที่พอแนะนำแม่ได้ ก็ช่วยแนะนำมานะคะ แม่ยินดีรับฟังและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ

แล้วแม่จะลองทำดูตามที่คุณแนะนำ ได้ผลยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที กว่าจะอั๊พบล๊อกอีกครั้งคงอีกหลายวันค่ะ

ฝากความคิดถึงถึงน้องอินทัชด้วยนะคะและขอให้ครอบครัวมีความสุขค่ะ

แล้วจะตามมาเยี่ยมอีกค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:21:04:24 น.  

 
พอดีเพื่อนบ้านยืมหนังสือไปอ่านครับ
พรุ่งนี้ถ้าเค้าเอามาคืนแล้ว จะรีบค้นหามาตอบเลยนะครับ
แต่ถ้าจะให้ดีคุณพ่อบอกหน้ามาด้วยก็ดีนะครับ
แบบว่าเวลาที่บ้านค่อนข้างน้อยมากเลยครับ


โดย: น้องเหนือเมฆ วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:21:56:08 น.  

 
ตามมาอ่านค่ะ คิดเหมือนกันเลยว่าอยากให้ลูกนอนเตียงตัวเอง เคยฝึกเค้าแบบปล่อยให้ร้องปรากฏไม่ work 7 วันก็ยังร้องไม่หาย ไม่น้อยลง เลยต้องยอมให้นอนเตียงตัวเองแต่ห้องเดียวกัน บางทีตื่นกลางดึกก็ต้องเอามานอนด้วยค่ะ


โดย: akachan วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:9:50:55 น.  

 
ใช้ เว้นวรรค ละกัน เอาเว้นวรรค ออก

< f o n t s i z e = 3 >

แล้วเขียนเสร็จ ให้ปิดด้วย

< / font si ze = 3>

แม่ยังไม่เข้าใจเลย พิมพ์ตามที่คุณบอก แต่พอลอง draft เข้าไป มันก็ไม่ได้

ตัวที่พิมพ์< / font si ze = 3>เข้าไปก็ยังเป็นตัวพิมพ์เหมือนเดิม ตัวหนังสือไม่ใหญ่ขึ้นค่ะ ช่วยอธิบายให้แม่ใหม่นะคะ ขอบคุณมากค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:21:10:33 น.  

 
เนตป้าโรสค่อนข้างเกเรมา2-3วันแล้วค่ะ เลยเข้ามาหาน้องอินทัชช้าไปนิด น้องอินทัชหนีกลับบ้านซะแล้ว หุหุ

จะรอทริป21-22 อีกครั้งนะคะ


โดย: pinkyrose วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:22:48:00 น.  

 
น้องอินทัชน่ารักมาก มาก เลย ชอบนะค่ะ


โดย: บ IP: 110.49.205.67 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:20:03:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

avatayos
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ปัจจุบันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง

สำหรับบล็อกนี้ เขียนขึ้นเพื่อเป็นบันทึกเรื่องราวชีวิตของน้องอินทัชไว้จดจำ และเป็นข้อมูลสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ให้ได้อ่านกันสนุกๆ ด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add avatayos's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.