Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
โรงเรียนในไร่ส้ม โครงการนำร่องเพื่อการศึกษาของเด็กๆ เรื่องดีๆที่ต้องบอกต่อ Part I

สวัสดีค่า วันนี้จะมาเล่าอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ประทับใจและคงยากจะลืมให้เพื่อนๆฟังกันคะ สืบเนื่องจากโบว์และสื่ออื่นๆทั้ง เว็บออนไลน์อย่าง //www.jeban.com / //www.pooyingnaka.com / คุณต่าย ศรีสุดาจากMCOT / คุณอาย fateyeslim beauty blogger /คุณBubble ที่มีคนfollow twitter อย่างล้นหลาม และอีกหลายคน ที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางกับทาง UNICEF โดยมีผู้ใหญ่ใจดีอย่างบริษัทแสนสิริ เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไปจังหวัดเชียงใหม่ ไปดูโครงการ “โรงเรียนในไร่ส้ม” เอ๊ะทำไมถึงเกิดโครงการนี้ขึ้น โบว์จะอธิบายให้ฟัง








ทริปนี้เป็นการเดินทางเพื่อสัมผัสกับชีวิตของเด็กที่ไร้สัญชาติตามแถบชายแดนที่ติดตามพ่อแม่มากจากทางพม่าเพื่อมาหางานทำในเชียงใหม่ ซึ่งเด็กๆเหล่านี้จะไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลและไม่สามารถหางานทำได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทาง UNICEF พยายามเสนอเรื่องไปทางรัฐบาลว่าจะมีทางใดบ้างที่จะช่วยเหลือพวกเค้าเหล่านี้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับกฎหมาย การจะทำอะไรจึงต้องค่อยเป็นค่อยไปและต้องละเอียดรอบคอบดังนั้นตอนนี้ที่ทางUNICEF และแสนสิริพอจะทำได้ก็คือเรื่องของการศึกษา ซึ่งจะมีหน่วยงานต่างๆในเชียงใหม่ที่ช่วยผลักดันและขับเคลื่อนจนกลายเป็น โครงการ “โรงเรียนในไร่ส้ม”ขึ้น


โครงการ “โรงเรียนในไร่ส้ม” ถือเป็นโรงเรียนนำร่องที่ทำให้เด็กๆสามารถเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กไทย โดยโรงเรียนนี้อยู่ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต3 ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต1 และกลุ่มเพื่อเด็กซึ่งมีครูอุดมเป็นกำลังหลักที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรงเรียนในไร่ส้มขึ้น นอกจากนี้ยังมี UNICEFและบริษัทแสนสิริเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน ทั้งนี้ยังต้องขอบคุณเจ้าของพื้นที่ไร่ส้มที่ให้พื้นที่ส่วนหนึ่งให้เด็กๆที่ขาดโอกาสเรียนได้มีที่เรียนหนังสือคะ


ก่อนจะเข้าไปโรงเรียนเราก็ไปที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต3 เพื่อฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อนจะได้เข้าใจการทำงานของทุกฝ่าย






วันแรกที่ไปเป็นการเรียนหนังสือในตอนกลางคืนซึ่งเด็กที่มาเรียนส่วนใหญ่ก้อเป็นลูกหลานของแรงงานที่มาจากพม่า และก็มีผู้ใหญ่มาเรียนด้วย โดยตอนกลางวันก็ทำงานส่วนตอนกลางคืนก็มาเรียน


มาดูทางเข้าดีกว่าคะ เป็นทางที่มืดและเดินทางลำบากมากกก เรานั่งรถก้อว่าลำบากและนานมากแล้วแต่คนเหล่านี้ต้องเดินเอาคะ สุดยอดกับความพยายามของพวกเขาจิงๆคะ






มีภาพเคลื่อนไหวด้วย จะเห็นเลยว่าทางเดินมืดมากกกต้องใช้ไฟฉายส่องนำทาง





สภาพโรงเรียนในตอนกลางคืน แทบจะเรียกว่าเป็นเพิงดีกว่าคะ เด็กๆไม่มีโต๊ะเรียนต้องนั่งกับพื้น แต่เด็กๆก็ไม่สนใจคะตั้งหน้าตั้งตาฟังครูสอนอย่างตั้งใจ เด็กๆที่เรียนจะแบ่งเป็นเด็กที่เรียนมาบ้างแล้ว กับเด็กที่เพิ่งมายังไม่รู้หนังสือไทยเลยค่ะ ซึ่งก็ยากในการสอน เพราะจะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เด็กส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยใหญ่ ปะหล่อง คะฉิ่น ซึ่งก็มีภาษาของเขา ดังนั้นจึงต้องให้คนที่เป็นแล้วคอยแปลภาาษาอีกที กว่าจะรู้เรื่องต้องใช้เวลา 2-3เดือนเลยทีเดียว


ครูเอกำลังสอนหนังสือเด็กอยู่ สามีครูก็กำลังสอนเด็กโตด้านใน เป็นคู่ที่อุทิศเพื่องานอาสาอย่างแท้จิง ขอชื่นชมเลยคะ





เด็กๆกำลังเรียนอย่างตั้งใจ








เข้าไปด้านในจะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานในตอนกลางวันแล้วมาเรียนตอนกลางคืน ในนี้ถือว่าเข้าระบบโรงเรียนแล้วนะคะเป็น กศน. ซึ่งต้องยกความดีให้กับผ.อ. สพฐเขต3 เขต1 ครูอุดม UNICEF บริษัทแสนสิริและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ผลักดันจนสามารถนำโรงเรียนแห่งนี้เข้าสู่ระบบได้ เด็กๆที่จบป.6 แล้วก็จะได้ใบจบป.6ด้วยนะคะแล้ว ยังมีใบแสดงว่าเป็นนักเรียนด้วย เจ๋งมาก





น้องเหมย หน้าตาน่ารักดีคะ น้องเค้าภูมิใจกับบัตรนักเรียนที่ได้รับมากก




อันนี้ถ่ายมาเพราะประทับใจที่ครูให้รวมกลุ่มกันคิดหัวข้อโรคที่มากับฝนแล้วเค้าเสนอโรคตาแดงขึ้นมา แต่สังเกตว่ามีศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นศัพท์เฉพาะก็งงว่าเค้ารู้ได้ยังงัย เค้าบอกว่าไปหาตรงฉลากยา ตรึ่ง...อึ้งกันเลยค้าบบบบเค้าขวนขวายใฝ่รู้มากอ่ะ เป็นเราเราจาทำมั๊ย ...






ถ่ายกับเด็กๆ หน้าตาน้องๆมีความสุขมากที่ได้มาเรียน แต่ละคนตั้งใจฟังและตอบคำถามเสียงดังกันทุกคนเลย





คืนนั้นเรากลับที่พักด้วยความรู้สึกเต็มตื้นว่าเด็กๆเหล่านี้โชคดีที่ได้มาเรียนโรงเรียนในไร่ส้มแห่งนี้ได้รับความรู้ไปพัฒนาตนเองและสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน แม้ว่าสิทธิ์ขั้นพื้นฐานอาจจะยังไม่ได้รับรองทางกฎหมายแต่สักวันหนึ่งเราคงจะเห็นความสำคัญของเขาเหล่านี้คะ
แต่ก็ยังมีเด็กๆอีกมากทั่วประเทศที่ยังขาดโอกาสในการศึกษา โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่จุดประกายให้เกิดแรงผลักดันที่จะมีโครงการนี้ในท้องถิ่นและภูมิภาคอื่นๆ อย่างน้อยการศึกษาก็เป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กๆควรได้รับนะคะ


ไว้โบว์จามาเล่าเรื่องโรงเรียนบ้านหล่ายฝางที่ไปเยี่ยมชมในวันที่2 ในครั้งหน้า รอติดตามนะคะยังมีเรื่องราวๆดีๆอีกมากที่อยากเล่าให้ฟังคะ








Create Date : 13 ตุลาคม 2554
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 14:42:20 น. 3 comments
Counter : 1814 Pageviews.

 
Great blog Momybowy! Thanks so much for sharing.


โดย: Andy Brown IP: 61.90.18.77 วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:15:18:30 น.  

 
I m appreciate to do ja Andy. This trip is the best thing to do and thanks for UNICEF and Sansiri to give me a chance to joy this trip ja ^____^


โดย: momybowy วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:21:41:53 น.  

 
เพิ่งรู้ว่า ใจดีด้วย นึกว่าสวยอย่างเดียว
ไม่มีโครงการสอนonline ทางไกลผ่าน net บ้าง ก็น่าจะได้ครูมืออาชีพและหลักสูตรมาตรฐานดีขึ้นนะ แต่ก็คงต้องมีอาสาหลักในพื้นที่ด้วยนะ


โดย: Ben Casey IP: 58.8.25.90 วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:21:37:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

momybowy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]




Friends' blogs
[Add momybowy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.