<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
3 สิงหาคม 2554
 

โขนพระราชทาน ชุด "ศึกมัยราพณ์" - ตอนที่สอง

ความเดิมตอนที่แล้ว

เราเข้ามาในโรงทันตอนที่มีการยืนถวายอาลัยสมเด็จพระเจ้าภคนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาฯ
รีบพาเพื่อนใหม่ลงไปนั่ง Zone A แถว L ....ด้านซ้ายของโรง เหมือนครั้งก่อน
ไม่รู้เป็นไง ถนัดมองทางนี้

สองข้างเวที ตั้งวงปี่พาทย์ 2 วง อลังการดีแท้
จอโปรเจคเตอร์ขึ้นเนื้อร้องตอนรำเบิกโรง และเล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษระหว่างการแสดง เช่นเคย
และแน่นอน "ขอความกรุณางดถ่ายภาพการแสดง"
เสียงประกาศห้ามชัดเจนค่ะ ...ห้ามตั้งแต่กล้องมือถือยันกล้องถ่ายภาพทุกชนิด

และภาพการแสดงที่ใช้ประกอบการเล่านี้เรา
นำมาจากอัลบัมภาพของน้อง Aksorn ณ Facebook ที่ไปร่วมชมรอบสื่อมวลชน

พอม่านเปิด ...ตัวละครออก รำเบิกโรง ชุด ฉุยฉายดอกไม้เงินทอง



แล้วเราก็พบว่า ...ควรจะติดแว่นสายตามาด้วย ช่วงนี้สายตากำลังเปลี่ยนตามวัย
มองไกลชัด มองใกล้ชัด (บางครั้ง) เราก็เลยไม่ค่อยได้ใช้แว่นสายตา
แต่ครั้งนี้คิดผิด ...แสงในโรงละครมืด ไฟส่องกระทบชุดเครื่องแต่งการ สะท้อนแวววาว
ทำเอาตาพร่ามัว ...ก็เลยมองเห็นตัวแสดงแบบโครงร่าง ไม่ค่อยชัด ....
เอาเถอะ..ไว้ดูชัดๆ ตอนที่ DVD ออกจำหน่ายแล้วกันนะ
เลิกพร่ำบ่น (ในใจ) แล้วเอาใจใส่การแสดงบนเวทีดีกว่า

อันว่าโขนตอนนี้นั้น ...เราดูจนจำเนื้อเรื่องได้ดูแล้ว
สิ่งที่เราให้ความสนใจคือ "ฉาก" และ "เทคนิค" ในการเล่าเรื่องราวมากกว่า



บอกกับมัยราพณ์ให้ทราบเหตุ
ว่าศึกติดนัคเรศลงกาสถาน
ไพร่บ้านพลเมืองเคืองรำคาญ
ขอเชิญหลานรักมาช่วยราวี


จบรำเิบิกโรง ก็เปิดม่านที่ท้องพระโรงกรุงลงกา ใช้ฉากที่เขียนตั้งแต่ครั้งนางลอย
มีเครื่องสูงประกอบฉาก ครบครัน ...ทำให้ท้องพระโรงคงความโอ่อ่าสมกับเป็นเมืองใหญ่



ครั้นถึงสุรกานต์สิงขร
จึงให้หยุดพลนิกรน้อยใหญ่
ตรัสสั่งเสนาผู้ร่วมใจ
ให้ปลูกโรงราชพิธี


ฉากต่อมาเป็นฉากทำพิธีหุงสรรพยาของมัยราพณ์
ตัวฉากสวยงามและดูลึกลับ ...พอท่านท้าวท่องคาถาเสกมนต์ ก็บังเอิญเป็นสรรพสิ่งต่างๆ โผล่ขึ้นมาในกระทะใหญ่
แบบว่า มีควันพวยพุ่งและค่อยๆ โผล่...ดูสมจริงมาก
พอได้ตัวยา คือ หัวใจราชสีห์ที่ต้องการแล้ว ...ก็เปลี่ยนฉาก



เมื่อเวลาราตรีจะมีเหตุ
จึงอาเพศลางใหญ่ให้ประจักษ์
ลมกระพือพาผงมาตรงพักตร์
เวียนเป็นทักขิณาวัฏพัดขึ้นไป


ตัดมาที่ฉากพลับพลา บังเกิดลางร้าย ลมพัดใบไม้ปลิว
แหม...ถ้าบังคับให้ "เวียนเป็นทักขิณาวัฏพัดขึ้นไป" อย่างในบทก็เจ๋งเลย
หรือว่า...มองจากมุมอื่นอาจเห็นแบบนั้นก็ได้นะ
พิเภกให้คำทำนาย หนุมานก็อาสาอมพลับพลา ...สุครีพจัดเวรยาม

คอยดูฉากต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ...ไฮไลท์ ที่เห็นจากภาพข่าวโปรโมทอยู่ตรนี้
ตอนที่หนุมานออกมารำแผลงฤทธิ์ วิ่งหากลับเข้าไปให้ดรายไอซ์
แล้วเปิดม่านเป็นหนุมานตัวใหญ่ หุบปากอมพลับพลา ...อลังการงานสร้างจริงๆ



ครั้นถึงกองทัพพลับพลา
เห็นโยธาเที่ยวตรวจกวดขัน
ทั้งแสงเพลิงโพลงสว่างดังกลางวัน
กุมภัณฑ์ค่อยย่องมองเข้าไป


ฉากช่วงนี้เรียกเสียงฮือฮาและเสียงหัวเราะจากคนดูได้มาก
เพราะท่าทางการแสดงทั้งตัวยักษ์ตัวลิง มีลูกเล่น ชวนให้หัวเราะ
แล้วในที่สุดมัยราพณ์ก็รู้่ว่า การป้องกันจะหย่อนลงเมื่อดาวประกายพรึกขึ้น
ก็เลยขึ้นไปบนยอดเขา หมุนกล้องยา สร้างแสงแวววาวเต็มโรง
ก็เป็นเทคนิคการเล่นแสงสะท้อน ...ออกมาสวยมาก
จากนั้นก็ลงมาเป่ายา ทำให้พลลิงค่อยๆ หลับ ไปจนหมด
แม้กระทั่งหนุมาน ...




ฉากนี้สุดยอดจริงๆ หนุมานค่อยๆ ทำตาปรือ....จนปิดตาลง
มือที่วางตั้งกั้นปาก ก็ค่อยๆ หงายแบออก ปากอ้า จนมองเห็นพระราม พระลักษณ์หลับอยู่ในปาก
เป็นอันว่า มัยราพณ์แบกพระราม แล้วก็ดิ่งลงบาดาลไป
ต้องใช้ว่า "ดิ่ง" เพราะผลุบหายลงไปในพื้นเวที ....แล้วม่านก็ปิดลง
เป็นอันจบการแสดงช่วงแรก ....พัก 20 นาที

ช่วงพัก เรากวาดสายตาไปดูที่นั่งผู้ชม ...มีผู้ชมโขนพระราชทานหลากหลายวัยมากเลย
ต่างจากบรรยากาศในโรงละครแห่งชาติ ที่เวลามองไป เรามักเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตา
ก็นับว่าการประชาสัมพันธ์การแสดงครั้งนี้ ...กระจายกลุ่มผู้ชมได้กว้างขวาง
เข้าถึงทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมาโดยกระแส หรือมาชมโดยสาเหตุใดก็ตาม
เราก็ถือว่า ทำให้คนหมู่มากและหมู่กว้างได้ตระหนักถึงความงดงาม
ทั้งในเชิงวรรณศิลป์ คีตศิลป์ นาฎศิลป์ และประณีตศิลป์ของไทยมากยิ่งขึ้น

การจัดแสดงโดยมีวงปี่พาทย์และนักร้อง บรรเลงและขับร้อง สลับกันไป
ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ชมการประชันวงปี่พาทย์เป็นรายการแถมไปด้วย
หลายครั้งที่เราละสายตาจากบนเวที ไปชะเง้อมองข้างเวทีซ้าย-ขวา


เอาล่ะ ...หมดเวลาพักแล้ว กลับมาชมการแสดงกันต่อ

เปิดฉากแรกก็ทำให้หนุมานหมุดดำลงใต้บาดาลในพริบตา
โผล่มา ฟาดฟันกับ "เขากระทบกัน" และรบกับยุงตัวเท่าแม่ไก่
เสียงเด็กผู้ชายที่นั่งข้างหลังเรา หัวเราะชอบใจเสียงดังมากกกกกก




ทะยานขึ้นยืนขวางทางไว้
แล้วว่าเหวยลิงใหญ่ใจกล้า
มัยราพณ์ห้เราเฝ้าคงคา
อย่าเข้ามาเร่งกลับคืนไป


แล้วก็มาถึงด่านสุดท้าย สระบัวใหญ่ที่มี "มัจฉานุ" เฝ้าสระอยู่
รบกัน...แล้วก็รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน...พอหนุมานถามทาง มัจฉานุเกรงว่าบอกไป ก็เหมือนอกตัญญูต่อผู้ชุบเลี้ยง
ก็เลย "บอกใบ้" แต่หนุมาน (พระเอกตัวจริงของเรื่อง) ฉลาด สามารถ get ได้ไว
แต่ก็ไม่สามารถสลัดลูกชายที่เพิ่งพบกันได้ไวนัก ก็เลยมีบทเล่นกัน ปลอบกันอีกพัก
ก่อนจะหักก้านยัวใหญ่แล้วกระโดดลงไป ....ชอบท่าหนุมานมาก ทำเหมือนกระโดดลงน้ำไปจริงๆ เลยหละ




ก้าวขึ้นตาชั่งมหึมา
น้ำหนักกัญญาหามากไม่
รวมน้ำหนักหนุมานชาญชัย
คันชั่งใหญ่หักหล่นไม่ทนทาน


ตัดมาที่นางพิรากวน พระพี่นางของมัยราพณ์ ที่ถูกลดชั้น ถูกใช้ให้ออกมาตักน้ำไปต้มลูกชายกับพระราม
พอเจอกับหนุมาน เล่าเรื่องราวให้ฟัง หนุมานก็เลยแปลงกายเป็นใยบัว เกาะสไบ เข้าเมือง
แต่การเข้าเมืองบาดาลนี้ ต้องชั่งน้ำหนักตัวก่อน

ตรงนี้เปิดโอกาสให้มี "ตลกโขน" เข้ามาเสริมความสนุกสนาน
ซึ่งเราขอบอกว่า นักแสดงทั้ง 3 ท่านแสดงได้ไหลลื่น แม้จะเป็นไปตามบทมากๆ ก็เหอะ
แต่ก็ถือว่า พอจะสร้าง "ตัวตลก" บนเวทีโขนได้บ้างแล้ว
ไม่งั้นเราจะนึกถึงแต่ภาพ อ.เสรี ครูมืด คุณถนอม คุณจรัญ ตลอดเวลา

คันตาชั่งหักเพราะน้ำหนักหนุมาน แต่นางพิรากวนก็แก้ตัวจนกระทั่งพาหนุมานแฝงตัวเข้าเมืองจนได้

ตัดฉากมาที่ห้องบรรทมมัยราพณ์ เหมือนห้องฝ่ายในท้าวทศกัณฐ์ ณ นางลอย



หนุมานขุนวานร ค่อยแฝงกายบทจรมาถึงตำหนักใหญ่
รู้ว่ามัยราพณ์นอนหลับไหลอยู่บนแทนที่
จึงสำแดงแผลงฤทธีถีบบัญชรชัย
บุกเข้าไปในปรางมาศของอสุรา


ไม่พูดพร่ำทำเพลง ..หนุมานก็ยันมัยราพณ์ตกเตียงซะงั้น
ถึงเวลารบกันซะที ...




มัยราพณ์อสุรา เห็นหนุมานชาญศักดานั้นกล้าแข็ง
เข้ารบรุดยุทธแย้งไม่หนีหน้า
ให้อ่อนกำลังวังชาระอาใจ


รบไปรบมามัยราพณ์ ก็ท้าประลองกำลังกับหนุมาน ย้ายไปฉากดงตาลกันเลย

ภาพเยอะแล้ว ...ไปต่อตอนจบที่ blog หน้าดีกว่านะคะ





Create Date : 03 สิงหาคม 2554
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 11:59:35 น. 2 comments
Counter : 11540 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาอ่านจ้า คุณนัทธ์บรรยายเก่งจัง นึกภาพตามได้เลยค่ะ

อาทิตย์นี้ว่าจะไปดูค่ะ ไม่รู้ว่าจะจองตั๋วได้หรือเปล่า เคยโทรไปถามเรื่องบัตร เขาบอกว่าเหลือแต่แถวหลังสุด เลยลังเลใจว่าจะไปดีหรือเปล่า อยากเห็นชุดชัด ๆ น่ะ แต่หลานสาวไปดูมาแล้ว บอกว่าดูได้ชัดเหมือนกัน ถ้าจองตั๋วได้จะไปดูค่ะ
 
 

โดย: haiku วันที่: 4 สิงหาคม 2554 เวลา:23:26:19 น.  

 
 
 
คุณ haiku > ขอให้ได้บัตรชมสมใจนะคะ ถ้้าได้ดูแล้ว ก็เขียนเล่าใน blog อีกครั้งนะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:23:12:42 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com