1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31
พาลีสอนน้อง
ในบรรดาโขนเรื่องรามเกียรติ์ที่เราได้ชมมา มีอยู่ชุดนึงที่อาจารย์เสรี หวังในธรรม สร้างสรรค์ขึ้น และเราชอบมากเป็นพิเศษ คือ ชุด "พาลีสอนน้อง" การแสดงชุดนี้ อาจารย์เสรี หวังในธรรม ปรับปรุงบทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) จัดแสดงครั้งแรก ณ โรงละครแห่งชาติ เมื่อพ.ศ. 2517 โดยมีครูมนตรี ตราโมช เป็นผู้บรรจุเพลง การแสดงโขนชุดนี้ ยกความสำคัญให้แก่ "พาลี" ตัวละครที่ตายซะตั้งแต่เล่มแรก เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไปได้ ก็พาลีนั้นได้รับพรจากพระอิศวร ...รบกับใครก็จะดึงกำลังจากฝ่ายตรงข้ามมาได้กึ้งหนึ่ง แบบนี้รบกับใครก็ชนะตลอด ...แล้วหนุมานจะได้เป็นทหารเอกรึ ก็เลยทำให้พาลี ต้องรับสัตย์ แล้วเสียคำสัตย์ ...และตายเพื่อถือความสัตย์นั้น ก่อนตาย...พาลีก็เรียกน้องชาย-สุครีพ- มาสอนการวางตัวเป็น "ข้าราชการ" ที่ดี และสั่งความ ฝากฝังให้ดูแลหลานชาย บทพระราชนิพนธ์ในตอนนี้ มีความไพเราะและเป็นสิ่งที่หน่วยงานหลายแห่ง ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการทำงานร่วมกันด้วย ลองอ่านดู ....บทพระราชนิพนธ์ ๐ ครั้นเสร็จซึ่งลาพระสี่กร..................วานรเศร้าโทมนัสสา จึ่งสั่งสุครีพอนุชา ............................พี่จะลาสิ้นชีพชนมาน เจ้าจะอยู่เป็นข้าพระทรงจักร................จงพิทักษ์รักษากันอาหลาน หมั่นเฝ้าเช้าเย็นเป็นนิจกาล.................อย่าเกียจคร้านแต่ตามอำเภอใจ สิ่งใดพระองค์จะตรัสถาม ..................อย่าเบาความเพ็ดทูลแต่โดยได้ อย่าแต่งตัวโอ่อวดพระทรงชัย ............ที่ในพระโรงรัตนา หมอบเฝ้าอย่าก้มอย่าเงยหงาย ...........อย่าเตร่ตร่ายเหลือบแลซ้ายขวา พระที่นั่งบัลลังก์อลงการ์....................อย่าฝ่าฝืนขึ้นนั่งอิงองค์ อันฝูงพระสนมนางใน .......................อย่าผูกจิตพิสมัยใหลหลง จงภักดีต่อใต้บาทบงสุ์ ......................อย่าทะนงว่าทรงพระเมตตา แขกเมืองอย่าบอกความลับ................อย่าสนิทคำนับคบหา อันรางวัลให้ปันเสนา ........................อย่ามีใจฉันทาทัดทาน แม้นกริ้วโกรธลงโทษผู้ใด .................อย่าใส่ใจยุยงจงผลาญ อย่าโลภลักราชทรัพย์ศฤงคาร.............พระบรรหารสิ่งใดจงจำความ อาสาเจ้าตนจนตัวตาย ......................จึ่งนับว่าเป็นชายชาญสนาม เจ้าจงจำคำทำตาม...........................ก็จะจำเริญความสวัสดี สอนน้องสิ้นเสียงสิ้นสั่ง ....................สิ้นกำลังสิ้นฤทธิ์กระบี่ศรี วางศรให้ปักอินทรีย์ ........................สิ้นชีวีไปเกิดในวิมาน ฯ ฯ ๑๘ คำ ฯ โอด ครั้นพอมานำเป็นบทโขนใช้ในการแสดงจริง ก็ต้องมีการบรรจุเพลงร้อง เติมบทเจรจาเข้าไป เพื่อเติมเต็มและเพิ่มอรรถรสให้กับผู้ชมการแสดง ซึ่งในการทำบทครูเสรีปรับคำจากบทพระราชนิพนธ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดูจากบทโขนฉากและบทโขนหน้าจอ ที่ตีพิมพ์เป็น "หนังสือที่ระลึกงานศพ" ก็ใช้บนในช่วงสอนสั่งนี้เหมือนกัน บทร้องการแสดงโขน -ร้องเพลงแขกลพบุรี- ๐ ครั้นเสร็จซึ่งลาพระสี่กร...................วานรเศร้าโทมนัสสา ร้องสั่งสุครีพอนุชา............................พี่จะลาสิ้นชีพชนมาน เจ้าจะอยู่เป็นข้าพระทรงจักร................จงพิทักษ์รักษากันอาหลาน หมั่นเฝ้าเช้าเย็นเป็นนิจกาล..................อย่าเกียจคร้านแต่ตามอำเภอใจ สิ่งใดพระองค์ทรงตรัส ถาม..................อย่าเบาความเพ็ดทูลแต่โดยได้ อย่าแต่งกายหมายอวด พระทรงชัย........ที่ในพระโรงรัตนา หมอบเฝ้าอย่าก้มอย่าเงยหน้า...............อย่าเตร่ตรายเหลือบแลซ้ายขวา พระที่นั่งบัลลังก์อลงการ์.....................อย่าฝ่าฝืนขึ้นนั่งอิงองค์ อันฝูงพระสนมนางใน.........................อย่าผูกจิตพิสมัยใหลหลง ภักดีต่อใต้บาทบงสุ์...........................อย่าทะนงว่าทรงพระเมตตา แขกเมืองอย่าบอกความลับ.................อย่าสนิทคำนับคบหา อันรางวัลให้ปันเสนา..........................อย่ามีใจอิจฉาทัดทาน แม้กริ้วโกรธลงโทษผู้ใด.....................อย่าใส่ใจยุยงจงผลาญ อย่าโลภลักราชทรัพย์ศฤงคาร..............พระบรรหารสิ่งใดจงจำความ อาสาเจ้าตนจนตัวตาย........................จึ่งนับเป็นชายชาญสนาม เจ้าจงจำคำทำตาม.............................ก็จะจำเริญความสวัสดี บทเจรจา พระน้องรักร่วมชีวีพี่ขอลา อย่าวิโยคโศกโศกาอาลัยพี่ จงปกป้องครองพลกระบี่ให้มีธรรม เอาสามัคคีตั้งนำเป็นธงชัย หนึ่งองคตยังเยาว์วัยหมั่นสอนสั่ง อย่าวางใจให้โอหังกำแหงเหิม รู้ศึกษาปัญญาเพิ่มเสริมนิสัย รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ไม่ไขว่หน้า หนึ่งนักสิทธิ์วิทยาคณาจารย์ จงเคารพนบสักการเป็นมงคล อย่ารุกรานให้ร้อนรนประทุษโทษ ถึงแสนโกรธรู้ระงับดับด้วยปัญญา พี่ฝากด้วยช่วยเลี้ยงนัดดาไว้ให้จงดี -ร้องเพลงบรเทศ- ๐ สอนน้องสิ้นเสียงสิ้นสั่ง...................สิ้นกำลังสิ้นฤทธิ์กระบี่ศรี วางศรปักลงตรงอินทรีย์.....................สิ้นชีวีไปเกิดในวิมาน ฯ -ปี่พาทย์ทำเพลงรัวดึกดำบรรพ์- ที่เราหยิบยกบทประพันธ์ช่วงนี้มาเขียนถึง ก็เพราะเราชอบ "คำสอนสั่ง" ช่วงนี้มาก และเมื่อประกอบกับเสียงร้องของครูแจ้ง คล้ายสีทอง และเสียงพากย์เจรจาของครูประสาท ทองอร่าม มันให้ความรู้สึกสะทกสะท้อนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าการแสดงชุดนี้ (ตามคลิปที่หยิบมาแปะ) เราจะไม่ได้ดูสดก็ตามที แต่ก็ยังพอรำลึกถึงความเศร้าสะเที้อนใจ เมื่อครั้งที่เคยได้ชมได้บ้างนะ VIDEO เสียงร้องและเสียงพากย์เจรจาที่เจือเสียงเครือสะอื้นนี้ อาจเป็นเพราะผู้ร้องและผู้พากย์เจรจา ระลึกถึงผู้ทำบทละครที่ล่วงลับ ก็เป็นได้ เมื่อมาประกอบกับท่ารำการแสดงแล้ว ...มันก้เลยทำให้คลิปนี้เศร้าหนักขึ้นไปอีก เอาล่ะ...เศร้าไปแล้ว ...จบห้วนๆ แบบนี้เลยละกัน ปล. บทพระราชนิพนธ์และบทร้อง เรา copy-paste มาจาก Note ของ Kroekbol Subhasereebhap เพื่อน FB แบบว่า ...ขี้เกียจพิมพ์เองอ่ะนะ
Create Date : 15 มีนาคม 2555
Last Update : 15 มีนาคม 2555 22:14:56 น.
10 comments
Counter : 12070 Pageviews.
โดย: น้องแมวดอย วันที่: 15 มีนาคม 2555 เวลา:22:06:57 น.
โดย: find me pr วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:21:18:27 น.
โดย: bow_bt วันที่: 17 มีนาคม 2555 เวลา:9:48:53 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มีนาคม 2555 เวลา:11:31:16 น.
โดย: Foreigner IP: 166.248.134.116 วันที่: 14 มิถุนายน 2555 เวลา:20:17:00 น.
โดย: นัทธ์ วันที่: 14 มิถุนายน 2555 เวลา:23:10:36 น.
โดย: Foreigner IP: 166.248.135.175 วันที่: 16 มิถุนายน 2555 เวลา:1:07:28 น.
นัทธ์
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [? ]
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร