|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
โขนพระราชทาน ชุด "นางลอย" : ก่อนการแสดงจะเริ่ม
เราเรียกการแสดงโขนที่จัดโดยมูลนิธิศิลปาชีพ ว่า "โขนพระราชทาน" ก็เพราะเกิดจากพระราชปรารภของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทูลต่อสมเด็จพระราชินี ด้วยทรงกังวลว่า "โขน น่าเป็นห่วง ไม่ค่อยมีคนดู" สมเด็จท่านตรัสตอบว่า "ถ้าไม่มีใครดู แม่ดูเอง" แล้วจึงตามมาด้วยการพัฒนารูปแบบการแสดง การสร้างเครื่องแต่งกายใหม่ แนวทางการแต่งหน้า การสร้างฉากที่วิจิตรงดงาม และอลังการ กลายเป็นโขนที่สมบูรณ์ในรัชสมัยนี้ เรียกกันได้ว่าเป็น "โขนแบบรัชกาลที่ 9" ก็ว่าได้นะ
ภาพจาก Thaiticketmajor.com
แต่ในการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น ก็มีบางสิ่งที่เราไม่ชอบ นั่นคือ การแต่งหน้านักแสดง ไม่ใช่ว่า "ไม่สวย" ...สวยมาก สวยแบบภาพวาดในจิตรกรรมไทย ลายเส้นตัดขอบตา วงคิ้ว ทำให้รู้สึกเหมือน "หน้าหุ่น" มากกว่าหน้านักแสดงมีชีวิต และเมื่อความวิจิตรบรรจงบนใบหน้านักแสดง อยู่บนเวทีขนาดใหญ่ ผู้ชมมองเห็นชัดเจนหรือไร ..ใยต้องทำให้สิ้นเปลือง ..ก็แค่ความเห็นส่วนตัวอ่ะนะ
เมื่อเราตัดสินใจแล้วว่า การแสดงครั้งนี้จะต้องไม่พลาด ชวนเพื่อนได้ ก็จองบัตรเลย จองทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะเป็นการแสดงกับปี่พาทย์แบบดั่งเดิม หรือว่าจะแสดงกับวงดุริยางค์สากลกันแน่ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ..เราจะดูล่ะ กลัวว่าการแสดงชุดนี้จะไม่มีรอบสอง
ที่จริงเราคาดหวังจะได้ชมการแสดงกับวงดุริยางค์สากลนะ เพราะดูโขนกับวงปี่พาทย์มาตลอดจนคุ้นเคยดีแล้ว และโขนพระราชทานนี้ ใช้บทพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ซึ่งนิพนธ์ขึ้นเป็น "ตับนางลอย" ตามคำทูลขอของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์เพื่อจะจัดบรรเลงถวาย เคานต์ออฟ ตุริน แห่งอิตาลี ซึ่งเสด็จมาประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ในครั้งนั้น ใช้นักร้องและดนตรีจากวงดนตรีกรมมหรสพร่วมกับวงดนตรีของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ บรรเลงถวาย ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในวันที่ 13 ธันวาคม 2441 นับเป็นครั้งแรกที่มีการบรรเลงเพลงไทยเป็นเรื่องเดียวติดต่อกันตลอด
กรมศิลปากรจัดพิมพ์ อุทิศถวาย ในงานฉลองครบรอบร้อยปีแห่งวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ วันที่ 28 เมษายน 2506
ตับนางลอยหรือตับเรื่องรามเกียรติ์แบ่งออกเป็น 2 ท่อนเรียก บั้นต้นและบั้นปลาย
เพลงตับนางลอยบั้นต้นหรือตับใหญ่ เริ่มเนื้อความตั้งแต่ทศกัณฐ์สั่งให้หานางเบญกายมาเฝ้าเพื่อจะใช้ให้แปลงกายเป็นนางสีดา ทำตายลอยน้ำไปให้พระรามเห็น ประกอบด้วยสร้อยเพลงท่องย่อน เขมรปากท่อ สมิงทองมอญ ลมพัดชายเขา แขกลพบุรี กบเต้น จำปาทองเทศ ฉุยฉายแม่ศรี คลื่นกระทบฝั่ง ลีลากระทุ่ม โอ้ชาตรี ปีนตลิ่ง จีนขิมเล็ก และเชิดฉิ่ง เพลงตับนางลอยบั้นปลายหรือตับเล็ก เริ่มเนื้อความตั้งแต่นางเบญกายรับคำสั่งจากทศกัณฐ์ทำตายลอยน้ำไปยังพลับพลาที่ประทับของพระราม ในตอนเช้าพระรามเสด็จจะลงสรงพบเข้าเชื่อว่าตายจริง หนุมานยืนยันว่าเป็นยักษ์แปลงมามิใช่นางสีดาตัวจริงและขอพิสูจน์ความจริง ตับชุดนี้ประกอบด้วยเพลงยานี เชิดฉิ่ง แขกต่อยหม้อ โล้ ช้าปี่ หรุ่ม ร่าย เต่าเห่ ตะลุ่มโปง โอ้ปี่โลมนอกขวัญอ่อน กล่อมพระยา พราหมณ์เก็บหัวแหวน บรเทศ และเชิดนอก
เพลงตับนางลอยนี้ วงดนตรีไทยนิยมนำมาขับร้อง เพราะเนื้อเพลงสละสลวยมาก และบางครั้งก็มีการจัด "ออกตัวโขน" ประกอบด้วย กลายเป็นกึ่งละครขึ้นมา ซึ่งการชมลักษณะนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนดู Music Video เลยล่ะ แต่พอบรรจุบทพากษ์ บทเจรจาเข้าไป ..ก็เลยเป็น"บทโขน"ขึ้นมาได้เช่นกัน
เย็นวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2553 หลังจากเสร็จกิจกรรมรวมพลคน Secret แล้ว เราก็มาโต๋เต๋ รอเวลาอยู่ที่เอสพรานาด ...กินข้าวเย็นคนเดียว 1 อิ่ม แล้วมุ่งหน้าศูนย์วัฒนธรรม
เดินผ่านหอประชุมเล็ก ก็เห็นนักแสดงกำลังพักผ่อน ...ชุดแต่งกายสวยๆ แตกต่างกันไป เรื่องเครื่องแต่งกายนี้ เราชอบมากเลย ลวดลายค่อนข้างละเอียด ต่างจากชุดนักแสดงทั่วไป ที่ปักลายขนาดใหญ่ ดูหยาบ และ "ไม่งาม" อยากขอถ่ายรูป ...แต่เกรงใจ (จริงๆ คือ ไม่กล้านั่นแหละ)
เข้าสู่หอประชุมใหญ่ ..มีนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดแสดงโขนอยู่ 2 ด้านเช่นเดียวกับครั้งก่อน เล่าเรื่องการทำฉาก การทำชุด การแต่งหน้า ...ก็เลยไม่ถ่ายรูปดีกว่า ก็ครั้งนี้ กล้องตัวที่ใช้ประจำเข้าศูนย์ฯ ไปแล้ว เสร็จไม่ทัน ..เราก็ถือกล้องอีกตัวมาเผื่่อ ตั้งใจจะถ่ายรูปการแสดงมาประกอบการเล่าเรื่อง เหมือนที่เคยเขียนถึง โขนพรหมมาศ แต่ปรากฎว่า กล้องตัวนี้เมือปิดเครื่อง เปิดขึ้นใหม่ ทุกอย่างที่ตั้งไว้จะคืนกลับไปค่า defaut ถ่ายใหม่ ..ตั้งกล้องใหม่ ไม่ work สำหรับใช้ถ่ายในการแสดงเอาซะเลย ที่จริง อาจเป็นเพราะเรายังทำความคุ้นเคยกับกล้องมือสองตัวนี้ น้อยเกินไปก็ได้นะ
ระหว่างรอเพื่อนก็เดินวนดูนิทรรศการไปพลาง ชั่งใจไปพลางว่าจะซือของที่ระลึกอะไรดี DVD และ CD เพลงจากการแสดง โขน ชุด พรหมมาศ ทั้ง 2 ครั้ง ก็ซื้อไปแล้ว โปสการ์ด ฝีมือ "น้าจุก" และ "น้าสุพจน์" แห่งคลับแคนนอน @Pantip ก็ซื้อแล้ว เสื้อ "นางลอย" สีขาวลายสีม่วง ดูไปดูมาก้ไม่ค่อยถูกใจนัก สุดท้ายก็หยิบสูจิบัตรมาได้ 1 เล่ม ....จะโอ้เอ้ทำไม่ฟะ ไปงานไหนก็เห็นมองหาสูจิบัตรทุกที
ได้มาแล้วก็เลยหาที่นั่ง ...อ่านไปพลาง... อ้าว..มีการนำเครื่องประดับ เครื่องแต่งกายใส่ตู้มาตั้งโชว์ไว้ด้วย เคยดูจากนิทรรศการเมื่อปลายปีที่แล้วแล้วล่ะ ..งั้นก็ อ่านหนังสือรอเวลาไป และแล้วคุณเพือ่นก็มาถึงตามเวลานัดหมาย ที่นี่ก็แค่รอเวลาประตูเปิดให้เข้าชมเท่านั้นเอง
ระหว่างที่นั่งรอ บรรยากาศที่ผ่านสายตาของเราคือ ภาพครอบครัว ไม่ว่าจะพ่อ-แม่-ลูก หรือบางครอบครัวรวมปู่-ยา-ตา-ยาย เข้าไปด้วย จูงมือกันก้าวผ่านประตูเข้ามา พากันเดินชมนิทรรศการที่จัดแสดง เสียงพูดคุยด้วยความชื่นชมผ่านหูเราไปหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งคำพูดบอกต่อกวันว่า "โขนหาดูยาก"
โอย อยากตะโกนบอกออกไปจังเลยวา่ "โขนหาดูไม่ยากซะหน่อย คุณหารึยัง" อย่างน้อยอ่ะนะ ที่โรงละครแห่งชาติ ทั้งที่กรุงเทพ สุพรรณ โคราช ก็มี "โขน" ให้ดูจ๊ะ ได้ติดตามกันอย่างจริงจังบ้างหรือป่าว
แต่เอาเถอะ ...บ้านเค้าอาจไม่ได้อยู่ใกล้โรงละครแบบเรา ก็เลยรู้สึกว่ามันหาดูยาก ... ดังนั้น การที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถพระราชโขนให้พวกเราได้ดูกันครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อ นาฎศิลปิน ช่างศิราภรณ์ ช่างอาภรณ์ ช่างแต่งหน้า รวมไปถึงช่างเขียน ที่บรรจงสร้างฉากอันงดงามเหล่านี้ขึ้นมา
อ่ะ ...เสียงสัญญาณประตูเปิดแล้ว ...เราเข้าข้างในกันดีกว่า ภายในหอประชุมค่ำคืนนี้ คึกคักมาก ที่นั่งของเรา 600 บาท ได้มุมดีเลยทีเดียว คนที่นั่งข้างเรา หันมาชวนคุย ราวกับว่ามาด้วยกันงั้นแหละ เขาตั้งใจมาชม "อาจารย์ขวัญใจ คงถาวร" ผู้แสดงเป็นนางสีดาโดยเฉพาะ แต่ต้องผิดหวัง เมื่อทราบว่ารอบนี้ เป็นนักแสดงอีกชุด เราก็เลยพลอยหวั่นๆ ว่า "พระราม" จะเปลี่ยนคนรึป่าว
เอ๊ะ ...เสียงฮือฮาอะไรกัน พร้อมใจกันเอี้ยวตัวไปดู .. พี่เบิร์ด ธงโชย แมคอินไตย มาดูด้วย ..รอบเดียวกัน เรารีบหยิบกล้องขึ้นมา ..กล้าๆ กลัวๆ อยากไปถ่ายรุปเหมือนกันนะ แต่ความทีตกประหม่าง่าย ...เจอคนดัง ชอบดูห่างๆ เลยเปลี่ยนเป็นยุให้เพื่อนไปแทน
พี่เบิร์ด ยังคงเป็นพี่เบิร์ดขวัญใจมหาชน หลายคนลุกจากที่นั่งเพื่อไปขอถ่ายรูป รุมกันจนมองไม่เห็นตัว ...เราเปลี่ยนใจไม่ถ่ายแล้วล่ะ ..แต่เพื่อนยังกระสับกระส่าย ตัดสินใจไม่ถูก ตอนพักครึ่งพี่เบิร์ดลุกมาเข้าห้องน้ำ ...คุณเพื่อนก็ตั้งท่าจะถ่ายรูป พอเขาเิดินผ่านหน้า กลายเป็นลงมือให้จับซะงั้น ..แล้วกล้องอ่ะ ถึงไว้ทำไม ตอนเขาเดินกลับมาทีนั่งอีกครั้ง คราวนี้เลยต้องใช้ลูกยุ ให้ลุกจากเก้าอี้ ไปรุมถ่ายเหมือนคนอื่นบ้าง ก็เลยได้รูปพี่เบิร์ด แบบเบลอๆ กลับมาให้ชื่นใจ 1 รูป
นอกเรื่องไปแล้ว ...ไฟดิมลงแล้ว เสียงประกาศปิดเครื่องมือสื่อสาร และ "งดถ่ายภาพ" ได้เวลาชมการแสดงแล้วล่ะ ...เก็บกล้องลงกระเป๋า แล้วไม่ต้องหยิบขึ้นมาอีกเลย ตั้งอกตั้งใจชมอย่างเดียวละกัน ...
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 06 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 22:29:13 น. |
|
19 comments
|
Counter : 7448 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: apple a day IP: 124.120.118.106 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:23:23:28 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:23:34:03 น. |
|
โดย: อักษรชนนี IP: 115.67.33.136 วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:0:57:09 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:8:04:29 น. |
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:9:38:44 น. |
|
โดย: นางพญามารเมฆไฟ IP: 58.8.10.212 วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:11:19:56 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:11:33:24 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:13:06:48 น. |
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:16:45:48 น. |
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:0:25:14 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:0:33:29 น. |
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:9:56:29 น. |
|
โดย: SongPee วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:11:47:02 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:12:00:40 น. |
|
โดย: Oh_veena วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:18:59:27 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:22:22:46 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:21:05:50 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
อีกเรื่องก็เรื่องแต่งหน้าเหมือนกัน แต่งสวยแบบงานจิตรกรรม แต่ดูแปลกเวลาอยู่บนหน้าคน มองไกลๆก็ไม่เห็นจริงๆ การแต่งหน้าแบบนี้มันอาจจะเหมาะกับโบราณที่สถานที่แสดงไม่ใหญ่มาก เห็นหน้าคนแสดงได้มากกว่ามั้ง
พี่เบริด์....น่ารักสุดในสามโลก จุ๊บๆๆ
ตอนต่อไปมาเร็วๆนะ รออ่านๆๆๆ