<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 มีนาคม 2556
 

วันวานที่ปีนัง : Part II

ความเดิมตอนที่แล้ว 


ในกลุ่ม 4 คนของพวกเรานั้น ทุกคนเคยเดินทางมาประเทศมาเลเซียแล้ว 
และมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่เคยเดินทางมาเที่ยวเกาะปีนังแห่งนี้ 
เราก็หวังพึ่งคนเคยมานั่นแหละ เลยไม่ได้คิดข้อมูลอะไรนัก 
พอผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็ไปตั้งหลักกันที่ "ห้องน้ำ" ก่อนเลย 
นอกจากทำธุระส่วนตัวแล้ว แถวๆ นั้นจะมีโบรชั่วร์และแผนที่มากมายให้นักท่องเที่ยวหยิบติดไม้ติดมือไป 
เราก็เลือกได้แผนที่เหมาะๆ เอาไว้ไปเปิดดูเมื่อถึงที่พัก
แล้วก็พากันเดินตาม "คนเคยมา" ไปยังป้ายรถประจำทาง 
...แน่นอน นักท่องเที่ยวซำเหมากระเป๋าแบบอย่างพวกเราอ่ะนะ ไม่เรียกใช้บริการ TAXI หรอกจ๊ะ 



พวกยืนรอรถเมล์สายที่จะเข้าไปยังชุมทางรถโดยสารในเมืองอยู่นาน แล้วก็ได้พบสาวใหญ่แบกเป้ใบใหญ่เดินทางมาเที่ยวคนเดียว 
โอ้ว....น้องช่างสามารถนัก พี่ๆ ยังต้องเดินทางแบบมีคู่หูกันเลย 
พอรถมา ก็ขึ้นรถ จ่ายเงิน ได้ตั๋วมาหนึ่งใบ 


ระหว่างทางก็นั่งมองทาง ดูบ้านเรือน ดูท้องถนนไปเรื่อย  ยิ่งใกล้ตัวเมือง รถยิ่งเยอะ 
ผู้คนที่เดินขี้น-ลงแต่ละป้าย ก็มีทั้งคนจีน คนแขก และคนมาเลย์  สามเชื้อชาติที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ 
ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมือง เกือบชั่วโมงเลยนะ 
ณ สถานที่ที่ถือว่าเป็นชุมทางของรถโดยสารนี้ มีจุดขายบัตรโดยสารแบบ "เหมา" 
เป็นบัตรโดยสารแบบ 7 วัน ของ RAPID PENANG  ราคา 30 RM 
พวกเราก็ต้องแสดงพาสสปอร์ตและซื้อบัตรโดยสาร ซึ่งจะระบุชื่อ และช่วงเวลาที่เราอยู่ในปีนังลงในบัตร
เวลาขึ้นรถโดยสาร ก็แสดงบัตร ให้คนขับรถเห็น สะดวกดี 



ในชุดก็จะมีแผนที่เส้นทางเดินรถ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ระบุไว้พร้อมกับหมายเลขรถโดยสารที่จะนำเราไปถึงสถานที่นั้นๆ 
เป็นอันว่า นอกจากสองเท้าของเราเองแล้ว พาหนะเดินทาง (สาธารณะ) อยู่ในมือเรียบร้อย 
ต่อไป ก็ต้องพาตัวเองไปให้ถึงที่พัก RYOKAN  ตั้งอยู่ที่ Jalan Muntri  



ปล่อยให้เพื่อนๆ อ่านข้อมูลที่ป้ายรถเมล์กันไป  เราเป็นผู้ตามที่ดี 
ใช้เวลาระหว่างรอ ถ่ายรูปเมืองไปพลางๆ ก่อน 




นีคือตึกที่สูงที่สุด ที่สามารถขึ้นไปบนชั้นสูงสุดเพื่อชมเมืองได้ ....ซึ่งเสียเงินค่าขึ้นด้วยนะ





รออยู่นาน รถเมล์สายที่จะพาเราไปยังถนน "จรัญมนตรี" ก็มาจอดเทียบ 
ขึ้นประตูหน้า  แสดงบัตร  บอกคนขับไว้ว่าพวกเราจะลงตรงไหน แล้วก็เดินไปหาที่ยืนด้านใน พร้อมกับมองทางไปด้วย 



พาถึงปากทาง คนขับก็ร้องตะโกนบอกให้นักท่องเที่ยวทั้งสี่ลากกระเป๋าลงจากรถได้ ....
มองเห็นป้าย "7-11" อยู่ปากซอย ....อ่ะ ..สบายแล้วเรา หาอะไรกินไม่ได้ ก็ไม่อดตาย   



เดินมองซ้าย มองขวา หาป้ายชื่อ Hostel ที่เพื่อนเราจองไว้ ...เป็นครั้งแรกนะเนี่ย ที่จะนอนใน Hostel แบบนี้ 
ปกติพวกเรามักจองโรงแรมหรือที่พักที่ดูเป็นสัดส่วน นอนห้องละ 2 หรือ 3 คนแบบมีห้องน้ำในตัว
คราวนี้ไม่รู้นึกไง ...คนจองที่พักอยากเปลี่ยนรูปแบบ ก็เลยจองห้อง 4 เตียง และห้องน้ำรวมซะด้วย 
นัยว่า เป็นเปลี่ยนบรรยากาศ หรือลองของใหม่ หรือเพราะประหยัด ....



ที่พักแบบนี้ ราคาถูก แต่ว่าต้องจ่ายค่าผ้าเช็ดตัวเอง ...และคุยไปคุยมา พวกเราก็ได้แถมอาหารเช้าด้วย 
คงเป็นเพราะมี comment ของลูกค้าที่เคยพักแจ้งในเรื่องนี้ไว้เยอะมั๊ง พวกเราก็เลยได้ของแถมในรอบนี้ 
ขึ้นบันไดแคบๆ ไปชั้นบน ต้องถอดรองเท้าไว้ที่ชั้นวางด้วย 
เข้าห้องพักได้ ก็เจรจาตกลงกันว่า ใครนอนเตียงบน ใครนอนเตียงล่าง  
เราเข้าห้องน้ำไม่บ่อยนัก เลยยกกระเป๋าขึ้นวางเตียงบน 
...ที่จริงในห้องมีตู้ล๊อคเกอร์ให้ด้วยนะ แต่ขนาดเล็กไป เรายัดกระเป๋าเข้าไปเก็บไม่ได้ 

ออกไปล้างหน้าล้างตา และสำรวจห้องน้ำ ซึ่งแบ่งห้องอาบน้ำและห้องส้วม 
เงี่ยหูฟังเสียงจากเพื่อนข้างห้อง  ก็ดูสงบเงียบ คงยังไม่มีใครกลับเข้าที่ัพักมั๊ง ....

และแล้วก็ได้เวลาออกเดินท่อมๆ สำรวจเมือง แบบไร้จุดหมาย มีเพียงแผนที่ที่หยิบมาจากสนามบิน
กับหนังสือนำเที่ยวที่วางแจกไว้ในที่พัก ไว้เป็นคู่มือชมเมือง 



ในเมื่อยังไม่มีแผนการเที่ยว ก็เลยใช้วิธีเดินไปตามถนนสายหลักไปก่อน 
ผ่านอะไรสวย น่าสนใจ ก็หยุดดู และถ่ายรูปเก็บไว้ 
จุดแรกที่แวะยืนดู คือ มัสยิดหลังใหญ่ ที่เพิ่งเสร็จพิธีละหมาด 







เลี้ยวขวา เดินวนเป็นวงกลม จนมาออกถนนใหญ่ในเส้นทางกลับที่พัก 
คราวนี้ ก็ได้เวลา "มื้อเย็น" ซะที  ยังไม่หากินไกล  ซอยตรงข้ามซอยที่พักของเรานั่นแหละ 
ร้านค้าริมถนน ตั้งร้านเรียบร้อย พร้อมขายแล้ว 



เราเลือก LOK LOK  ซึ่งเป็นอาหารประเภท "จิ้มจุุ่ม"   ยืนถือจานกระดาษไว้ในมือหนึ่งใบ 
แล้วเลือกเอาว่าจะกินอะไร   ราคาก็ตามสีที่อยู่ปลายไม้นั่นแหละ 
หยิบแล้วก็มาจุ่มหม้อน้ำเดือด  สุกแล้วก็จุ่มหม้อน้ำจิ้ม ซึ่งมีทั้งแบบน้ำจิ้มถั่ว (แบบน้ำจิ้มสะเต๊ะ) และแบบเผ็ด 
หรือจะจุ่มแบบนึง ตักอีกแบบนึงมาราดให้ผสมกัน ...ง่ายและอร่อยดี 
บรรดาเนื้อสัตว์ที่มีให้จิ้ม ก็มีทั้งปลาหมึก สารพัดลูกชิ้น เกี้ยวนึ่ง หูหมู เต้าหูปลา แฮม ไส้กรอก และอีกมากมาย 
ยืนหยิบมาจิ้ม อิ่มแล้วแล้วก็เอาจานกระดาษพร้อมไม้เสียบให้คุูณป้าคิดราคา เท่านี้เอง ....




ย้ายมาอีกแผง เป็นขนมแป้งผสมมะพร้าวและข้าวโพด  รสชาติคล้ายๆ ขนมรังผึ้งนั่นแหละ 
ส่วนร้านอื่นๆ นั้น เป็นพวกหมี่ผัด บะหมี่น้ำ  เอาไว้มากินวันหลังละกัน พวกเรายังอยู่อีกหลายคืน 
ข้ามถนนกลับมาซื้อน้ำที่ 7-11 แล้วก็เดินเข้าซอย กลับที่พัก 





เป็นอันสิ้นสุดวันแรกของการเดินทาง  พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหน เอาไว้หารือกันตอนมื้อเช้าละกัน 


โปรดติดตามตอนต่อไป




 

Create Date : 07 มีนาคม 2556
3 comments
Last Update : 7 มีนาคม 2556 21:08:53 น.
Counter : 3349 Pageviews.

 
 
 
 
น่าหมำลูกชิ้นที่ปีนังค่ะ
 
 

โดย: Pikake วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:22:07:24 น.  

 
 
 
มาทักทายคุณนัทธ์ค่ะ
ถ่ายภาพได้อิ่มมากเลยค่ะ
 
 

โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 11 มีนาคม 2556 เวลา:20:24:11 น.  

 
 
 
เราชอบสีของท้องฟ้าภาพนั้นจังเลย สวยมากๆ

 
 

โดย: ชาลี IP: 27.130.163.172 วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:32:58 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com