งามพระเมรุ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
ใกล้จะหมดปี 2555 แต่เรายังจัดการ up รูปและเรื่องจากการเดินทางและการเที่ยวชมการแสดงต่างๆ ของปีนี้ ไม่หมด ก็คงต้องลากยาวข้ามปีอีกตามเคย แต่จะพยายามจัดสรรเวลาและเร่งตัวเองให้จัดการอะไรเร็วขึ้น เพื่อนให้เรื่องต่างๆ มันทิ้งช่วงยาวนานเกินไป เพราะตัวเองก็ลืมสิ่งที่ได้เรียนรู่้มาในช่วงเวลานั้นๆ ซะเอง
ในปี 2555 มีงานพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าภคนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาฯ เป็นงานพระเมรุมาศงานที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบันที่ใช้ท้องสนามหลวงเป็นมลฑลพิธี งานนี้ โปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระเมรุ สมพระเกียรติแห่งพระธิดาเพียงพระองค์เดียวในรัชกาลที่ 6
พระเมรุ เป็นสถาปัตยกรรมอีกอย่างที่จะแสดงให้เห็นถึงความงดงามในหลายๆ แง่มุมของศิลปะไทย ทั้งในเชิงการปั้น การตกแต่งกระดาษสี (แทนการประดับกระจก) หรือเป็นแนวทางในการศึกษา "ผังการจัดวาง" ด้วยวิทยาการปัจจุบัน สิ่งที่เคยยากต่อการเก็บบันทึก ก็ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว เราเอง ก็ขอมีส่วนหนึ่งในการเก็บบันทึกงามงดงามนี้ในเชิงศิลปะด้วยเช่นกัน
คิดได้ตั้งนี้แล้ว จึงต้องจัดเวลาออกไปเดินชมพระเมรุสักวัน ช่วงก่อนงานพิธีแค่เห็นผ่านๆ ช่วงมีการซ้อมกระบวน ก็วุ่นวายหลายอย่าง แล้วก็มีกำหนดใช้พักร้อนของปี "เยอะ" จึงไม่ได้ลาหยุดมาเก็บภาพพระราชพิธี เสร็จพิธีและเปิดให้เข้าชมนั่นแหละ ....จึงเป็นวันของเรา
การเดินทางของเราก็เหมือนเคย นั่งเรือข้ามฟาก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากธนบุรีสู่พระนคร ฟ้ากระจ่าง เมฆแจ่ม ทั้งสองฟากฝั่ง
ไหนๆ ก็ออกจากบ้านมาแล้ว เวลารึก็เหลือเฟือ เดินตัดเข้าไปในวัดมหาธาตุฯ เลยด้วยละกัน วัดนี้ก็เป็นอีกวัดที่เราผ่านบ่อยๆ มาทำบุญสงกรานต์บ่อยๆ และเคยเรียนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ก็ที่วัดนี้แหละ
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษณ์ เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า "วัดสลัก" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับ และสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล เป็นที่ประทับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคลนั้น วัดสลักเป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างวังหลวงกับวังหน้า ตามประวัติแล้วก็มีการเปลี่ยนชื่อวัดอยู่หลายครั้ง จนมาใช้ชื่อปัจจุบันนี้
ในเขตกำแพงแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงรายไว้โดยรอบ และมีพระวิหารประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยูด้านหน้าพระอุโบสถ
มีพระปรางค์ตั้งอยู่ในเขตกำแพงแก้วทั้ง 5 มุม
เดินทะลุเขตวัดก็มาถึงสนามหลวง ....มีผู้คนหลั่งไหลกันมาชมความงดงามของพระเมรุมากมายเลยทีเดียว
ก่อนจะเข้าสู่เขตมณฑลพิธี สายตามเราก็เหลือบมองต่ำ ...ไปสะดุดกับสีสันสัญลักษณ์กำหนดจุดบนพื้นถนน คงเป็นลำดับการตั้งขบวนเกียรติยศเป็นแน่
แล้วก็มีสีกำหนดจุดเลี้ยวไว้ด้วย
เงยหน้ามองดูฟ้าอีกที ....เมฆงามจับใจจริงๆ ...
เอาล่ะ ได้เวลาสมควรแล้ว ก็เดินตามคนอื่นๆ เข้าสู่ภายในเขตมณฑลพิธีกันเลยดีกว่านะ
คราวนั้นกดชัตเตอร์เก็บมาภาพเยอะ เพราะรู้สึกว่า ฟ้าก็สวย สถาปัตยกรรมก็สวย มีมุมให้เราเล็งกดชัดเตอร์เยอะมาก...เราของดเว้นไม่เล่าถึงเรื่องลักษณะการออกแบบ การจัดวางใดๆ ละกัน เพราะเป็นเรื่องยากต่อการเรียบเรียง ...ขอแปะรูปและเขียนบรรยายแบบ ...ไปเรื่อยๆ ไม่อิงวิชาการนะ
มองด้วยตาเปล่าอย่างเราๆ รู้สึกพระเมรุองค์นี้ ขนาดย่อมลงมากว่าเมื่อครั้งงานสมเด็จพระพี่นาง แต่ลวดลายประดับต่างๆ ดูละเอียดละออ ไม่ใช่ฝีมือหยาบๆ แม้จะใช้เวลาในการก่อสร้างสั้นกว่าก็ตาม
เวลามองใกล้ๆ เหมือนกับเป็นสิ่งก่อสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ใครจะคิดว่าเป็นงานไม้ ประดับด้วยกระดาษทองย่น ฉลุลาย เครื่องประกอบตกแต่งอื่นๆ ก็สวย มีลวดลายงดงามวิจิตรบรรจงด้วยฝีมือช่างทั้งหมดทั้งสิ้น
ฉากบังเพลิง
เทวดาไฟเบอร์กลาสนี้เหมือนจะเป็นชุดเดิม
เราใช้เวลาเดินวนเวียนไปรอบๆ เก็บภาพสัตว์หิมพานต์มากมายสลับกับเก็บภาพพระเมรุ
เรื่องสัตว์หิมพานต้นี้ ขอแยกไปเขียนเล่าในอีก blog ละกันนะ ตอนนี้แดดเริ่มลดแสงลงเรื่อยๆ แล้ว
แต่ปริมาณผู้ให้ความสนใจเข้าชม ไม่ได้ลดลงตามแสงเลย กลับมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเย็นๆ อากาศกำลังดีเลยทีเดียว
พอแสงไฟเริ่มจับ สาดส่อง ...ก็สะท้อนสีทองของกระดาษให้โดดเด่นขึ้นมาอีก พระเมรุเลยดูมลังเมลืองขึ้นอีกมากมาย
บนผนังมีการเขียนลายดอกไม้ร่วงด้วย
ดาวเพดานฉลุกระดาษทองย่น
เราอยู่เก็บภาพจนกระทั่งหมดแสงธรรมชาติ... เดินวนเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่อยู่จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศปิดพื้นที่ ....
ยังมีเรื่องราวในสถานที่แห่งนี้อีก ...เอาไว้รออ่านใน blog ต่อๆ ไปละกันนะ
| Create Date : 25 ธันวาคม 2555 |
| Last Update : 25 ธันวาคม 2555 22:25:49 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 3105 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [
