<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 ธันวาคม 2556
 

ผจญไต้ฝุ่น @ Hong Kong : Part XV

ความเดิมในตอนที่แล้ว 

ผ่านมาถึงตอนที่ 15 เราก็ยังเดินเที่ยวอยู่ใน Hong Kong Museum of History : พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ช่วงต่อจากสงครามฝิ่น เราก็เดินเข้าสู่ "บ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่" ของชาวจีนในยุคต่อมา 


โรงรับจำนำ

จัดทำ จำลองร้านค้าประเภทต่างๆ  เหมาะกับคนชอบเป็นแบบถ่ายรูปจริงๆ 
มองมุมไหนก็น่าจะเต๊ะท่าถ่ายรูป ...แต่เที่ยวคนเดียวอย่างเรา ก็ต้องถ่ายเก็บเนื้อหาไว้เท่านั้นเอง 


ร้านขายของชำ 




ร้านขายยา


ในร้านขายยา


ในร้านตัดเสื้อ


ในร้านขายขนม

มีจำลองเป็นโรงเตี๊ยม ให้ขึ้นมาดูบนชั้น 2 ได้ด้วยนะ 



ทันสมัยขึ้นมาอีกนิด ก็มีโรงหนัง กับร้านน้ำชา 



เริ่มมีโรงพิมพ์ จัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ออกมา  ....ยุคก้าวหน้าแล้วนะเนี่ย 



แต่ระบบการเรียน ยังคงเป็นแบบเก่า ที่เด็กต้องไปคุกเข่า กราบซินแส  ท่องจำบนกวี ....เดาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นนะ 



จัดแสดงกระทั่ง ..การตากผ้าของชาวบ้านร้านตลาด ที่มีพื้นที่จำกัด ก็ต้องทำราวตากผ้ายื่นออกมาจากหน้าต่าง 



อยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่อนุญาตให้ถ่ายรูปแบบนี้ เราก็กดชัตเตอร์เพลินไปเลย 
เพลินกระทั่ง memory 8GB ของเราเต็ม ....ไม่เป็นไร ...มีสำรองติดมาอยู่แล้ว 
เราคิดอย่างนั้นนะ ....แต่ต้องโทษที่เราไม่รอบคอบเอง ที่ดันเก็บการ์ดเมมเสริมไว้ในกระเป๋าอุปกรณ์ 
และไม่ได้ติดในเป้เล็กประจำตัวมาด้วย ....รู้สึกอยากเอาหัวโขกกำแพงเต็มที 

แต่แล้วก็ยังมีความฉลาดติดหัวอยู่บ้าง .....มือถือของเราก็มีกล้อง ความละเอียด 5MB นี่หว่า
แล้วก็มีเมม 4GB ด้วย ประกอบกับเมมในเครื่อง ....เอาว่ะ ใช้แก้ขัดไปก่อน 
คราวนี้ก็เลย "คิดก่อนถ่าย"  .... เดินเที่ยวอย่างเพลิดเพลินได้ต่อ




เข้ามาถึงอีกห้อง จัดแสดงเรื่องปะะเทศจีนในยุคที่ญี่ปุ่นเข้าครอบครอง ...ช่วงเวลาแห่งสงคราม 
ที่แม้จะถูกกดขี่ แต่ก็มีความเจริญทางวิทยาการที่ก้าวรุดหน้าไปด้วย พร้อมๆ กัน 


หน้าตารถรางที่ใช้บนเกาะฮ่องกง 

ช่วงนั้น ชาวจีนฮ่องกงใช้ชีวิตอยู่ในห้องแคบๆ  ครอบครัวใหญ่ ก็ต้องอยู่อย่างแออัด 





ร้านรวงเริ่มมีหน้าตาที่เปลี่ยนแปลง แปลกตาออกไปจากเดิม  


มีความเจริญรุดหน้าในด้านการผลิต  มีโรงงาน และมีสินค้าที่เราดูในตู้ก็คุ้นเคยออกมามากมาย 



เป็นว่า จบการเรียนรู้และทำความรู้จักกับ "ฮ่องกง" ตั้งแต่แรกสร้างจนถึงยุคเจริญรุดหน้า 


ออกมาดูนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งร่วมจัดโดยพิพิธภัณฑ์พระราชวังกันต่อ 
เป็นนิทรรศการที่ทำให้ต้องเสียค่าเข้าชมนั่นแหละ ....เรื่องเกี่ยวกับ "เครื่องแต่งกายในราชสำนัก ราชวงศ์ชิง" 



ด้านหน้า ก่อนเข้าชมชุดที่ขอยืมสำนักพระราชวังมาจัดแสดงนั้น  เป็นการจัดแสดงเนื้อหาแบบมัลติมีเดีย
ให้เราได้ทำความเข้าใจในเบื้องต้นกันก่อน 



บอกเล่ากันด้วยภาพว่า ราชสำนัก ยุคชิงนั้น แบ่งเครื่องแต่งกายชาย-หญิง ตามฤดูกาล 
ตามสถานะ ตามประเภทการใช้งานด้วย 





ภายในห้องจัดแสดง มีนักเรียน นักท่องเที่ยว และชาวจีนให้ความสนใจเข้าชมจำนวนมาก 
อ่านจากคำอธิบายประกอบชุมที่จัดแสดงแล้ว  เหมือนว่าเป็นชุดเก่าตั้งแต่ยุคนั้น 
แต่เราเมื่อเราดูเนื้อผ้า เส้นด้ายที่ปักเป็นลวดลายต่างๆ  เหมือนจะเป็นชุดที่จัดทำขึ้นใหม่ นะ...
เราไม่แน่ใจว่า ตกลงมันเป็น "ของเก่า" หรือ "ของทำใหม่"  แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม
มองในแง่ของ "งานฝีมือ"  ต้องยอมรับว่า มีความละเอียด งดงามมากจริงๆ  
แล้วก็จัดแสดงทั้ง เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ครบถ้วนเลย 
ต่อไปดูหนังจีนโบราณ พอจะแยกได้แล้วว่า  แบบนี้ สีนี้ เป็นของฮ่องเต้  สีอย่างนี้เป็นของฮ่องเฮา 
ปักลายแบบนี้ เป็นชุดขุนนาง ระดับโน้น นั่น นี่ .....ว่ากันไป  

เนื้อหานิทรรศการ (และภาพถ่ายชุดที่จัดแสดง) มีจัดทำเป็นหนังสือออกมาด้วย 
แต่ว่า ถ้าซื้อมาสะสม ก็ดูจะแพงไปหน่อยนะ  ..เก็บเฉพาะแผ่นพับกับโปสการ์ดที่ทำแจกมาก็พอนะ 

ดื่มด่ำ อิ่มเอม เต็มที่แล้ว ก็ออกมานอกห้องจัดแสดง มาเจอกับนิทรรศการผลงานการออกแบบเสื้อผ้า 
ซึ่งดีไซน์เนอร์ ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายในราชสำนักราชวงศ์ชิงนั่นแหละ 
เป็นการประกวดการออกแบบที่เข้าท่านี้   เหมือนกันการต่อยอดจากของโบราณ มาสู่ปัจจุบัน 




บางชุดเห็นแล้วก็อยากเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันบ้าง   บางชุดก็หรูหรา ฟู่ฟ่า เกินกว่าจะใช้งานได้จริง





เวลาล่วงเลยเข้ามาถึงบ่ายกว่าแล้ว ....เราออกจากพิพิธภัณฑ์นี้ มายืนตัดสินใจอีกครั้ง 
จะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ต่อดีมั๊ย ....หรือว่ากลับไปหาพิพิธภัณฑ์ใกล้ๆ ที่พัก 
ดูนาฬิกาอีกที  ก็ตัดสินใจไปโต๋เต๋แถวๆ ใกล้ที่พักดีกว่า ....กลัวจะเพลินจนเดินกลับไปตามเวลานัดหมายไม่ทัน 



ออกจากพิพิธภัณฑ์ ก็กางแผนที ลองเดินไปตามถนนอีกเส้น ที่ยังไม่เคยผ่าน ...
ถึงยังไง มันก็ต้องมีจุดเชื่อมต่อ ...ไม่หลงหรอกน่า 



จะว่าไป แม้ว่าฮ่องกง ยังคงมีการก่อสร้างให้เห็นไปย่อมๆ ตลอดเส้นทางที่เราเดินผ่าน 
แต่ก็จะมีสลับกับต้นไม้เขียวๆ ให้พักสายตา  ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่ดูก็รู้ว่าอยู่ยืนนง ณ พื้นที่นั้นมานานเช่นกัน 

บ่ายแก่ๆ เราเดินมองหาร้านอาหารราคาย่อมๆ ไม่มีเลย ก็เลยต้องอาศัยขนมรองท้องแทน 
เลือก "ทาร์ตนมกับชีส" มาชิ้นนึง ...เพิ่งออกจากเตา  อร่อยมากเลย 


เท่านี้ก็พอแล้ว สำหรับคนกระเพาะเล็กอย่างเรา ....เอาไว้ไปหาอาหารหนักกินในมื้อเย็นเลยทีเดียวละกัน 



โปรดติดตามตอนต่อไป 













Create Date : 14 ธันวาคม 2556
Last Update : 14 ธันวาคม 2556 22:53:14 น. 0 comments
Counter : 1567 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com