เดินตามหลังผู้ใหญ่ไปชมวัด : Part III
ความเดิมตอนที่แล้ว
พอออกจากพระอุโบสถ คุณเจริญก็มาพวกเรามาสักการะ ศาลเจ้าพระยาบดินทรเดชา
ศาลนี้สร้างเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2485 เพื่อประดิษฐานรูปหล่อของเจ้าพระยาบดินทรเดช (สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกในรัชกาลที่ 3 ผู้สำเร็จราชการสงครามป้องกันเขมรและญวณ รูปหล่อนี้หล่อขึ้นระหว่างปีพ.ศ. 2441 - 2447 โดยปั้นจากภาพเขียนที่ถ่ายแบบ มาจากรูปปั้นท่านเจ้าพระยาที่สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี (นักองค์ด้วง) พระเจ้ากรุงกัมพูชาให้สร้างไว้สักการะตั้งแต่ปีพ.ศ.2392
และทางขวาของศาลเจ้าพระยา มีพระปรางค์องค์หนึ่ง นัยว่าสร้างขึ้นราวพ.ศ. 2370 เมื่อท่านกลับจากปราบกบฏเมืองเวียงจันทร์ครั้งที่ 1 และว่ากันว่ายอดนพศูลบนสุดนั้น คือ ทวนของท่านที่ใช้ในการศึก เราก็แหงนคอตั้งเบ่งมอง ซูมจับภาพทวนมาไว้ แล้วก็ไม่ได้เก็บภาพองค์ปรางค์เต็มๆ องค์มาซะด้วย
ขณะนั้นใกล้เวลาเพลแล้ว ...ท้องเริ่มร้องเตือน "ค่อยๆ " ด้านหลังศาลก็มีการเตรียมทำอาหารถวายเพลกันอยู่ ส่งกลิ่นหอมยั่วยวน กวนพยาธิในท้องเป็นอย่างมาก คุณเจริญบอกว่า น่าจะเป็นงานทำบุญประปีของกลุ่มตระกูลสิงหเสนี มาทำบุญให้ต้นตระกูล พวกเราก็เลยนั่งพักใกล้ๆ บ่อจระเข้ บางคนก็ไปเข้าห้องน้ำซะก่อน ส่วนเราก็นั่งดมกลิ่นอาหารไปพลางๆ ดูจระเข้าตัวมหึมาไปพลาง
ดูเหมือนว่าในบ่อจระเข้นี้ จะมีเจ้าตัวแบบนี้อยู่ 3 ตัว ....นอนผึ่งแดดโชว์ตัวอยู่ ตัวใหญ่มากกกกกก เมื่อคราวน้ำท่วม มันออกไปเยี่ยมบ้านใครบ้างรึป่าวก็ไม่รู้นะ
เอาล่ะ ...ไปจุดต่อไปกันเลยดีกว่านะ ..."พระวิหาร" หรือพระอุโบสถหลังเก่า
มองดูรูปแบบสถาปัตยกรรมก็น่าจะพอเดาได้ว่า เป็นแบบประเพณีนิยม ศิลปะอยุธยา ครบถ้วน ทั้งช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ รวมทั้งการประดับตกแต่งลวดลายปูนปั้น ประดับกระจกสี
ก็เมื่อแรกบูรณะ ใครๆ ก็ยึดแนวแบบแผนอยุธยาทั้งนั้นแหละ แล้ววัดนี้ก็เป็นวัดที่มีอยู่เดิมตั้งแต่ครั้งอยุธยารุ่งเรืองแล้ว เมื่อท่านเจ้าพระยาท่านเข้ามาบูรณะ (สร้างใหม่) ราวปีพ.ศ. 2362 - 2363 ท่านก็มอบหมายให้บุตรชายคนโต "นายเกด" เป็นผู้อำนวยการสร้างด้านเหนือเข้ามาหาด้้านใต้ แล้วให้บุตรชายคนรอง "นายแก้ว" เป็นผู้อำนวยการสร้างจากด้านใต้เข้าไปด้านเหนือ บรรจบกันตรงกลาง
เวลาเที่ยววัดก็ลองสังเกตุดูรูปแบบศิลปะได้ ...ประมาณนี้แหละ อยุธยา ถ้าตกแต่งด้วยเครื่องไม้แกะสลัก ก็ออกแนวศิลปะวังหน้า ก้าวเข้าข้ามธรณีประตูเข้าไปภายใน กราบสักการะพระประธาน แล้วมองดูงานจิตรกรรมฝาผนังภายใน ก็ไม่พ้นเขียนลายคตินิยมแบบอยุธยาอีกนั่นแหละ เบื้องหลังองค์พระประธาน วาดเรื่อง "ไตรภูมิ"
ผนังโดยรอบทั้ง 4 ด้านเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ หรือไม่ก็เรื่องอดีตพระพุทธเจ้า ลายเส้นเป็นลวดลายแบบช่างฝีมืออยุธยา ส่วนจะเป็นเรื่องใด ตอนใดไหน คงต้องอ่านเพิ่มก่อน ถึงจะให้ความชัดเจนได้
ที่บานหน้าต่างก็มีเทวดาอารักขาคุ้มครอง ปกป้องผู้ประพฤติธรรม
พูดคุย ฟังเรื่องราว และเก็บภาพกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถอยออกมาภายนอก เพื่อไปดูจุดหมายต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 12 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 12 ธันวาคม 2555 22:16:51 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3256 Pageviews. |
|
|
|
แล้วใจหายวาบเลยค่ะ
ตัวใหญ่ หญ่าย
ใจเต้นอยู่เลย