Dream Destination " Sala KhaoYai "
สวัสดีเย็นวันอาทิตย์อันแสนอบอ้าวกลางเดือนแห่งความรักครับ
เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักเลยตั้งใจจะเอารีวิวของศาลาเขาใหญ่มาให้ชมกันครับ ทำไมน่ะหรอ เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่โรแมนติคมากที่สุดที่ผมเคยไปเยือนมาไงครับ พูดไปก็คงไม่เชื่อ เดี๋ยวตามผมไปชมดีกว่าครับ
ปล.รีวิวนี้เป็นมินิรีวิวนะครับ มีภาพอยู่แค่ 21 ภาพเท่านั้น หลายๆคนที่เป็นขาประจำรีวิวของผมคงรู้ว่าผมเกิดปัญหากับฮาร์ดดิสที่เก็บภาพทำให้ภาพที่เก็บไว้หายไปเกือบหมด รูปของทริปนี้ผมกู้คืนไม่ได้เลยครับ
การเดินทางไปศาลาเขาใหญ่ ทางที่ง่ายที่สุดคือทางปากช่องครับเราจะใช้เส้นทางเดินทางเดียวกับทางไปวังน้ำเขียว สังเกตง่ายๆพอขับรถไปถึง Toscana Valley แล้วนั่นหมายถึงใกล้จะถึงทางเลี้ยวซ้ายเข้ารีสอร์ทแล้วครับ
รีสอร์ทอยู่แทบจะเรียกได้ว่ากลางป่าเขาเลยก็ว่าได้ ผมเองยังหลงไปพักนึงเหมือนกันกว่าจะไปถึงรีสอร์ทได้ ทางที่ดีแนะนำให้สอบถามเส้นทางกับทางรีสอร์ทก่อนการเข้าพักให้ดีนะครับถ้าจะไป
ศาลา เขาใหญ่ เป็นรีสอร์ทที่อยู่บนเขาลูกเล็กๆครับ เมื่อจอดรถตรงที่จอดเสร็จเรียบร้อยก็ต้องออกกำลังกายด้วยการเดินขึ้นเนินเขาไปที่ล็อบบี้ตามที่เห็นในรูป กว่าจะขึ้นไปถึงก็พอได้เหงื่อเหมือนกันครับ
เมื่อมองจากบริเวณล็อบบี้ สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ Main Pool ของที่นี่ที่ตั้งเด่นอยู่บนเนินหน้าล็อบบี้ ซึ่งมีวิวด้านหลังเป็นภูเขาที่ทำให้ทุกๆคนที่ขึ้นมายืนบนนี้หายเหนื่อยไปเป็นปลิดทิ้งทีเดียว
ปล.เห็นเมฆก้อนตรงหน้ามั๊ยครับ คุณเห็นมันเป็นรูปอะไร
แดดดีๆลมพัดโชยเบาๆ ถ้าไม่ติดว่าอยากเห็นห้องพักไวๆคงได้นั่งหลับอยู่แถวๆเก้าอี้โยกตัวนี้ไปแล้ว
หลังจากพนักงานช่วยขนกระเป๋าขึ้นมาเสร็จ พร้อมทั้งเช็คอินเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินไปที่ห้องพัก โดยไม่ลืมที่จะสำรวจบริเวณรอบๆไปด้วย
แค่ได้เห็นวิวบริเวณล็อบบี้ก็ทำให้คนที่ได้เข้าพักหลงรักที่นี่ได้แล้วล่ะครับ
ผมยกให้ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่มีวิวสวยที่สุดแห่งนึงที่เคยไปพักมาเลยทีเดียว
แค่นั่งมองวิวก็คุ้มแล้วครับสำหรับการเข้าพักที่นี่
ปล.ที่ล็อบบี้ยังเป็นห้องอาหารของรีสอร์ทอีกด้วยนะครับ เวลาที่เราทานอาหารเช้าก็ต้องมาทานกันที่นี่ นอกจากนั้นยังมีห้องสมุดเล็กๆอีกด้วย
อีกส่วนหนึ่งของล็อบบี้ที่สร้างไว้เป็นโต๊ะอาหารและจุดชมวิวไปในตัว ตอนเย็นๆถ้ามานั่งรับลมตรงนี้ขอบอกว่าชิลสุดๆ
รอบๆบริเวณก็มีการปลูกต้นดอกหญ้าเอาไว้ ข่วงที่ไปถึงจะขึ้นไม่เต็มแต่ก็สวยมากทีเดียวครับ
แอบดูห้องคนอื่นก่อนถึงห้องตัวเอง ภาพนี้น่าจะเป็นห้องหมายเลข 5 นะครับ
ผมลืมบอกไปอย่าง หลายๆคนคงทราบมาบ้างว่าราคาห้องพักของศาลา เขาใหญ่ค่อนข้างแพงพอสมควร อาจจะเนื่องจากเพราะห้องพักของที่นี่มีเพียงแค่ 7 ห้องเท่านั้น
โดยแบ่งเป็นห้อง deluxe room และ deluxe balcony room 3 ห้อง และ sala pool villa และ one bedroom pool villa suite อีก 4 หลัง ทำให้ห้องพักของศาลา เขาใหญ่เต็มเกือบทุกๆวันครับ
มีป้ายกั้นบริเวณเพื่อความเป็นส่วนตัวของวิลล่าแต่ละหลังด้วยครับ
ถึงแล้วครับห้องที่ผมเข้าพัก
เป็นวิลล่าหมายเลข 4 หรือถ้ามองจากรูปในความเห็นที่ 2 วิลล่าจะเรียงหมายเลขจากขวาไปซ้าย 4-5-6-7 ครับ
ส่วนหมายเลข 1-2-3 เป็นห้องแบบ deluxe room และ deluxe balcony room ที่อยู่บริเวณชั้นล่างของล็อบบี้ใกล้ๆกับสปาครับ
ทางเข้าวิลล่าทุกหลังจะต้องเดินเข้าจากชั้นบนของตัววิลล่าครับ ซึ่งด้านบนของวิลล่าก็จะมี Daybed ตั้งอยู่ ซึ่งความพิเศษของวิลล่าหมายเลข 4 คือ วิลล่านี้เป็นวิลล่าหลังเดียวที่สามารถมองเห็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกครับ ยิ่งถ้าได้ขึ้นมานั่งดูที่ด้านบนนี้คงโรแมนติคสุดๆจริงๆครับ เสียดายที่เย็นนั้นฝนเกิดตกจนถึงเช้าผมเลยไม่ได้ออกมาดูวิวสวยๆเลยฮะ
แต่ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นต้องเลือกวิลล่าหมายเลข 7 ครับถึงจะเห็น
เจอเจ้าถิ่นตอนเดินลงไปที่ห้องด้วยตะหาก
เข้ามาดูในห้องพักกันบ้าง เตียงนอนขนาด King Size วางอยู่กลางห้อง ปลายเตียงมองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตาเพียงแค่มีกระจกกั้น
ในห้องมีเก้าอี้ยาวที่หล่อจากปูนติดกับผนังให้นั่ง มีโทรทัศน์และเครื่องเล่นดีวีดีที่สามารถขอยืมแผ่นได้จากห้องสมุดตรงล็อบบี้ การตกแต่งห้องน่ารักทีเดียวครับ
เตียงนุ่มนอนสบาย แถมมีหมอนให้เลือกหลายแบบอีกด้วย
มีเตียงเล็กๆไว้ให้พักผ่อนอีกเตียง ข้างหลังเตียงด้านขวาเป็นอ่างปูนขนาดกำลังดีเอาไว้แช่น้ำได้ ถัดไปก็จะเป็นส่วนอาบน้ำและห้องสุขา
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือสระน้ำด้านนอกที่ไม่พลาดที่จะออกไปแช่น้ำเล่น
คืนวันนั้นฝนตกหนักมากครับ โปรแกรมที่จะออกไปทานอาหารรวมถึงออกไปนั่งชิลๆด้านบนต้องยกเลิกไปหมด ดีที่เตรียมเสบียงไปพอสมควรเลยอยู่กันแต่ในห้อง
ตัดภาพมาที่ตอนเช้า ผมออกมาเตรียมรอแสงของวันใหม่
ร่องรอยของฝนเมื่อคืนยังคงอยู่ เปียกปอนแต่ชุ่มฉ่ำทีเดียวครับ
และแล้วแสงของวันใหม่ก็ปรากฎให้เห็นตรงหน้า เค้าว่ากันว่าฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ มันคงเป็นเรื่องจริง
ภาพวิวที่ปรากฎตรงหน้าสวยงามไม่ต่างไปจากการไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นตามอุทยานแห่งชาติที่สวยๆเลยครับ
บทสรุปของทริปนี้..
ถึงจะมีเวลาแค่คืนเดียวในการเข้าพักที่ศาลาเขาใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจที่นี่เป็นอันดับหนึ่งเลยคงเป็นวิวทิวทัศน์รอบๆรีสอร์ทที่คงจะหาที่พักที่มีวิวสวยขนาดนี้ได้ยาก ถึงจะต้องขับรถไปไกลแต่ก็คุ้มค่าที่จะได้ชมวิวสวยๆแบบนี้ ที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กมากๆเพราะมีห้องพักแค่ 7 ห้องอาจจะทำให้การจองห้องพักในช่วงวันหยุดยากไปหน่อย ราคาหน้าเวปแพงมากถ้าสนใจผมแนะนำให้ไปซื้อ Voucher ตามงานท่องเที่ยวซึ่งแต่ละงานราคาอาจจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและวันที่เข้าพัก
เรื่องการบริการ.. เนื่องจากรีสอร์ทเล็กพนักงานเลยมีไม่เยอะ บางเวลาที่ลูกค้าเรียกใช้บริการพร้อมๆกันเลยอาจจะต้องคอยนาน ซึ่งผมเฉยๆกับการบริการของพนักงานที่นี่ฮะ ไม่ดีมากแต่ก็ไม่ได้มีอะไรบกพร่อง
เรื่องอาหารเช้า.. เป็นอีกเรื่องที่ต้องติครับ เพราะถ้าเทียบราคาที่จ่ายไปน่าจะมีอาหารให้ลูกค้าเลือกมากกว่า ABF หนึ่งชุดที่สั่งเพิ่มไม่ได้กับข้าวต้มที่สามารถตักเพิ่มเองได้พร้อมกับผลไม้แค่นั้น
เรื่องของที่พัก.. ช่วงที่ผมไปเริ่มรู้สึกว่าห้องพักและอุปกรณ์บางอย่างเริ่มทรุดโทรมไปบ้าง ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีการปรับปรุงบ้างหรือยัง
"ศาลา เขาใหญ่" เหมาะมากสำหรับผู้เข้าพักที่เป็นคู่รัก และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวเพราะลักษณะพื้นที่ของที่นี่เป็นภูเขา ต้องใช้การขึ้นลงด้วยบันไดเป็นหลัก อากาศดีตลอดปีถึงแม้ช่วงที่ผมไปจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนแต่ด้านบนก็มีลมพัดตลอดเวลา สำหรับที่นี่ถ้ามีโปรดีๆออกมาในราคาที่พอจับต้องได้ผมก็ยังอยากกลับไปเยี่ยมที่นี่อีกนะครับ เพราะวิลล่าแต่ละหลังของที่นี่จะมีวิวที่ไม่เหมือนกันเลย อยากจะกลับไปนอนวิลล่าหลังอื่นๆบ้างถ้ามีโอกาส
ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2557 22:17:50 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2942 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:4:11:18 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ที วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:1:43:41 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|