ธันวาคม 2550

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
อุทยานขี้ผึ้งหุ่นสยาม
อุทยานขี้ผึ้งหุ่นสยามเริ่มก่อตั้งโครงการขึ้นในปี พ.ศ.2540 ด้วยเป้าหมายในอันที่จะสร้างสรรค์สถานที่ "พักใจ" แก่คนทั่วไปในสังคมที่แข่งขันเร่งรัดเช่นในปัจจุบัน พร้อมนำเสนอแง่มุมด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ที่งดงามในสังคมพุทธของไทย เพื่องสืบทอดสิ่งดีงามแบบไทยให้คงอยู่สืบต่อถึงชนรุ่นหลัง

อาคารเชิดชูเกียรติ

เป็นอาคารที่นำเสนอเรื่องราวรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไปเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญ พร้อมเกียรติประวัติ คุณค่าความดี ที่เป็นแบบอย่างทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อาทิเช่น ครูมนตรี ตราโมท, สืบ นาคะเสฐียร, ม.ล.ปิ่น มาลากุล, สัญญา ธรรมศักดิ์ และบุคคลสำคัญชาวต่างชาติ อาทิเช่น แม่ชีเทเรซา, ประธาณาธิบดีโฮจิมินห์, เติ้ง เสี่ยว ผิง และเหมา เจ๋อ ตุง เป็นต้น





ลานพระ 3 สมัย

ผลงานประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย เป็นศิลปะที่มีความแตกต่างเพราะได้รับอิทธิพลจากศาสนา สังคม และวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง และบอกเรื่องราวของประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัยได้ การสร้างองค์พระแต่ละรูป เกิดจากความศรัทธาของกลุ่มช่างปั้น ขนาดองค์พระ 6 ศอก 9 นิ้ว (129 นิ้ว) หล่อด้วยทองเหลืองและรมดำ



สมัยสุโขทัย




สมัยอยุธยา




สมัยเชียงแสน


ถ้ำชาดก

ถ้ำจำลองจัดแสดงแสง เสียง เกี่ยวกับพระชาติสุดท้ายของพระเวสสันดร เรื่องการให้ทานอย่างไม่มีเงื่อนไข ตอนชูชกขอสองกุมาร โดยเรื่องราวจะแสดงถึงคติธรรม คำสอนเพื่อให้มนุษย์เรารู้จักความพอดีในการดำเนินชีวิต



กุฏิพระสงฆ์

หมู่เรือนไทยที่บรรจงสร้างขึ้นตามแบบแผน เป็นที่ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งพระสุปัฏิปัณโณ พระสงฆ์ผู้เป็นกองทัพธรรมในพระพุทธศาสนา ทำหน้าที่ทำนุและจรรโลงพระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลวงปู่มั่นเป็นพระอาจารย์ใหญ่ที่สร้างกองทัพธรรมขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ยึดหลักธรรมตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



บ้านไทย 4 ภาค

จำลองบ้านไทยตามลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดจาก 4 ภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอิสาน และภาคใต้ สะท้อนถึงเรื่องราวของวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตของแต่ละภาค ซึ่งมีพื้นฐานมาจากความเชื่อทางด้านศาสนาและทางธรรมชาติ ทำให้เกิดวิถีชิวิตที่มีความแตกต่างกันแต่สอดคล้องกับสภาพสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม



ภาคเหนือ




ภาคกลาง




ภาคอิสาน




ภาคใต้


ลานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรจำลองขึ้นจากงานประติมากรรมศิลปะราชวงศ์ช้องของประเทศจีน เดิมเป็นงานแกะสลักจากไม้ตามความศรัทธาของจักรพรรดิประเทศจีน ลักษณะท่านั่งเรียกว่าปางมหาราชลิลา เป็นอริยบุคคลที่ได้บรรลุอรหันต์ ผู้มีปณิธานแน่วแน่ว่าจะอยู่คอยช่วยเหลือสรรพสัตว์ในโลกจนถึงคนสุดท้าย (bebek มะได้ถ่ายรูปมาอ่ะ )

เวลาทำการ 08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม bebek จำไม่ได้แว้ว
ที่อยู่ 41/1 ม.3 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี

ป.ล. ข้อมูลจากเอกสารของอุทยาน
ป.ล.2 รูปที่ bebek ถ่าย ถ่ายจากมือถืออ่ะค่ะ เลยไม่ชัด



Create Date : 14 ธันวาคม 2550
Last Update : 2 เมษายน 2551 20:10:52 น.
Counter : 1496 Pageviews.

3 comments
  
ว้าว อยากไปมากเลยนะครับ เขาปั้นได้เหมือนจริงๆนะครับ เคยได้ทราบมาว่าเปิดให้เข้าชมมานานแล้ว แต่หาเวลาไปไม่ได้เลยครับ วันนี้มาขอเที่ยวด้วยคนก่อนนะครับ
โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:22:44:14 น.
  
เคยไปเมื่อนานมาแล้ว ชอบมากๆเลย ตอนนี้ก็อยากไปอีก หุ่นบางตัว เหมือนจริงจนน่ากลัว
โดย: simple_xxx วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:22:46:38 น.
  
แวะมาชมหุ่นขี้ผึ้งด้วยคนจ้า ....
โดย: Jha (Jhean ) วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:19:07:01 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bebek
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



bebek อ่านว่า เบเบค เป็นภาษาตุรกี แปลว่า baby ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^_^

bebek มีชื่อเสียงเรียงนามที่เพื่อน ๆ เรียกกันว่า "ตุ๊กตา" เป็นบัณฑิตใหม่แกะกล่องจากรั้วพ่อขุน หลังจากจบการศึกษาได้ไม่นาน ก็ได้ฤกษ์ที่ชีพจรลงเท้า อพยพตัวเองจากเมืองใหญ่ขึ้นมาทำงานที่ปายทันที

หลังจากทำงานที่ปายไม่นาน ก็ถึงคราวที่ต้อบอพยพกลับสู่เมืองใหญ่ มาทำงานตามใจคุณแม่

และตอนนี้กำลังจะเป็นแม่คนแล้วค่ะ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog นี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


MY VIP Friend