Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 

สัมภาษณ์ ส้ม MTW 2007



“ความรู้สึกตอนนี้.... บอกไม่ถูกค่ะ อนาคตข้างหน้าก็อยากเดินแบบอย่างพี่ๆ (มิสไทยแลนด์เวิลด์) เหมือนกับพี่ลูกเกด พี่ซินดี้ ที่ได้เป็นนางแบบมีชื่อเสียง ส่วนเรื่องเรียนส้มก็ไม่ทิ้งแน่นอน ตอนนี้ประกวดเสร็จแล้วก็จะกลับไปเรียนต่อให้จบ ตอนนี้ส้มเรียนอยู่ปี 4 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และจะทำให้ดีทั้งเรื่องของการเรียนและเรื่องของหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย”....

นั่นคือคำกล่าวที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากของ “ส้ม - กนกกร ใจชื่น” เจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2550 ซึ่งเจ้าตัวยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผู้ที่เลือกค้นหาประสบการณ์ชีวิตด้วยการประกวดความงามจากเวทีขาอ่อนดังกล่าวและผลลัพธ์ที่ได้ก็อย่างที่ทราบกันว่าเธอสามารถคว้ามงกุฎจากเวทีดังกล่าวมาครองได้เป็นผลสำเร็จ

ส้มบอกว่าการที่เธอได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลสูงสุดจากการประกวดในครั้งนี้ก็น่าจะเป็นเพราะ ตัวเธอเองมีความมั่นใจ มีความพร้อม และทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้จะต้องเดินทางไปประกวดมิสเวิลด์ ซึ่งในปี 2550 นี้การประกวดมิสเวิลด์จะจัดขึ้นที่ประเทศจีนในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส้มบอกว่าเธอจะเตรียมเนื้อเตรียมตัวอย่างเต็มที่


“ส้มต้องฝึกฝนมากขึ้นทั้งเรื่องของการเดิน การยิ้ม เรื่องของภาษาก็สำคัญ และเรื่องของบุคลิกด้วย ส้มก็ต้องฝึกให้มากขึ้น เพราะไปในฐานะตัวแทนประเทศไทย”

ในความเป็นจริงแล้วสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอสามารถก้าวขึ้นเวทีได้อย่างมั่นใจนั้น เป็นเพราะส้มเคยผ่านการประกวดมาตั้งแต่ใช้คำว่า นางสาว นำหน้าชื่อได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น โดยเวทีแรกของเธอนั้น ส้มเล่าว่าคือเวทีการประกวดนางนพมาศที่บางไทร ตามมาด้วยเวทีไทยซูเปอร์โมเดล ฯลฯ

“ทุกเวทีที่ส้มประกวด พ่อแม่ก็รับรู้ และเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าอยากเป็นนางงาม ทุกครั้งที่ส้มไปประกวด ส้มบอกพ่อแม่ทุกครั้ง และมีพี่สาวไปเป็นเพื่อนตลอด รางวัลที่ได้มาส้มก็เอามาเป็นทุนการศึกษา และแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรสำหรับการเป็นนางงามเดินสาย”

ส้มยังพูดถึงกรณีคนทั่วๆ ไปมักจะมองว่าการเป็นนางงามเดินสายไม่ดีนั้นเป็นเพราะอะไร และคนที่มองอย่างนั้นเอาอะไรมาวัดว่าไม่ดี

“การจะดูคนมองแต่ภายนอกไม่ได้ ต้องศึกษาตัวเขาว่าดีไม่ดีอย่างไร นางงามเดินสายไม่ใช่สิ่งผิด เมื่อได้รับโอกาสก็เท่ากับเป็นการฝึกฝนตัวเราให้ไปถึงเป้าหมาย ส้มหาโอกาสให้ตัวเองได้เข้าวงการบันเทิงอย่างที่ฝันไว้ การผ่านการประกวดมาหลายเวทีทำให้ส้มมีวันนี้ ทำให้ส้มมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเอง นางงามหลายเวทีไม่ใช่ทุกคนจะเป็นคนไม่ดี อยากให้พิสูจน์กันด้วย”

ส่วนเรื่องรางวี่รางวัลที่เธอได้มาทั้งมงกุฎเพชร เงินรางวัล ฯลฯ นั้น ส้มเปิดเผยว่าเธอมีความตั้งใจที่จะนำไปช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน เพราะ เธอเคยไปถ่ายสารคดีเด็กขาดโอกาสเป็นงานที่เธอกับเพื่อนๆ ต้องทำส่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

“ก่อนจะประกวดครั้งนี้ ส้มไปถ่ายทำสารคดีเด็กขาดโอกาสกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะทำเป็นงานส่งอาจารย์ เราไปถ่ายกันในชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ได้เจอกับเด็กเร่ร่อนซึ่งขาดโอกาส แล้วก็เจอกับตำรวจผู้ทำหน้าที่เป็นครูของเด็กเร่ร่อนกลุ่มนี้ ส้มก็บอกกับเขาว่าถ้าชนะหรือได้รางวัลจากการประกวดครั้งนี้ จะแบ่งเงินรางวัลส่วนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาและซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนให้ด้วย”....


....................................................

‘น้องส้ม’ สมหวัง บรรลุฝัน ‘นางงามร้อยเวที’







ผ่านกระบวนการคัดสรรด้วยวิธีการรูปแบบใหม่ ตามการยืนยันของผู้จัด ที่สุดผู้สวมมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ประจำปี 2550 ซึ่งย้ายไปจัดที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เวิลด์ คือ “ส้ม” น.ส.กนกกร ใจชื่น อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ มหา วิทยาลัยกรุงเทพ พร้อมตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน ได้รับเงินรางวัลรวมทั้งของรางวัลมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

รองอันดับ 1 ได้แก่ “มิ้ม” น.ส.อัมราภัสร์ จุลกะเศียน อายุ 22 ปี พร้อมตำแหน่ง มิสเฮลท์ตี้ สลิมมิ่ง รองอันดับ 2 “เจมี่” น.ส.เจมี่ ลินน์ อายุ 18 ปี, รองอันดับ 3 “เฟิร์น” น.ส.วรัญญา กิจวัฒนะ อายุ 21 ปี และรองอันดับ 4 และนางงามผิวสวย “นุช” น.ส.จุฑารัตน์ มณีธาดา อายุ 24 ปี ส่วนรางวัลนางงามมิตรภาพ “เชอรี่” น.ส.ณัฐญาณี รัตนไพฑูรย์ อายุ 18 ปี

มิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด เปิดใจถึงกระแสวิจารณ์เป็นนางงามเดินสาย “นางงามร้อยเวที” ว่าแรงบันดาลใจการประกวดนางงาม เนื่องจากที่บ้านมีพี่น้องเป็นผู้หญิงหมด ตอนเด็ก ๆ ชอบดูการประกวดนางงามทางทีวีรู้สึกว่าคนได้ตำแหน่งเป็นคนสวย อีกทั้งเป็นคนรักสวยรักงาม การหาประสบการณ์เดินสายประกวดนางงามเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 16 ปี ด้วยเวทีไทยซูเปอร์โมเดล ปี 2545 จากนั้นเข้าประกวดอีกมากกว่า 10 เวที เช่น นางสาวถิ่นไทยงาม, นางนพมาศบางไทร ปี 2546, รองมิสแฟชั่นรีวิว, มิสโอเรียนทอล ฯลฯ โดยพ่อแม่รับรู้ตลอด ประกวดหลายเวทีทำให้ได้รับประสบการณ์มากมาย เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เพื่อหาโอกาสเข้าสู่วงการบันเทิง และสิ่งที่ตามมาคือได้พัฒนาตัวเอง จากเดิมเป็นคนขี้อาย ไม่มั่นใจ เดินขาไขว้ หลังค่อม ตอนประกวดเวทีแรกยังถามตัวเองว่า จะเดินบนเวทีได้ไหม หลังจากเข้าประกวดหลายเวทีก็ทำให้ทุกอย่างพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะความมั่นใจ

“อยากบอกว่าผู้หญิงที่เข้าประกวดหลายเวที หรือนางงามหลายเวที ไม่ใช่ว่าทุกคนเป็นคนไม่ดี การเดินสายประกวดตามที่ต่าง ๆ ผู้หญิงเหล่านั้นได้รับโอกาสและได้รับเกียรติจากกรรม การจากทุกเวทีคัดเลือกให้รับตำแหน่ง หลายครั้งที่ทุกคนเข้าประกวดมีดวงตามีความสุขโดยเฉพาะเวลายิ้ม เป็นความสุขจากข้างใน และเงินที่ได้จากการประกวดของนางงามเดินสาย สามารถจุนเจือครอบครัวดูแลตัวเอง แต่ทุกคนมีความฝัน มีเป้าหมาย และอยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้ทำสำเร็จแล้ว จากนี้ไปพร้อมทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดสมกับที่ทุกคนเลือกมา”น้องส้มกล่าวถึงวันที่พบความสมหวัง

น้องส้ม กล่าวต่อว่า คิดว่าสิ่งที่ทำให้ชนะใจกรรมการ คือความมั่นใจ มีสมาธิและนิ่งกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และตั้งใจจะทำ มีโอกาสก็ก้าวเข้าไป จึงได้รับผลนี้ทำให้ดีใจ บอกไม่ถูกว่าจะทำอะไรต่อไป ขอทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน สมกับที่คณะกรรมการได้เลือกมา และจะขอเตรียมตัวฝึกการเดิน ยิ้ม และทำสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเตรียมตัวเข้าประกวดมิสเวิลด์ในช่วงเดือน พ.ย. ต่อไป

ในส่วนเงินรางวัล น้องส้มเปิดเผยว่าจะแบ่งสองส่วน นำไปซื้ออุปกรณ์การศึกษาช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนที่หัวลำโพง เนื่องจากเคยไปทำสารคดีเกี่ยวกับเด็กเร่ร่อนส่งอาจารย์ ส่วนอีกก้อนจะเป็นทุนศึกษาต่อด้านนิเทศศาสตร์ ที่ประเทศออสเตรเลีย และอนาคตอยากทำงานวงการบันเทิงในหลายๆด้าน รวมทั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพราะบิดาทำงานเกี่ยวกับสายการบิน และเคยพานั่งเครื่องบินเมื่อตอนเด็ก ๆ.


........................................

รู้จักมิสไทยแลนด์เวิลด์ คนล่าสุด '' ส้ม'' กนกกร ใจชื่น




''ตอนเด็กๆ ส้มเลือกนั่งดูการถ่ายทอดสดการประกวดนางงาม ทั้งเวทีในประเทศและเวทีระดับโลกในจอทีวี มากกว่าที่จะดูการ์ตูนเหมือนเพื่อนๆ วัยเดียวกัน ดูแล้วก็จะเก็บมาฝันว่าซักวันเราต้องไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นให้ได้ ส่วนพี่สาวและแม่ก็สนับสนุนด้วยการชอบซื้อกระโปรงมาให้ส้มใส่ ส่วนวันไหนว่างๆ ส้มก็จะแอบเอาเครื่องสำอางของแม่มาแต่งหน้าเล่นๆ แล้วก็เดินรอบบ้านโบกมือบ๊าย บาย คิดว่าตัวเองเป็นนางงามค่ะ (หัวเราะ)''


สิ้นเสียงสนทนากับน้อง ''ส้ม'' กรกนก ใจชื่น สาวใสวัย 21 ปี เจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ คนล่าสุด หลังจากได้พูดถึงวีรกรรมและความใฝ่ฝันของตัวเองตั้งแต่วัยเยาว์

ซึ่งแน่นอนว่าเราๆ ท่านๆ ก็ย่อมจะมีความใฝ่ฝันสมัยตอนเป็นเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลเช่นเดียวกับเธอ ไม่เชื่อก็ลองไปหาโดเรม่อนแล้วย้อนเวลากลับไปดู คำถามยอดฮิตของคุณครู ที่ใช้หากิน เอ้ย...!! ใช้เพิ่มจินตนาการให้ลูกศิษย์ ซึ่งไม่ว่ายุคสมัยใดก็ใช้ได้ตลอด กับคำถามที่ว่า ''โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรจ๊ะ??'' และแน่นอนว่าต่างคนก็ต่างความคิดต่างจินตนาการ บ้างอยากเป็นทหาร บ้างอยากเป็นตำรวจ บ้างอยากเป็นหมอ บ้างอยากเป็นนักธุรกิจ ก็แล้วแต่เด็กแต่ละคนจะครุ่นคิดกันได้ในเวลานั้น หรือบางคนก็อาจจะถูกปลูกฝังจากครอบครัวว่าหากโตขึ้นต้องดำรงอาชีพตามที่พ่อ-แม่ วางแผนไว้ให้เท่านั้นก็มีถมไป

แต่สำหรับเด็กหญิง ''กนกกร ใจชื่น'' หรือที่คนใกล้ชิดเรียกกันติดปากว่า ''น้องส้ม'' เด็กน้อยวัยไม่ถึง 7 ขวบ ได้ตอบคำถามเดียวกันนี้แบบไม่ต้องคิด ว่า ''หนูอยากเป็นนางงาม

ค่ะ!!'' ทำเอาคุณครูที่อยู่หน้ากระดาน พร้อมกับบรรดาเพื่อนร่วมห้องถึงกับกลั้นกันไม่อยู่ หลุดขำออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ กับความคิดที่ใฝ่สูงอยากเป็นนางฟ้าของเมืองไทยของเด็กผู้น้อยตัวเล็กๆ หน้าตาก็เข้าขั้นขี้เหร่ผู้นี้

จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาผ่านไปกว่า 15 ปี จากเด็กน้อยเนื้อตัวมอมแมม กลับกลายเป็นสาวใสเต็มวัย ซึ่งอะไรๆ ในร่างกายของน้องส้มก็เปลี่ยนแปลงไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในหัวกับความใฝ่ฝันที่อยากจะสวมมงกุฎพร้อมได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่สวยที่สุดในประเทศ ยังไม่ละไปจากตัวของเธอเลย อะไรที่ทำให้สาวเมืองกรุง มุ่งมั่นได้ขนาดนั้น วันนี้ ''สยามดารา'' ขอขันอาสาพาแฟนๆ ไปทำความรู้จักกับดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิงเมืองไทยให้มากกว่านี้

- ก่อนอื่นแนะนำตัวกับแฟนๆ สยามดาราหน่อยซิจ๊ะ
สวัสดีค่ะ ''น้องส้ม'' กรกนก ใจชื่น ปัจจุบันอายุ 21 ปี สัดส่วน 33-25-37 สูง 174.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 55.1 กิโลกรัม กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุ- โทรทัศน์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปีนี้ก็จะจบแล้วค่ะ (ยิ้ม) เป็นน้องสุดท้องของครับครัวใจชื่น (จากพี่น้อง 3 คน) คุณพ่อจันทร์ ใจชื่น ปัจจุบันเป็นพนักงานการบินไทย ฝ่ายโภชนาการ ส่วนคุณแม่ศรีอนงค์ ใจชื่น เป็นแม่บ้านที่คอยดูแลลูกๆ ค่ะ

- ไปไงมาไงถึงได้มาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นนั่นแหละค่ะ ว่าความใฝ่ฝันของส้มคือการได้ก้าวขึ้นมาสวมมงกุฎบนเวทีใหญ่ๆ ระดับประเทศ พร้อมกับได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนคนไทย ไปประกวดกับเพื่อนๆ สาวงามบนเวทีโลก ส้มไม่อายเลยนะค่ะที่จะบอกว่าส้มเดินตามหาความฝันของตัวเองมาตั้งแต่อายุ 16 ปี เพื่อสั่งสมประสบการณ์ ด้วยการเข้าร่วมประกวดไทยซูเปอร์โมเดลปี 2002 ซึ่งครั้งนั้นก็ทำได้ดีที่สุดแค่รอบ 10 คนสุดท้าย แต่ส้มก็ไม่ได้ท้อนะ เพราะหลังจากนั้น พอมีเวลาว่าง ส้มก็จะเดินสายไปประกวดเวทีต่างๆ มีผิดหวังบ้างสมหวังบ้าง อย่าง นางสาวถิ่นไทยงาม ที่ จ.เชียงราย ซึ่งได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 และได้เป็น ''ขวัญใจ ''คม ชัด ลึก'' จากเวทีเดียวกัน แต่ที่ภูมิใจที่สุดเห็นจะเป็นได้รับตำแหน่ง นางนพมาศบางไทร ปี 2546 ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานฯ ซึ่งทุกเวทีที่ส้มประกวดจะอยู่ในสายตาพ่อ-แม่ตลอด และส้มก็ไม่ทำให้เรื่องการเรียนเสียหายด้วยค่ะ

- เงินรางวัล 7 ล้านบาทมีส่วนในการตัดสินใจมั้ย
ยอมรับอีกค่ะว่านั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะที่ผ่านๆ มา ส้มก็จะทำงานหาเงินด้วยตัวเองมาตลอด คืออย่างจะแบ่งเบาภาระครอบครัว บางครั้งไปประกวดได้เงินมาก็จะให้พ่อให้แม่บ้าง เพราะครอบครัวของส้มก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส้มอยากจะให้ท่านสบายในยามแก่เฒ่า ซึ่งวันนี้ส้มก็ทำได้ในระดับหนึ่งแล้ว

- กับคำว่านางงามเดินสาย
อันนี้มันห้ามกันไม่ได้ค่ะ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น แต่ส้มอยากจะบอกว่าการประกวดความงามไม่ใช่เรื่องที่ผิด และใช่ว่าคนที่เดินสายประกวดจะเป็นคนไม่ดี แต่อยากให้ดูเหตุผล ของเค้าก่อน อย่างตัวส้มต้องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ได้ทำกิจกรรม ได้รู้จักสังคมอีกแบบหนึ่ง ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้แต่ละที่แต่ละเวทีแตกต่างกันไป และหาซื้อไม่ได้จากที่ไหนด้วย อีกอย่างการประกวดความงามทำให้คนขี้อายอย่างส้มมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าขึ้นเวที กล้าเดินต่อหน้าคนเยอะๆ เพราะแต่ก่อนส้มจะเป็นคนหลังค่อม เวลาเดินจะไม่สวย แต่เวทีการประกวดก็ทำให้ส้มได้พัฒนาบุคลิกตัวเอง

- พูดถึงวินาทีแรกที่ตัวเองทำความฝันสำเร็จ
รู้สึกตื่นเต้นค่ะ ตอนอยู่บนเวทีเห็นคุณพ่อคุณแม่นั่งอยู่ข้างล่างแล้วอยากจะลงไปหา อยากจะเข้าไปกราบท่านแล้วบอกว่าลูกทำได้แล้ว และส้มก็อยากจะขอบคุณท่านที่สนับสนุนให้ส้มเดินตามหาความฝันของตัวเอง ขอบคุณที่ท่านสั่งสอนให้ส้มเป็นคนดีของสังคม ไม่นอกลู่นอกทางด้วย

- ถามจริงๆ ก่อนมาประกวดได้ไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนไว้บ้าง
อันนี้ส้มไม่ได้บนเองนะค่ะ แต่เห็นคุณพ่อบอกว่าช่วงที่ส้มเก็บตัวทำกิจกรรม พ่อกับแม่ก็ได้เดินสายบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่เหมือนกัน ทั้งหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และยังไปบนที่วัดสะตือ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งท่านบอกว่าหากส้มได้ตำแหน่งจะทำบุญเลี้ยงพระ และชำระหนี้สงฆ์ นอกจากนี้พ่อยังโทรศัพท์ไปปรึกษาหลวงพ่อที่วัดภูแก่นจันทร์ ใน จ.มุกดาหาร ซึ่งพ่อนับถือมานานแล้ว และหลวงพ่อท่านยังทำนายด้วยนะค่ะว่าเวทีนี้ส้มจะได้รางวัลแต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่าจะได้รางวัลอะไร ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าจะเป็นรางวัลใหญ่ค่ะ (หัวเราะ)

- คิดว่าอะไรที่ทำให้กรรมการเลือกเรา
เพราะส้มมีความพร้อมมั้งค่ะ พอเราเตรียมตัวมาดี สั่งสมประสบการณ์จากเวทีต่างๆ พอมาถึงเวทีใหญ่ๆ แบบนี้ทำให้ส้มไม่ประหม่า เพราะส้มคิดว่าเมื่อเรามีโอกาสเข้ามาถึงตรงนี้แล้ว เราก็ต้องทำหน้า ที่ของเราให้ดีที่สุดค่ะ

- เงินรางวัลที่ได้จะเอาไปทำอะไร
จะนำส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนที่หัวลำโพง เพราะส้มเคยไปถ่ายทำสารคดีส่งอาจารย์แล้วรู้สึกสงสาร และเห็นใจครูที่เค้าเสียสละเวลา และเสียสละตัวเองมาสอนเด็กๆ กลุ่มนี้ จากที่ส้มได้คุยกับครูเหล่านั้นท่านบอกว่ายังขาดอุปกรณ์การเรียนการสอนที่จำเป็นอีกมาก ยังไงส้มก็ขอฝากบุญไว้ตรงนี้ด้วยละกัน ใครอยากร่วมทำบุญกับส้มก็ติดต่อมาได้นะค่ะ อีกส่วนนึงที่ส้มคิดไว้ก็คงเป็นทุนการศึกษาที่ตั้งใจว่าจะไปเรียนต่อปริญญาโทในด้านนิเทศศาสตร์ที่ประเทศออสเตรเลียค่ะ ส่วนรถ บ้านที่ดิน ก็คงจะให้พ่อ-แม่ได้อยู่อย่างสบาย

- ถึงวันนี้มองอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
ตอนแรกส้มฝันไว้ว่าอยากจะเป็นนางฟ้า หรือว่าแอร์โฮสเตสนั่นแหละค่ะ แต่หากมีโอกาสเข้ามาสัมผัสในวงการบันเทิง ก็อยากจะเดินแบบ หรือไม่ก็พิธีกร แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาส แต่ถ้าอยากจะให้ส้มไปเล่นละครหรือไปทำในด้านอื่นๆ ส้มก็พร้อมค่ะ

- จะเตรียมตัวยังไงไปสู้ศึกมิสเวิลด์ที่เมืองจีน
ส้มเชื่อว่าเวลาที่เหลืออีก 4 เดือน คงจะเพียงพอที่ส้มจะได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ ทั้งพัฒนาเรื่องของการเดิน การยิ้ม ภาษา รวมถึงการแสดงความสามารถต่างๆ แต่สำหรับตัวส้มเอง แล้วพอจะมีความรู้ ความสามารถในเรื่อง การเล่นดนตรีไทยอยู่แล้ว ทั้งซอด้วง , ขิม หรือแม้แต่จะเข้ ซึ่งส้มก็อยากจะนำดนตรีไทยๆ เหล่านี้ไปเผยแพร่บนเวทีโลกด้วยค่ะ

- อันนี้หนุ่มๆ รอฟัง มีแฟนยังเอ่ย
แปลกนะค่ะ ไม่ค่อยมีผู้ชายเข้ามาจีบส้มเท่าไหร่ ทำไมไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) ตอนนี้บอกได้เลยว่ายังโสดสนิทค่ะ หรืออาจเป็นเพาะส้มไม่มีเวลาให้ใครมั้งค่ะ เพราะต้องทุ่มเทกับการ เรียนและช่วยที่บ้านด้วย แต่ถ้าถามสเปกหนุ่มๆ ส้มคงเหมือนสาวๆ ส่วนใหญ่มั้งค่ะ ที่ชอบผู้ชายสูง ขาว ตี๋ แต่ที่สำคัญต้องนิสัยดีและเข้ากับเราได้ด้วย

- ให้นิยามคำว่า ส้ม-กนกกร หน่อยซิจ๊ะ
ส้มเค้าจะเป็นสาวขี้อายนิดๆ ขี้น้อยใจบ้างเป็นบางครั้ง โกรธง่าย แต่หายเร็ว วงเล็บนะค่ะว่าต้องมีคนมาออดอ้อนเอาใจและง้อหน่อย บางครั้งก็ชอบพบปะผู้คน เพราะจะได้แลก เปลี่ยนความรู้และทัศนคติกับคน จนหลายคนบอกว่าส้มเป็นสาวมนุษย์สัมพันธ์ดีไปแล้ว ซึ่งถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องลงมือทำให้ได้ จริงจังกับชีวิตบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนฉายาเพื่อนมักจะเรียกกันว่ายัย ''กะ-ทก-รก'' ค่ะ ส่วนที่ไปที่มาคือส้มเป็นคนที่ไม่ค่อยเรียบร้อย ชอบทำอะไรรกๆ พอมาบวกกับชื่อที่อ่านเร็วๆ ก็จะได้คำนั้นแหละค่ะ

- ถึงวันนี้อยากจะขอบคุณใครเป็นพิเศษ
แน่นอนค่ะ ส้มต้องขอขอบคุณพ่อ-แม่ ที่เลี้ยงดูส้มและสั่งสอนให้ส้มเป็นดี คอยให้กำลังใจส้มมาตลอด และขอขอบคุณคณะกรรมการทั้ง 36 ท่านที่ทำหน้าที่ในรอบตัดสิน ซึ่งส้ม สัญญานะค่ะว่า ส้มจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทุกท่านไว้วางใจให้ส้มได้รับตำแหน่งเกียรติยศครั้งนี้ ขอบคุณมากค่ะ

และนั่นก็คงจะทำให้คุณๆ ท่านๆ ได้รู้จักกับผู้หญิงที่เพิ่งจะคว้ามงกุฎ จากเวทีขาอ่อน ''มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2007'' มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนคงจะได้แง่คิดจากการใช้ชีวิตของนางงามคนล่าสุดนี้ กับการกล้าที่จะฝัน และก็ใช้ความพยายามเดินตามหนทางของมัน ซึ่งซักวันความฝันนั้นก็จะมาถึงเอง ดั่งที่ ''ส้ม'' กรกนก ใจชื่น ได้ทำให้คนทั้งประเทศได้ ประจักษ์มาแล้ว แต่เธอจะสามารถก้าวไปได้ไกลแค่ไหน ในการประกวดความงามบนเวทีนานาชาติ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!!


น้องส้มเต็มที่กับทุกกิจกรรม


ลูกสาวสุดหวง


ลีลาดำนาของน้องส้มขณะเก็บตัว


น้องส้ม(ขวาสุด)ในชุดว่ายน้ำ


วินาทีรับตำแหน่งมิสไทยเเลนด์เวิลด์


โพสท่าด้วยชุดราตรีสั้น


ภาพ ข่าว
-ผู้จัดการ
-เดลินิวส์
-สยามดารา




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2550
6 comments
Last Update : 7 สิงหาคม 2550 12:41:24 น.
Counter : 4817 Pageviews.

 

แวะมาชมคนงาม ...

 

โดย: Shaleebow 7 สิงหาคม 2550 0:46:46 น.  

 

เก่งและสวยอย่างนี้ดังแน่

 

โดย: หนอนหมอน (หนอนหมอน ) 7 สิงหาคม 2550 10:15:00 น.  

 

สวยดีนะเนี่ย

 

โดย: CinnamonGal 8 สิงหาคม 2550 1:28:46 น.  

 

ทำไมมงกุฎปีนี้ ทำได้อุบาท อย่างนั้น และน้องกวางนะ ตอนสวมมงกุฎ อยากทราบว่า ไม่เคยมีการฝึกสอนมาก่อนเลยหรือค๊ะ หรือว่า ตื่นเต่นอะไรจนมากเกินไป ความตั้งใจที่จะสวมให้มันดูดีนะไม่มีเลย ขอประนาม

 

โดย: แมว IP: 124.120.144.18 8 สิงหาคม 2550 10:30:19 น.  

 

หวัดดีค่ะ อยากบอกว่าน้องส้มเวลาอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ นางงามคนอื่นๆ (รองทั้ง 4 คน) น้องส้มไม่สวยโดดเด่นเลยจริงๆ ค่ะ แต่เวลาอยู่คนเดียวก็สวยน่ะ แต่ว่าไม่ได้ดูสวยในทันที ต้องมองนานๆ ใจจริงชอบเจมี่ ลินน์ หน่ะค่ะ แต่แหมปีนี้ก็พลิกโผน่ะไม่เอาลูกครึ่ง แต่น้องส้มเนี่ยมองเผินๆ หน้าคล้าย ปอ อรปรียา 80% เลยน่ะค่ะ แต่ยอมรับเรื่องหุ่นหน่ะผ่าน สูงยาวเข่าดี แค่นี้ล่ะค่ะ

 

โดย: แก้ว IP: 124.120.154.13 9 สิงหาคม 2550 21:52:26 น.  

 

สวยนะ

 

โดย: น้ำ IP: 61.7.173.213 29 ตุลาคม 2550 12:43:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.