ช่อง 7 สี ประกาศผลรางวัลชุดประจำชาติสู่เวทีนางงามจักรวาล2008 จากที่ กองประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส จัดโครงการออกแบบชุดประจำชาติ สำหรับตัวแทนสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาล ปี 2008 (2008 Miss Universe) ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมคัดเลือกทั้งสิ้น 897 ผลงาน โดยผลงานที่โดดเด่นชนะใจคณะกรรมการตัดสิน ได้แก่ Spirit of Fighting ของ นายสถาปัตย์ มูลมา นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คว้าเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการประกวดนางงามจักรวาลปีนี้ โครงการออกแบบชุดประจำชาติ สำหรับตัวแทนสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาล ปี 2008 (2008 Miss Universe) อยู่ภายใต้แนวคิด Creative Thai ซึ่งจะต้องแสดงออกถึงกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างสมบูรณ์แบบ โดย นายสถาปัตย์ มูลมา กล่าวถึง แรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานชิ้นนี้ว่า “คนไทย มีเลือดนักสู้ไหลเวียนอยู่ภายใน ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงการต่อสู้ สิ่งที่เป็นที่กล่าวขานและชื่นชมของผู้คนทั่วโลก คือ มวยไทย การใช้ชุดของนักมวยมาเป็น ชุดประจำชาติ เพราะต้องการสื่อให้ต่างชาติได้รับรู้ว่า ผู้หญิงไทยเป็นสาวหวาน เรียบร้อย แต่ทว่ากลับมีด้านที่แข็งแกร่งอยู่เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องออกแบบให้มีความทะมัดทะแมง ดูคล่องแคล่วว่องไว ท่อนบนเป็น เกาะอกดันทรง (Corset) ตัดเย็บเหมือนตะเบงมาน ดังเช่นที่หญิงโบราณใช้เมื่อออกรบ โดยนำผ้าไหมสีแดง และสีทอง มาเย็บติดกับส่วนบรา ซึ่ง สีแดง จะแสดงออกถึงความแข็งแกร่ง ร้อนแรง ส่วน สีทอง จะทำให้ชุดมีสีสันที่โดดเด่นเมื่อมีการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังเสริมแต่งด้วยเครื่องประดับสีทอง ที่สื่อให้เห็นถึง สุวรรณภูมิ แผ่นดินทองของไทย” ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์ อาจารย์ประจำภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน เปิดเผยว่า “ผลงานชิ้นนี้ เป็น 1 ใน 897 ผลงานที่ส่งเข้ามาประกวด เมื่อถามหาสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือ อัตลักษณ์ หรือสิ่งที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้คณะกรรมการลงความเห็นว่า แนวคิดของผลงานชุดนี้น่าจะเหมาะสมที่สุด แต่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะว่าอาจจะต้องมีการผสมผสาน และเติมเต็มในบางส่วนให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของเสื้อคลุมที่แสดงออกถึงความอ่อนหวาน ซึ่งภายใต้ความอ่อนหวานนั้น คือ แก่นแท้ของอิสตรีไทยที่พยายามปกป้องและรักษาพันธะทางจริยธรรมอันสูงส่งของสตรี ไม่ใช่เพียงแค่สำนึกในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่จะต้องสำนึกไปถึงสังคม และประเทศชาติ ซึ่งในประวัติศาสตร์ก็มีมาให้เห็นตลอด เราจึงคิดว่าแนวคิดการนำเสนอของชุดนี้เหมาะสม ที่ไม่ใช่สวยเฉพาะแค่การมองเห็นเท่านั้น แต่จะสวยที่ความรู้สึกจากข้างในจริงๆ ด้วย” อาจารย์ถาวร กล่าวต่อไปว่า“สำหรับผลงานชิ้นนี้ เรายังคงความคิดไว้ในเรื่องของ สี แต่ในส่วนรายละเอียดคงต้องปรึกษาผู้ออกแบบ และผู้ชำนาญการอีกครั้ง ในเรื่องของความคิด ผมมองว่ามันเป็นสาระสำคัญทีเดียวสำหรับการทำงานศิลปะ เพราะการออกแบบที่สมบูรณ์ในเชิงแฟชั่น มันก็จะเป็นงานศิลปะเช่นกัน (Piece of Art) และผมก็คิดว่าเมื่อถึงวันที่ชุดนี้เผยแพร่สู่สายตาคนทั่วโลก มันคือการที่เราได้นำเสนอแก่นแท้ของความเป็นไทย ไม่ใช่เสนอเพียงแค่เปลือกของมัน” ส่วน อาจารย์สุรเดช แก้วท่าไม้ อาจารย์ประจำภาควิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดเผยว่า “สำหรับชุดไทยประจำชาติแล้ว มีวิธีการนำเสนออยู่ 2 แนวทาง คือ ถ้าไม่เป็นแบบไทยแท้ๆ เลย ก็ควรจะต้องแหวกแนว ซึ่งผลงานชิ้นนี้ มีวิธีการคิดที่ค่อนข้างจะแหวกแนว ต่างจากผลงานอื่นๆ ผสมผสานกับวิธีการนำเสนอ รวมถึงสิ่งที่คณะกรรมการลงความเห็นกันว่า จะต้องมีการเพิ่มเติมองค์ประกอบบางส่วน ผมว่าภาพที่ออกมาจะทำให้รู้สึกว่าพิเศษและยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาพภายนอกที่ดูอ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิงทั่วไป แต่เมื่อเผยโฉมภายในออกมามันคือความแข็งแกร่ง ซึ่งผมว่า ผู้หญิง มีมากกว่า ผู้ชาย มันคือ พลังบางอย่างที่แฝงอยู่ในชุดนี้ครับ”   Create Date : 23 พฤษภาคม 2551 1 comments Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 14:17:11 น. Counter : 1344 Pageviews. Share Tweet

ถ้าดูจากชุดแล้ว คนที่เหมาะสมน่าจะเป็นหมายเลข 19 มาก ๆ ครับ เพราะดูแล้วดูเท่ดี ผู้หญิงคนนี้ เวลา 3 เดือน นับจากนี้ก่อนไปมิสยูนิเวิรส์ ก้อยน่าจะพัฒนาได้อีกนะครับ สูง 171 ก็ไม่เตี้ยเท่าไหร่ครับ ปีที่แล้วมิสเจแปน สูงแค่ 174 ยังได้เป็น MU และชุดแต่งกายประจำชาติของญี่ปุ่นปีที่แล้วยังเป็นลักษณะ การต่อสู่เลยครับ แต่ของไทยน่าจะเลิศกว่าครับ ใช้หมัด ปีนี้น่าจะอีกสักปีนะ คนไทยได้เห็นปรากฎการณ์ครั้งใหม่ กับชุดประจำชาติไทยที่ไม่เคยทำออกมา   โดย: phu 33 IP: 222.123.245.45 23 พฤษภาคม 2551 16:27:45 น.