หากมีแต่เพียงท่วงท่าภายนอก ไร้ภายในชักนำ ก็เรียกได้เพียงว่า"รำมวย" ไม่สามารถเรียกว่า "มวยไท่เก็ก"
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
1 พฤศจิกายน 2549

XบทความพิเศษX ไทจี๋หย่งเจี๊ย ตระกูลหยาง ตอนที่3

ผมแปลจาก "บทสัมภาษณ์ อจ. หลี่เหลียน
ผู้สืบทอดรุ่นที่6 ของหย่งเจี๊ย
หรือ ชุดการใช้งาน ของมวยไทจี๋"
โดย จ้าว ลี่เฉิง


บทความนี้ได้รับการอนุเคราะห์จาก
อจ. เหลียง เวปมวยภายใน ขอบคุณครับ


---------------------


จ้าว - ทำไมต้องจำกัดเฉพาะคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถึงจะเรียนมวยชุดนี้ได้

หลี่ - การฝึก มวยไทจี๋ชุดการใช้นั้น เหมือนกับการค่อยๆปีนเขาที่สูงชันมากๆ
ไปทีละขั้น ทีละขั้น ด้วยความมานะ แน่นอนว่าไม่มีทางลัด
อจ.ปู่ของผมกล่าวว่า "สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการฝึกฝน"




อจ.หยางเส้าโหว เคยแม้กระทั่งจะกระโดดบ่อน้ำ
ฆ่าตัวตาย เพราะไม่สามารถทนการฝึกที่
หฤโหดทั้งวันทั้งคืนได้
เพราะมันต้องใช้ พลัง ความเพียรพยายาม ฝึกฝนอย่าง
หนักจนถึงที่สุด จึงจะประสพความสำเร็จ ในระดับ
ของท่านหยางลู่ฉาน ปู่ของท่านได้

อจ.ปู่ของผม ท่านอู๋ถูหนาน ซึ่งเริ่มเรียนมวยไทจี๋
ตอนอายุเก้าขวบ บ่อยครั้งที่ท่านจะถูกสั่งให้ไปฝึก
ใต้โต๊ะเหลี่ยมแปดทิศ
ท่านต้องฝึกจนเหงื่อชุ่มถุงเท้าเปียกโชก
ระหว่างฝึกการประมือ ท่านก็มักจะถูกตี จนเขียวช้ำไปหมด

อย่างไรก็ตาม ท่านไม่เคยเกรงกลัวต่อความเจ็บปวด
ยังคงยืนกรานที่จะฝึก จนในที่สุด ท่านจึงได้กลายมา
เป็นอาจารย์มวยที่มีชื่อเสียง

อจ. อู๋ได้สรุปประสบการณ์ที่ท่านได้จาก
อจ.รุ่นก่อนไว้ว่า

"ถ้าต้องการจะเป็นอจ.มวยไทจี๋ที่ยอดเยี่ยม
จะต้องไม่ยอมแพ้ ต้องมีความกล่าหาญยิ่งกว่า
การเผชิญกับศัตรูนับพัน และต้องมีจิตวิญญาณที่แท้จริง
ในการพัฒนาและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง"


กังฟู ไม่ได้ต้องการเพียงทักษะร่างกายพื้นฐานเท่านั้น
(เช่นการฝึกเอว และขา)
แต่ยังต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัดจากภายใน
รวมกับพื้นฐานที่ดี จึงจะฝึกฝนมวยไทจี๋ให้ดีได้
อย่างเช่น ไทจี๋กง

จ้าว- ไทจี๋กงคืออะไรครับ..? มีอะไรอยู่ในไทจี๋กง..?

หลี่- อจ.อู๋ถูหนาน แบ่งไทจี๋กง ออกเป็นสี่ส่วน
มีจ้าวกง - การเคลื่อนไหว จินกง - พลัง ซงกง - ผ่อนคลาย และชี่กง

ด้วยการฝึกฝนภายในอย่างต่อเนื่อง
จนตกผลึกสั่งสมเป็นกงฟู เท่านั้น
จึงจะสามารถได้รับผลสำเร็จของ
ไทจี๋หย่งเจี๋ยได้อย่างสมบูรณ์

ไม่ใช่อย่างที่พูดกันว่า
"การฝึกมวยชุดเล็ก กับ ชุดใหญ่นั้นเหมือนกัน
นอกจากเพียงท่วงท่าที่ย่อต่ำ และการเคลื่อนไหว
ที่เร็วกว่าเท่านั้น"

มวยชุดหย่งเจี๋ยเป็นการผสมผสานกัน
เป็นหนึ่งเดียวของกระบวนการฝึกทั้งสี่
คือจ้าวกง จินกง ซงกง และชี่กง

จ้าว -
อย่างนั้นต้องทำยังไงบ้าง
ถึงจะเป็นอจ.ไทจี๋หย่งเจี๊ยได้


หลี่ - ตามที่อจ.อู๋ถูหนาน
เขียนไว้ใน หนังสือ
"กระบวนการฝึกฝน หย่งเจี๊ยไทจี๋ฉวน"
ท่านแบ่งเอาไว้เป็นสามระดับ

ขั้นแรกเริ่มที่สุด คือชี่กง
(เป็นชี่กงแบบของมวยไทจี๋
ไม่ใช่การฝึกชี่กงเพื่อสุขภาพที่เห็นทั่วไป)
มันหมายความว่า เป็นสถานะที่ปราศจากรูปร่าง
ร่างกายทั้งหมดเหมือนจะโปร่งใส่ และว่างเปล่า
หยางชี่ และ หยินชี่ไม่สับสน
คอยจังหวะฉวยโอกาส ก่อนที่คู่ต่อสู้จะเคลื่อนไหว

"ชั้นที่สอง เป็นขั้นกลาง คือจินกง (จิ้งกง)
จินหมายความว่าอะไร ทำไมถึงไม่เรียกว่า ลี่..?
มันเป็นความแตกต่างระหว่างกำลังและแรง

จิน เป็นพลังที่เต็มเปี่ยมในมวยไทจี๋
ลี่ เป็นแรงอันงุ่มง่าม
จินเป็นพลังที่เราสามารถใช้ในการควบคุมคู่ต่อสู้
ได้อย่างง่ายได้ ซึ่งได้มีอธิบายไว้ ในทฤษฎีมวย:

"ในการต่อสู้ ผู้ฝึกมวย
จะสามารถควบคุมความเคลื่อนไหว
ของคู่ต่อสู้ได้อย่างนุ่มนวลง่ายดาย
โดยไม่ต้องมองซ้าย แลขวา
หรือพิจารณาให้มากความ
เขาก้าวไปข้างหน้า และถอยมาข้างหลังได้อย่างอิสระ
แต่ละการเคลื่อนไหวต่างประสานกันอย่างพอเหมาะ"

"ขั้นที่สาม เรียกว่า จ้าวกง
ซึ่งหมายความว่า "ผู้ฝึกมวย มาถึงขั้นนี้
จะพิจารณาถึงความสำเร็จ และความล้มเหลว
จากแต่ละการเคลื่อนไหว และคอยระมัดระวัง
จุดเล็กๆ ที่จะนำไปสู่ชัยชนะ หรือความพ่ายแพ้เท่านั้น
นี่เป็นเพียงการใช้งานธรรมดา ของมวยไทจี๋"

คำกล่าวนี้ อธิบายสภาวะที่เหมาะสมของทั้ง
มวยชุดฝึก และชุดการใช้

นานมาแล้ว บริษัทสตาร์ฟิลม์ของเซี่ยงไฮ้
ได้ถ่ายภาพยนต์ ท่านหยางเส้าโหว
และอู๋เจี้ยนฉวน และตัวฉันเอง<<< (ท่านอู๋ถูหนาน ) ฝึกดาบ
คุณจะเห็นว่า พวกท่านจะคอยระวังป้องกันอีกฝ่ายอย่างสงบนิ่ง
ทั้งสองท่าน ต่างก็เคยฝึกมาเช่นนี้เป็นปกติ
เพราะมวยตระกูลอู๋ก็เรียนมาจากตระกูลหยาง



อย่างไรก็ตาม มวยชุดการใช้ของทั้งสองตระกูลนั้น
แตกต่างกัน อจ.อู๋เจี้ยนเฉวียน เรียนจากบิดาของท่าน
ท่านอู๋ฉวนโหย่ว ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่มีชื่อเสียงมากก็คือ
ความนุ่มนวล พลังจะสิ้นสุดเพียงเมื่อสัมผัสถูก
ไม่ว่าพลังนั้นจะมาจากการใช้เทคนิคใดก็ตาม

ความนุ่มนวลนั้นเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทจี๋ตระกูลอู๋
ส่วนลักษณะเฉพาะ อันเป็นหลักของตระกูลหยางคือ
หลิง คง (การโจมตีฝ่าอากาศ)




อจ.อู๋ถูหนานแสดงหลิงคงจิ้ง

ถามว่าหลิงคงหมายความว่าอะไร ขออธิบายว่า...
"ก่อนที่คู่ต่อสู้จะเคลื่อนไหว ฉันจะรู้ว่าเขาจะทำอะไร
ทุกส่วนของร่างกาย นุ่มนวลราบรื่นและง่าย ไม่มีส่วนใด
แม้ลักนิดที่ติดขัด" นี่คืด วิธีการใช้

ในช่วงเริ่มต้นของมวยไทจี๋ชุดหย่งเจี๋ยนั้น
คือท่า “คว้าจับหางนกกระจอก"เช่นเดียวกับชุดมวยช้า
แต่ในหย่งเจี๊ยจะแบ่งเป็นสามขั้นตอน ในการฝึก



เริ่มจาก -คว้าจับหางนกกระจอก
- นกกระจอกยกหาก และ -นกกระจอกกระพือปีกสามครั้ง
เราจะใช้ชื่อท่าหนึ่งชื่อ สำหรับสามท่วงท่าย่อย

ลักษณะสำคัญของ มวยชุดหย่งเจี๋ยก็คือ
หากผู้ฝึกต้องการจะเพิ่มพลังการโจมตี
คู่ต่อสู้ให้หนักขึ้น ก็เพียงแต่ยืดเหยียดมือออกไปอีกเท่านั้นไม่ว่า จะใช้เทคนิคอะไรอยู่ก็ตาม

อย่างเช่น ท่าแส้เดี่ยว
ชื่อท่าแส้เดี่ยว ย่อมแตกต่างจาก แส้คู่
แส้เดียวหมายความว่า โจมตีคู่ต่อสู้ ด้วยมือเดียว
ตะขอ ของแส้เดี่ยวนั้น ได้รวมจิน(จิ้ง)
เอาไว้สี่แบบ
"โกว - เกี่ยวกระหวัด กว้อ - แขวน โต่ว - เขย่า สั่น และ ถาน - แรงสปริง"



เมื่อเวลาประยุกต์ใช้เทคนิค
ร่างกายก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ให้ทั้งบน และล่าง เคลื่อนตามกัน
หากคู่ต่อสู้เข้ามาโจมตีทางด้านหลัง
เราต้องจมร่างนั่งลงแล้วหมุนร่างกายอย่างฉับพลัน
โจมตีสวนกลับด้วยฝ่ามือ ตีไปยังจุดตาย

ในท่าเหิรเฉียง และ ท่าโจมตีเบื้องล่าง
ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า ชี่ซุนกัว
เป็นการโจมตี บริเวณด้านล่างเจ็ดนิ้ว
ตรงหน้าแข้งของคู่ต่อสู้ ด้วยการใช้ไหล่กระแทก
เพราะท่วงท่าที่ย่อต่ำ

ระหว่างการต่อสู้ ทันทีที่เริ่มต้น
คุณจมต่ำลงฉับพลัน แล้วโจมตีคู่ต่อสู้ในจุดนี้ทันที
จะทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว และเสียหลักล้มกลิ้งไปไกล

ที่ว่า"เจ็ดนิ้ว"หมายถึงบริเวณเจ็ดนิ้วต่ำลงไปจากหัวเข่า
ซึ่งท่านี้เป็นท่าที่ยากมาก เฉพาะอาจารย์ที่ชำนาญ
เท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ผล



คลิป อจ.หม่าหยงชิง สาธิตการประยุกต์ใช้ กับอจ.หลี่เหลียนครับ

ส่วนเทคนิคในการใช้ขานั้น
มีทั้งการกระโดดเตะสองชั้น
งอขาเตะด้วยฝ่าเท้า งอขาเตะด้วยหลังเท้า
เตะด้วยส้นเท้า เตะเรียงดอกบัวเดี่ยว
เตะเรียงดอกบัวคู่ เตะเรียงดอกบัวไขว้ และอื่นๆ
ซึ่งต้องผ่านการฝึกอย่างหนักจึงจะใช้ออกได้

โดยทั่วไปแล้ว จะมีมากกว่าสองร้อยการเคลื่อนไหว
ในมวยชุดเล็ก ซึ่งทั้งหมด จะรำจบภายในสามนาที

ดังนั้นความเคลื่อนไหวต้องรวดเร็ว เต็มไปด้วยพลัง
ความผิดพลาดใดๆก็ตาม โดยเฉพาะ จากการสอนที่ผิด
จะทำให้รำอย่างต่อเนื่องลื่นไหลได้ยาก
และยังมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้

ในสำนักตระกูลหยาง ไม่ได้สอนมวยชุดเล็ก
ให้กับคนทั่วไป จะสอนเฉพาะผู้ถูกเลือกเป็นพิเศษเท่านั้น
อจ.ผม ท่านเมตตามากที่กรุณาสอนผม



จ้าว- อจ.อู๋ถูหนาน สอนคุณยังไงบ้าง

หลี่- ผมโชคดีมากที่ได้เรียนหย่งเจี๊ยจาก
อจ.อู๋ถูหนาน ในช่วงปี1960
และมีโอกาสได้เห็นท่านฝึก
ในตอนนั้นแม้ท่านจะอายุ85แล้ว
ผมและเคราขาวโพลน แต่ท่านก็ยังรำ
ท่ายากมากๆได้อย่างสบาย

การก้าวย่างของท่านนั้นมั่นคง หนักแน่น
แคล่วคล่อง และหลากหลาย
เห็นได้เวลาที่ท่านฝึก Chou (แกว่ง) ก้าวไขว้หลัง
,เตะเร็วด้านใน,ก้าวคันธนู ,ท่าหม่าเหลียนชิ,และท่ากระโดด

เทคนิคการใช้มือและเท้าของท่าน ล้วนเหมาะเจาะลงตัว
ยามท่านก้าวไปข้างหน้า หรือเวลาท่านฝึกเตะล้วนชัดเจน
เตะด้วยฝ่าเท้า เตะเรียงดอกบัว เตะด้วยส้นเท้า
กระทืบ เหยียบ สับ เกี่ยว จุด ตี ผลัก กด แขวน
สั่น สปริง

ทุกอิริยาบถของท่านลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นเวลาท่านใช้ท่า
บิด จิก ปัด กด เขย่า รัด ระเบิด เกาะติด อ่อนตาม
หรือ หลิงคง

ท่านผสมผสานการโจมตีเป็นจุด และวงกลมเป็นหนึ่งเดียว
อำนาจจิตและพลัง ประสานกันอย่างละเอียดประณีต
พลุ่งผ่านไปทั่วร่าง ที่ว่างเปล่า โปร่งบางราวกับกระจก
โดยไร้สิ่งกีดขวาง เก็บพลังทั้งมวลไว้ในจิตวิญญาณ
แสดงถึงพลังอันยิ่งใหญ่
มันเป็นสภาวะของผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วย
พลังความคล่องแคล่ว ยืดหยุ่น อ่อนเบา และสงบนิ่งอย่างแท้จริง

เวลาฝึกหย่งเจี๋ย คุณต้องให้ความสนใจกับ
ท่าร่างให้สมบูรณ์แบบ และถูกต้องที่สุด
อาจารย์ อู๋ จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
กับทุกท่วงท่าในกระบวนการฝึก
รวมทั้งการผสมผสาน กระบวนการฝึกทั้งหมด
เข้าไปในแต่ละท่วงท่าเดี่ยว

ท่านกล่าวว่า “ ผู้ฝึก ควรจะบรรลุ
ถึงความเปลี่ยนแปลงของพลังที่หลากหลาย
อย่างระมัดระวัง และผสานกงฟูในทุกการเคลื่อนไหว
เริ่มต้นด้วยความผ่อนคลาย”

แต่ละท่วงท่าจะมีข้อกำหนดที่แน่นอน
ทั้งในเรื่องทิศทางของพลัง จิต และลมหายใจ
(ซึ่งจะมีบางอย่าง ที่แตกต่างจากในชุดมวยช้า)

ทุกท่วงท่าควรจะเริ่มจากช้าที่สุด ไปยังเร็วที่สุด
สั้น และคล่องแคล่ว
เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนไหวจะเปลี่ยนเป็นพลัง
จิต และชี่ ดังคำกล่าวที่ว่า
"จากการเคลื่อนไหวที่สมบูรณ์แบบ
จะทำให้เข้าใจในพลัง"

ดังนั้น ผู้ฝึกควรจะค้นหาพลัง และชี่
โดยไม่แยกคิดเฉพาะในเคลื่อนไหวของท่าเดี่ยวๆ
เพราะมันเป็นกระบวนการตามลำดับขั้นตอน
ซึ่งจะดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ทุกอย่าง
สมบูรณ์พร้อม เมื่อทุกอย่างเป็นธรรมชาติ
ร่างกายทั้งหมดว่างเปล่า และกระจ่างใส

*****************

เนื่องจาก อจ.หลี่พูดยาวเกินไป
จนคุณจ้าว ผู้สัมภาษณ์ หลับไปเสียก่อน
เลยจบห้วนๆแต่เพียงเท่านี้

อุอุอุ ล้อเล่นครับ
บทความมันมีแค่นี้ ไม่มีตอนต่อ
คลิปหย่งเจี๊ย สายท่านอู๋ถูหนาน
แบบเต็มชุด จากศิษย์ท่านอื่น
และ ท่ารำของท่านอู๋เอง
ดูได้จาก บทความเก่านะครับ





 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2549
4 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2549 20:31:51 น.
Counter : 5063 Pageviews.

 

อยากเรียนไทเก็กครับ

มีที่เรียนที่ไหนบ้างครับ อยากเรียนแบบจริงจัง

 

โดย: beer87 (beer87 ) 3 ธันวาคม 2549 1:04:33 น.  

 

ลองไปดูในนี้ครับ
หรือสอบถามเอาในบอร์ดที่นั่นก็ได้ครับ

//www.thaitaiji.com/board/index.php?action=vthread&forum=1&topic=267

 

โดย: bbking IP: 222.123.65.219 3 ธันวาคม 2549 14:15:21 น.  

 

ผมเรียนแร้วครับสนุกมากเลยครับผมบอกให้เรียนที่ไหนผมเรียนที่สมาคมจิงอู่

 

โดย: อินทรเดช IP: 222.123.42.76 6 สิงหาคม 2550 16:30:25 น.  

 

กระบี่ ดาบ และ พัด รำไท้เก็กที่ ร้านไหนมีขาย ครับ

 

โดย: tan IP: 202.151.4.19 20 เมษายน 2553 13:43:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Ramin&Indra
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




สำหรับท่าน ที่ไม่ยังไม่รู้จักมวยไท่จี๋นะครับ

มวยไทจี๋ หรือ ไทจี๋ฉวน
มาจากคำว่า ฉวน แปลว่า มวย + กับ ไทจี๋
เป็นวิชา การต่อสู้ชนิดเดียวกับ ที่เราเรียกแบบแต๊จิ๊วว่ามวยไทเก๊ก
หรือ ที่กลุ่มกายบริหารเพื่อสุขภาพ
สมัยใหม่ เอาไปดัดแปลงแล้วเรียก ว่า ไทชิ
รวมทั้งศัพท์ วัยรุ่นที่เรียกว่า "ทิชชี่"
แถมยังมีแบบผสมโยคะ เอาไปเรียกว่า "โยชิ"
หรือ "ไทคะ"อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม วิธีฝึกแบบสมัยใหม่นั้น
บางครั้ง เป็นเพียงการยืมชื่อมาใช้
เพื่อโฆษณาสรรพคุณ
โดยไม่ได้มีเนื้อหาสาระ เกี่ยวข้องกับมวยไทจี๋เลย
หรือไม่ก็ เป็นการใช้คุณประโยชน์ของมวย
แค่เพียงกระผีกริ้นของมันเท่านั้น

มวยไทจี๋มีคุณประโยชน์มากมายมหาศาล
ในหลากหลายด้าน หากคุณได้ศึกษาจากผู้รู้
และ ฝึกฝนอย่างจริงจัง เป็นวิชา ที่คุณสามารถ
ใช้เป็นวิชาประจำตัว เรียนรู้จากมันได้ไม่มีที่สิ้นสุดจนตลอดชีวิต

บล๊อกนี้ผมตั้งใจจะ รวบรวม ประวัติ และ
ท่ามวยไทจี๋ของหลากแบบ หลายสายอาจารย์
ของมวยไทจี๋ตระกูลต่างๆเอาไว้ เผื่อผู้สนใจจะได้สามารถเปรียบเทียบได้

จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ปัจจุบัน มวยไทจี๋แบ่งออกเป็นหลายแบบ
หลากตระกูล ที่สำคัญๆก็คือ
มวยไทจี๋ตระกูลเฉิน ตระกูลหยาง
ตระกูลอู๋ ตระกูลอู่ ตระกูลซุน
สายหมู่บ้านเจ้าเป่า สายบู๊ตึ๊ง

แต่ละสาย ยังแตกแขนงออกไปอีกมากมาย
รวมทั้ง สายแปลกๆ สาย ย่อยต่างๆอีก
ผมจะพยายามรวบรวมมาให้ดูกันครับ

ยังทำไม่เสร็จนะครับ มีหลายหัวข้อยังว่างอยู่
ค่อยๆทำไปเรื่อยแล้วกัน

ตอนนี้ หัวข้อที่มีเนื้อหาอยู่ คือ
** กำเนิดมวยไทเก๊ก
** มวยไทเก๊กตระกูลหยาง
** คำสอนปรมาจารย์
** ตำนานยอดฝีมือครับ
** ประวัติมวยไท่เก๊ก ทั้ง7สาย
** มวยไท่เก๊กตระกูลเฉิน

แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ครบถ้วน
ยังคงอัพเดทเรื่อยๆครับ


บทความส่วนใหญ่ที่ผมเป็นคนแปล
จะมีข้อผิดพลาดในเรื่องการออกเสียง
ชื่อคน ชื่อสถานที่ภาษาจีน เพราะผมไม่รู้
ภาษาจีน และต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษเสีย
ส่วนใหญ่ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ

อัพเดท สัปดาห์ละครั้งครับ
[Add Ramin&Indra's blog to your web]