บล้อกที่แล้วปุ่นเขียนเร็วไปหน่อย เลยเหมือนอารมณ์เสียมาเขียน
จริง ๆ แล้ว เหมือนว่าโดนเวลากระตุ้นให้เขียนมากกว่า เลยออกมาห้วนไปหน่อย
ที่จริงปุ่นก็มีความสุขดี ไม่ทุกข์ร้อนใจเพราะใครทำ
เพื่อนดี ๆ ก็ออกจะมีเยอะแยะ อย่างในบล้อกแก๊งค์เนี่ย เจอแต่คนดี ๆ
เพียงแต่ อย่างที่บอก...เวลาเจอคนแล้วปุ่นจะชอบวิเคราะห์เป็นไฟล์เก็บไว้ในสมอง หลัง ๆ มานั่งคิด มันสามารถจัดเอาไฟล์พวกนี้มาเรียบเรียงเป็นเรื่อง ๆ ได้ ซึ่งบางที มันอาจจะมีประโยชน์กับคนอ่านก็ได้เนอะ ถ้าไม่มี อย่างน้อยก็มีประโยชน์กับตัวปุ่นเอง ได้เอาความคิดที่ตกตะกอนมาเขียนไว้ซะที
วันนี้ขอต่อยอดจากตอนที่แล้ว...ในที่สุดก็ไม่มีใครรักเราเท่าครอบครัว ต่อด้วย ทำไมถึงเป็นคนไร้สุข
ความสุขนี่มันอยู่ตรงไหนนะ
ตอนเป็นเด็กเล็ก ความสุขอยู่ที่ได้เดินจูงมือไปตลาดกับแม่ แม่ซื้อขนมครกให้กินก็สุขเหลือหลายแล้ว
โตขึ้น ความสุขมันช่างหาได้ยากขึ้น
อาจเป็นเพราะ ความอยากของเรามากขึ้นตามตัว ขนมครก กับ มืออ้วน ๆ ของแม่ ไม่ทำให้เรามีความสุขต่อไปแล้ว (ความคิดในตอนเริ่มเป็นวัยรุ่น --- > ก็แม่เริ่มบ่นมาก แล้วแม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไม่มีเวลาไปตลาดกับเราอีกด้วย ฮึ)
เริ่มคิดว่า ถ้าหาเงินได้เยอะ ๆ คงจะมีความสุข
เวลาผ่านไป... เงินก็หาได้แล้วตามเวลาและประสบการณ์ ทำไมถึงยังรู้สึกขาด ๆ อะไรอยู่ก็ไม่รู้ มันเหงา ๆ กลวง ๆ อยู่ข้างใน สงสัยเงินจะไม่ใช่คำตอบ เพราะว่าเงินที่หามาได้ คิดว่าเวลาใช้เงินคงมีความสุข แต่ว่า มันก็สุขแป๊บเดียว ตอนอยากได้ก็ซื้อ พอได้มาแล้วก็เฉย ๆ ก็จะไปอยากได้ของใหม่ ๆ ต่อไป ไม่จบ
สัญญาณที่บ่งว่าเป็นคนไร้สุข
สุขภาพไม่ดี
อ้วน หรือคิดว่าตัวเองอ้วนอยู่ตลอดเวลา
ท้องผูก
นอนไม่หลับ
คิดกังวลเรื่องงาน เรื่องที่มากระทบใจ อ่อนไหวง่าย
ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เช่น ทำไมเขามีโน่นนี่ที่เราไม่มี อันนี้ไม่ดี ทำให้เราเป็นทุกข์ ที่จริง ควรมองสองด้าน คนเราไม่มีใครสมหวังได้อะไรหมดทุกอย่าง คนที่มีความสุขคือคนที่พอใจ เขาอาจจะมีน้อยกว่าเราก็ได้ แต่เขาพอใจ ความสุขมันก็เกิดขึ้น
อิจฉาคือไม่ยินดีที่คนอื่นมีความสุข ปวดใจว่างั้นเถอะ ถ้าแสดงออกแล้วไปทำร้ายเขา แบบว่าแดกดัน อันนั้นก็เป็นริษยา ถ้าเก็บไว้ในใจก็ทำร้ายตัวเอง อึดอัดนะ
ไม่พอ เติมใจตัวเองไม่เคยเต็ม
หงุุดหงิด เจ้าอารมณ์ ใครบอกใครเตือนไม่ได้ โดนจิกหัวกุด
เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า มีพี่คนนึง แกแต่งงานมาอยู่เยอรมันไม่กี่ปี สามีก็ตกงาน จากเคยเป็นหัวหน้างานต้องมากินเงินตกงาน สามีก็ทำใจไม่ได้ที่จะไปทำงานต่ำกว่าที่เคยทำ พี่คนนี้เลยต้องทำงานหนักมาก จนวันนี้ก็ล่วงเลยมาหลายปีที่พี่คนนี้ต้องทำงานเป็นหัวหน้าครอบครัว เพราะสามีไม่มีรายได้อื่นนอกจากสวัสดิการรัฐ ตอนนี้เธอต้องทำงานหลายอย่างเพื่อจะได้เป็นหลักให้ครอบครัวได้ แต่เพื่อนก็บอกอีกว่า เวลาพูดถึงพักร้อน งานอดิเรก พี่คนนี้จะอารมณ์เสีย ไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากฟัง อันนี้เข้าประเด็นหลายอย่างที่กล่าวไว้ข้างบน
ที่จริงมีตัวอย่างอีกหลายเคส แต่อันนี้เห็นชัดสุด
เมืองที่เราอยู่ คนที่เราคบ ไลฟ์สไตล์ที่เราชอบ คู่ที่เราใช้ชีวิตด้วย (อันนี้สำคัญมาก)
ใช้เวลาเลือกให้พอ แล้ว พอใจ
มีหลายคนที่มาต่างประเทศโดยที่หวังจะเปลี่ยนแปลงฐานะ พอเจอคนมาชอบ ก็ตกลงปลงใจเลย โดยไม่ได้ศึกษาพื้นฐาน นิสัยใจคอกันอย่างถ้วนถี่ จริง ๆ อยากให้ผู้หญิงเรา อย่าตีค่าตัวเองต่ำ ผู้ชายฝรั่งไม่ได้ดีหมดทุกคน เมืองไทยเรา ระบบหลายอย่างด้อยกว่ายุโรปก็จริง แต่ผู้หญิงไทยเราเก่ง ๆ กันเยอะ ความคิดความสามารถไม่ด้อยกว่าผู้ชาย อยากให้ภูมิใจในตัวเอง เวลาเจอผู้ชายที่คุณสมบัติไม่พอ แล้วใจยังคิดว่าไม่ใช่ ก็อย่าเพิ่งใจร้อน ลองคบดูไปก่อน ว่าคนนี้จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้น หรือแย่ลง ถ้าคิดว่ามาแล้ว อยู่แบบนี้ได้ พอใจ ความสุขมันจะไปไหนเสีย
อย่าคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีทางเลือกเลยต้องตัดสินใจคว้าไว้
ขอบอกว่า ทุกคนมีทางเลือกเสมอ ความเสี่ยงอาจจะมีมากน้อยไม่เท่ากัน คิดให้ดี ทุกอย่างมีเวลาของมัน เลือกแล้วอย่ามองกลับหลัง คิดกลับไปกลับมา เสียดาย ควรใช้เวลาเลือกให้พอ
ที่จริงยังมีหลายประเด็น อย่างประเด็นสุขภาพกายที่ขอข้ามไปก่อนเพราะยาวมาก
เอาไว้พูดถึงตอนหน้านะคะ
คนเราอยากมีมาก ก็ทุกข์มาก
จริงๆ เอิงว่าความสุขอยู่ใต้จมูกเรา
สุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ตัวเองมี สิ่งรอบๆ ตัวนะคะ
ว่าไปแล้วนึกถึงตัวเอง มีความสุขยามได้กิน
ไม่ว่าจะเป็นดินเนอร์หรูๆ หุหุหุ
หรือเดินไปกะคุณสามี โซ้ยพิซซ่าหน้าปากซอยก็สุขได้
อีกเรื่องของเอิงคือ เรื่องเดินเที่ยว ไม่ต้องไปไหนไกลค่ะ
แค่เดินไปดูของสวยๆ งามๆ วินโดว์ช้อป ก็สุขใจ๊สุขใจ
ใครเป็นอย่างเรามั่งไม่รู้ shopaholic คริคริคริ
พูดไปพูดมาเดี๋ยวคนหาว่าเราเป็นโรคจิต
ในบล็อกมีแต่พากิน พาเที่ยว เดินวินโดว์ช้อป 55555
ก็คนมันสุขน่ะค่ะ สุขไปสุขมา ถ่ายรูปมาอัพบล็อกซะเรย
ไม่เบื่อกันนะค้า