ทัวร์อินไทยแลนด์ พานักท่องเที่ยว VIP มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร





พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร
ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00-16.00 น. (จันทร์-ศุกร์) , 09.00-17.00 น. (เสาร์-อาทิตย์) หยุดทุกวันอังคาร
มีค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท













จังหวัดยโสธรเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ริมฝั่งแม่น้ำชี
ยโสธรเป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในเขตภาคอีสานตอนล่าง
ที่มีชื่อเสียงในการทำบั้งไฟจนได้ชื่อว่า “เมืองบั้งไฟ”ปัจจุบันมีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองเกษตรกรรม
โดยเฉพาะเป็นแหล่งปลูกข้ามหอมมะลิที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศยโสธร
มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในด้าน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต
ได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตอัน เรียบง่ายของชาวอีสานดั้งเดิม
และวัฒนธรรมพื้นบ้านอันงดงามบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่นับวันจะหาได้ยากในสังคมเมืองปัจจุบัน
จังหวัดยโสธรมีเนื้อที่ประมาณ 4,161 ตารางกิโลเมตร หรือ 2.6 ล้านไร่
เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็น อันดับที่ 54 ของประเทศ
มีแม่น้ำชีไหลผ่านและมีหนองบึงกระจายอยู่ทั่วไป
เป็นแหล่งทำการเกษตร โดยเฉพาะ การทำนาปลูกข้าวหอมมะลิ
มีแม่น้ำสำคัญ คือ แม่น้ำชี ลำน้ำทวน ลำโพง และลำน้ำยัง









ยโสธรเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดอุบลราชธานี
โดยเริ่มก่อตั้งเป็นเมืองขึ้น ในราวปี พ.ศ. 2314
เมื่อพระเจ้าตาของเจ้าพระวอ เสนาบดีเก่านครเวียงจันทน์
อพยพครอบครัวและบริวาร มาตั้งเมืองใหม่ ชื่อ “เมืองหนองบัวลุมภู”
ต่อมาเมื่อสิ้นเจ้าพระวอเจ้าคำผงผู้น้องและบริวารจึงอพยพขึ้นมาตามลำน้ำมูลถึงห้วยแจระแม
แล้วมาสร้างเมืองใหม่ที่ดงอู่ผึ้ง แล้วมีหนังสือกราบบังคมทูลขอขึ้นอยู่ภายใต้ปกครอง
ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี
พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองดังกล่าวนี้ว่า "เมืองอุบล"
และเจ้าคำผงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าเมืองคนแรกของเมืองอุบล
หลังจากนั้นเจ้าฝ่ายหน้าผู้เป็น น้องของเจ้าคำผง พร้อมกับไพร่พลและญาติอีกส่วนหนึ่งได้ขอแยกตัวไปอยู่ที่บ้านสิงห์ท่า
ซึ่งมีเจ้าคำสูปกครองอยู่ และได้ปรับปรุงและสร้างบ้านสิงห์ท่าจนเจริญรุ่งเรือง

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2357 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
ได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านสิงห์ท่าขึ้นเป็นเมืองขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ
และพระราชทานนามว่า"เมืองยศสุนทร" ให้เจ้าราชวงศ์สิงห์เป็นเจ้าครองเมือง
มีราชทินนามว่า "พระสุนทรราชวงศา" เป็นเจ้าเมืองคนแรกของเมืองยโสธร
ส่วนชื่อเมือง "ยศสุนทร" นี้ต่อมาเปลี่ยนเป็น "ยะโสธร" มีความหมายว่า "ทรงไว้ซึ่งยศ"
และเปลี่ยนอีกครั้งเป็น "ยโสธร" และใช้มาจนปัจจุบัน

ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองยโสธรถูกรวมเข้าอยู่ในหัวเมืองฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือ
แต่อมาได้ยุบเลิกมณฑล อีสาน เมืองยโสธรก็ถูกรวมเข้ากับเมืองอุบล
จนกระทั่งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 จึงได้มีประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 70 ตั้งอำเภอยโสธรขึ้นเป็น “จังหวัดยโสธร”









อุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน หรือ มหายุทธแดนอีสาน
ตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำทวนฝั่งขวา ถนนมงคลบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งของจังหวัดยโสธร
เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทยด้านวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
เชื่อมโยงกับงานประเพณีบุญบั้งไฟประเพณีที่สำคัญของจังหวัดยโสธร
ซึ่งเป็นประเพณีขอฝนให้ตกตามฤดูกาลเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
ส่งผลดีต่อเกษตรกรมีน้ำเพื่อทำการเกษตรกรรมอย่างพอเพียง





































พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก หรือ พิพิธภัณฑ์คางคก
เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่โดดเด่นแปลกตาของจังหวัดยโสธร
ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำลำทวน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
บริเวณสวนสาธารณะพญาแถน
ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สอดแทรกตำนานเรื่องเล่าพื้นเมืองของชาวอีสาน
เกี่ยวกับตำนานพญาคางคกและประเพณีบุญบั้งไฟอันโด่งดัง
ตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นรูปคางคกขนาดยักษ์เป็นอาคารสูง 5 ชั้น
หรือประมาณ 19 เมตร
มีพื้นที่ประมาณ 835 ตารางเมตร
และนิทรรศการภายในจะบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟ
โดยจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่างๆ ที่พบได้ในเมืองไทยที่มีอยู่กว่า 20 ชนิด
มีการรวบรวมของดีทางด้านเกษตรกรรม ของเมืองยโสธรไว้ภายในพิพิธภัณฑ์

















พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก เป็นตึกของพิพิธภัณฑ์รูปคางคก
ที่มีความสูงกว่า 19 เมตร หรือประมาณตึก 5 ชั้น
โดยคางคกเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
และยังเป็นตำนานความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาตั้งแต่ในอดีตกาล
และเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดยโสธรอีกด้วย
โดยภายในพิพิธภัณฑ์พญาคันคากจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับคางคกกว่า 500 สายพันธุ์ทั่วโลก
รวมไปถึงกบ อึ่ง เขียด ในประเทศไทยอีกด้วย
และมีการจัดฉายตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟในรูปแบบภาพยนตร์ 4 มิติ
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาศึกษาประเพณีและเรียนรู้วิทยาศาสตร์ไปพร้อมกันเลย
และที่นี่ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโครงการเขาเล่าว่าของททท.อีกด้วย
ที่สำคัญที่ชั้นบนสุด ณ บริเวณปากพญาคันคากยังเป็นจุดชมวิว
ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของจังหวัดยโสธร

ตำนานของพญาคันคากนั้นเล่าขานกันมาว่าพญาคางคกนั้นเป็นพระโพธิสัตว์
เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์
และสาเหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก” ก็เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติ
มีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคก หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก
และถึงแม้พระองค์จะมีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ
จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านชาวเมือง
จนลืมที่จะเซ่นบูชาพระยาแถน พระยาแถนจึงโกรธ
ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์
จึงทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนขึ้น
โดยพญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ
พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุกปี
และเป็นที่มาว่าเมื่อถึงเดือนหกช่วงต้นเดือนฤดูฝนนั่น
ชาวอีสานเลยทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถนเพื่อฝนจะได้ตกตามฤดูกาล





นอกจากนี้ข้างพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
มีประติมากรรมขบวนแห่บั้งไฟอันอ่อนช้อยและงดงาม
สวนสาธารณะพญาแถนที่บรรยากาศชิลชิล
อีกทั้งจำลองพญานาคขนาดใหญ่เป็นพิพิธภัณฑ์
ภายในมีภาพถ่ายสามมิติให้นักท่องเที่ยวมาแชะชิล





















ตำนานพญาคันคาก พญานาค พญาแถน เป็นตำนานความเชื่อของชาวอีสาน
และยังมีตำนาน “ผาแดงนางไอ่” ชาวอีสานจะ ทำบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน
ถึงปลายเดือนห้าย่างเดือนหก
ชาวบ้านก็จะแสดงออกถึงความสามัคคี ร่วมกันทำบั้งไฟจุดขึ้นไปเพื่อแจ้งพญาแถน
เพื่อให้บันดาลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล เพื่อชาวโลกมนุษย์จะใช้น้ำฝนทำนา
ตำนานเล่าสืบทอดกันมา
พญาคางคก พญานาค รวมไพร่พลยกทัพขึ้นไปรบชนะพญาแถน
และได้ทำสัญญาสงบศึก
หากถึงฤดูกาลทำนามนุษย์จะส่งสัญญาน แจ้งพญาแถนด้วยการจุดบั้งไฟขึ้นท้องฟ้า
และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโลกมนุษย์ก็จะใช้เสียงสนูจากว่าวแจ้งให้พญาแถนทราบ
ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้าน





สำหรับการมาเยี่ยมชมภายในอาคารพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
และการมาเยี่ยมชมอาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค
จะเปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันจันทร์
(ปิดวันอังคาร ยกเว้นตรงกับวันหยุดราชการ)









ทุกคนมีความสุขและอิ่มเอมใจกลับพิพิธภัณฑ์คันคามากค่ะ



จากนั้นมากินข้าวเที่ยงโดย ททท.สำนักงานอุบลราชธานี แนะนำร้าน "ครัวบ้านคุณย่า" สาขาริมทวน
ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์คันคากเลยค่ะ



ร้านอาหารบ้านคุณย่า สาขาริมทวน
จังหวัดยโสธร
เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่มีห้องแอร์นั่ง ตั้งอยู่ใกล้วิมานพญาแถน พิพิธภัณฑ์คันคาก
มีมุมถ่ายรูปชิลชิลช้อปแชะ
เป็นร้านที่เหมาะมากกับการมาเที่ยวชมพญาคันคาก
อาหารออกเร็วบริการดี อาหารอร่อยทุกอย่างค่ะ
โทร. 045 711 981 เปิดเวลา 09.00 - 22.00 น.





















กินอิ่ม enjoy eathing มากค่ะ ขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชบุรี



ขอขอบคุณ

นายธงชัย แสนทวีสุข
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี

นางรัตดาวรรณ์ แสนโยธะกะ
รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี

นางสาวปาณิษา ตันติวงวาร
บริษัท ทัวร์อินไทยแลนด์ จำกัด



เพลง : ยโส
กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat
โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย
ของแต่ง BLOG ทุกอย่างมาจาก : คุณป้าเก๋า ชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า




Create Date : 09 มีนาคม 2566
Last Update : 10 มีนาคม 2566 9:07:39 น. 20 comments
Counter : 1303 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณทนายอ้วน, คุณkae+aoe, คุณปรศุราม, คุณnonnoiGiwGiw, คุณปัญญา Dh, คุณThe Kop Civil, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณเริงฤดีนะ, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณนกสีเทา, คุณNoppamas Bee, คุณStand by bowky, คุณเจ้าการะเกด, คุณกระถินริมเล, คุณSertPhoto, คุณทูน่าค่ะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtoor36


 
ตามไปยืนดูห่างๆคราบ กลัวพญาคันคากมากกกก ฮ่าๆๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:7:57:19 น.  

 
ดีเลยค่ะ นักท่องเที่ยว VIP


โดย: kae+aoe วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:8:25:15 น.  

 
ตามมาเที่ยวยโสธรด้วยคนครับพี่
ผมมีโอกาสไปที่นี่เมื่้อปีที่แล้ว ไปวิ่งอยู่รอบบึงนะครับ ไม่ได้เข้าข้างในครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:10:53:31 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ พี่อุ้ม

หนองบัวลำภูมาก่อน ตามด้วยอุบล และ ยโสธร
ได้ความรู้เพิ่มเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะพี่


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:11:32:29 น.  

 
ชอบๆ ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะคุณอุ้ม

เกิดมายังไม่เคยไปเลยค่ะอีกหลายจังหวัดใน ปตท


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:12:19:38 น.  

 
อเมซิ่งพญาคันคาก
เป็นแลนด์มาร์คเห็นแต่ไกลเลยนะคะ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:13:15:07 น.  

 
สาวๆหลายคน
คงไม่กล้าไปยืนถ่ายรูปกับรูปปั้น
เพราะกลัวคางคกครับพี่อุ้ม 555





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:14:37:28 น.  

 
ตามเที่ยวด้วยครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:22:53:12 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยครับ


โดย: JohnV วันที่: 9 มีนาคม 2566 เวลา:23:18:02 น.  

 

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:2:53:05 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่อุ้ม



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:4:37:42 น.  

 
Happy Friday.


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:6:56:37 น.  

 
พี่อุ้มมีมุมมองที่สวย
อเมซิ่งค่ะ


โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:7:48:25 น.  

 
อร๊ายยย นำคางคก
มาเป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัด
น่ารัก


โดย: นกสีเทา วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:7:50:28 น.  

 
ผมเคยไปครับ
แต่ไม่ได้ขึ้นไปข้างบน
เพราะตอนนั้นยังไม่เปิดครับ


โดย: SertPhoto วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:8:00:51 น.  

 
ตามคุณอุ้มไปเที่ยวค่ะ ^_^


โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:10:47:34 น.  

 
ขอบคุณครับพี่อุ้ม



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:12:05:36 น.  

 
อยากกินขาหมู+แตงโม 555

ส่วนคางคาก(ภาคเหนือ) ไม่อยากจับ
ผิวไม่อ่อนนุ่มนี่นา


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:16:30:07 น.  

 
สวัสดีครับคุณอุ้ม
.
ขอบคุณที่ไปเจิมบล็อกครับ
.
ผมยังไม่เคยไปเที่ยวยโสเลย
ขอตามส่องบล็อกคุณอุ้มไปก่อนแล้วกันครับ ^^


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:20:55:22 น.  

 
เคยเห็นเพื่อนบล็อกคนอื่นพามาที่นี่เหมือนกัน ดูมีเอกลักษณ์ดีนะครับสำหรับที่นี่ คนเล่นมุกกะคางคกกันสนุกเลย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 มีนาคม 2566 เวลา:23:21:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อุ้มสี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 118 คน [?]






ผล BlogGang Popular Award #16
จากวันที่ 1 ม.ค. 63 - 31 ธ.ค. 63
ขอบคุณนะคะที่โหวตให้อุ้มสี


ผล BlogGang Popular Award #15
จากวันที่ 1 ม.ค. 62 - 31 ธ.ค. 62
ขอบคุณนะคะที่โหวตให้อุ้มสี



ขอบคุณหัวใจ 266 ดวง
ที่แปะให้อุ้มตลอดเดือน ก.พ.60





ขอบคุณผลโหวต
BlogGang Popular Award # 12
ปี พ.ศ.2560


ขอบคุณหัวใจ 499 ดวง
ที่แปะให้อุ้มตลอดเดือน ก.พ.59


ขอบคุณผลโหวต
BlogGang Popular Award # 11
5 มีนาคม 2559



กิจกรรมในเดือนแห่งความรัก
ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2558
กราบขอบพระคุณทุกท่าน
แปะหัวใจให้ถึง 351 ดวง


ปี พ.ศ. 2558
BlogGang Popular Award # 10


ขอบคุณทุกคะแนนโหวตค่ะ
ซาบซึ้ง อบอุ่น ตื้นตัน



กิจกรรมในเดือนแห่งความรัก
ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2557
กราบขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

คลิกที่นี่:: Interview .. the Blogger :: ~ อุ้มสี ~



ปี พ.ศ.2557
BlogGang Popular Award # 9
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตค่ะ
ซาบซึ้ง อบอุ่น ตื้นตัน




ปี พ.ศ.2556
BlogGang Popular Award # 8
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตค่ะ
ซาบซึ้ง อบอุ่น ตื้นตัน




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 มีนาคม 2566
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add อุ้มสี's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.