เก็บความทรงจำ..(^_^)..ความสนใจ โลกส่วนตัว ที่เราสร้างเอง
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2555
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 1-3

เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 1 (ต่อ)

เทพอยู่ที่ไร่อ้อยอาณาเขตกว้างใหญ่ และยืนหันหลังให้พวกล้วนที่กำลังแจกเงินกันอยู่

       “รางวัลสำหรับพวกแก”
       ล้วนยื่นเงินให้นิคกับเรือง สองคนรับเงินมาด้วยความพอใจ
       “เอ่อ...นายครับ”
       นิคจะคุยกับเทพ แต่ล้วนรีบบอก
       “กลับไปได้แล้ว!”
       นิคไม่สนใจคำเตือนของล้วน แทรกตัวเดินเข้ามาใกล้เทพ
       “ผมช่วยทำงานให้นายสำเร็จ...”
       เรืองเข้ามาพูดอีกคน
       “พวกผมขอกลับไปทำงานที่โรงงานนะครับ”
       เทพหันมายิ้มให้นิคและเรืองแล้วควักปืนออกมายิงทั้งสองทันที นิคและเรืองล้มลง นิคยังไม่ตาย เทพเดินเข้ามาเหยียบหน้าอกแล้วเล็งปืน นิคร้องขอชีวิต
       “นาย...อย่าฆ่าผม”
       เทพลดปืนเดินมาส่งปืนให้ล้วน นิคคลายกังวลรอดตาย
       “ฉันไม่ชอบการต่อรอง”
       เทพยิ้มแล้วเดินออกไป เสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องอีกสองสามนัด นกบินหนีออกจากไร่อ้อยสู่ท้องฟ้า...

       ทิวถือแก้วกาแฟมาลงนั่งที่โต๊ะที่พักคนงาน ด้วยอาการเหม่อลอย เข้มเอาหนังสือพิมพ์มาวางให้ ทิวไม่สนใจ
       “นาย ไม่พูดไม่จากับใครมาหลายวันแล้วนะ”
       ทิวดื่มกาแฟเงียบๆ เข้มพูดเบาๆกับทิว
       “มีแต่คนสาธุนะนายที่เลิกกับนังขวัญตาซะได้...เขาเม้ากันทั้งบางว่ามันมักใหญ่ใฝ่สูง คบกับนายแล้วไม่ถึงไหนสักที แต่เจอเสน่ห์นายใหญ่ ที่ถึงไหนถึงกัน มันก็เลย...”
       ทิวตัดบท นิ่งๆ
       “ถ้าแกพูดถึงผู้หญิงคนนี้อีก...ฉันจะยิงแกทิ้งหมกไร่อ้อย”
       เข้มกลัว รีบกางหนังสือพิมพ์ออกอ่าน ทิวเห็นข่าวหน้าหนึ่งพร้อมภาพของมานศรีโสภาคย์ มีข้อความว่า” งานหมั้นเป็นหมัน” ทิวจำหญิงสาวได้ กระชากหนังสือพิมพ์จากมือเข้มมาอ่านต่อทันที
       “ว่าที่แม่เจ้าบ่าวไม่ปลื้ม หลังรู้ว่าตระกูลผู้ดีเก่ามรดกหมดคลังยกเลิกหมั้นทันที”
       เข้มแปลกใจที่ทิวสนใจข่าวนี้ ทิวมองดูภาพมานศรีโสภาคย์กับเสกสรรค์ นึกแปลกใจคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่เขา ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมา เจอมานศรีโสภาคย์กอดกับเสกสรรกลางถนน เขาแปลกใจมาก เข้มมองทิวอย่างสงสัย
       “นายสนใจข่าวไฮโซกับเขาด้วยเหรอ ว่าไปไอ้ผู้ชายคนนี้มันโง่นะ ทิ้งนางฟ้าไปได้”
       “จ้างเขียนข่าวสร้างกระแส ยกเลิกหมั้นได้ไงก็ยังรักกันดี”
       เข้มสงสัย ”นายรู้จักไฮโซสองคนนี้ด้วยเหรอ”
       “ไม่รู้จัก และไม่อยากรู้จัก และไม่อยากเจอด้วย”
       เข้มมองทิวจริงจัง
       “นายจะเอาผู้ชายแทน เข้มไม่ใช่ อย่าบอกนะ พออกหักแล้วเข็ดผู้หญิง หันมาสนใจ...”
       ทิวถีบ เข้มหงายหลังตึง
       “โอ๊ย...ทำเข้มทำไม!”
       “พิสูจน์ว่าฉันไม่ได้หันมาพิศวาสแก”
       “ก็แปลกใจที่นายไม่สนใจคุณหญิงมานศรี ผู้ชายทั้งประเทศอยากตีตราจองหัวใจเธอ ทั้งสวย การศึกษาดีมีตระกูล สมบูรณ์แบบทุกอย่าง”
       “สวยแต่รูปจูบไม่หอม”
       “นายเคยจูบเธอแล้วเหรอ แน่ะ...ปากบอกไม่ชอบแต่แอบเอาไปฝัน อย่าบอกนะว่านายแอบรัก...หลงรูป...”
       เข้มจะพูดต่อแต่ทิวกำหมัดขึ้นมา เข้มรีบวิ่งหนีทันที
       ทิวหันกลับมาที่โต๊ะ มองไปเห็นภาพมานศรีโสภาคย์ เขารีบหยิบหนังสือพิมพ์คว่ำปิด ไม่อยากเห็นหน้าหญิงสาวคนนั้น ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม

       ในห้องอาหารของวังกฤตยา...มานศรีโสภาคย์ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ทุกคนนั่งทานอาหารกันอยู่ สรัสวดีตักสลัดผักให้อมรเทพ
       “สลัดผักสดค่ะ ของชอบของท่านชาย”
       อมรเทพรวบช้อน
       “ไม่ล่ะ ฉันอิ่มแล้ว...”
       สรัสวดีมองหน้าอมรเทพ รู้สึกเสียหน้า แต่ก็รักษามารยาท ยิ้มไว้ คำรณฤทธีเดินเข้ามา ยื่นตั๋วเครื่องบินให้อมรเทพ
       “ท่านพ่อครับ ชายจัดการเรื่องตั๋วเรียบร้อยแล้วครับ”
       สรัสวดีแปลกใจ
       “ท่านชายจะเดินทางไปไหนคะ”
       อมรเทพหันไปบอกมานศรีโสภาคย์
       “พ่อจะเดินทางไปอังกฤษ ไปคุยกับเพื่อนสนิทของพ่อ เขาอาจจะช่วยกู้วิกฤตเรื่องโรงงานได้”
       “ท่านพ่อเดินทางเมื่อไหร่คะ”
       “อาทิตย์หน้าจ้ะ”
       สรัสวดีรีบบอก
       “ท่านชายเลื่อนไปก่อนได้ไหมคะ อาทิตย์หน้าเราจะจัดงานวันเกิดลูกหญิง”
       มานศรีโสภาคย์ขัดขึ้น
       “หญิงว่าปีนี้เรายกเลิกการจัดงานเถอะค่ะ หญิงไม่อยากจัดงานให้สิ้นเปลือง”
       คำรณฤทธีเห็นด้วยกับน้อง
       “ชายเห็นด้วยกับน้องหญิงครับ ในภาวะแบบนี้เราไม่ควรใช้เงินฟุ่มเฟือย”
       สรัสวดีไม่ยอม
       “ไม่ได้จ้ะ แม่ให้ข่าวไปแล้ว...และที่สำคัญ แม่แจกการ์ดไปแล้วด้วย”
       มานศรีโสภาคย์ชะงัก
       “แต่วังของเรากำลังมีข่าวไม่ดีนะคะ”
       “เพราะเหตุนี้ไง แม่ถึงต้องการจัดงานเพื่อกลบข่าวเสียๆหายๆ ท่านชายมีความคิดเห็นยังไงคะ”
       “ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้ว ฉันคงทำอะไรไม่ได้ ฉันจะไปเคลียร์งานที่โรงงานล่ะ”
       “ผมไปช่วยงานท่านพ่อครับ”
       อมรเทพและคำรณฤทธีเดินออกไปด้วยกัน สรัสวดีไม่พอใจนักที่อมรเทพปั้นปึงกับเธอหันมาบอกมานศรีโสภาคย์
       “ลูกหญิง...เดี๋ยวช่วยแม่ดูว่ามีรายชื่อแขกคนไหนตกหล่นนะจ้ะ”
       “ค่ะ...หม่อมแม่”
       สรัสวดียิ้มพอใจที่ลูกสาวยอมทำตามใจเธอ...

       ที่ห้องรับแขกคฤหาสน์ของเทพ…นพดลซึ่งเป็นสามีของอรอนงค์พี่สาวของเขา ส่งการ์ดเชิญงานวันเกิดของมานศรีโสภาคย์ให้
       “อะไรครับพี่นพดล” เทพมองการ์ดอย่างสงสัย
       “การ์ดเชิญงานวันเกิดของหม่อมราชวงศ์มานศรีโสภาคย์”
       “ธิดาแห่งวังกฤตยา”
       นภดลแปลกใจ
       “รู้จักด้วยเหรอ”
       “ผู้ชายคนไหนจะไม่รู้จักเจ้าหญิงผู้สง่างามราวกับหงส์ มีข่าวลงสื่อแทบทุกวัน”
       เทพมองการ์ดเชิญ พลิกเปิดดูด้านในมีภาพมานศรีโสภาคย์เต็มหน้า
       “การ์ดเชิญทำยังกับ...”
       “เปิดตัวลูกสาว...ก็อย่างว่าล่ะ เพิ่งถูกยกเลิกหมั้นคงใช้งานนี้หาคู่”
       เทพคิดๆแล้วเริ่มสนใจขึ้นมาทันที อรอนงค์ถือจานใส่ขนมมาวางไว้ให้ทั้งสอง
       “พี่เขยกับน้องชายนินทาผู้หญิงสนุกปาก ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย เทพมาทานวุ้นใบเตยสิ...พี่ทำมาฝาก”
       เทพมองภาพหญิงสาวด้วยความสนใจ นภดลเห็นว่าเทพสนใจมานศรีโสภาคย์ก็รีบบอก
       “สนใจแต่ตัวนะ...แต่อย่าหวังมรดก เพราะตระกูลนี้กลายเป็นลูกหนี้ของพี่แล้ว”
       เทพแปลกใจอยากรู้รายละเอียด

       ในอดีตที่ผ่านมา...สรัสวดีมาหานพดลที่ห้องทำงานเพื่อจำนองวังกฤตยา นพดลเซ็นเช็คเสร็จจะยื่นให้ สรัสวดีจะรับแต่นพดลดึงกลับ
       “หม่อมคงรู้ดีว่าผมทำธุรกิจ ไม่ได้ทำการกุศล ตอนนี้ผมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ รับจำนองปากเปล่า ไม่มีสัญญา”
       “คุณนพดลก็รู้ว่าฉันไม่อาจเอาโฉนดวังมาจำนองไว้ได้ ท่านชายรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด”
       “ผมทราบดีครับ...ผมเห็นว่าหม่อมสรัสวดีเป็นเพื่อนสนิทพี่สาวผม” นพดลมองไปทางรัชนีกร “ผมไว้ใจครับ”
       นพดลยื่นเช็คให้...สรัสวดีรับมาด้วยความดีใจ
       “ฉันสัญญาค่ะ ภายในหนึ่งเดือนจะรีบหาเงินมาใช้คืนแล้วคุณนพดล คิดดอกเบี้ยยังไงคะ”
       “ผมไม่ซ้ำเติมคนตกยากหรอกครับ เรื่องนั้นค่อยว่ากัน”
       “เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วว่ามหาเศรษฐีน้องชายฉัน คุยง่าย” รัชนีกรบอกอย่างยินดี
       สรัสวดียิ้มดีใจที่ได้เงินไปใช้หนี้พนัน...นพดลยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผนจะคิดดอกเบี้ยเต็มที่

       เทพฟังเรื่องราว แล้วย้อนถามนภดลอย่างสนใจ
       “พี่ให้กู้ตั้งห้าสิบล้าน ไม่ได้ทำสัญญา ไม่กลัวโดนเบี้ยวเหรอครับ”
       “คนระดับนี้ไม่กล้าเบี้ยวหรอก...เกียรติยศค้ำคอ เป็นข่าวเสียหายทีแทบกระอักเลือด เทพรู้ไหมคนจำพวกนี้กลัวอะไร”
       “กลัวไม่มีกิน”
       “ไม่ใช่...แต่กลัวไม่มีเกียรติ”
       เทพหันไปบอกอรอนงค์ทันที
       “ผมไปงานนี้ด้วย”
       อรอนงค์แปลกใจ
       “ร้อยวันพันปีพี่ไม่เคยเห็นเทพอยากออกงานสังคม เทพคิดอะไร”
       “มนุษย์เราอยู่ได้กับสามอย่าง กิน กามและเกียรติ ตอนนี้ผมมีหนึ่งกับสองเหลือเฟือ...แต่ยังขาดสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุด”
       เทพมองภาพของมานศรีโสภาคย์ อรอนงค์ตกใจดึงภาพกลับคืนมา
       “แต่เทพมีภรรยาแล้ว...ตอนนี้ก็นับได้สามคน เทพยังต้องการอะไรอีก”
       เทพหัวเราะ
       “ผู้หญิงพวกนั้นเป็นได้แค่นางบำเรอ คนที่จะเป็นภรรยาของผม ต้องเกื้อหนุนและค้ำชู การเป็นเขยแห่งวังกฤตยา จะทำให้ผมเดินไปก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม”
       นพดลชื่นชมเทพ
       “เรานี่มันมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มิน่าล่ะ...จากหุ้นเล็กๆในโรงงาน เพียงไม่กี่ปีขยับมาเป็นหุ้นเบอร์หนึ่ง”
       อรอนงค์ถอนใจ
       “ถ้าได้มาด้วยความสามารถก็คงดี ไม่ใช่ได้มาเพราะ...”
       เทพหันมามองอรอนงค์ ทั้งสองต่างรู้ความลับที่เทพได้กิจการมา โดยที่นพดลไม่รู้เรื่องนี้...อรอนงค์บอกนพดล
       “รอฉันสักครู่นะ ฉันจะแวะไปหาทิว”
       อรอนงค์ลุกออกไป โดยหยิบการ์ดเชิญงานวันเกิดติดไปด้วย...เทพสังเกตเห็นไม่พอใจนัก

       ในห้องรับแขกวังกฤตยา มานศรีโสภาคย์ มองรายชื่อแขกที่สรัสวดีจดไว้มากมายก็แปลกใจ
       “เราจำเป็นต้องเชิญแขกมามากมายขนาดนี้ด้วยเหรอคะ”
       “แม่บอกแล้วไงจ้ะ ว่าเราต้องการแขกวีไอพีมาช่วยกลบข่าว”
       มานศรีโสภาคย์ สวนขึ้น
       “ไม่ได้มาให้หญิงเลือกคู่”
       “อย่ามองแม่ในแง่ร้ายสิจ้ะ แม่ไม่เคยคิดขายลูกสาวกิน...แม่แค่ต้องการให้ทุกคนเห็นว่าลูกหญิงของแม่ดีที่สุด...คุณหญิงพันทิพาคิดผิดที่ยกเลิกงานหมั้น”
       สรัสวดียังคงเจ็บใจที่ถูกพันทิพาถอดหมั้น มานศรีโสภาคย์ หยั่งเชิง
       “แล้วถ้าเสกสรรค์มาสู่ขอหญิงอีกครั้ง หม่อมแม่จะว่ายังไงคะ”
       “แม่รู้ว่าลูกทั้งสองรักกันและคุณเสกดีพอสำหรับหญิง แต่แม่คงต้องคุยเรื่องสินสอดกับคุณหญิงพันทิพาอีกครั้ง ให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราต้องสูญเสียไป”
       มานศรีโสภาคย์ ค่อยคลายความกังวลที่สรัสวดียังเปิดรับเสกสรรค์...

       อรอนงค์กำลังจะเดินออกไปข้างนอก...เทพตามมา
       “พี่อรตั้งใจจะทำอะไร”
       อรอนงค์ชูการ์ดเชิญขึ้น
       “พี่จะชวนทิวไปงานคุณหญิง”
       เทพหัวเราะ
       “พี่อรเสียสติไปแล้วเหรอ มันไม่ใช่ญาติเรา พี่ควรส่งเสริมน้องชายของพี่ ไม่ใช่มัน”
       “แล้วน้องชายของพี่ไปแย่งคนรักของทิวมาทำไม”
       “ผมไม่ได้แย่ง ผู้หญิงเต็มใจเอง”
       “แต่ก็ดีแล้วล่ะ ที่ทิวไม่ได้ลงเอยกับผู้หญิงแบบนั้น เพราะทิวเป็นคนดี”
       “ทำไมพี่ถึงดีกับมันนักหนา”
       “พี่จะทำดีกับทิวทุกอย่าง เพื่อลบล้างบาปที่เทพทำไว้กับเขา”
       เทพไม่พอใจเสียงแข็ง
       “พี่อร !”
       อรอนงค์หยุดพูดแล้วเดินออกไป แต่แล้วก็หยุดหันกลับมาบอกเทพ
       “อย่างน้อยเป็นการช่วยชำระบาปในใจพี่...เพราะพี่มีส่วนรับรู้บาปกรรมในครั้งนั้น”
       อรอนงค์เดินออกไป เทพไม่พอใจที่อรอนงค์คอยช่วยทิวและยังคงพูดเรื่องอดีตในการฆ่าพ่อของทิวอีก

       ทิวกำลังทำงานตรวจสอบกระบวนการผลิตอยู่ในโรงงาน โดยมีเข้มเป็นผู้ช่วย เข้มเห็นอนงค์ก็เดินห่างออกไป ทิวหันไปเจออรอนงค์ก็ยกมือไหว้
       “สวัสดีครับคุณอรอนงค์”
       “สวัสดีจ้ะ...เธอไปงานนี้กับฉันนะ”
       อรอนงค์ยื่นการ์ดเชิญงานวันเกิดให้ ทิวรับมาด้วยความแปลกใจ เปิดอ่านการ์ดเจอภาพมานศรีโสภาคย์ เข้มชะโงกหน้ามาดูภาพก็ตื่นเต้นดีใจ
       “งานวันเกิดคุณหญิงมานศรีโสภาค”
       ทิวส่งคืนให้อรอนงค์
       “ผมไม่ว่างครับ ขอบคุณนะครับ”
       ทิวรีบเดินหนีไป เข้มบอกกับอรอนงค์
       “นายไม่ว่าง แต่เข้มว่างครับ”
       อรอนงค์หันกลับไปมองทิว

       ทิวเดินตรวจงานมามุมหนึ่งของโงงาน อรอนงค์เดินเข้ามาคุย ทิวไม่สนใจทำงานต่อไป
       “ฉันอยากให้เธอเปิดหูเปิดตาบ้าง แล้วก็หาคนมาช่วยทำงานด้วย”
       “ผมมีเข้ม มีคนงานช่วยอยู่แล้วครับ”
       “คนพวกนี้ช่วยเรื่องงาน แต่เธอต้องการเพื่อนคู่ใจ...ถึงเวลาที่เธอต้องเดินไปข้างหน้า...ฉันเสียใจเรื่องขวัญตาด้วยนะทิว มันไม่น่าเกิดขึ้น...”
       ทิวตัดบท
       “ผมอยู่คนเดียวได้ครับ โดยไม่จำเป็นต้องมีใครมาดูแล”
       “ทิว...อย่าปิดโอกาสตัวเองสิ”
       “ผมไม่พร้อมครับ อีกอย่างผมก็เป็นเพียงหนุ่มไร่อ้อยไม่เหมาะที่จะก้าวเท้าเข้าสู่วังผู้ดีหรอกครับ”
       ทิวยืนยัน อรอนงค์เอาการ์ดยัดใส่มือ
       “แล้วเจอกันที่งาน”
       ทิวจะคืนการ์ดให้แต่อรอนงค์เดินหนีไป
       “คุณอรอนงค์ครับ...ผมไม่ไป”
       อรอนงค์ไม่สนใจ เดินออกไปจากโรงงาน

       ทิวกลับมาที่บ้านพักถอดเสื้อเชิร์ตออกแล้วโยนการ์ดเชิญลงที่โต๊ะอย่างไม่สนใจ เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำออกมาแล้วรินใส่แก้ว เดินกลับมาที่โต๊ะ แต่น้ำหก เขาก้มมองเห็นว่าน้ำหกใส่เอกสารรีบปัดน้ำ แล้วเห็นการ์ดเชิญ ทิววางแก้วน้ำแล้วหยิบการ์ดขึ้นมาเปิด มองภาพมานศรีโสภาคย์ เข้มเข้ามาพร้อมยื่นถุงใส่เสื้อผ้าให้
       “อะไร”
       “คุณอรอนงค์ฝากชุดสูทไปงานมาให้นาย”
       ทิวได้ฟังก็รู้สึกดี นึกขอบคุณอรอนงค์ที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอด เข้มชื่นชมอรอนงค์
       “คุณอรอนงค์นี่แสนดี ไม่ใช่ญาติแต่ดียิ่งกว่าญาติ”
       ทิวพยักหน้า
       “ใช่...ดีกว่าญาติที่คลานตามกันมาอีก”
       “ลูกพี่หมายถึงคุณผ่องทิพย์ใช่ไหม ยกเว้นคุณพวงทองนะ เพราะคุณพวงทองแสนดีพอๆกับคุณอรอนงค์”
       “อย่าเอาคุณอรอนงค์ไปเทียบกับพี่พวง ความดีของคุณอรยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ใจกว่า ความดีไม่ได้วัดกันที่สายเลือดหรือชาติกำเนิด แต่วัดกันที่ใจ”
       “เหมือนผมใช่ไหม เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า แต่ใจผมยิ่งใหญ่ดั่งเจ้าพระยา”
       เข้มหันไป ทิวลุกขึ้นเดินหนีเข้าห้อง
       “แล้วงานนี้นายจะไปไหม”
       ทิวไม่ตอบ เดินเข้าห้องนอนปิดประตู

       อาทิตย์ต่อมา...ประตูห้องนอนของมานศรีโสภาคย์เปิดออก พิไลพรเดินเข้าไปถึงกับตกตะลึง
       “หญิงมานย์!”
       มานศรีโสภาคย์แต่งตัวในชุดสวย หวานน่ารัก เธอแปลกใจกับท่าทีของพิไลพร
       “หญิงแต่งตัวไม่เหมาะเหรอ”
       “เปล่า...ชุดสวย ดูหวานน่ารัก เหมือนเด็กน้อยเลย”
       “วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด หญิงอยากกลับมาเป็นเด็กน้อยอีกครั้งนึง”
       มานศรีโสภาคย์เดินออกไปจากห้อง พิไลพรแปลกใจ
       “หญิงมานย์จะไปไหน”
       มานศรีโสภาคย์หันกลับมาบอก
       “ไปขอพรจากท่านพ่อหม่อมแม่จ้ะ”
       หญิงสาวยิ้มแล้วออกไปจากห้องทันที

       อมรเทพกำลังนั่งเขียนพินัยกรรมขึ้นมาใหม่อยู่ที่โต๊ะทำงาน สรัสวดีเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะหน้าตาไม่พอใจนัก
       “ท่านชายทำอะไรคะ”
       “ฉันจะทำทุกวิถีทางในการปกป้องไม่ให้วังนี้ตกเป็นของคนอื่น”
       “ท่านชายหมายความว่ายังไง”
       “หากเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันจะมอบวังนี้ให้ชายคำรณและหญิงมานย์ ดูแลเพราะฉันเชื่อมั่นว่าลูกทั้งสองรักวังกฤตยามากกว่าเธอ”
       สรัสวดีกลัวจะเกิดปัญหา รีบห้าม
       “ดิฉันขอเถอะค่ะ การเขียนพินัยกรรมขึ้นก่อนการเดินทาง มันเป็นลางไม่ดี”
       “ถ้าเป็นในอดีตฉันคงคิดว่านี่เป็นการแสดงความรักและความห่วงใยที่เธอมีให้ฉัน แต่วันนี้ฉันรู้ทาสแท้ของเธอแล้วว่า เธอกลัวไม่ได้มรดก กลัวการจำนองวังของเธอจะมีปัญหาตามมา”
       สรัสวดีไม่พอใจจะโวยวายแต่มานศรีโสภาคย์เข้ามาในห้องเสียก่อน เธอเลยชะงักไป
       “อรุณสวัสดิ์ค่ะ หญิงมากวนรึเปล่าคะ”
       อมรเทพยิ้มให้ลูกสาว
       “เปล่าจ้ะ ลูกหญิงมีอะไรเหรอ”
       มานศรีโสภาคย์ยิ้มจะพูดขอพร แต่แล้วคำรณฤทธีเข้ามาในห้อง
       “รถพร้อมแล้ว...ต้องรีบเดินทางแล้วครับ”
       อมรเทพลังเล มองหน้ามานศรีโสภาคย์
       “เมื่อกี้ลูกหญิงมีอะไรจะคุยกับพ่อ”
       “ไม่เป็นไรค่ะ หญิงรู้ว่าการเดินทางครั้งนี้สำคัญกับครอบครัวของเรา หญิงรอได้ค่ะ”
       มานศรีโสภาคย์เข้าไปควงแขนอมรเทพเดินออกไป คำรณฤทธีเดินตามไป สรัสวดีหันไปมองที่โต๊ะทำงาน เห็นพินัยกรรมที่ท่านชายยังไม่ได้เขียนก็ยิ้มอย่างพอใจ
       มานศรีโสภาคย์ควงอมรเทพมาถึงบริเวณรถ พิไลพรและแม่แล่มขนกระเป๋าของอมรเทพขึ้นรถ แล้วยืนอยู่มุมหนึ่ง อมรเทพหันกลับมาบอกลูกสาว
       “พ่อไปก่อนนะ...แล้วพ่อจะนำข่าวดีจากอังกฤษ มาเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกหญิง”
       “หญิงเชื่อว่าท่านพ่อทำได้ หญิงจะรอฟังข่าวดีค่ะ”
       “มีความสุขมากๆนะลูก”
       มานศรีโสภาคย์เข้าไปกอดพ่อ อมรเทพหอมแก้มลูกสาวด้วยความรัก คำรณฤทธีเข้ามาบอก
       “ออกเดินทางได้แล้วครับ ผมไปส่งท่านพ่อที่สนามบินเอง”
       คำรณฤทธีเดินเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ อมรเทพมองสรัสวดีแล้วจะเดินขึ้นรถ สรัสวดีเข้าไปหา
       “ดิฉันพูดกับท่านชายวันนี้ เป็นความปรารถดีจากใจของดิฉัน เดินทางปลอดภัยนะคะ”
       สรัสวดียกมือไหว้ อมรเทพมองแล้วยิ้มให้สรัสวดีมีท่าทีที่ดีขึ้นทำให้สรัสวดียิ้มออกมาได้ อมรเทพเข้าไปนั่งในรถ คำรณฤทธีขับรถออกไป มานศรีโสภาคย์โบกมือลาพ่อ...สรัสวดีมองอมรเทพ รถค่อยๆเคลื่อนๆออกไป เธอยืนมองแล้วน้ำตาไหลออกมา มานศรีโสภาคย์หันมาเห็นก็แปลกใจ
       “หม่อมแม่ร้องไห้”
       “แม่คิดถึงวันที่ครอบครัวเรา จะกลับมามีความสุขด้วยกันอีกครั้ง”
       “วันนี้เป็นวันเกิดของหญิง สิ่งดีๆจะต้องบังเกิดอย่างแน่นอนค่ะ”
       มานศรีโสภาคย์เข้าโอบกอดแม่ไว้
       “อย่ามัวออดอ้อนอยู่เลย...อีกไม่กี่ชั่วโมงจะเริ่มงานแล้ว รีบไปเตรียมตัวได้แล้วจ้ะ”
       “ค่ะ”
       สรัสวดีโอบกอดลูกสาวกลับเข้าไปในวังที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม

       ประตูวังเปิดออก…ทิวขับรถเข้ามาในวัง เขามองไปยังบริเวณวังเห็นความยิ่งใหญ่อลังการแสงไฟประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ทิวมองไปยังวงเวียนน้ำพุ มองหงส์สีขาวเด่นเป็นสง่า ทิวขับรถเข้าไปจอดบริเวณงานลงจากรถ แล้วเดินมาเปิดประตูให้อรอนงค์ เทพและนพดลลงตามมา
       “ทิว...คืนนี้ฉันขอควงเธอออกงานนะ”
       ทิวยิ้มรับแต่เก้อเขิน ไม่กล้าปฎิเสธ เทพเข้ามาคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง
       “ไม่ดีมั่งครับ...เดี๋ยวคุณหญิงเข้าใจผิดคิดว่าทิวมีคู่แล้ว เท่ากับตัดโอกาสการเลือกคู่ของทิวนะครับ”
       ทิวสบตาเทพอย่างชิงชัง อรอนงค์เห็นบรรยากาศไม่ดี รีบตัดบท
       “จริงสิ พี่ลืมไปเลย...งานนี้ทิวต้องเดินโชว์ความหล่อคนเดียวแล้วล่ะ”
       “ผมขอตัวเอารถไปจอด แล้วรออยู่ด้านนอกนะครับ”
       อรอนงค์ รีบห้าม
       “ไม่ได้นะทิว อุตส่าห์มาแล้ว ยังไงพี่ต้องเปิดตัวหุ้นส่วนทิวเทพมิตรให้ได้”
       นพดลไม่พอใจทิว
       “เล่นตัวยังไงก็ไม่ช่วยให้นายดูดีมีราคาขึ้นหรอก”
       อรอนงค์หันไปสบตาตำหนินพดล เทพตัดบท
       “เราเข้าไปด้านในกันเถอะครับ”
       นพดลควงอรอนงค์เข้าไปในงาน เทพหันมาคุยกับทิวอย่างเป็นมิตร
       “นายมาก็ดีแล้ว ฉันจะได้คุยกับนายเสียที เรื่องขวัญตา ถ้านายรักขวัญตาจริง...นายน่าจะอยากเห็นขวัญตามีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่เธอรักนะ”
       ทิวยิ้มเยาะ
       “คนที่เธอรักเหรอ”
       “ขวัญตาบอกฉันอย่างนั้น...ขวัญตาไม่เคยรักนาย ที่ยอมคบกับนายเพราะสงสาร”
       ทิวยิ่งเจ็บปวด ตัดบททันที
       “ก็เหมาะกันดีนี่ หญิงชั่วกับชายโฉด เชิญคุณเกลือกกลั้วกันเถอะ ต่อไปนี้ ชีวิตผมไม่เคยมีชื่อผู้หญิงคนนั้นอยู่ในความทรงจำ”
       “ทิว...ไม่เอาน่า ฉันรู้ว่ามันเจ็บปวด แต่โลกมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะนะ ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย แต่ฉันสัญญานะว่าจะดูแลขวัญตาอย่างดี”
       ทิวตัดบท “ขอตัวเอารถไปจอด”
       “นายเอารถไปจอด แล้วรีบกลับมา...ฉันจะรอเข้าไปพร้อมนาย”
       ทิวมองเทพแล้วเดินขึ้นรถขับไปจอด
       “ชายที่คู่ควรหงส์งามคือเทพบุตรอย่างฉัน ไม่ใช่แก...ไอ้ทิว!”

เทพมองทิวขับรถออกไป แล้วเดินเข้าไปในงานทันที โดยไม่รอทิว
//www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9550000057008&Page=4



Create Date : 25 พฤษภาคม 2555
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 9:00:30 น. 0 comments
Counter : 371 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

atitaya_t
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สวัสดีค่ะ ขอร่วม gang ด้วยคนค่ะ
Friends' blogs
[Add atitaya_t's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.