Lost in translation , เวลาที่หยุดเดินในชีวิตที่ชะงักงัน
|
....ในวันที่มีผู้คนมากมาย ในวันที่คนรอบข้างตัวเราล้วนวุ่นวาย ท่ามกลางคนเหล่านั้น เราไม่รู้ว่าตัวเราเองอยู่ตรงไหน ไม่รู้ว่าเราเองกำลังทำอะไร และไม่รู้ว่าเราจะเดินต่อไปในทิศทางใด มีคนใกล้ชิดมีคนรักแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองยังรู้สึกอ้างว้างไม่มีคนเข้าใจ รู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังติดอยู่ในร่องหลืบของกาลเวลา ติดชะงักอยู่ในห้วงเวลาหนึ่งกับมิติหนึ่งที่อยู่นิ่งและเดียวดาย
Bob...ในวัย 60 ปีกับช่วงภาวะ midlife crisis เขาไม่ได้บอกออกมาด้วยคำพูดว่าเขาเศร้าหรือทุกข์ใจ แต่ภาพที่ออกมาคงไม่ยากที่จะรับรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรในปัจจุบัน ความมีชื่อเสียงไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเขาแม้แต่น้อย ความซ้ำซากสับสนไร้ทิศทางรอบกายภายนอกในญี่ปุ่นดูแปลกแยกกับตัวเขา ลึกๆแล้วมันก็อาจไม่ต่างจากภายในตัวตนเขาสักเท่าไหร่
Charlotte....ในวัย 20 ปี กับช่วงเวลาที่เธอรู้สึกว่าตัวเองติดอยู่ไม่ได้ไปไหน ดังที่เธอบอกไว้ว่าIm stuck ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร อยากเป็นอะไรและต้องการอะไร เธอไม่มีแม้แต่คนที่จะตั้งใจสนใจรับฟังความทุกข์ใจ เธออยู่กับความคิด ที่เธอเองก็คงไม่กล้าที่จะถามสามี ว่าชีวิตคู่ที่เป็นอยู่นี้ มันจะดีขึ้นกว่านี้ได้อีกหรือไม่
.....ทั้งคู่ไม่ได้มีคู่ชีวิตที่ย่ำแย่เลวร้าย ภรรยาของ Bob ยังคง fax ยังโทรศัพท์มาถามไถ่ ยังขอความเห็นช่วยตัดสินใจในการเลือกสีกระเบื้อง สามีของ Charlotte ยังคงเป็นห่วงเธอ กลัวจะเหงากลัวจะเบื่อพยายามหาเพื่อนหาสถานที่ท่องเที่ยวให้เธอฆ่าเวลา หรือทั้งคู่เป็นคนเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยพอกับความต้องการ ทั้งที่มีคู่ชีวิตที่มีน่าจะดีพร้อมอยู่แล้ว?
.เคยคิดบ้างไหมว่า เราอาจไม่ได้ต้องการใครที่ดีกับเราเสมอไปแต่อยากได้ใครสักคนที่เข้าใจรับฟังและสนใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่ ในช่วงเวลาที่เราสับสนหรือเหงา เราไม่ได้ต้องการคนที่ดีที่สุด แต่เราอยากได้คนที่เข้าใจเราและเดินร่วมทางกับเรา พาเราออกจากความสับสนนั้น
.....ไม่เพียงแค่ Charlotte หรอกที่ติดอยู่นิ่งกับเวลา Bobเองก็เช่นกัน ทั้งคู่ต่างก็ติดอยู่ในร่องหนึ่งของชีวิต และไม่รู้จะไปต่ออย่างไร ปล่อยตัวเองจมเจ่าอยู่กับที่เดิม ทั้งคู่ไม่ได้เคลื่อนไปตามเวลารอบตัว แต่เข็มนาฬิกาภายในตัวทั้งสองคนหยุดเดิน ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปแต่ไม่รู้ว่าจะไปต่ออย่างไร ทั้งคู่ไม่ได้หลงหรือสับสนจากการมาอยู่ในวัฒนธรรมภาษาที่แตกต่าง (Lost in translation) แต่ทั้งคู่หลงทางอยู่ในแผนที่ชีวิตตัวเอง (Lost in life)
......เมื่อ Charlotte ได้มาเจอกับ Bob บางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่รับรู้ได้ว่ามีอะไรที่ตรงกัน ไม่ใช่เป็นแค่ความรู้สึกตรงกันแต่ทั้งคู่สามารถที่จะเปิดเผยและแบ่งปันความรู้สึกให้แก่กันเป็นกำลังใจให้ต่อกัน ท่ามกลางความอลหม่านของสังคมความแปลกแยกทางวัฒนธรรม แค่นี้ก็เลวร้ายพออยู่แล้วกับชีวิตที่เป็นอยู่
การได้มาเจอกันและกันไม่เพียงแต่จะช่วยสลายความสับสนนี้แต่ยังเป็นการได้เจอเพื่อนที่จะเดินร่วมทางกันไปในความสับสนนั้น เหมือนได้เจอเข็มทิศที่ช่วยชี้เส้นทางให้แจ่มชัดขึ้น(การสนุกกับการท่องเที่ยวในเมือง , ช่วงเวลาร้องคาราโอเกะ ฯลฯ) แม้จะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งสั้นๆแต่ช่วงเวลานั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่ทำให้ทั้งคู่ต้องติดอยู่กับที่ และเป็นช่วงเวลาที่เข็มนาฬิกาในตัวของทั้งคู่จะเดินต่อไปหลังจากชะงักงันมานาน
......หลายครั้งที่ผมได้ยินได้เห็นคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วกลับมาถกเถียงกันว่า มันเหงาหรือไม่เหงา เหงาจริงหรือเหงาปลอม ผมเองคิดว่าความเหงาเป็นปัจเจก เราอาจเหงาไปกับความเหงาของหว่องกาไว เหงาไปกับ Last life in universe ฯลฯในขณะที่บางคนอาจไม่ได้เหงาไปเหมือนกับเราด้วยก็ได้
ผมหยิบเรื่องนี้กลับมาดูเป็นครั้งที่สอง จำความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ดูว่าความรู้สึกมันเอ่อล้นปริ่มๆมาตลอดเวลา แต่มันยังไม่รู้สึกอะไรมาก จนเมื่อฉากสุดท้ายที่เริ่มต้นจากแผ่นหลังของ Charlotte การกระซิบของ Bob, การกอดกันของทั้งคู่,จูบที่ปราศจากความขัดเขิน,รอยยิ้มที่เปิดเผยและมีความสุขมากที่สุดของBob, น้ำตาที่รินไหลของ Charlotte เป็นการทะลายความรู้สึกที่มันเอ่อล้น ให้พรั่งพรูออกมาพร้อมกับความรู้สึกของตัวละครที่อึดอัดมาตลอดก่อนหน้านี้ เมื่อดูจบครั้งแรกเดินออกจากโรง มันเป็นความรู้สึกอ้างว้างเศร้าแต่ไม่สลด อาจเป็นเพราะหนังยังมีความหวังให้กับตัวละคร อย่างน้อยทั้งคู่ก็ยังมีช่วงเวลาที่ออกมาจากจุดนั้นๆอย่างน้อยทั้งคู่ก็ยังมีไฟที่จะส่องให้กับทางชีวิต ที่ดูเหมือนจะมืดมน
ผมหยิบเรื่องนี้มาดูเป็นครั้งที่สอง ในวันที่รู้สึกเหงาขึ้นมา ในตอนแรกคิดว่ามันจะซ้ำเติมความเหงาตัวเองให้หนักขึ้น แต่กลับแปลกที่เป็นตรงข้าม เพราะผมรู้สึกเหมือนกับมีเพื่อนที่เข้าใจมานั่งอยู่ด้วยกัน ผมเคยอยากรู้ว่าทั้งสองคนพูดอะไรกันในตอนท้าย แต่ครั้งนี้ที่ดูจบผมกลับไม่ได้อยากรู้เหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นมันมีค่ามากกว่าคำพูดเป็นร้อยพัน
....Sofia Coppola ใช้ภาพเล่าเรื่องราวและสื่อสารความรู้สึกออกมามากกว่าจากบทและเนื้อหาคำพูด เป็นหนังที่จับต้องที่ความรู้สึกมากกว่าที่ความคิดและเนื้อหา ผมชอบประโยคที่สื่อตัวหนังเรื่องนี้ไว้ว่า Everyone wants to be found. และ Sometimes you have to go halfway around the world to come full circle การเลือกดนตรีและเพลงประกอบคือปัจจัยที่เสริมความรู้สึกให้กับภาพบนจอได้เป็นอย่างดี อาจจะเป็นเพราะผมชอบ AIR อยู่แล้ว Alone in Kyoto จึงเป็นแทร็คที่ผมชอบมากที่สุดคู่กับDeath in vegas
..สำหรับผมไม่ได้ใส่ใจให้ความสำคัญว่ามันเหงาจริงหรือเหงาปลอม มันเป็นความเสแสร้งของคนที่อยากแกล้งเหงาหรือไม่ใช่ แค่ผมสามารถที่จะแบ่งปันความรู้สึกที่มีให้กับหนังเรื่องนี้เหมือนได้มีเพื่อนหรือใครสักคนที่คิดคล้ายกัน หรือรู้สึกเหมือนๆกันอย่าง Charlotte กับ Bob ก็เพียงพอแล้ว ในช่วงเวลาที่รู้สึกอ้างว้างและหาทางออกบางอย่างให้กับชีวิตไม่เจอ บางครั้งชีวิตคนเราก็คงเหมือนประโยคที่ Charlotte อ่านเจอในหนังสือ Every soul has its path but sometimes that path is not clear
|
|
โดย: ปีกที่ไม่อาจจะโบยบิน (WhaT iT'S W๐l2tH ) วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:4:55:51 น. |
|
|
|
โดย: if u know IP: 58.9.142.32 วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:5:18:04 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:11:39:15 น. |
|
|
|
โดย: ~nawo~ วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:13:12:14 น. |
|
|
|
โดย: ซินเด๋อเหลอหลา IP: 203.172.75.66 วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:22:40:07 น. |
|
|
|
โดย: ASANO's lover IP: 80.9.242.189 วันที่: 1 พฤษภาคม 2548 เวลา:10:06:10 น. |
|
|
|
โดย: sunsun IP: 61.91.117.46 วันที่: 1 พฤษภาคม 2548 เวลา:12:33:48 น. |
|
|
|
โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 202.176.184.88 วันที่: 10 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:06:30 น. |
|
|
|
โดย: คากินั๊ง IP: 58.10.163.208 วันที่: 11 พฤษภาคม 2548 เวลา:17:41:33 น. |
|
|
|
โดย: ++peter++ IP: 61.91.105.22 วันที่: 17 พฤษภาคม 2548 เวลา:13:36:32 น. |
|
|
|
โดย: aorengja IP: 203.127.138.96 วันที่: 19 พฤษภาคม 2548 เวลา:20:12:14 น. |
|
|
|
โดย: rider IP: 203.209.104.202 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:36:12 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าฝนไม่เป็นใจ IP: 61.7.128.247 วันที่: 24 สิงหาคม 2548 เวลา:16:07:49 น. |
|
|
|
โดย: aey IP: 202.133.155.195 วันที่: 5 ตุลาคม 2548 เวลา:18:31:57 น. |
|
|
|
โดย: Androphobia (Androphobia ) วันที่: 23 ตุลาคม 2548 เวลา:15:06:18 น. |
|
|
|
โดย: คนสวย(ทำใจได้) IP: 203.151.140.120 วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:21:41:09 น. |
|
|
|
โดย: amfine IP: 203.151.140.121 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:46:29 น. |
|
|
|
โดย: ncm IP: 58.8.26.152 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2548 เวลา:2:42:02 น. |
|
|
|
โดย: charlotter วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:07:02 น. |
|
|
|
โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 203.144.196.34 วันที่: 21 ธันวาคม 2548 เวลา:15:57:25 น. |
|
|
|
โดย: aseptic วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:23:53:28 น. |
|
|
|
โดย: i-scream IP: 58.10.52.157 วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:21:23:11 น. |
|
|
|
โดย: เหงาเหมือนกัน IP: 203.118.80.92 วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:0:49:55 น. |
|
|
|
โดย: nam IP: 58.147.26.182 วันที่: 1 มีนาคม 2549 เวลา:20:33:25 น. |
|
|
|
โดย: pharmza IP: 61.19.188.83 วันที่: 25 มีนาคม 2549 เวลา:20:09:09 น. |
|
|
|
โดย: viavia IP: 193.206.79.31 วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:33:13 น. |
|
|
|
โดย: จิ้งจอกเก้าหาง IP: 210.246.64.7 วันที่: 16 กรกฎาคม 2549 เวลา:2:38:47 น. |
|
|
|
โดย: puimnida IP: 218.47.157.180 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:6:50:54 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:11:47:00 น. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:23:11:35 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
- The Illusionist , [มายา]กลนี้เพื่อเธอ
- Touch , หนังจากการ์ตูนอาดาจิที่ไม่มีความเป็นอาดาจิ
- A Scanner Darkly , แอนิเมชั่นไซไฟในโลกของคนติดยา
- Lost in love , เคยบ้างไหมที่หัวใจ"หลงทางรัก"
- Arang ควบ Cinderella , สองผีคลานเข่าจากเกาหลี
- Hard candy , อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจ"เด็ก"
- Miami Vice , สองแรงดึงดูดอันเย้ายวน "Michael Mann" + "กงลี่"
- Welcome to Dongmakgol , หมู่บ้านไร้กังวล กับ คนบ้าสงคราม
- DERAILED , มีชู้สักทีจะดีไหม
- One Missed Call 2 , ริงโทนสยองต้องห้าม
- Blood Rain , คินดะ-กิมจิ กับ คดีฆาตกรรมฝนเลือด
- Serenity , รสชาติของไซไฟอวกาศที่รอคอย
- Broken flowers , ดอกไม้ของวันวานจะผลิบานจากวันนี้
- Sympathy for Lady Vengeance , (แดจัง)กึมจาทวงแค้น
- H2 , มิตรภาพ ความฝัน ความรัก
- Cello , ผีเชลโล่
- Christmas in August , เธอคือภาพถ่ายสุดท้ายในใจฉัน คุณคือแสงสว่างสุดท้ายในใจผม
- Spirited Away , จิตวิญญาณที่สูญหาย
- A Bittersweet Life , หวานอมขมกลืน เคียดแค้นขมขื่น
- My Best Friend's Wedding , ร้ายเพราะรัก รักที่หลุดลอย
- Coach Carter , เป็นมากกว่า"โค้ช" เพราะเขาเป็น"ครู"
- Vera Drake , คุณป้าผู้อารีกับชีวิตที่ป้าเลือกเดิน
- Eternal Sunshine of the Spotless Mind , จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ
- The Twilight Samurai , นิ่งสงบสยบเคลื่อนไหวกับชาเขียวรสต้นตำรับ
- Red Eye , ตาแดงๆกับผีรถไฟ
- Team America ควบ The Pacifier , หนังเด็กสำหรับผู้ใหญ่และหนังผู้ใหญ่สำหรับเด็ก
- A world without thieves ควบ Yesterday once more , สองเรื่องนี้มีโจรชื่อ"หลิวเต๋อหัว"
- Facing Windows , หน้าต่างบานนั้นที่ฉันไม่เคยมอง
- White Noise , เสียงสยอง
- Doll Master , Toy Story เวอร์ชั่น"ผีดุ"
- Enduring love , ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงหลังบอลลูนที่หลุดลอย
- ซุ้มมือปืน , ดีแค่เปลือก
- Lost in translation , เวลาที่หยุดเดินในชีวิตที่ชะงักงัน
- The Clearing , อีกรูปแบบของหนังลักพาตัว
- The Manchurian Candidate , ทริลเลอร์การเมืองสุดระทึก
- Girl with a Pearl Earring , ชู้ทางใจในงานศิลป์
- Princess Mononoke , อนิเมชั่นปรัชญา + สุดยอดจินตนาการ
- 13 Going on 30 , ตัวตนของเรากับเวลาที่ไม่อาจย้อนกลับ
- The Machinist , ชีวิตแสนหลอนของว่าที่Batman
- PERFECT BLUE : อนิเมชั่นญี่ปุ่นสไตล์Hitchcock
- AVP และ ตุ๊กแกผี : 2หนังเสียดายตังค์
- Shaun of the dead : ซอมบี้ก็ตลกได้
- Anacondas : ครอบครัวงูยักษ์
- One missed call : ผีมือถือ
- The Stepford Wives : ยอดยาหยีศรีภรรยา
- Lover's Concerto , แด่เธอผู้จากไป
- Before Sunset , ความงดงามยามอาทิตย์ลาลับ
- LAppartement ต้นฉบับ WickerPark, ความเหมือนที่แตกต่าง
- R-point , SavingPrivateRyan เวอร์ชั่นสยองขวัญ
- Sympathy for mr. vengeance, จุดเริ่มต้นของความแค้นก่อนมาถึงOld Boy
- 24 Season 3 Part II ( มี Spoil ), อุตสาหรรมครอบครัวและทุกชีวิตต้องสูญเสีย
- 24 Season 3 Part I ( No Spoil ), อุตสาหรรมครอบครัวและทุกชีวิตต้องสูญเสีย
|
|
|
|
|
|
|
|
และหนังเรื่องนี้ให้มากกว่าความเหงาค่ะ