Miami Vice , สองแรงดึงดูดอันเย้ายวน "Michael Mann" + "กงลี่" ช่วงเวลาก่อนสิ้นปี ขอเคลียร์เรื่องที่เขียนค้างไว้ครึ่งๆกลางๆ ประเดิมด้วย Miami Vice ครับ ...แรงจูงใจสองสิ่งที่ดึงดูดผมให้ควักเงินซื้อตั๋วหนัง โดยไม่ต้องลังเลใจคือ Michael Mann และ กงลี่ Michael Mann ชื่อนี้เป็นหลักค้ำประกันที่ผมมั่นใจว่า ถ้าหนังไม่สนุกก็ต้องมีคุณภาพ ถ้าหนังทำได้อ่อนด้อยก็น่าจะเหนือกว่าหนังเรื่องอื่นๆที่เข้าฉายใกล้ๆกัน เพราะ ชื่อนี้คือ ชื่อที่สร้างผลงาน 3 เรื่องก่อนที่ผมได้ดูและชื่นชมในระดับเกรด A ไม่ว่าจะเป็น Heat / The Insider / Collateral หนังของเขาจะย่ำแย่อย่างไร อย่างน้อยมาตรฐานของเขาก็ยังไม่เคยตกต่ำชนิดรับไม่ได้ กงลี่ กงลี่ เธอคนนี้หายหน้าไปนาน ก่อนจะกลับมาให้ฮอลลีวูดได้เห็น ความร้อนของเธอใน เมมัวร์ ออฟ เกอิชา เสียดายที่เธอมาช้าไปนิดในช่วงวัยนี้ เธอ คือ หญิงสาวในวงการมายาที่มีดวงตาพร้อมสยบหนุ่มๆ ชนิดที่ ผมพร้อมจะเป็นกิ๊กคนที่ 7 ถ้าเธอยอม ...เพียงสองคนนี้ก็เพียงพอในการที่ผมจะเลือกดู Miami Vice งานที่ Michael Mann รีเมคซีรี่ส์ของตัวเองมาทำใหม่ เสียดายที่ผมยังหนุ่มเกินไปที่จะมีโอกาสได้ดูต้นฉบับที่เป็นซีรี่ส์ชื่อดังเมื่อ 20 ปีก่อน จึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ ที่รู้แน่ๆ Miami Vice ไม่ใช่ หนังฮีโร่คู่หูแบบ Bad boys ที่ตะลุยดงปืนฝ่าห่ากระสุนแล้วหมุนตัวยิงในฉากสโลโมว์ชั่น หนังของ Michael Mann ย่อมไม่ใช่แบบนั้น และ เขาเองก็ยังบอกไว้ตั้งแต่ตอนก่อนหนังจะฉายไว้ด้วยอีกว่า เวอร์ชั่นนี้จะต่างจากเวอร์ชั่นเดิม ...'Sonny' Crockett และคู่หู Ricardo Tubbs ปลอมตัวเป็นสายสืบเพื่อเข้าไปล้วงไส้ขบวนการค้ายาข้ามชาติ Sonny ตกหลุมเสน่ห์ Isabella แต่เธอดันเป็นภรรยาคนสวยของ Montoya หัวหน้าใหญ่ธุรกิจค้ายา ค้าอาวุธ ค้าของทั้งหลายที่เป็นผู้ร้ายในหนัง เขาพยายามที่จะไม่ผูกพัน เพราะหากมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง งานก็พัง แต่จะทำอย่างไร เมื่อเธอเปิดเผยตัวเองและแสดงความจริงใจกับเขา มันทำให้งานที่น่าจะปิดลงได้แล้วยังจบไม่ลง Sonny ขออยู่ต่อ งานนี้เป็นการวัดใจว่า เขาตกหลุมรักหญิง หรือ คิดทุ่มให้งานจริงๆ เพราะเมื่อยิ่งถลำลึกยิ่งถอนตัวยากขึ้น และ เท่ากับยิ่งเอาชีวิตตัวเองกับคนรอบข้างเข้าไปเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน และ บทสรุปสุดท้ายที่เอาตัวเข้าคลุกวงใน(ยาเสพติด)และวงใน(กงลี่) คือ เรื่องราวทั้งหลายใน Miami Vice ...ดูจากพล็อตแล้ว Miami Vice น่าจะออกมาได้เป็น หนังแอคชั่นดราม่าเข้มข้นบีบคั้นอารมณ์คนดูให้ต้องตึงเครียด แต่ผลลัพธ์ไม่พาคนดูไปได้ไกลถึงขนาดนั้น บทหนังไม่ทำให้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงภายในของตัวซอนนี่ ตามที่หนังเคยประกาศเจตนารมณ์ไว้ ประมาณว่า ไปเป็นสายสืบฝั่งคนร้ายแล้วเกิดหลงใหลติดใจจนไม่อาจจะแยกตัวเองกลับมาได้ บทไม่แสดงให้เห็นและโคลิน ก็ไม่แสดงให้เห็น เขาแสดงให้เห็นแค่ภาพความดิบเถื่อนเท่านั้น การถูกกลืนกินจิตใจโดยความชั่วร้ายแสนหวานแบบนี้ มีตัวอย่างที่ทำได้ดีกว่าเป็นตัวอย่างคือเรื่อง Donny brasco ที่จอห์นนี่ เด็ปป์ แสดงมุมนี้ให้เห็นได้ และ อีกส่วนที่หนังขยี้ได้ไม่ถึงที่สุด คือ ความสัมพันธ์ของ โคลิน และ กงลี่ ที่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าทั้งสองผูกพันกัน มันเหมือนความสัมพันธ์ผิวเผิน และ ทำให้ช่วงท้ายเราไม่ได้เอาใจช่วยอะไรไปมาก หลายตอนเข้าขั้นเนือย กระนั้นก็ดีความเนือยไม่ทำให้หนังหยุดนิ่งหรือคนดูหาวหวอด เพราะจุดเด่นที่ชดเชยกันอย่างการกำกับของ Michael Mann ทำให้ บรรยากาศในหนังไม่ชวนให้รู้สึกปลอดภัยเอาเสียเลย ชวนให้สัมผัสได้ถึงอันตรายทุกก้าวย่างของตัวละครเหมือนเราได้เดินไปพร้อมๆกับพวกเขา ...Michael Mann เองก็ได้ชื่อว่าละเอียดถึงขนาดสนใจแสงที่ตกบนเน็คไทของนักแสดง เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มีความเป็น perfectionist สูงมาก เรื่องนี้จึงเหมือนกับทุกเรื่องที่เขาเก็บรายละเอียดจนทำให้ทุกฉากเนี้ยบสุดๆ และ เช่นเดียวกับทุกเรื่องที่ใช้ ภาพเล่าเรื่อง ตรึงอารมณ์คนดูด้วยภาพ เรื่องนี้ก็เช่นกัน หนังยังสามารถตรึงอารมณ์คนดูด้วยภาพได้เหมือนทุกผลงานที่ผ่านๆมา การคุมอารมณ์ด้วยภาพอยู่ในระดับเกรด A โดยเฉพาะฉากยิงกระหน่ำใส่ตำรวจบนรถที่ถ่ายให้เห็นภาพภายในแบบสมจริงมากๆ หรือ จะเป็นฉากแอคชั่นช่วงท้ายที่กระหน่ำกันไม่รู้จักเหนื่อย นอกจากนี้ความสามารถในการกำกับนักแสดงก็เป็นอีกความสามารถที่เขาทำได้ในระดับยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการคุม ความบ้าพลังของ อัล ปาชิโน่ จนเล่นได้กลมกล่อมมากที่สุดเรื่องหนึ่งในงานหลายเรื่องหลังของเขาใน The Insider หรือการที่สามารถรีดศักยภาพของ ทอม ครูซ ที่เล่นกี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็คล้ายกันหมด ออกมาได้ดีใน Collateral ด้วยคะแนนพิสวาสส่วนตัว ส่งให้ กงลี่ เธอดูเด่นเป็นประกายอย่างยิ่ง เธอดับรัศมี โคลิน ในหลายๆฉากและยังคงเป็นนักแสดงที่แสดงมิติทางอารมณ์ได้หลากหลายภายในเวลาสั้นๆ ฉากเมคเลิฟพร้อมน้ำตาทำให้เราสงสารตัวละครอย่างเธอ เธอทั้งมีเสน่ห์ ทั้งความเศร้า กับ สภาพนักธุรกิจสาวที่มีพร้อมทุกอย่าง ยกเว้นแค่ ทางเลือกให้กับชีวิต สรุป ... ก็ถือว่าเท่าทุน เพราะ ผิดหวังหนึ่ง สมหวังหนึ่ง สิ่งที่คาดหวังไว้จากที่เกริ่นข้างต้น คือ 1. งานเกรด A ของไมเคิลมานน์เหมือนที่ผ่านมาอย่าง Heat / The Insider / Collateral ความคาดหวังนี้ไม่สมหวัง เพราะ Miami vice ยังด้อยกว่า 3 เรื่องข้างต้น แต่ ถ้าเทียบกับ หนังดราม่าแอคชั่นอื่นๆทั่วไปในตลาด ก็ยังจัดได้ว่า เรื่องนี้ดีเกินค่ามาตรฐาน ส่วนความคาดหวังที่ 2. กงลี่ ความคาดหวังนี้ เต็มตาเต็มปลื้ม ใกล้หมดปีแล้ว ชวนเพื่อนๆเตรียมเลือก 10 หนังชอบ / 5 หนังไม่ชอบ / 5 ตัวละครประทับใจ / 10 ฉากประทับใจ มาคุยกันใน Blog ส่งท้ายปี เหมือน สองปีที่ผ่านมาครับ ตอนนี้เลือกเก็บไว้ในใจก่อนได้เลยจ้า ยังไม่ต้องตอบตอนนี้เน้อ 2 Blog ชวนคุยล่าสุด ถ้าสามารถย้อนอดีตได้ 1 ครั้ง คุณจะย้อนไปช่วงเวลาไหน และ ย้อนไปทำอะไร ? //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=5&month=12-2006&date=11&blog=1 รักครั้งแรกของคุณเป็นอย่างไร ? //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=4&month=12-2006&date=02&blog=1 ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม (วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแว้ว) ปีใหม่นี้ มอบ"หนังสือรัก" เป็นของขวัญแด่คนที่คุณรัก ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ เริ่มต้นอ่านครั้งแรก ชวนคลิก ชวนคุยกันที่ --> หน้าแรก รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป   Create Date : 12 ธันวาคม 2549 10 comments Last Update : 19 ธันวาคม 2549 1:06:47 น. Counter : 4059 Pageviews. Share Tweet

เอิ้กๆๆๆ ชอบกงลี่เหมือนกันครับ แต่ก็เห็นด้วยว่าถ้าเทียบกับงานเก่าๆ ของพี่ Michael เรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เด็ดขนาดนั้น แต่ก็ยังคุ้มตังค์อยู่ดีครับ   โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) 12 ธันวาคม 2549 0:42:49 น.

ผ่านมาโหวตค่ะ...   โดย: นกฮูกตาเหร่ 12 ธันวาคม 2549 1:32:20 น.

กงลี่แสดงได้เด็ดขาดมากๆ เลยครับ และเห็นด้วยว่าคอลิน ได้แต่ดิบเถื่อนครับ เขาน่าจะแสดงได้ดีกว่านี้ ซึ่งผมอาจจะคาดหวังไปหน่อย ซึ่งเสียดายครับ ไม่งั้นหนังจะน่าสนใจกว่านี้   โดย: เข็มขัดสั้น 12 ธันวาคม 2549 8:30:02 น.

แหะๆ ไม่ได้ดูอ่ะครับ ตอนนั้นพลาดไป คงเพราะยุ่งๆ อยู่ ... แต่สงสัยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงมาตกอยู่หมวด 'ดูหนังที่บ้าน' ได้อ่ะครับ? เหมือนคุณ จขบ. ได้ดูในโรงนี่นา ... หรือว่าอยากเขียนไว้เป็นข้อมูลเผื่อคนจะเช่า DVD มาอ่านเจอ จะได้ไว้เป็นไกด์ไลน์อ่ะครับ? ... สำหรับผม หนังของไมเคิล มานน์ มีทั้งหนังดีที่ผมชอบ (Collateral : เพราะเจืออารมณ์ทริลเลอร์อยู่เยอะ) และหนังดีที่ผมไม่ชอบ (The insider : Courtroom drama เป็นหนังอีก 1 แนวที่ไม่ถูกโรคกับผมเท่าไหร่) ... เลยทำให้ก้ำกึ่งกับเรื่องนี้ว่าจะไปดูดีมั้ยอ่ะครับ   โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 12 ธันวาคม 2549 14:13:57 น.

^ ^ เอามาลงหมวดนี้เพราะเห็นตอนนี้ออกแผ่นแล้วครับ กับ เสียดายที่เขียนค้างไว้ก็เลยเขียนให้จบเผื่อเป็นไกด์ช่วยแนะนำ กับ เป็นเนื้อที่ให้เพื่อนๆที่ดูแล้วมาคุยกัน ปีหน้าหมวดนี้ คงจะไม่ใช่ "ดูหนังที่บ้าน" แล้วละครับที่คิดไว้ แต่คงจะเป็น mini review มากกว่าครับ ไว้สำหรับรีวิวสั้นๆทั้งหนังแผ่นและหนังโรง ส่วน "ดูแล้วมาคุยกัน" คือ เต็มรูปแบบเหมือนเดิม แต่เขียนเฉพาะบางเรื่อง   โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 12 ธันวาคม 2549 14:58:03 น.

^ ^ + ถ้าถามผม ผมอยากเสนอให้แยกกันมากกว่าครับ เพราะจุดประสงค์ต่างกัน โดย "ดูหนังที่บ้าน" ก็คือคุณ จขบ. ดูจาก DVD ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าที่เข้าโรงไปนานแล้ว หรือไม่ก็หนังใหม่ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะเข้าโรง ... ส่วน "มินิพรีวิว" น่าทำแยกออกมาเป็นอีกหัวข้อนึง โดยจะเป็นหนัง(ค่อนข้าง)ปัจจุบัน ที่คุณ จขบ. ได้ดูมา แต่ไม่มีเวลาหรืออารมณ์หรือประเด็นที่จะเขียนถึงแบบเต็มๆ อ่ะครับ + ส่วน "ดูแล้วอยากเล่า" ก็น่าจะยุบไปรวมกับ "ดูแล้วมาคุยกัน" หรือ "อันเนื่องมาจากหนัง" ได้ ... และอันที่จริง "อันเนื่องมาจากหนัง" กับ "ปักหมุด" ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง จะสามารถยุบรวมกันได้หรือไม่ครับ? + โดยคอนเซ็ปต์ ก็คือ ผมว่าน่าจะทำหัวข้อของหมวดหมู่ให้น้อยที่สุดอ่ะครับ จะได้หาหนังได้ง่ายๆ สำหรับผู้มาใหม่หรือคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับบล็อกนี้มากนัก แล้วให้เค้าไปหาแต่ละเรื่องในหัวข้อเหล่านั้นเอา ... เพราะยิ่งแตกประเด็นการกรุ๊ปหัวข้อออกไปเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งหาหนังยากมากขึ้นเท่านั้น อย่างเช่นบางเรื่องก็ไม่คิดว่าคุณ จขบ. จะไปเขียนถึงไว้แล้วในอีกหัวข้อนึง เงี้ยะอ่ะครับ   โดย: บลอทช์ยู IP: 202.69.140.233 12 ธันวาคม 2549 16:15:17 น.

อื่ม... ผมยังชอบ Collateral มากกว่าเรื่องนี้นะครับ เพราะนอกจากบรรยากาศ + อะไรๆ แล้ว.. เรื่องนี้ถือว่าเล่าพลอตจบภายในสองวินาทีได้เลยนะ - -*   โดย: nanoguy IP: 203.113.34.12 12 ธันวาคม 2549 21:39:05 น.

เพิ่งได้ดู DVD วันนี้เอง -ผมคาดหวังให้เป็นหนัง action มากไปหน่อยเลยผิดหวัง -ชอบ style ของภาพมากครับ ไม่ผิดหวัง ให้ A เลย พอเหมาะดี ไม่เล่นสีเหมือน tony scott และไม่หวือหวาเกินอย่าง micheal bay - ชอบฉากบุกเข้าบ้านรถ trailer ครับ รวดเร็ว จริงจังดี - ได้อารมณ์คล้ายบุกคลับเกาหลีใน collateral เลย - ตอนนี้หนังของ mann ที่ชอบที่สุดคือ insider - เอาไว้ดู ali กับ heat ก่อนแล้วอาจมีการเปลี่ยนอันดับใหม่ - เห็นด้วยกับเจ้าของ blog ที่ว่าบทไม่ค่อยคืบหน้า และไม่ค่อยเห็นพัฒนาการของตัวละครทั้งสองเลย ปล. ได้ดูเบื้องหลังใน DVD แล้วรู้เลยว่า mann จัดการกับ location ได้ดีมากๆเลยครับ   โดย: mayhem IP: 124.157.172.202 18 ธันวาคม 2549 2:42:09 น.

เรื่อง heat เจ๋งสุดแล้ว อาจจะเก่าหน่อย แต่ว่าสุดยอด ดู อัล ปาชิโน กับ เดอนีโร ประชันกัน ฉากปล้นกลางเมือง เจ๋งมาก เป็นหนังในดวงใจตลอดกาล   โดย: superbenkenobi IP: 203.114.105.70 21 ธันวาคม 2549 16:23:08 น.

เจ๊งสนิท ศิษย์หามลง หนังทุนสร้าง 160 ล้านเหรียญ ทำเงินแค่ 65 ล้านเหรียญ ไมเคิล มานน์ มือตกไปเยอะถ้าเทียบกับ ฮีท เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องเค้นฟอร์มนักแสดงนำให้โดดเด่นมีชีวิตชีวากว่านี้ ทำหน้าเหมือนไม่ได้ขี้มาเป็นปีอย่างนี้คนดูก็เบื่อหน่ายเอือมระอา โลเกชั่นสวยงาม ภาพสวยแทบทุกช็อตไม่มีที่ติ ..   โดย: พิรฌาน 21 ธันวาคม 2549 22:45:35 น.