Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
ชีส ฟองดู (Cheese Fondue) อาหารหน้าหนาวของชาวสวิส

ตัวคุณคำรณเนี่ย เธอมีเชื้อชาติ และ สัญชาติ สวิสเซอร์แลนด์มาแต่กำเนิด (ถึงแม้จะปน ๆ เชื้อชาติอื่นบ้างนิดหน่อยก็ตาม) เธอเกิดและเติบโตในดินแดนแห่งภูเขา วัว ช็อคโกแลต นาฬิกา และ ชีส



อันเรื่องชีสกับคนสวิสเนี่ย เป็นของคู่กันชนิดที่แยกกันแทบไม่ออก เค้ากินกันชีสกันตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดง ยันผู้เฒ่าเหลาเหย่ เท่าที่ได้รู้จักและสัมผัสกับคนสวิสมาเนี่ย ยังไม่เคยเจอคนที่ไม่เคยชอบชีสเลย แต่ก็ใช่ว่าชาวสวิสทุกคนจะรักชีสนะ เพื่อนคุณคำรณคนนึง (เค้าเล่าให้ฟัง) มาแปลก เธอว่าเธอแพ้ชีส มาแปลกจริงวุ้ยอีตาคนนี้



คนสวิสชอบชีสรักชีส แต่คนเอเชียหัวดำหน้าดำอย่างพล ไม่ชอบชีสที่คนสวิสกินอย่างแรง ได้กลิ่นแล้วจะเป็นลม เหม็นมากกก ก็คงเหมือนเค้าเหม็นปลาร้ากะปิของเราอะน้อ พลว่าคนเอเชียอย่างเรา ๆ เนี่ย คงมีไม่น้อยที่ไม่ชอบชีสเหมือนพล แต่ก็มีที่แปลกอีกนะแหละ คือ ชีสที่กินกะขนมปังนะ พลไม่ชอบ แต่ชีสที่ใส่ในพิซซ่า ดันชอบอีกละ กลิ่นมันไม่ค่อยแรงเหมือนชีสที่คนสวิสกันกะขนมปังนะ เลยหยวน ๆ ไม่นับว่าเป็นชีสน้อ



เคยไปเดินตลาดกับเพื่อนฝรั่งชาวเม็กซิกันที่เค้าชอบกินชีส พอผ่านไปใกล้ ๆ ร้านชีสปั๊บ เพื่อนฝรั่งพลว่า โอยหอมจังเลย หิวข้าว ส่วนพลพอได้กลิ่นปุ๊บ ปล่อยให้เค้าไปกันต่อละกัน พลเดินไปทางอื่นดีกว่า ร้านขายชีสนี่ กลิ่นมันแรงสุดยอดจริง ๆ เพราะมันจะมีชีสหลายชนิดหลากราคา รวมกันอยู่เยอะแยะ จึงทำให้กลิ่นมันอบอวนชวนปวดหัวมากกกกกกกก (ขนาดปลาร้าที่ชอบกิน แต่ถ้าได้กลิ่นปลาร้าสด ๆ ตามตลาดนี่ ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ ขอรอกินอย่างเดียวดีกว่า )



ก่อนที่จะพล่ามรำพันไปมากกว่านี้ มาเข้าเรื่อง ชีส ฟองดู (Cheese Fondue) กันดีกว่า อันชีสฟองดูนี้เนี่ย จากการคุยกะคุณคำรณ เธอว่าเป็นอาหารของชาวสวิสแท้ ๆ เลยนะ ไม่ได้มั่วไปจกอาหารของคนอื่นมา แล้วมามั่วว่าเป็นอาหารของชาติตัวเองเลย พะยี่ห้อว่าสวิสเซอร์แลนด์ของแท้และแน่นอน ว่างั้นเลยละ



ก่อนที่จะได้กินชีสฟองดูเนี่ย พลก็เคยได้ยินชื่ออาหารชนิดนี้มานานแสนนานแล้ว อยากกินบ้างเป็นระยะ ๆ (ทั้งที่ไม่ชอบกินชีส ) เมื่อปีที่แล้วตอนที่ได้ไปอยู่ที่เมือง โลซานน์ เคยเห็นชุดเซ็ตชีสฟองดู ลดราคาอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ยังสะกิดคุณคำรณยิก ๆ ว่าเนี่ยอยากกิน แต่ตอนนั้นมันเป็นหน้าร้อน คุณคำรณเธอว่า ใครเค้ากินชีสฟองดูกันตอนหน้าร้อนเล่า มันต้องกินตอนหน้าหนาว ถึงจะได้ฟิลฟองดู สรุปก็เลยอดกิน



มาปีนี้ ตอนที่เพื่อนคุณคำรณเค้ามาเที่ยวปักกิ่ง เค้ารีเควสมาว่าอยากกินชีสฟองดูที่ปักกิ่ง พลก็ได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ว่าคราวนี้กรูได้กินแล้ววะ



วันนั้นเนี่ย อากาศหนาว ๆ แหม ๆ มันได้ฟิลของการกินชีสฟองดูจริง ๆ บ้านพลอยู่ชั้น 5 เราก็ติต่างว่ากำลังนั่งกินชีสฟองดูกันอยู่บนภูเขา อ๊ายยย ฝันเฟื่องสะไม่มี



เพื่อนร่วมวงวันนั้นก็มีทั้งหมด 5 คน อันได้แต่ พล คุณคำรณ เพื่อนคนจีน 2 คน และเพื่อนบ้านชาวฝรั่งเศสหนึ่งคน (คนที่รีเควสนะ เป็นคนจีนที่ทำงานอยู่ที่เมืองซูริค สวิสเซอร์แลนด์) กินกันไปเม้าท์กันไป อันนี้คุณคำรณเธอว่า เป็นจุดมุ่งหมายของการกินชีสฟองดูทีเดียวเลยเชียว เพราะว่า หม้อชีสฟองดูเนี่ย มันจะมีอยู่หม้อเดียว คนกินไม่ว่าจะกี่คนก็แล้วแต่ ก็ต้องนั่งล้อมวงกินด้วยกัน คุยกัน (เหมือนคนไทยเราเวลากินข้าวอะน้อ กินแบบล้อมวง กินไปเม้าท์ไป เจริญอาหารสะไม่มี )



ส่วนประกอบหลัก ๆ ของชีสฟองดูเนี่ย ที่แน่ ๆ เลยก็ ชีสหนึ่งละ ต่อมาก็มี พริกไทย ลูกจันทร์เทศ (Nutmeg) เหล้าเชอร์รี่ แล้วก็แป้งข้าวโพด



ของต่อมาที่ต้องมีแน่ ๆ แบบว่านอนรอเลยก็คือ ขนมปัง ขาดขนมปังไปเนี่ย ชีสฟองดูก็ไม่มีความหมายเลยนะนั่น เค้าต้องคู่กัน มันถึงจะอร่อย



ของกินที่กินคู่กันกะชีสฟองดูเนี่ย ธรรมดาทั่ว ๆ ไปนะไม่มีอะไรเลย แค่ขนมปังกะชีส แค่นั้นเอง แต่วันนั้นคุณคำรณเธอมีออพชั่นเสริม เป็นแตงกวาดอง พริกดอง แล้วก็ผัดหอมหัวใหญ่ (แตงกวาดองเนี่ย พลก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเค้าต้องเอาแตงกวาไปดอง กินสด ๆ ก็อร่อยแล้วนะ เห็นฝรั่งบางคนกัดกล้วม ๆ น่าอร่อย แต่พลขอบาย)



ส่วนเครื่องดื่มที่เค้าว่ากันว่าเข้ากั๊นเข้ากันกะ ชีสฟองดู เนี่ยก็คือ ไวน์ขาว หรือ ชาต่าง ๆ เช่น ชาดำ ชามะลิ หรือแม้กระทั่ง ชาสำเร็จซอง ๆ ก็อร่อยเข้ากัน







คืนนั้นเนี่ย พลเน้นเม้าท์มากว่ากิน เพราะบอกตรง ๆ ว่าหลังจากที่อยากกินมานาน พอได้กินแล้ว รู้แล้วว่ามันเป็นยังไง ก็ขอยืนยันนอนยันเหมือนเดิมว่า ชาตินี้ ชีสกะพล คงจะไม่ถูกกันตลอดชาติ ของกินเสริมต่าง ๆ ทั้งแตงกวาดอง พริกดอง และ หอมผัดก็ไม่ถูกปากถูกใจสักอย่างนึง สู้ส้มตำปูปลาร้าก็ไม่ได้ แต่เวลาแอ็คท่าถ่ายรูปนี่ ประหนึ่งว่าอร่อยมาก สร้างภาพสะไม่มี



เรื่องข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกะ ชีสฟองดู ที่เขียน ๆ ไปถ้าใครเคยกินแล้ว เห็นแปลกแตกต่างยังไงก็มาเล่าสู่กันฟังได้เด้อ



จริง ๆ เนี่ยวันนี้กะจะเขียนเรื่องชีส ๆ สักสองเรื่อง คือ ชีสฟองดูหนึ่งละ กับอีกอันคือ Cheese Raclette (ชีส ฮัคเลต ตอนอ่านต้องแบบฝรั่งเศสกันนิดนึงนะ ) รูปถ่ายเรียบร้อยแล้วใช้กล้องเพื่อนถ่าย แต่เสียดายว่าย่อขนาดไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไง ไม่ใช่รูปจากกล้องตัวเอง จนปัญญาจริง ๆ เอาไว้วันหน้าแล้วกันน้อ


Create Date : 08 ธันวาคม 2552
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 21:44:48 น. 37 comments
Counter : 2802 Pageviews.

 
ชะแว้บบบบ แวะเข้ามาแปะไว้ก่อน
คืนนี้ดึกแว้ว พรุ่งนี้จะมาอ่านนะจ๊า
ฝันดีจ้า ..


โดย: ป้าโซ วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:22:08:56 น.  

 
ให้เปิดมาดูตอนห้าทุ่มครึ่ง (ปรับเวลาแร้ว)

ได้ข่าวว่าน้องหิวข้าวมาก

น้ำลายไหลลลล


โดย: น้องมด IP: 68.68.107.31 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:22:26:17 น.  

 
เคยเห็นแฟนทานกะไวน์ขาวเหมือนกันคะ กลิ่นเหม็นเชียว เหมือนอะไรบูดเลย ขอบายด้วยคนค่ะ ปลาร้าหอมกว่าแซบกว่าเยอะเลย


โดย: กระต่าย (kartai chan ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:22:50:26 น.  

 
เราก็ชอบทำชีส ฟองดูทานกันค่ะ โดยเฉพาะคริสมาสต์เนี่ย ทานได้อร่อยมากๆเลยเนาะ


โดย: kiriya วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:0:38:04 น.  

 
ฝาแฝด ใบตอง ใบเตย
ตามมาขอบคุณ คุณอา พล (aoigata ) จ้า


โดย: ดอกหญ้าในดงผู้ดี วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:1:25:20 น.  

 
มาแล้วมาแล้วจ้า
มากินด้วยคน
สมมุติว่ามันเป็นจิ้มจุ่มดีใหมคะ
กลิ่นโชยๆนั่นก็คิดว่าเป็นกระปิหรือปลาร้าก็ได้จ้า อิอิ
แซบหลายเด้อจ้า


โดย: Willkommen วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:2:16:30 น.  

 
ฮ่าฮ่า ชีสฟองดูว์ มันเป็นจั่งซี่ จั่งซี่

ต้องลองซะหน่อยแล้วมาเปรียบมวยกะส้มตำปลาร้า อู๊ยยย น้าลายสอ


โดย: Honey and Moonney วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:4:22:06 น.  

 
ปู่ก็ชอบชีส ที่กินกับพิซซ่า และที่วางบนขนมปังประกบใส่ปาก
พอพลบรรยายว่ากลิ่นใกล้เคียงกลับปลาร้า ก็เลยนึกภาพไม่ออก อ้อ! อีกชีสนึงที่ชอบ คืออีชีส (ฮา) (ขออนุญาติพาดพิง)


โดย: naydin วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:9:09:15 น.  

 
พี่กับชีส ต้องร้องยี๊ๆเลยล่ะ

พี่ยังไม่เคยกินเลยชีสฟองดูว์น่ะ แถวบ้านพี่มีร้านอาหารสวิสอยู่ร้านหนึ่ง พี่เห็นเมนูเสริมเป็นชีสฟองดูว์ ถูกด้วยสองที่แค่สามร้อยเองนึกอยากลองเหมือนกัน แต่ฟังพลบรรยายแล้ว โบกมือบายอย่างถาวรเลยแล้วกัน

ตอนนี้น้ำหนักพี่ขึ้นมาห้าโล จะโดนท่านขุนกระทืบมั้ยนะ
เมื่อวานพี่ไปตึกหมึก ย่างกินตรงนั้นเลย อร่อยเหาะเลยจ้า ยังไม่อิ่มหนำใจ ไปกินจุ้มจิ่มกันต่อ ชุดละร้อย อร่อยกว่าเอ็มเคสุกี้อีก บอกได้คำเดียวเอ็นจอยส์สุดๆๆ


โดย: เดินทางรอบโลก วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:9:59:04 น.  

 
หนีห่าว มาทักทายเจ้าของบ้านจ้ะ

เพิ่งจะเคยเห็นนะเนี่ยว่ามันเป็นอย่างงี้นี่เอง

ขอบคุณค่ะที่เอามาเล่าสู่กัน



โดย: 309 IP: 221.222.232.109 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:13:41:15 น.  

 
หวัดดีจ้า พล..

กร๊ากกก..ขอขำก่อน จำได้ไหมเมื่อคืนก่อนหน้าป้าโซเม้นท์ มีไรเกิดขึ้น? ว่าแล้วว่าพลต้องลบ เคี้ยกๆๆๆ

เออ เพิ่งเคยเห็นหน้าตาชีสฟองดูนี่แหละว่าเขากินกันอย่างนี้ เคยกินแต่อะไรนะ ไอ้ที่เขาเอาเสียบเหล็กแหลมๆแล้วร่วมวงลงหม้อทอดอันเดียวกันนี่แหละ อย่างนั้นเขาเรียกว่าไรหว่า?

ท่าทางป้าโซจะตระกูลเดียวกับพล ไม่ถูกกับชีสเอาอย่างมากๆ ยกเว้นชีสที่ใส่ในพิซซ่ากับแปะบนเบอร์เกอร์ พ่อไอ้สองตัวนี่เขาซื้อชีสแท่งๆแบบของเด็กๆกินให้ลูกเขากิน ป้าโซยังส่ายหัวส่ายหาง ไม่ไหวอ้ะ แค่ได้กลิ่นก็..

หน้าตาคุณคำรณภูมิใจชีสฟองดูของเขาเหมือนเคย รอเมนูมื้อหน้าอยู่นะจ๊ะ พลลุ้นๆให้เขาทำอาหารบ่อยๆดิ อยากเห็นน่ะ ท่าทางจะชอบทำกับข้าวนะนี่ พอๆกะพลชอบรอกินอย่างเดิยว(รึป่าว?)


โดย: ป้าโซ วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:13:52:52 น.  

 
ดูท่าที่พลกินชีสก็รู้แล้วว่าฝืน แยกเขี้ยวแบบนั้น

บ้านน้าเพิ่งเจอะระเบิดเมื่อตอนทุ่มนี้เองค่ะ
หน้าร้อนขายของชำเจ้าของร้านก็บาดเจ็บเพื่อนแม่เองเป็นครูชื่อแมวค่ะ เห็นว่าโดนหลังกับขา
ยังไม่รู้เป็นไงบ้างเช็คข่าวยังไม่ได้เรื่องเลย

เสียงตูมปั๊ป ก็รู้เลยโดนอีกแล้วใครจะเจ็บบ้างนี่น้าเซ็งพวกนี้มากไม่รู้เมื่อไหร่มันจะหายไปจากโลกนี้ซะที

วันนี้กินชีสกับพล ไม่อร่อยเลย ที่บ้านน้าบรรยากาศมันแย่อ่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:20:35:47 น.  

 
เห็นหน้ามะรึงกินซีสฟองดูแล้วกรูปวด กี้ วะ เชื่อแล้ววะว่ามะรึงไม่ถูกกับซีสอะ แล้วใอ้แตงกวาดองนะ กูขอบายด้วยคน ไม่ชอบ ขอกินแตงกวาสดๆกับน้ำพริงกะปิดีกว่า555
อยู่นี้ก็ยังไม่เคยกินซักที่ชีสฟองดูนี้ กินแต่ชีสกับขนมปังธรรมดา แต่ก่อนกรูก็ไม่กินอะ ทุกเช้าต้องกินอาหารไทยอะไรก็ได้ขอให้เป็นข้าว ขนมปัง ชีส ซาลามี แฮม ไม่สน ไม่เอา แต่เดียวนี้ไม่มีทางเลือก ต้องกินไปโดยปรายาย อีกอย่างง่ายดีสะดวก อิอิ เลยตอนนี้กลับเป็นว่ากินอย่างอร่อย ชินกับขนมปังชิส ซาลามี โดยไม่รู้ตัว อิอิ


โดย: kearaly IP: 85.167.238.182 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:1:18:25 น.  

 
บล็อกพึ่งเสร็จใหม่ๆสดๆร้อนอย่าลืมเข้าไปดูนะจ๊ะ


โดย: kea (kearaly ) วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:2:46:05 น.  

 
ว้าๆๆๆ ให้ ชีส ฟองดู เหรอ ได้แค่ดู จะไปตื่นเต้น อะไร มันต้อ ฟองกิน จิพล ถึงจะเข้าท่า หน่อย ให้แต่ ดู เซ็ง

อิอิแต่เห็นด้วยนะ ชีส หรือ อะไรที่ฝรั่งเขาชอบกิน สำหรับเรา มันเลี่ยน อะค่ะ กินได้ บ้างเล็กน้อย แต่จะให้กิน แบบ กินส้มตำ น้ำพริกกะปิ ต้องขอบอกว่า อาหารไทยอร่อยที่สุด ชนะขาดลอย

แต่ละคนก็ว่าอาหารของตัวเองอร่อย นิ อิอิ

อีตาคำรณ นี้ เธอเก็กหล่อมากนะ เวลาทำกับข้าว ท่าทางมีฟามสุขมากเวลาอยู่ในครัว พลช่างโชคดี อะไรเช่นนี้
และคงลำบากใช่ไม๊ ที่จะทำตัวให้หุ่น เท่านี้ได้

เจอแต่ของอร่อย และชวนให้อ้วนทั้งนั้น อิอิ

รักษาสุขภาพด้วยนะ พล ถ้าโชคดี ปีหน้าเราอาจจะมีโอกาสได้เจอกันก้ได้ใครจะรู้ อิอิ



โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:15:31:39 น.  

 
อ้อ ลืม บอกว่า ช่ายเลย กทม อากาศอาจจะเย็น ลงเล้กน้อย แต่ แดดแรงงมั๊กกกกกก

เผาแป๊ป เด๋ว สุก เอ้ย ดำเลยแระ พล

ย่ากลัวมากต้องห่อหุ้ม กันแดดจ๊ะ แดดจัดมาก

มิน่า คนบ้านเราถึง แก่แดด กันจัง เกี่ยวกันไม๊นี้



โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:00:36 น.  

 
หวัดดีจ้า พล..

ป้าโซเพิ่งตื่นจากงีบช่วงบ่าย วันนี้ไปออกแรงตำโมจิที่ร.ร.ไอ้ตัวเล็กมา จริงๆมันไม่เหนื่อยหรอก แต่หาข้ออ้างน่ะ

เข้าใจเลยไอ้เรื่องเบื่ออาหารบ้านเขา อยากกินแบบเราๆน่ะ แต่ป้าโซจะค่อนข้างจำกัดเรื่องวัตถุดิบเอาการอยู่ อีกอย่างที่ขาดอย่างมากคือฝีมือ ไม่รู้เป็นไง ทำอาหารไทยไม่เคยได้เรื่องเล้ยยย แต่เอาน่ะ แค่พอหายอยาก พลยังเก่งกว่าป้าโซนะ ตำน้ำพริกกะปิได้ด้วย

แล้วดู๊.. พูดยังงี้..

แต่อายุเริ่มมาก ก็อยากกินปลากะเค้าบ้าง

ชัดช้า.. แก่เท่าไหร่กันทีเดียวเจียวฟระ? ขำอ้ะ ที่พลพูดเหมือนปลงกะตัวเอง

เมนูปลาที่ง่ายยยย ที่สุด ก็คือพรมๆเกลือกะพริกไทยแล้วเอาไปอิงแอบแนบเตาย่างที่ร้อนๆ ง่ายไหมล่ะ เอามือเกาตรูดซะข้างยังทำได้เลย เพียงแต่การย่างต้องดูแลเขาหน่อย อย่าปล่อยปละทิ้งเขาไว้เหมือนเป็นปลาข้างถนน อ้อ การโรยเกลือกะพริกไทย ควรทิ้งช่วงไว้สักพักให้มันเข้าเนื้อปลาแล้วค่อยย่าง ถ้าจะทิ้งช่วงสั้นๆ ก็หนักมือเกลือหน่อยนะจ๊ะ

ปลาอีกอย่างที่บ้านป้าโซทำบ่อย ก็คือพวกปลาต้มซีอิ๊ว รสชาติก็คล้ายๆต้มเค็มบ้านเรามัง เค็มๆหวานๆปะแล่ม เอาไว้ต่อมขยันป้าโซลุกโพลนแล้วจะถ่ายรูปมาอัพให้นะจ๊ะ

ถัดจากย่าง ต้ม ก็เป็นทอดแหละพล ขั้นตอนการทอดก็พรมๆเกลือพริกไทยอย่างเคย แต่ป้าโซจะกระแดะเหยาะพวกรสดีลงไปนิดนึง เคล้าๆทิ้งไว้แล้วใส่โกกิสักสองช้อนโต๊ะ ใส่น้ำให้ขลุกขลิกๆอย่าให้แป้งหนืดไป เหลวไป แล้วหย่อนทอดกับน้ำมันไฟปานกลาง คอยปรับไฟเอาอย่าให้ปลาไหม้ก่อนสุกข้างในล่ะ แต่ปลาน่ะมันสุกง่าย ตอนทอดก็อย่าเสนอหน้าเข้าไปใกล้กะทะนักนะจ๊ะ เดี๋ยวได้กินหน้าปลาดำทอดแทน อ้อ ไอ้ปลาที่นิยมทอดกรอบๆทั้งตัวนี่ จะตัวเล็กหน่อยนึง ความยาวไม่น่าเกินฝ่ามือ ถ้าเป็นปลาใหญ่ๆก็จะแล่เอาเฉพาะเนื้อมาเคล้าเกลือพริกไทย คลุกแป้ง ชุบไข่ เกลือกผงขนมปังแล้วทอดจ้า..


โดย: ป้าโซ วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:00:56 น.  

 
สำหรับรัชชี่เหรอ ที่ใส่ในพิซซ่าก็พอกินได้ แต่ก็มันเลี่ยนนะเนาะ ที่ใส่ในขนมปังแซนวิสก็พอได้
อย่างแซนวิสแฮมชีส มีช่วงหนึ่งชอบมาก แต่ก็แปลกมีช่วงหนึ่งกินแล้วรู้สึกเหม็นคาวชีส ก็เลยหยุดเมนูนี้ขึ้นมา

ใครเกิดประเทศไหนก็คงชินกะอาหารประเทศตัวเองน่ะเนาะ

ที่รัชชี่ชอบจะเป็นแนวอาหารมีน้ำจิ้มรสจัด ๆ น่ะพล เช่น ปลาหมึกสด ๆ กะน้ำจิ้มรสเด็ด หรือไม่ก็พวกยำทั้งหลายน่ะ

ถ้ามีโอกาสจะไปลองหาดูนะ พลบอกชื่อหนังสือ 2 เล่มให้อีกครั้งซิ ชักลืม ๆ แล้ว ลืมไปแล้วว่าพลเคยบอกในบล็อกไหน

นี่ล่าสุดเห็น Twilight เขาดังเหลือเกิน เลยลองไปซื้อนิยายแปลมาอ่าน พลก็รู้ว่าปกติรัชชี่ไม่ได้อ่านนิยายแปล


ไว้จะมาเล่าให้ฟัง


โดย: รัชชี (รัชชี่ ) วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:08:54 น.  

 
ไม่เคยกินกะเค้าหรอก ไอ้ ฟองดง ฟองดู แต่เห็นแล้วพยาธิตะกายฝั่งเลยอ่ะ หน้าตาเริ่ดมาก เมื่อไหร่คุรคำรณจะยกหม้อมาจิ้มจุ่มกันแถวนี้บ้างน้อ อยากชิมจัง รู้มั๊ยว่าพลทำให้พี่ต้องสั่งพิซซ่ามาเลยล่ะ เห็นแล้วหิวโซจัด

เรื่องเรียนของน้อง กะเอาไว้ให้เค้าหากินยามแม่ตกอับ ตอนนี้เริ่มจะเป็นประโยชน์เพราะตอนกรอกใบสมัครสอบเข้าม. 1 มีช่องให้ใส่ความสามารถพิเศษ อิแม่มมันเลยมีอะไรให้กรอกกะเค้าบ้าง ไม่งั้นคงต้องใส่หมากเก็บกับตี่จับของแม่มันแหงม


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:09:56 น.  

 
ต่ออีกนิด เรื่องพระเอกที่ว่า เห็นเหมือนพลเลย เพราะว่าเวลาเราดูหนัง เราจะเห็นหน้าวอกมาแต่ไกล

คือว่าดูยังไงก็ไม่เหมือนหน้าคนปกติน่ะ

เข้าใจนะว่าผิวของแวมไพร์น่าจะซีด แต่ที่ดูในหนังน่ะมันวอกไปมากกว่า

คือคิดว่าเขาไม่น่าแต่งให้วอกขนาดนั้น

จ๋าก เดี๋ยวรัชชี่จะถูกแฟนคลับรุมกระทีบเหมือนกันหรือเปล่าน้อ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:20:11 น.  

 
พล เพื่อนน้าเขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อตอนเช้ามืดตีสี่
เห็นว่าเสียเลือดมากเพราะสะเก็ดระเบิดตัดเส้นเลือดใหญ่ค่ะ

ตอนนี้เอาศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านแล้วค่ะ

แม่ก็ไม่เป็นไรแค่เสียขวัญที่เพื่อนจากไป

ตังแต่เกิดเหตุการณ์เสยเพื่อนไปหลายคยแล้วค่ะ

ต้องทำใจไม่รู้ว่ามันจะเกิดกะเราเมื่อไหร่
เด็กๆเขาก็ห่วงอยากให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น อย่างว่าแหละพล เราทำการค้าที่นี่ สมบัติมันก็อยู่ที่นี่ ไปอยู่ที่อื่นแล้วจะกินอะไรล่ะ ไม่ได้มีเป็นร้อยล้านจะได้ไปนั่งเฉยๆ ตอนนี้เราก็ยังประกอบอาชีพได้แค่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมาหน่อยเท่านั้นเอง ต้องปลงค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:18:19:52 น.  

 
หวัดดีจ้าพล

เข้ามาดูชีสฟองดูของต้นตำรับ เมื่อสามสี่วันก่อนไปเห็นมาจากห้องก้นครัวมาเหมือนกัน แต่ของเค้าเป็นฟองดูเนื้อสัตว์ธรรมดา ไม่ใช่ชีส ก็น่ากินอยู่เหมือนกัน

ผักดองสิ น่ากินอ่ะ พริกดองเอย เกอร์คิ่นเอย ของป้าจะโปรดมากกับเกอร์คิ่นดองเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เอามาสับปนกับทูน่า มายองเนสหน่อย พริกไทยนิด ทำเป็นแซนด์วิชสเปรด ทาขนมปัง อร่อยหยด ตะก่อนทำไปกินเป็นมื้อเช้าที่ออฟฟิศบ่อย



โดย: Oops! a daisy วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:19:12:39 น.  

 
นั้นน่ัะสิ ชีสฟองดูก็มีกลิ่นเหม็น (แต่ก็ชอบกินมากเลยค่ะ) ฝรั่งก็ยังกินได้ แต่ทำไมบางคน เช่นสามีที่บ้าน ถึงบอกว่า กะปิ น้ำปลา ปลาร้าเหม็น ก็ไม่รุ เรากลับชอบ ได้กลิ่นแล้ว น้ำลายสอเลย แซ่บหลายเด้อค่า


โดย: kiriya วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:23:29:58 น.  

 
แวะมาทักทายนะคะคุณพล เราเนี่ย species เดียวกันนะคะ เพราะอัญก็ไม่ถูกกับชีสค่ะ แต่ถ้าให้โรยหน้า Pizza ล่ะก็กระหน่ำไม่ยั้งคะ ยิ่งหนืดยิ่งแซ่บนัว 555+++


โดย: Un-Sunny วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:6:08:05 น.  

 
สวัสดีจ่ะพลจ๋า แวะมาเยี่ยมเยือนตอนเที่ยง...มีแหนมเนือง มาฝากค่ะ





ปล.เดี๋ยวมาอ่านนะ กินชีสกันตั้งแต่เด็กเล็กจนผู้เฒ่าเหลาเหย่

พลจ๋าน้องเค้าอาการดีมากแล้วล่ะ คงใกล้ได้กลับบ้านแล้ว แต่กลัวติดเชื้อ เลยอยากให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ก่อนน่ะ


โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:12:46:38 น.  

 
ชีสฟองดู ยังไม่เคยกิน ยังไม่เคยเห็นเลยครับพล

ชีส ผมก็ไม่ชอบครับ ผมว่าเหม็นเหมือนกัน ทานพิซซ่า ผมก็ไม่ได้โรย

แต่ราดซ๊อสพริก เยอะเชียวแหละ อุ อุ

ปักกิ่ง หนาวระดับไหนแล้ว

แต่รู้ว่า พล ไม่หนาวใจแน่ เพราะคุณคำรณ คงจะสวีททั้งท่าทางและคำพูด


โดย: yyswim วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:20:06:05 น.  

 
วันนี้พี่จะไปทานข้าวร้านสวิสที่พี่เล่าให้ฟังจ๊ะ
พอดีเค้าเชิญ ร้านนี้อาหารไทยเค้าอร่อยมาก กุ้งแช่น้ำปลานะ เผ็ดตั่งแต่ปากถึงตรูดเลยล่ะ ถ้าพี่ไม่ขี้เกียจจะถ่ายรูปมาให้ชมจ๊ะ

อ้อ อ้ายซุปชีสน่ะ มันถูกหรอ ถ้างั้นหลังจากกินกุ้งแช่น้ำปลาแล้วจะลองตบตรูดด้วยชีสฟองดู เอ...มันจะเข้ากันมั้ยเนี๊ยะ


โดย: เดินทางรอบโลก วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:10:28:47 น.  

 
พ่อครัวหัวปาก์ออกโรงอีกแระ

ที่แรกเห็นนึกว่ามะยม มะม่วง ดงดอง

เอพริกจี่กินกับเฝอญวนแถวบ้านผมหรือป่าวเนี่ย

ชีสผมก็ไม่ชอบอย่างแรง คาวอ่ะคับ

ไม่ชอบอะไรคาว ๆๆ

อืมม์ มีรูปไปดูไฟมาเพิ่มอีกสามสี่รูปครับ้อายแวะไปชมนะ
สเปเชียล 4U คร้าบบบ

ปล.เรื่องที่สงสัยอ่ะไม่มีอะรอ้ายอ่ะ คิดลึกกกกไปยย


โดย: peeradol33189 วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:23:45:34 น.  

 
หวัดดีจ้าพล..

เรื่องคลิปนี่ป้าโซก็จนปัญญาเหมือนกันแหละ เพราะป้าโซเองก็งูๆปลาๆเรื่องเน็ต มันหมายความว่าพลดูยูทูปไม่ได้หรือนี่? เพราะป้าโซเอาไปแปะไว้ที่นั่น หรือว่าจีนเขาบล็อกยี่ปุ่น? ลองไปเข้าอีกทีละกันนะจ๊า..

//www.youtube.com/watch?v=Xy5NYIvtwy8

ป้าโซทำเป็นปากดีไปแนะนำพลเรื่องป้องกันหวัด แล้วเป็นไง เมื่อคืนเกิดอาการเจ็บๆคอ ตะก่อนที่เกิดอาการเช่นนี้จะกินยาแก้หวัดของญี่ปุ่นตัดไว้ก่อน แต่คราวนี้ดูเหมือนมันค่อนข้างหนักหนา ยาอ่อนๆอย่างญี่ปุ่นคงไม่พอเลยฟาดยาแก้อักเสบของพี่ไทยไปอีก จริงๆไม่ค่อยอยากกินยาแก้อักเสบนะเพราะมันต้องกินติดต่อกันหลายวันให้ครบโด๊ส ไม่ชอบกินยาอ้ะ

ต๊ายยย.. ชีวิตประจำวันพลนี่ต้องดมขี้เต่าคนจีนทุกวันเลยหรือเปล่า? อุยยย.. น่าจ๋งจ๋าน..

เรื่องอาหารเช้าน่ะ ตะก่อนป้าโซยังกระชุ่มกระชวยอยู่ก็ไม่ค่อยสนใจมันซักเท่าไหร่ พอถึงวัยระทดระทวยทีนี้เริ่มรู้สึกว่าการไม่มีอะไรตกถึงท้องตอนเช้าโดยเฉพาะวันที่ต้องไปออกแรงทำงานนี่ มันแย่เอาจริงๆ เฮี่ยวแฮงไม่ค่อยมี เกิดอาการซังกะตาย ไม่ค่อยมีจิตใจฮึกเหิมฟาดฟันกะงานซักเท่าไหร่ ป้าโซเลยเปลี่ยนระบบตัวเองใหม่ ถึงตอนเช้าไม่มีเวลามานั่งละเลียดอาหารเช้าเป็นคุณนายอยู่ที่โต๊ะอาหาร ก็จะทำข้าวปั้นก้อนเล็กๆห่อแร็พไปนั่งเขมือบในรถระหว่างทางไปทำงาน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่มื้อกลางวันหลังเลิกงาน.. นี่ถ้าพลดูยูทูปได้ละก็ ป้าโซจะโชว์กรรมวิธีปั้นข้าวเป็นคลิปให้ดูเลยนะนี่ .. อิอิ.. ยั่วคนไปง้านนน..

เดี๋ยวจะออกข้างนอกละจ้า ถึงอาการไม่ค่อยดีแต่ดัดจริตป่วยนานไม่ได้ ไม่งั้นผู้คนที่บ้านอดตาย เฮ้อออ.. เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบากเยี่ยงนี้น้อออ..


โดย: ป้าโซ วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:11:50:56 น.  

 
น้าก็ทำใจแล้วค่ะ เขาสบายไปแล้วเหลือแต่เราต้องสู้ต่อไปค่ะ

ถักดอยลี่สำคัญเรื่องนับล่ะคะ ขาดไปดอกก็ผิดไปเลย แต่ก็พอลักไก่ได้ ไม่เหมือนนิตติ้งนี้โหดกว่าค่ะ ผิดคือเลาะอย่างเดียวเลย

ถักดอยลี่ก็สนุกตอนที่มันเริ่มเป็นลายค่ะ มันสวย แล้วเราก็อยากให้มันเป็นรูปเป็นร่างเร็วๆ มีผิดบ้างค่ะพล กว่าจะรู้ว่าผิด ก็ต้องเลาะออกไป หนึ่งรอบแถวของการถักเลย ถ้าเป็นแถวที่ดอกเริ่มกว้างแล้วเวลาผิดเสียดายมากๆ จึงต้องตั้งสมาธิด้วยค่ะห้ามเผลอเลยค่ะ

ไอ้บอลโลกนั้นเป็นถ้วยรางวัลของน้าเอง รางวัลยอดขายค่ะ มีหลายใบมาก ทำงานแล้วมีผลงานมากมายค่ะ
ส่วนชุดของขวัญเดี๋ยวเที่ยวหน้าน้าเอามาลงให้พลดูนะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:18:14:34 น.  

 
อิอิ เย็นนี้ เป็นแม่บ้านถุงพลาสติก ซื้อแบบง่ายๆ ทุกวันนี้กินง่าย อยู่ก็ง่าย ความจริงคือ ไม่รู้จะกินอะไร มันคิดไม่ออก จริงๆนะ กินมานานมากแล้ว จนเบื่อไปหมด

แต่จำเป็นต้องมานั่งคิดว่า กินอะไร แต่ก่อนเคยได้ยิน อาม้า บ่นว่า เบื่อจริงๆ ต้องมานั่งคิดว่ากินอะไร

สมัยก่อนไม่เข้าใจ จนเมื่อผ่านมา 20กว่าปี อาม้าจากไปแล้ว แล้วเราก็แก่เท่าอาม้า แล้วฮ่าๆๆ

ตอนนี้ถึงตาเราบ่นบ้างแล้ว

ชีวิตเป็นเช่นนี้...

พลรักษาสุขภาพด้วยนะ ท่าทางปีนี้หนาวจัด


โดย: หนูหลิน (ย่าชอบเล่า ) วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:18:47:38 น.  

 
ตามมาดมกลิ่นชีสอีกรอบจ้าพล เห็นหน้าคุณคำรณแล้วท่าทางเธอมีความสุขมากที่ได้ทานอาหารประจำชาติ คงเหมือนเราได้จกส้มตำล่ะนะ

อากาศหนาวๆ รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะพล


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:21:08:30 น.  

 
ดีจ้าคุณพล


แหม .. มาเห็นชีสแล้วก็ทำให้หิวข้าว ...ฮ่าๆ อ่ะค่ะ
แซวเล่นนะค่ะ แต่ว่าก็จริงล่ะค่ะ ชีสกับเรานี่ต้องเรียกว่า
ไม่ขนาดว่าเป็นของคู่กันล่ะคะแต่ว่าก็ชอบนะ เราชอบ
ลองกินชีสใหม่ๆ น่ะค่ะ แบบว่ารสชาติใหม่ๆ แปลกๆ
เราว่าเราชอบลอง ดูว่าจะติดใจไม๊ นี่เลยไม่แปลกใจตัวเอง
เลยค่ะว่าไปอยู่ยุโรปมาเกือล 10 ปี ทำไมหุ่นถึงได้เหมือนตุ่ม
ไปทุกวัน นั่นเป็นเพราะว่าขยับขยายเพราะชีสนี่เองล่ะค่ะ
เพราะว่าเวลามีเพื่อนมาบ้าน ก็จะได้เจ้าพวกชีสหลากหลาย
นี่ล่ะคะ มาเป็นของว่าง กับแกล้ม ไอ้แขกก็ไม่เท่าไหร่
ทานได้แต่ว่าไม่เยอะ แต่ว่าเจ้าบ้านที่จัดการให้นี่ล่ะค่ะ
จ้วงเอา จ้วงเอา .. เอวมันก็เลยขยายออกเรื่อยๆ นี่ล่ะค่ะ

(เอนจอยอีทติ้งดีจริงๆ แต่ว่าโซ แซดตอนเจอหุ่นตัวเองนี่ล่ะค่ะ)
......................

แต่ว่าเรายังไม่เคยได้ลองทานฟองดูเลยนะค่ะ
เรามีเซ็ททำเหมือนกัน แต่ว่าก็ยังนอนอยู่ในกล่องอยู่เลย
สงสัยว่า ปีนี้อากาศเย็นๆ แบบนี้น่าจะได้งัดออกมาจัดการ
บ้างแล้วล่ะคะ ...แต่ว่าชีสบ้านเรามันน้อย หาซื้อยาก
สงสัยว่าจะต้องโผล่ไปถึงเมืองเชียงใหม่ล่ะคะ จะได้แบบว่า
หาซื้อได้ง่ายขึ้นบางที ..


โดย: JewNid วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:7:15:30 น.  

 
นี่ชั้นมาเยี่ยมเธอช้าขนาดนี้เลยเหรอ ขอโทษด้วยนะ
ว่าแต่เธอทำหน้าตาได้เหมือนชอบชีสจริงๆ เนียนมากๆ

คุณพลยังคงดูหล่อและหุ่นดีเหมือนเดิม แม้จะชอบกินชีส ทำไมงั้นเนอะ มีเคล็ดลับอะไรอ่ะ


โดย: anchesa วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:9:26:09 น.  

 
อ้ายพ๊นนน

สวิงสวาย แปลว่าหยังคั๊บบ



โดย: peeradol33189 วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:13:02:45 น.  

 
พลเดินทางวันไหนเอ่ย แล้วไปฮอลิเดย์ที่สวิสกี่วันจ๊ะ เอากางเกงตัวหลวมๆไปนะ เจอเนื้อ นม ชีส เดี๋ยวกุงเกงจะปริซะก่อน อิจฉาอ่ะ ดินแดนในฝันของพี่เลยนะนั่น ถ่ายรูปมาฝากพี่เยอะๆเลยนะ แล้วจะตั้งตารอบล็อกหน้าของพลจ้า

ผลสอบน้องออกเมื่อไหร่ แม่มันเวิร์ลไวด์เว็บแน่นอนจ้า ไม่ต้องห่วง วันนี้พี่โทรไปหาน้องที่อยู่หาดใหญ่ เค้าบอกว่าเด็กหาดใหญ่ว่าข้อสอบง่ายอ่ะพี่ปุ้ม อุ๊ยตาย ฟังแล้วเสียววุ้ย สงสัยลูกเราคงต้องอยู่ใต้ปีกแม่มันจนสาว กะจะเอาไปปล่อยซะหน่อย พลรับเลี้ยงบ้างมัียล่ะ


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:20:30:46 น.  

 
อยากกินมากแต่กลัวเมาอะ


โดย: บีม IP: 101.108.122.243 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:33:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aoigata
Location :
Biel Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add aoigata's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.