Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
แขกดอยที่อินเนอร์ มองโกลเลีย

ต่อจากบล็อกที่แล้ว ที่พาไปเที่ยวทะเลทราย ที่อินเนอร์มองโกลเลีย มาบล็อกนี้ดูกันสะหน่อยว่าคนแถวโน้น เค้ากินอะไรกันบ้าง เริ่มแรกเท่าที่เห็น ก็จะคล้าย ๆ คนปักกิ่งนะ กินเจี่ยวจึ 饺子(คล้าย ๆ ครือ ๆ กะเกี๊ยวมีไส้ข้างในให้เลือกเยอะแยะ) เปาจึ 包子ก็จะเหมือน ๆ คล้าย ๆ ซาลาเปาบ้านเรานี่แหละ เพียงแต่ของเค้าเนี่ย จะกินเป็นเรื่องเป็นราวกว่าบ้านเรา คือกินเป็นอาหาร ไม่ได้กินเป็นของกินเล่นเหมือนบ้านเรา แถมไส้ก็ไม่ใช่แค่ไส้เค็ม ไส้หวานเหมือนบ้านเรา มีหลากหลายไส้กันเลยทีเดียว ทั้งไส้เนื้อหมู เนื้อวัว ไส้ผัก เรียกว่ามีเยอะแยะตาแปะไก่ให้เลือก ใครใคร่กินไส้ไหนก็สั่งได้ตามใจชอบ เช้าแรกที่ไปถึงออร์โดส เพื่อนหลงพาไปกินอาหารเช้า ก็ซาลาเปานี่แหละ พี่แกจะสั่ง 10 ลูกต่อคน พลรีบส่ายหน้าดิกเลย กินไม่หมดแน่ ๆ



พวกคุณชาย ทั้งหลายเค้ากินกับซุป 汤 (ทาง) แต่พลไม่อยากกินซุป (อาหารประเภทซุป ๆ เนี่ยบอกตรง ๆ ว่าไม่ชอบกิน) หลงเลยสั่งอย่างอื่นมาให้กิน ตอนแรกไม่รู้ว่าอะไร เค้าก็คะยั้นคะยอเหลือเกิน พลก็เอา สั่งก็สั่งกินก็กิน พอพนักงานเอามาเสริฟ กรูเอ๊ย ไม่ใช่ซุปก็คล้าย ๆ ซุปแหละวะ มันก็ข้าวต้มบ้านเราดี ๆ นะเอง แต่เป็นข้าวสีดำ คล้าย ๆ ข้าวเหนียวดำบ้านเรา แถมเป็นข้าวต้มจริง ๆ นะ ไม่มีรสชาดอะไรเล๊ยยยย สักนิดเดียว จำใจเขี่ย ๆ คน ๆ กินไปสองสามช้อน ไม่ไหวจะเคลีย ไม่ชอบกินข้าวต้ม และแล้วพวกคุณชายทั้งหลายก็บรรเลงเพลงยุทธ ซดกันโฮกฮาก ๆ กระเหรี่ยงหน้าดำ ก็ได้แต่นั่งมองลอกแลก ๆ นึกในใจ กินกันเบา ๆ ได้ไหมเนี่ย



และแล้วก็ถึงคราวที่ได้เป็นแขกตี้ แหม รู้สึกเป็นเกียรติเหลือเกิน ไม่นึกไม่ฝันว่ากระเหรี่ยงหน้าดำ ๆ อย่างพลจะได้รับเกียรติเช่นนี้ ก็ตอนทีไปเมือง หางจิ่นฉี นี่แหละ ที่ต้าเจี่ย แล้วก็ลูกและเพื่อนของเค้า พาพลไปกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารมองโกล มองจากข้างนอก พลกรี๊ดกร๊าดน่าดูเลย คือเค้าทำเป็นกระโจม ๆ เหมือนบ้านคนมองโกลที่เห็นตามโปสเตอร์ หรือรูปภาพที่เค้าถ่ายมาจากมองโกลเลียเลยนะ (กะว่ากินข้าวเสร็จจะออกมาถ่ายรูป) แต่ข้างในเนี่ย เค้าก็ประยุกต์เป็นแบบทันสมัยหน่อย มีแอร์ติดอย่างดี ตกแต่งก็พอใช้ได้ ไม่ได้เลิศหรูอะไร แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เริ่มแรกก็เป็นอาหารจำพวกจานเย็น จานแรกเป็นผักดองน่าจะเป็นกระหล่ำปลี กับผักอะไรอีกอย่างไม่รู้จักอะ เปรี้ยวมากกกกกกกก



จานต่อมา จะเรียกว่าอะไรดีอะ มันน่าจะเป็นโยเกิร์ตนะ (เล่าให้เพื่อนที่ปักกิ่งฟัง เค้าก็ว่าแถวนั้นนะ โยเกิร์ตเค้าอร่อย และขึ้นชื่อ) ผสมมากับเม็ด ๆ สีเหลือง หลงเล่าว่าเม็ดเหลือง ๆ อันนี้ปลูกได้เฉพาะแถวนี้นะ ดู ๆ ไปคล้ายเม็ดถั่วเหลืองอะ แต่เล็กกว่าหน่อยนึง แข็ง ๆ



มีเสริฟมาต่างหากด้วย หน้าตาเป็นอย่างนี้ แข็งมากขอบอก เวลากินต้องใช้พลังในการขบเคี้ยวน่าดู



จานต่อมาเป็นเหมือนผัดบะหมี่ แต่เส้นบะหมี่บ้านเค้าออกจะใหญ่นิดนึง แถมสีสันไม่ค่อยน่ากิน อุตส่าห์เลี่ยงไปมาแล้วนะ แต่หลงดันคะยั้นคะยอ (เขียนถูกปะเนี่ย) ให้กิน เอ้ากินก็กิน รสชาดหยึย ๆ ออกเผ็ด ๆ



จานต่อมา พลเรียกไม่ค่อยถูก ใครพอรู้วานแก้ไขให้ทีนะ เท่าที่รู้ มันเป็นประมาณว่า พอเค้ารีดนมแพะ หรือแกะมา ก่อนที่จะทำโยเกิร์ต มันจะมีฝ้า ๆ นมลอยอยู่ข้างบน เค้าก็จะช้อน ๆ เอาฝ้า ๆ บนหน้านม เอามาทำเป็นแผ่น ๆ อย่างนี้ กินกับซุปชานมแพะ ก็อร่อยพอใช้



แล้วก็มาถึงของร้อนบ้าง เป็นซุปชานมแพะ หรือแกะนี่แหละ (เพื่อนที่ปักกิ่งบอกอีกแล้ว ว่าของเค้าอร่อยขึ้นชื่อมากกกกกกกก ) ตอนยกมาเสิร์ฟพลแบบตกใจ ใหญ่มาก



ตอนกินเนี่ย เค้าก็ตักแบ่งใส่ถ้วยเล็ก ๆ ซิ้มต้าเจี่ยเนี่ย เธอตักเจ้าเม็ดสีเหลือง ๆ ใส่ลงไปด้วย ส่วนคนอื่นเนี่ย ก็ตักใส่ถ้วยเป็นพอ ว่าแล้วก็บรรเลงเพลงซด ซู๊ด ๆ ซ๊าด ๆ กันระงมเซ็งแซ่ไปหมด พลก็เอ้า 入乡随俗 (รู่เซียงสุยสู) เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เค้ากินพลก็กิน แต่ไม่ได้ซดเสียงดังเหมือนเค้าเด้อ กินไปได้คำ มันมีรสชาดอะไรที่ไหนเนี่ย ไม่เห็นจะอร่อยเลย



อันต่อมา ไม่รู้จะเรียกอะไร เห็นแล้วนึกถึงโรตีกรอบ เพียงแต่ไม่มีน้ำตาลเคลือบมาแค่นั้นเอง รสชาดใด ๆ ไม่มีอีกตามเคย พลใช้กินกับซุปชานมแพะ มีตัวช่วยก็แล้ว ซุปก็ยังไม่อร่อยในความคิดของพล



เจ้าชานมแพะเนี่ย มีตัวเสริมมาช่วยสองอย่าง คือชีสแพะ (มั้ง คือไม่แพะก็แกะเนี่ยแหละ) กับเนย ใครอยากใส่ตัวไหนก็ตามสบาย พลเลือกใส่เนยไปในซุปหน่อยนึง ก็ยังไม่อร่อย อันนี้เป็นชีส



เจ้านี่คือเนย



จานต่อมาเป็นไส้กรอกเลือด บอกตรง ๆ เลยนะ ว่าพลไม่ได้แตะสักคำเลย เสิร์ฟมากับน้ำจิ้ม ตอนนั้นนึกอยู่ในใจว่าถ้าใครมาคะยั้นคะยอให้กินไส้กรอกเลือดนี่นะ จะกรี๊ดใส่หน้าเลยละ จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ ไส้กรอก ไส้อั่วบ้านเรานะ เพียงแต่มันดูเหมือนไม่สุกดีแค่นั้นเอง หรือพลจะคิดมากไปก็ไม่รู้แน่ แต่ที่แน่ ๆ ไม่กล้ากิน





มาถึงทีเด็ด เด็ดสุด ๆ เลยนะ ทำเอาพลอยากลุกหนีออกจากวงกินข้าวเลยจริง ๆ ก็จะอะไรละ เค้าเล่นเสิร์ฟ หัวแพะ หรือแกะไม่รู้อะ ต้มมาสะเปื่อย แถมอ้าปากมันสะแบะเลย น่ากลัวสุด ๆ ไม่ได้ดูน่ากินเลยสักนิด ดูเอาเองละกัน จะหาว่าพลดัดจริตก็ยอมละ



หนุ่มมองโกลที่นั่งใกล้ ๆ พลนะ พี่แกเล่นควักลูกตาแพะออกมากินอะ พลเห็นแล้วแบบต้องเบือนหน้าหนี คือแบบทนไม่ไหวจริง ๆ แล้วหนุ่ม ๆ มองโกลเนี่ยนะ ดื่มเหล้ากันจัดมาก สั่งอาหารมาเยอะแยะ ไม่ค่อยจะกินกันหรอกนะ ได้แต่ดื่ม 白酒 (ป๋ายจิ่ว) หรือเหล้าขาวนะเอง ดื่มอย่างเดียวพอว่า สูบบุหรี่ 抽烟 (โชวเยียน) กันโขมงโฉงเฉงอีกแนะ พลนึกว่าอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตตอนที่เค้าพ่นดรายไอซ์สะอีก เยอะมากกกกกก ทนไม่ไหวต้องส่งข้อความไปให้คุณคำรณช่วยเหลือ



พอคุณคำรณโทรมา พลก็ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ก็บ่น ๆ กะเค้าไปว่าไม่ไหวจริง ๆ นะเธอ ฉันกินอะไรแทบไม่ได้เลย แต่เค้าคะยั้นคะยอให้กินอยู่นั่นแหละ จะทำไงดี ไหนจะเหล้าอีก บอกว่าไม่ดื่ม ๆ แม่มก็จะให้ดื่มให้ได้ เป็นไรกันมากไหมเนี่ย ตาคำรณฟังก็ได้แต่หัวเราะ พี่แกก็คงไม่รู้จะช่วยไงอะน้อ เรื่องหัวแพะเนี่ย หลงกระซิบว่า เธอเป็นแขกพิเศษเลยนะ เค้าถึงได้เสิร์ฟเธออย่างนี้เนี่ย นึกในใจว่าฉันควรจะดีใจไหมเนี่ย

นั่งนึก ๆ อยู่ว่ากรูจะทำไงดีวะ ไม่อยากให้พวกเค้ารู้สึกว่าเราไม่อยากกินอาหารเค้า เลยลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่หลงเดินตามออกมา ถามว่าจะไปไหน พลก็ว่าจะไปห้องน้ำ หลงเลยบอก ตามมานี่ห้องน้ำมันอยู่ข้างนอกร้านอาหาร แถมตอนพาพลเดินไป หลงการันตรีสะด้วยนะ ว่าห้องน้ำที่นี่ต้องเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตของเธอเลยนะ ฉันมั่นใจ

ตอนได้ยินก็ไม่ได้คิดไรมาก แต่พอเดินไปถึงหน้าห้องน้ำ เริ่มเอะใจ พอเข้าไปในห้องน้ำเท่านั้นแหละ พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย อยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ แบบเสียสติ จะบรรยายยังไงให้นึกภาพกันออกดีนะ

ตอนเป็นเด็กประถม ปิดเทอมหน้าร้อนทีไร พ่อพลก็จะส่งพลไปอยู่บ้านป้าทุกหน้าร้อนเลยนะ แล้วบ้านป้าเนี่ย ก็ยังแบบบ้าน ๆ ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ห้องน้ำห้องส้วมไม่ต้องไปพูดถึง ตอนนั้นเด็กไง ห้องน้ำไม่มีไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่ห้องส้วมเนี่ย บ้านป้าแกใช้วิธีขุดหลุมลึก ๆ แล้วใช้ไม้สองอันพาดปากหลุม ใครอยากจะมาถ่ายหนักถ่ายเบาก็ทับ ๆ ถม ๆ กันไป เวลาทำธุระเสร็จก็ต้องใช้ไม้เช็ดก้นเอา อิ๊วววววว นึกภาพกันออกหรือยัง แมลงวงแมลงวันก็บินกันให้ว่อน แต่อันนั้นนะ หลุมเดียวไง

แต่ที่หางจิ่นฉีเนี่ย หลายหลุมเรียง ๆ กันไป แต่ดีกว่าบ้านป้าพลหน่อยตรงที่ปากบ่อเนี่ย เค้าราดซีเมนต์ แข็งแรงกว่าว่างั้นเถอะ แต่ที่เด็ดแสนเด็ดเนี่ย ก็คือว่า มันเป็นแบบจีน ๆ ไง คือมันก็จะมีผนังกั้นคล้ายเป็นห้อง ๆ แต่ไม่มีประตู คือใครทำธุระอยู่ห้องหน้าสุด คนที่จะผ่านไปห้องท้าย ๆ ก็ต้องเห็นแน่นอน และที่เด็ดกว่าเด็ดสุดคือ แมลงวันประมาณล้านแปด บินกันให้ว่อนเลย ไหนจะภาพ เสียง สี กลิ่น เรียกว่ามากันครบเลยทีเดียว พลขี้หดตดหายทันที อยากจะกลับปักกิ่งสะให้รู้แล้วรู้รอด พอออกมา ได้แต่ยิ้มแหะ ๆ ใส่หลง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก นึก ๆ แล้วว่าจะพูดไรก็คงไม่เหมาะ เค้าอยู่กันมาอย่างนี้ ร้อยวันพันปี เค้าก็ไม่เดือดร้อน เราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม แต่ออกมาเนี่ยจากที่อาหารไม่อร่อยอยู่แล้ว ก็แทบจะกินอะไรต่อไม่ได้เลย

แต่อาหารมื้อมันยังมีต่ออีกนะ อาหารที่กิน ๆ ไปเนี่ย มันยังไม่ใช่อาหารกินจริง แค่อาหารกินเล่นเท่านั้น อาหารจานหลักของเค้ามากันสุดท้ายเลยนะ จานใหญ่มาก เป็นผัดเนื้อแกะ กับจะบอกว่ายังไงดี มันเหมือนแป้ง ๆ อะ แล้วก็มันฝรั่ง ปรุงนานมาก เพราะพลเห็นว่าปรุงตั้งแต่เดินไปเข้าห้องน้ำ จนกลับมานั่งตั้งนานก็ยังไม่มาเสิร์ฟ แต่อารมณ์ตอนนั้นคือกินแทบจะไม่ลงแล้วจริง ๆ นะ หลังจากห้องน้ำ แต่ลอง ๆ กินดูก็อร่อยอยู่ แต่กินไม่ไหวจริง ๆ แล้วซิ้ม กับ ตี๋ ๆ ทั้งหลายนะ ก็ไม่ค่อยกิน สั่งกันมาเยอะแยะ พอพลถามว่าแล้วทำไมพวกคุณไม่ค่อยกินกันละ เค้าก็ว่า เค้ากินอาหารพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เบื่อแล้วไง แต่นี่เค้าสั่งมาให้พวกพลกิน เค้าว่าพวกเธอเนี่ย เป็นแขกพิเศษ ได้ฟังแล้ว ดีใจน้ำตาไหลปรี่ ๆ เลย



สรุปว่าสติแตกตั้งแต่ไปเข้าห้องน้ำ ออกมา ไม่ได้ถ่ายรูปกระโจมจากข้างนอกมาให้ดูเลย เสียดายจริง ๆ

หลังจากไปเที่ยวดูทะเลทรายก็มาถึงมื้อเย็นกันสักที ใจแบบไม่เอานะไม่เอา อย่าพากรูไปเลี้ยงอะไรอีกนะ กรูดื่มน้ำก็นอนได้แล้ว ไม่อยากกิน แต่ด้วยความมีอัธยาศัยไมตรีของหนุ่ม ๆ มองโกลเค้าก็พาไปเลี้ยงอาหารเย็น

ร้านที่เค้าพาไปกินเนี่ยเป็นร้านบ้าน ๆ แบบข้างทาง ใครขับรถผ่านที ฝุ่นนี่ฟุ้งตลบอบอวลไปหมด คือมันก็ไม่ถึงกะเข้ามาในร้านแบบเต็ม ๆ หรอกแต่เห็นแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ไงว่า แหม ฝุ่นมันคลุ้งได้ใจไปหนึ่งดวงจริง ๆ

จานแรกเค้าเป็นปลา เหมือนปลาทอดพริกบ้านเราอะ แต่เห็นหน้าตาแล้ว พลไม่อยากจะกินเลยจริง ๆ ลองกินไปหน่อยนึง บอกไม่ถูกว่ายังไง รู้แต่ว่าไม่อร่อย



จานต่อมา เค้าว่ามันเป็นหมู กินหรือเปล่าจำไม่ได้อะ



ต่อมาเป็นเต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า กินไปหน่อย ไข่เยี่ยวม้าเนี่ยชอบกินเฉพาะตอนทำผัดกระเพรา ไข่เยี่ยวม้าที่เค้าเสริฟมาเป็นออร์เดิร์ฟเนี่ย ไม่กินจริง ๆ ให้ตายยังไงก็ไม่กิน (พลเรื่องมากไปไหนเนี่ย อะไร ๆ ก็ไม่แหลก ทีน้ำพริกปลาร้าละแหลกล่ายแหลกลี )



ต่อมาเป็นยำเห็ดหูหนู ก็พอกินได้



จานนี้อร่อยสุด ๆ แล้วอะ จากอาหารทั้งหมดที่ได้กิน ขอยกจานนี้ให้เป็นที่หนึ่งเลยละกัน ตอนแรกไม่กล้ากินให้จางกินก่อน จางก็ว่ากินได้ ๆ พลเลยลองกิน หะแรกจางเธอว่าเป็นเต้าหู้ แต่พลกินแล้ว พลว่ามันเหมือนหมูยออะ อร่อยมาก อาตี๋ทั้งหลายพอเห็นพลชอบกิน แหม รีบสั่งมาให้เบิ้ลกันเลยทีเดียว อร่อยได้ใจไปอีกดวงเลยจ้า



จานถัดมาเป็นถั่วงอกผัด (มั้ง) กินได้อยู่



หลังจากจานนี้แล้ว อาหารก็ไม่มีเสริฟอีก พลก็ว่าคงหมดแล้วมั้ง อาตี๋ทั้งหลายก็ทั้งดื่มทั้งสูบ 一边喝酒一边抽烟 (อีเปียนเหอจิ่ว อีเปียนโชวเยียน) แล้วก็อีกตามเคย คะยั้นคะยอให้พลดื่มเหล้าอยู่นั้นแหละ เค้าว่าเป็นธรรมเนียมของเค้า มีแขกมาเยือน ก็ต้องดื่มต้อนรับกันหน่อย แขกก็ต้องดื่มเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเค้าด้วย พลนะอยากจะกรี๊ดใส่หน้าจริง ๆ กลั้นใจดื่มไปจอกนึง แม่มก็ยังไม่หยุดกัน จะบ้าตาย ใครอย่าไปเอาหนุ่มมองโกลเป็นลูกเป็นผัวเชียวเน้อ จะหาว่าไม่เตือน

นั่งเม้าท์ไป มองโน่นนี่ไป เห็นพ่อครัว แล้วแบบแหมจะไหวไหมละนะพ่อคุณ หุ่นสะมาสะโอดสะองแท้ ๆ สงสัยอาหารตัวเองยังไม่ถูกปากตัวเองเลยมั้ง นั่งกันนานมาก นานจนพลคิดว่าคงจะกลับบ้านกันแล้ว ที่ไหนได้หลงมากระซิบว่ายังมีอาหารเด็ดสำหรับแขกพิเศษ คือปลาจากแม่น้ำเหลือง 黄河 (หวงเหอ) หมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำเหลืองมากนักไง พลก็ได้แต่คิด ตาย ๆ จะกินเข้าไปไหวไหมละเนี่ย



อร่อยใช้ได้เลยนะ กินไปแล้วนึกถึงปลาช่อนบ้านเราอะ แล้วนะเสิร์ฟทีตั้งสี่ตัว ตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แต่พลนะกินอย่างอื่นจนอิ่มไปก่อนหน้าแล้วไง อาหารที่กินเข้าไปก่อนหน้านี่ ตอนนั้นกระจุกรวมกันอยู่ที่คอหอยแล้ว



กว่าจะเสร็จจากอาหารเย็นมื้อนั้นได้ ไม่รู้จะร้องเพลงอะไรกันเลยทีเดียว ทั้งบุหรี่ ทั้งเหล้า กินเสร็จก็สักสี่ทุ่มกว่าแล้วมั้ง ยังมีการพาไปเที่ยวเธคแถวนั้น ตอนแรกได้ยินนึกว่าหูฝาด คือมันเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ไง ไม่นึกว่าจะมีดิสโก้เธค ไอ้เราก็อยากจะกลับไปนอน แต่เค้าจะไปกัน เอ๊าไปก็ไป พอไปถึงเธค ขนาดเป็นคืนวันเสาร์นะ แทบจะไม่มีคน ผีจะหลอกตาย หน้าเวทีมีแปะ กับ ซิ้ม เต้นยอก ๆ แยก ๆ อยู่สองสามคน ต๊าย ๆ นี่หรือเธค พอหนุ่มมองโกลสั่งเบียร์ หลงมากระซิบพลว่า ไปเต้นดีกว่านะ ถ้านั่งอยู่เค้าต้องคะยั้นคะยอให้ดื่มอีกแน่เลย พลก็เลยออกไปเต้นสักพัก แต่แบบไม่ไหว เต้นไม่เป็น อายตัวเอง กลับไปนั่งโต๊ะดีกว่า ดีว่ามีคนสั่งน้ำผลไม้มาด้วย แต่ก็ยังไม่วายเจ้ากรรมนายเวร อีหนุ่มมองโกลผอม ๆ มันก็เสือกจะมาชนขวดกะพลอยู่นั่นแหละ แล้วนะไม่เบียร์แม่งไม่ยอม อยากจะกรี๊ดใส่หน้ามันจริง ๆ

ผ่านคืนนั้นมาได้ ดีใจน้ำตาแทบไหล นึก ๆ อยู่ในใจกรูอยากกลับปักกิ่ง

ตอนเช้าตื่นมา หลงกับจางตื่นนอนออกไปข้างนอกหมดแล้ว เหลือแต่พลกับซิ้มต้าเจี่ยสองคน คุยกันพอรู้เรื่องว่า อั๊วจะพาลื้อไปกินข้าวเช้า พลก็เออ ๆ ออ ๆ จริง ๆ นะไม่ได้หิวเลย หะแรกแกพาไปหน้าหมู่บ้านแก เดินถามร้านโน้นร้านนี้ว่ามีอาหารชื่อ....นี้หรือยัง (ฟังไม่รู้เรื่อง) แต่รู้เรื่องที่เค้าตอบมาว่า ตอนนี้ไม่มี จะมีก็ตอนบ่ายหรือตอนเย็นโน่นแหละ

หะต่อมา ซิ้มเลยโบกแท็กซี่ แล้วโทรนัดกะหลงว่าอั๊วกำลังจะไปตรงนี้ ๆ นะ ลื้อตามไปสมทบละกัน ตอนอยู่ในแท็กซี่ พลละกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ คือแท็กซี่นะเล็กมาก แต่ตัวซิ้มแกใหญ่เกินรถ เข้ารถปุ๊บปิดประตูรถไม่แน่นไง ผลนะหรอ นั่งรถไป คุยโทรศัพท์ไป ประตูรถก็ไหว ๆ เปิดเข้าเปิดออก ซิ้มก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย มัวแต่คุยโทรศัพท์ จนถึงตอนเข้าโค้งประตูเปิดจนอ้า พลหัวเราะก๊ากออกมาเลยแล้ว

สุดท้ายก็ไปถึงร้านอาหารแบบข้างทาง ตอนลงรถเจอหลงกับจางพอดี เห็นปลาท่องโก๋เค้าแล้วแบบอลังการงานสร้างมาก คนอื่น ๆ เค้าสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน แต่พลแบบยังไม่หิวมากไง เลยสั่งปลาท่องโก๋มาสองชิ้น (ไม่ได้เป็นคู่นะ มาเป็นเดี่ยว ๆ ) ใหญ่ยาวแค่ไหน ดูเอาเองละกัน





ยาวแท้ยาวว่าเน้อปาท่องโก๋ที่นั่น มองโต๊ะข้าง ๆ เหมือนเค้าจะสั่งมากินกับน้ำเต้าหู้ (มั้ง) สีมันเหมือนน้ำเต้าหู้บ้านเราจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร ส่วนซิ้ม หลง แล้วก็จาง สั่งก๋วยเตี๋ยวมาบรรเลงเพลง ซู๊ดซ๊าดกันคนละชาม



ซิ้มกินไปก็ถามพลไปว่าอิ่มไหม จะอิ่มหรอ แค่สองชิ้น พลก็เลยว่าเพิ่มอีกสองชิ้นก็ได้ แต่เผอิญมันหมดสะแล้ว ซิ้มก็พยายามมาก ที่จะหาอย่างอื่นมาให้กิน พลก็ว่าไม่ต้อง ๆ อิ่มแล้ว แต่แกก็พยายามมาก คือซิ้มแกน่ารักนะ กลัวแขกจะไม่อิ่ม แต่มันมากไปนะซิ้มนะ กะจะให้อ้วนกลับปักกิ่งกันเลยทีเดียว

ก่อนกลับเมืองออร์โดส ก็ทำกับข้าวให้ซิ้มกินสองอย่าง อย่างที่เล่าให้เมื่อครั้งที่แล้ว คือแกงเขียวหวาน กับ แกงเลียง ซิ้มชอบอกชอบใจ บอกว่ามาเปิดร้านอาหารที่นี่กันเถอะ แล้วกลับมาอีกนะ ปากพลก็บอกว่าเอาไว้มีเวลาแล้วจะมาอีกนะซิ้ม แต่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ มาบ่อย ๆ คงไม่ได้ ส่วนในใจนะหรอ ครั้งเดียวก็พอแล้วมั้งซิ้ม



ซิ้มเนี่ย ตอนเจอหน้าพลครั้งแรก คำถามแรกที่ซิ้มถามพลคือ แต่งงานหรือยัง พอคุณคำรณไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ซิ้มแกก็ถามคำถามนี้แหละกับคุณคำรณ สงสัยว่าการแต่งงานนี่ สำคัญมากสำหรับซิ้ม หรืออาจจะสำคัญสำหรับคนแถวโน้นก็ได้ คุณคำรณเนี่ย เธอว่าซิ้มถึงขั้นทำให้อารมณ์เสีย พอรู้ว่าคุณคำรณยังไม่แต่งงาน ซิ้มก็เฝ้าถามอยู่นั้นแหละว่าทำไมยังไม่แต่งงานสะที ซิ้มหนอซิ้ม ถ้าพลไปเปิดร้านอาหารแถวโน้นจริง ๆ สงสัย ซิ้มจะต้องหาเมียให้แหง ๆ ฟ้าผ่าตายเลยนะซิ้ม

ป.ล.มีอยู่อย่างที่ช๊อบชอบ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา คือตอนนั่งรถแท็กซี่ผ่านตลาด เห็นรถกระบะ น่าจะรถหกล้อนะ ที่กระบะหลังรถ มีพวกผักสวนครัว พวกหอมผักชี ผักเล็ก ๆ น้อย ๆ เค้าเล่นยกเอามาขายแบบแซะหน้าดินมาเลย คือเรื่องความสดเนี่ยหายห่วง สดแท้ ๆ เพราะยกมาเป็นดินทั้งกระแบะเลยทีเดียว เสียดายเห็นแว็บ ๆ แค่สองรอบ ตอนอยู่ในรถทั้งนั้นเลย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกันเลย


Create Date : 27 มิถุนายน 2553
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 14:47:56 น. 30 comments
Counter : 2114 Pageviews.

 
อ่านจบแล้ว ภาพห้องน้ำยังติดตาอยู่เลยค่ะ
55555 เที่ยงนี้จะทานอะไรลงมั้ยเนี่ย


โดย: หกพันไมล์ วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:12:24:17 น.  

 
Argentina!!!...Argentina!!! สู้ๆๆๆ
Go for goal !!!!.



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:12:46:05 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:13:12:56 น.  

 
ดีจ้าคุณพล

คลิกตามมาทันด่วนเลยจากเม้นท์ล่าสุดของคุณพลอ่ะ
เอ .. แปลกนา ทำไมคุณพลเจอกล่อมเม้นท์สีขาวบ๊อยบ่อย
ก็ไม่รู้ค่ะ เอ หรือตอกย้ำว่าคุณพลคือคุนพิเศษ ฮี่ๆ

บล็อกงวดนี้ บรรยากาศของอาหารบนโต๊ะเล่นทำเอาเราหยึกยึ๋ย
ไปหลายอย่างเหมือนกันนะค่ะ คือ เห็นแต่ภาพอาหารบางอย่าง
ก็ดูแปลกจริง แบบว่าบางอย่างก็ไม่น่ากิน แต่ว่าบางอย่างก็น่าลอง
อย่างนี้มั้งเน๊าะ ไปต่างบ้ายต่างเมืองเราก็ต้องลองและก็
ชิมให้ได้เยอะหน่อย ไม่ชอบก็จะได้รู้ว่าหนหน้าไม่กินอีกแต่ว่า
ก็ลำบากใจที่เวลาเค้าเอาออกมารับรองเราไม่ชอบแต่ก็ต้อง
ฝืนกันหน่อย ... เลยรู้ล่ะค่ะว่าเวลาที่มีแขกมาแล้วพาเค้าไปกินอาหาร
พื้นบ้านก็ต้องขอแต่พอดี ไม่บังคับเค้าเยอะเดี๋ยวเค้าเกิด
อาการไม่อยากอาหารเลยตลอดทริปแล้วจะยุ่งเน๊าะ 55+

อาหารทางโน้นเค้ามีผลิตจากวัตถุดิบนมแพะเยอะนะค่ะ
มีทั้งชีส แผ่นแป้ง ฟองเต้าหู้ (เค้าเรียกว่าไรหนอเหมือนแผ่นแป้ง) นั่นล่ะค่ะ
เห็นแล้วก็ได้กลิ่นอบอวล .. เราเป็นพวกชอบดมกลิ่น
อาหารพวกนี้บางอย่างนะค่ะ แต่ว่าบางอย่างก็ชอบทั้งกลิ่นและรสชาติ
แต่ว่าบางอย่างได้กลิ่นอย่างเดียวก็อิ่มแล้ว เพราะมันตื้อๆ พอดู

แต่ย้ำๆ ค่ะว่าเห็นอาหารหน้าตาแปลกๆ แต่อยากลองจริงๆ ล่ะค่ะ
อยากรู้หนอว่ามันจะรสชาติปานใด .. ^^


โดย: JewNid IP: 124.157.186.118 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:13:24:19 น.  

 
หวัดดีจ้าพล

บล็อกนี้พลตั้งใจให้เป็นบล็อกเปิบพิศดารรึเปล่าเนี่ย เข้าใจอารมณ์ฝรั่งเวลาเห็นเรากินตับไตไส้พุง ขาไก่ เลือด อะไรเทือกนี้เลยอ่ะ คงรู้สึกอยากจะอาเจียนแล้วก็คิด มันกินเข้าไปได้ยังไงฟระ เหมือนกันเนอะ

เค้าเลี้ยงแขกกันน่ากลัวเนอะ เรียกว่าไม่อิ่มจนจุกไปถึงคอหอยก็ไม่ยอมเลิกราชิมิส์

เสาร์-อาทิตย์นี้ไม่ได้ออกไปไหนเลยอ่ะ ฝนตกหนักทั้งวันเลย ก็อยู่บ้านดูทีวีทั้งวัน สองพ่อลูกเค้าปิดเทอม ไปภูเก็ตกันสามอาทิตย์ ตอนนี้กำลังเอนจอยกับการดูหนังมาก ปรกติโดนลูกแย่งเล่นเกมส์ WII ไง

เมื่อคืนก็ทำเอาน้ำตาฟูมฟายกับ Seven Pounds ไม่รู้คืนนี้จะมีเรื่องอะไรเด็ด ๆ อีก





โดย: Oops! a daisy วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:13:44:10 น.  

 
อร๊าย....พลพี่กินส้มตำไปพักใหญ่ๆๆมันกำลังนอนรอลำเลียงจะออกทางตูด พอเห็นรูปอาหารที่พลเอามาลง มันดันขึ้นทางปากอ่ะ ฮือๆๆๆ พี่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดน่ะ เพราะรู้ดีว่าอิน้องมันต้องบรรยายถึงใจแน่ๆๆ

อาหารตาละอย่าง เล่นเอาพี่อิ่มทิพย์เลย โดยเฉพาะหัวแพะ หัวแกะอะไรของพลนั่นแหล่ะ

เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะเข้ามาอ่านอีกรอบ อย่าหนีอัพบล๊อกใหม่ล่ะ

บล๊อกพี่ก็เน่าแล้วเน่าอีก


โดย: เดินทางรอบโลก วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:14:14:26 น.  

 
อาหารนี้เรียงรายเต็มโต๊ะเลยนะมรึง ตายๆ ไม่อ้วนก็ให้มันรู้ไป
แต่รูปแต่ละอย่างนี้นะ ดูน่ากลัวเหมือนกันนะมรึง อีหัวแพะที่ตั้งบนโตอะ ดูแล้วสยองไปด้วยเลยวะ ยิ่งใส้อั่วนะ ถ้าเป็นกรูก็ไม่กล้ากินวะ ดูแล้วผัดถัวงอกน่าจะถูกใจกูสุดแหล๊ะ อิอิ





โดย: หญิงอวบ IP: 89.8.11.194 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:14:44:24 น.  

 
โอ๊ววววบร๊ะเจ้าฉากที่เข้าห้องน้ำอ่ะพลเล่นเอาพี่นึกภาพยังกะดูหนัง slumdog millionaire เลยนะ เจ้จะเป็นลมมมม เอิ้กกกก พลได้ดูรึเปล่าฉากที่เจ้าหนูน้อยตัวแสบโดดลงส้วมหลุมเพื่อจะเอาภาพไปให้ดาราดังเซ็นชื่อให้อ่ะ เพราะพี่ชายเค้าขังไว้ที่ส้วมอ่ะ เจ้จำติดตากลิ่นโชยออกมาจากจอหนังเลย กร๊ากกก


ฉากที่สองตัดไปที่จานเปิบพิสดาร คนมองโกลเค้าน่ารักนะ goat cheese เค้าคงอร่อยเหมือนของแขกจ้ะแต่พี่ไม่ชอบ เวลาเค้าต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองก็เต็มทืี่นะแต่ว่าพี่ก็คงเหมือนพลแหละ ไม่ได้กระแดะแต่พี่เรื่องมากนิดนึงแต่ไหนแต่ไรแล้วเรื่องกินยากเนี่ยแต่เล่นเอาหัวมาวางเลยพี่ก็ขอแอ๊บเป็นลมบ้าหมูเลยนะ ฮ่าๆ ปาท่องโก๋กับของกินเล่นที่เหมือนโรตีกรอบอ่ะทำให้พี่นึกถึงขนมที่ร้าน อุบลพันธ์( au bon pain) ฮ่าๆ แถได้อีกเจ้น่ะ

ฮามากตอนท้ายๆ ที่บอกเรื่องอาจจะหาเมียให้พลแล้วอาจจะฟ้าผ่าตาย พี่นึกถึงเด็กๆ ในสังกัดที่เมืองไทย เวลาบอกมันว่าชะนีส่งตาหวานให้ มันบอก " อีเจ้มันคะลำ(ผิดผี) หนูไม่อยากไปอ้วกรดจิ๊มิมันนะ" กร๊ากก ไปแระ อิอิ


โดย: Thairabian วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:15:41:51 น.  

 
เรื่องห้องน้ำในเมืองจีนน่ะพล น้าซึ้งมากเลยค่ะ

แล้วจะบอกให้ว่าคนจีนเขาไม่ชอบกินปลาทะเล ถ้าเพื่อนคนจีนมาเที่ยวเมืองไทย สั่งปลาบู่ปลาช่อนให้กิน เขาดีใจสุดๆ เหมือนเราได้กินหูฉลามแหละ

เสริฟหัวแพะ น่ากลัวจัง ยังดีไม่เจอหัวลิงสดๆ เล่นเอาลิงมาวางใต้โต๊ะ บนโต๊ะเจาะรูกลมให้กัวลิงโผล่ขึ้นมา แล้วเอาฆ้อนทุบโป๊กลงไป ตักสมองกินดิบ สดๆตรงนั้น สยิ๋วกิ๊วเลยแหละ อี้...

ตอนแม่ไปเมืองจีนเขาเสริฟกุ้งมังกรเป็นๆ เอาหัวกุ้งวางบนน้ำแข็งหนวดยังส่ายดุ๊กดิ๊กเลยค่ะ ยังถ่ายวีดีโอเก็บไว้เลย ซาดิสก์เน๊าะ

อาหารแต่ละพิ้นที่ก็กินตามแบบฉบับของใครของมัน มาเมืองไทยกินปล้าร้า อึ่งบ้างเขาคงสยิ๋วกิ้วเช่นกัน 555


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:16:02:38 น.  

 
ฮาที่สุดเลยเรื่องนี้อ่ะ อาหารแต่ละอย่างไม่น่ากินอย่างที่เธอว่าเลย แถมห้องส้วมอีก
เดี๋ยวมาอ่านต่อ


โดย: anchesa วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:17:31:30 น.  

 
ไม่ได้มาเยี่ยมพี่พลตั้งนานแน่ะ อยู่มองโกลซะแระ

อาหารที่เอามาให้ดู...พี่พลไม่ได้กระแดะหรอก เป็นหนู หนูก็กินไม่ได้อ่ะ

เคยดูสารคดี มองโกลนี่แหละ ถ้ามีแขกไปเยี่ยมเค้า หัวหน้าเผ่า (หรือเจ้าของบ้าน) จะต้องควักลูกกะตาแพะต้มให้แขกกิน แล้วแขกต้องกินต่อหน้าเค้าด้วย ถือเป็นการให้เกียรติ เค้าถือว่าลูกตาแพะเป็นเหมือนความรู้ ปัญญา เป็นของดีสุดของเค้า งี้

สามีตูน...ไม่ว่าจะว่าที่ ที่รัก หรืออะไรก็เหอะ

มันจบแล้วววววววววววว
คานแน่ๆ


โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:19:20:46 น.  

 
ฮ่าฮ่า.. ขำความมีน้ำใจของเค้า ช่างสรรหานั่นนี่มาให้คุณพลกินดีจริงๆ แล้วยกมาทั้งหัวแพะ แสยะยิ้ม... โอ้ยยย อิฉันคนนึงล่ะ ขอบาย....


โดย: Honey and Moonney วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:20:05:50 น.  

 
อันพลจ๊ะ พี่ขอเซย์กุ๊ดบายเลยนะ โดยเฉพาะงู แมงป่อง ม้าน้ำอ่ะ ถึงมันจะบำรุงสุขภาพเจ้ก็ขอกินแห้ว กินไก่ กินปลาร้าแทนแระกาน ฮ่าๆ ไม่ไหว แค่ได้ยินชื่อเมนูก็แทบกัดลิ้นชิงฆ่าตัวตายก่อนเลย อิอิ

อ้อพวกมาชวนขายชา หรือนวดหรือไกด์อ่ะเจ้ไม่แน่ใจ แต่มีซิ่มแก่กะโหลกกะลาเข้ามาถามเจ้เลยปะกิตผสมไทยใส่ชีเลยเบรคเอี๊ยดดแล้วปล่อยเจ้ไปตามยถากรรม ส่วนคนชวนไปซื้อภาพวาดในแกลลอรี่อ่ะมี๊ ชีบอกเป็นค่าเทอมแต่เจ้หมั่นตับเลยแอบบอกปรั๋วเจ้ว่า ถ้าชะนีนางนี้ยังเรียนอยู่หน้ากรูก็ประถมล่ะฟระ กร๊ากกกๆๆ ปากร้ายเนอะ แต่มันก็จริงนิ


โดย: Thairabian วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:20:55:51 น.  

 
เธอชั้นว่าเธอเขียนเรื่องนี้ได้อารมร์ขันมากที่สุดเลย ทำให้การท่องเที่ยวมองโกลเค้าต้องเกลียดเธอแน่เลย เพราะเล่ามาแต่ละอย่างชั้นไม่อยากไปเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ

อาหารก็ไม่น่ากิน ห้องส้วมก็ไม่น่ามอง

ขำที่เธอบอกว่า ไม่เอาแล้วนะ กินน้ำแล้วนอนเลยก็ได้ กับอารมณ์อยากจะกรี๊ดใส่หน้า ชั้นอ่านแล้วขำคนเดียว

ว่าแต่ซิ้มที่เธอพูดว่าประตูแท็กซี่เปิดผลัวะ เค้าไม่ได้ดูอ้วนเลยนะชั้นว่า

แต่มีคำถามอ่ะ ทำไมปาท่อโก๋เค้าต้องยาวขนาดนั้นฟระ ของคนไทยอันนิดเดียว ชั้นว่ามันสะท้อน ขนาดของชายแต่ละประเทศรึเปล่าวะ กร๊ากส์....ล้อเล่นนะ


โดย: anchesa วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:0:01:49 น.  

 
ซิ้มเค้าเป็นคนยุคเก่า
คิดว่าทางมีสองเส้นทาง
แต่ปัจจุบันมีทางทีสาม ที่สี่ ที่ห้า....
มากมาย ตามอัธยาศัย เนาะ อ้าย



โดย: peeradol33189 วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:12:58:58 น.  

 
น้องพลที่รักของปี้ เอ๊ย.. ป้า..

อาการซดโฮกดังๆนั่น บ่งบอกถึงความอร่อยเหลือแสน ยิ่งถ้าสะเดิ๊บต่อหน้าคนทำด้วยแล้ว ซดให้ลั่นไปถึงแกนในของตับไตไส้พุง คนทำจะยิ่งภูมิจายยย..

กร๊ากกก.. ขำพลว่ะ ไปกินอาหารชั้นเลิศหรูที่กินแทบไม่ได้ โอ้.. หัวแพะหัวนั้นสุดยอดดดด.. ไอ้ที่เขาดื่มกันจัดๆ คงเพราะย้อมใจให้ตัวเองต้องทนกินของชืดๆ หน้าตาแปลกๆรึป่าวอ้ะ?

อ่านมาถึงตรงนี้ขำห้องน้ำกลิ้งเลยอ่ะ.. นึกภาพออกเลยละว่าเป็นไง ขำพลว่ะ กร๊ากกกก.. (ป้าโซต้องค่อยๆอ่านไปเม้นท์ไปนะ กลัวลืม เด๋วไม่ได้อารมณ์เม้นท์ หุหุ)

กระจุกอยู่ที่คอหอย.. ทำมั้ยยย.. ไม่ขอเข้าห้องน้ำไปล้วงคออ๊อกออกมาให้รู้แล้วรู้รอด เค้าอุตส่าห์เลี้ยงทั้งที เสียน้ำใจนา..

โอ้.. ค่ดพ่อค่อแม่ปาท่องโก๋ ฟาดไปตัวเดียวน่าจะแน่นิ่งนะ ช่างเป็นทริปที่เล่าได้ขำสุดใจ.. ขำในความโชคดี(เรอะ?)ของพล ถือเป็นเกียรติอย่างมากเชียวนะนั่นรับๆไปเหอะ


มาต่อด้วยเรื่องทีวีไม่ชัด ไอ้คำว่า"น้อ" รึป่าวที่ถามมา ป้าโซจะติดคำว่าเนอะมากกว่านะ แล้วขอโบก.. ศิษย์พี่มิใช่เป็นเด็กเต้ปจ้า.. เป็นคนเมืองชลตะหาก เด๋วปั้ดยิงทิ้งซะนี่

ที่แน่ๆ ป้าโซใช้อยู่คำนึงที่เพื่อนเต้ปหัวเราะเยาะ .. "กระแป๋ง" .. เคยใช้บ่? เป็นญาติกับกระป๋อง

บล็อกนี้ของพลถึงยาวมากกกกก แต่ก็ไม่เบื่อนะจ๊ะ เพราะหัวเราะกลิ้งเป็นระยะ จนไอ้ตัวเล็กมันถามแม่เป็นไร .. คริคริ..


โดย: ป้าโซ วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:15:53:11 น.  

 
เอ่อ ดูอันบน ๆ ก็หน้าตาพอจะกินได้นะ (ยังไม่รู้รสชาติ) แต่ว พอเริ่มเข้าสู่ไส้กรอกเลือดล่ะก็มันน่ากลัวมากกว่ากิน

ส่วนเจ้าหัวอะไรนั่นทำเอานึกถึงหนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง (ลืมชื่อค่ะ) มีอาหารประหลาด ๆ แล้วนางเอกกรี๊ดตลอด น่าจะเป็นพวกหัวลิงมั้ง

รัชชี่เป็นคนหนึ่งค่ะที่กินอะไรยากเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ สำหรับบ้านเมืองที่อาจจะมีวัฒนธรรมการกินไม่เหมือนบ้านเรา บางเมืองอยากไปนะคะ เช่น ตุรกี หรือพวกเนปาล แต่กลัวว่าจะกินอาหารบ้านเขาไมได้


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:19:04:17 น.  

 
oh my god... กินเข้าไปได้อย่างไร เยอะแยะตาแป๊ะไก่ คนลดน้ำหนักเขาอิจฉานะ งานนี้ถ้าขุนแล้วไม่อ้วนจะไม่ยอมให้กลับใช่มะ

ป๋าโก๋ยาวได้ใจมากๆ กินอันเดียวอิ่มไปสามวันเลยนะ


ปล... ซ้อสนับสนุนให้พลแต่งงานเหรอ สงสัยไม่ชอบคนโสด

โครงการมีลูกเรา ไปไม่ถึงใหนเลยพลเอ๋ย งานนี้สงสัยได้หย่ากันก่อนมีลูกแน่ เบื่อสามีเต็มที่แล้ว ไม่มีประสิทธิภาพ น้ำยาไม่ดี 555


โดย: คุณนายก้อ วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:20:42:52 น.  

 
ตามมาขอบคุณสูตรน้ำจิ้มสุกี้จาก blog ป้าโซค่ะ เลยมาเจอของดีของมองโกล ทั้งหมดทั้งปวงอยากกินตาแพะที่สุด (แหวะ)


โดย: kim_tiger วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:8:14:59 น.  

 
หวัดดีค่าพี่พล

โหหห ทานกันเยอะมักๆๆ เลย นะ กินหมดป่าวที่อยู่บนโต๊ะอ่ะ

น้องกบ และไอตี๋คือลูกของพี่น้ำ Darkdog ค่ะ

แล้วรูปน้องกบเพ้นหน้าทีมอังกิดน่ะ ใช้โปรแกรมในเฟคบุ๊คค่ะ

แหมถ้าแก้มได้เพ้นหน้าน้องกบเอง อาจจะโดนอีแม่มันตรบเอาก้อได้ข้อหาทำให้หน้าลูกเค้าเลอะเทอะ อิอิ


โดย: แก้ม IP: 116.48.132.200 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:9:38:51 น.  

 
ถ้าพลอยากเป็นเด็กก็ไม่ยากค่ะ

ก็แค่กินนมกะขวด เหมือนเด็กทั่วไป ก็เป็นเด็กแล้วอิอิ

ถามน้า จริงๆน้าเองก็อยากกลับไปเป็นสาวเอ๊าะๆ เหมือนกันค่ะพล อายุมันไม่ฟ้อง แต่แปดริ้วตรงขอบตามันฟ้องอ่ะ
จบกัน


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:15:27:03 น.  

 
กลับมาอ่านอีกรอบค่ะ ปกติป้าชอบดูแต่รูป อ่านไปอ่านมา นึกถึงคุณศศิวิมล เธอเขียนสไตล์นี้เลย
ป้าชอบ มันดี
ป้าอยู่แถววัดจันทร์ตะวันออกค่ะ
nagoya ไปเองซื้อตั๋วจากเอเบิลทัวร์แถวสุรสีห์
ไปตอนช่วงปลาย high season ราคาแพงกว่าทัวร์เกาหลีซะอีก น้องพลไปตอนนี้ซิถ้าว่าง ราคาเหลือครึ่งเดียวแต่ก็จะไปเจอฝน และร้อนนะ แต่ก็ดีกว่าบ้านเรา ร้อนนนนนนนนน ฝนก็ตกกระปริบกระปรอย


โดย: kim_tiger วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:8:23:06 น.  

 
แถบใต้ๆอย่างป้าโซนี่ ฝนตกตลอดนะจ๊ะ จะทำให้เซ็งต่อการเดินทางไปเที่ยวดูนั่นดูนี่.. แต่ถ้าล่วงเข้าปลายเดือนเจ็ดละก็ หุหุ ร้อนผิวผะผ่าวทีเดียวเชียวแหละ

ตามไปไล่อ่านเม้นท์บล็อกพลกับป้ากิ๋มแล้วไม่จบซักที ตอบกันไปกันมา คริคริ

อ๊ายยยย.. น้องพลที่รัก อันว่าดีใจเหมือนได้แก้วน่ะ ครือ ลิงนะจ๊ะ..ลิง.. เขาเปรียบเทียบเป็นลิงได้แก้ว แต่ลิงจะดีใจหรือเปล่านี่ไม่รู้นะ

เน่ๆ ระยองน่ะ เค้าฮิ ย่ะ ไม่ใช่ หิ วู้ยยยยย หวาดเสียววว.. ไปแระ


โดย: ป้าโซ วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:14:34:41 น.  

 
ดีขึ้นมากแล้วจ้า ขอบคุณจ้าพล ที่อัพบล็อกได้เพราะต้องรีบเขียนเดี๋ยวลืมมุขขำๆ ที่ตอกหน้าใส่ตี๋น้อยกับไวรัสซิ้มดำไง คริๆ สปิริตแรงเนอะ


พี่ว่าหากพี่พูดจีนได้คงโดนลักพาตัวไปโยนลอยอังคารแม่น้ำเหลืองแน่เรยยพล แอร๊ยยยย พี่นึกถึงตอนพลอ้วกแล้วพี่นึกถึงตอนพี่ไปกินข้าวร้านอาหารเล็กๆ ร้านนึงสะอาดนะ แต่กลิ่นบุหรี่มันทำให้พี่กระอักกระอ่วนคือนิดๆ ไม่ว่าแต่เหมือนโรงยาสูบอ่ะหายใจไม่ออกพี่เลยรีบวิ่งไปปล่อยในห้องน้ำ หมดเลยเหมือนกัน ออกมาไม่อยากจ่ายค่าอาหารเลย หายไปกับชักโครกหมด ส่วนเฮียเหม่งพี่ไม่ช่วยอะไรเพราะรายนั้นตัวแดงเถือกเพราะผื่นภูมิแพ้เหมือนกัน ทาคาลามายด์ให้จนผิวอมชมพู บริงค์ๆ เลย กร๊ากกก

ตอนนี้ที่เซี่ยงไฮ้ปูขนและหอยอะไรไม่รู้อร่อย อยากเอาไปฝากแต่กลัวโดนยึด เพราะฉะนั้นมากินสดๆ ที่นี่เรยยย ฮ่าๆ คุ้มและถูกจ้า เทคแคร์จ้าพล จุ๊บๆ


โดย: Thairabian วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:19:21:49 น.  

 
โห คนที่นี่เค้ากินกันหนักจริง ๆ เลย แต่ละอย่าง น่าลิ้มลองทั้งนั้น ก่อนจะลองปุ่นต้องลืมรสชาติอาหารไทยก่อน ห้ามเอามาเทียบกัน แต่คงต้องล้างลิ้นไปให้จืด ๆ ก่อน แล้วอาจจะเอ็นจอยได้ โฮ่ โฮ่ ชาตินี้จะได้กินกะเขาไหมเนี่ย

แต่ห้องน้ำ ไม่ไหวเนอะ แล้วทำไงล่ะเนี่ย ไม่ท้องผูกตายเหรอ ปุ่นทนเรื่องบุหรี่ไม่ค่อยได้ล่ะ สูบกันไปกินกันไป ไม่รู้ทำได้ไง

ขอบใจนะจ๊ะ ที่ยินดีเรื่องแหะ ๆ อายจัง ก็เอาเป็นว่าคนแรกให้รอดก่อนละกัน แล้วจะมีเผื่อนะ อยากเป็นพ่ออุปถัมภ์ล่ะซี้



โดย: Bananarumba วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:20:06:00 น.  

 
ไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้ค่าโฆษณาด้วยค่ะ คือมันง่ายไง เลยไปซื้อกะเค้าเท่านั้นเอง
ป้าก็ว่าไป ไม่ใช่อยากกิน ป้าน่ะชอบแคะตาปลาทู นึกว่ามันจะคือๆ กันน่ะ แค่คิดก็แล้วค่ะ รู้จักค่ะจูงนางไปมา 2-3 ครั้งแล้ว
ใช่เลยคุณศศิคนนั้นแหละ ปากจัดได้ใจ แล้วไอ้ที่แกเขียนมันก็ใช่ ป้าอ่านคอลัมน์ของแกมาตั้งแต่ หนังสือ ลลนา ว่าแต่น้องพลรู้จักอ๊ะเปล่า ลลนา เนี่ย เพราะหายไปจากแผลงหนังสือนานแล้ว


โดย: ป้ากิ๋ม (kim_tiger ) วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:21:06:40 น.  

 
แวะมาอ่านเอา(ใจ)ความอีกรอบหนึ่ง

ต้องเรียกว่าอะเมซิ่ง จริง ๆ เมนูแต่ละอย่าง
แล้วก็วัฒนธรรมการกินของเค้า
ดูเหมือนที่นี่เรื่องกินจะเป็นเรื่องใหญ่
เพราะสั่งกันมากมายก่ายกอง
แอบสงสัยเหมือนกันว่า หมดไปกี่หยวน
และคิดเป็นเงินไทยกี่บาท ใครจ่าย กันละเนี่ย

ดูเมนูแล้วมีที่คล้ายๆ กับเวียตนามคือ
ใส่กรอกเลือด แล้วก็ผักดองอะครับเหมือนเปียบเล้ย
เค้าจะใช้กะหล่ำปลีดอกกับใบหอม


วันนี้ฝนตกหนักแต่เช้าบรรยากาศน่านอนมาก
แต่ก็ต้องลุกมาทำงานด้วยว่า
เป็น มนุษย์เงินเดือน


อากาศทีนั่นตอนนี้เป็นไงบ้างครับ
รักษาสุขภาพนะวันนี้ผมมีอาการเจ็บคอ
มีน้ำมูก สงสัย หวัดมาเยือนเป็นแม่นมั่น .....


โดย: peeradol33189 วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:31:58 น.  

 
แวะมาดูข้าวมันไก่

วันที่พลทำข้าวมันไก่น่ะ ป้าโซทำหมูผัดขิง ช่วงนี้เจอเห็ดหูหนูสดบ่อย เลยซื้อมาสะเดิ๊บซะหน่อย สนนราคาสี่ดอกโตๆ สามสิบกว่าบาท


น้ำจิ้มข้าวมันไก่ของพล สงสัยจะใส่เต้าเจี้ยวเยอะไปจริงๆ เพราะป้าโซก็เคยใส่เยอะมาก่อน เค็มจนตัดด้วยอะไรไม่ได้ ไม่ว่าจะใส่น้ำส้มหรือน้ำตาล สุดท้ายต้องเททิ้งซะครึ่งนึง แล้วเพิ่มน้ำส้มน้ำตาลอีกรอบ


โดย: ป้าโซ วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:27:07 น.  

 
อ่ะ อ่ะ คนเราเกิดมาคนเดียว ก็ย่อมอยู่คนเดียวได้จิ (อันนี้บอกตัวเองด้วย) ได้อยู่คนเดียวสบายจะตาย มีเวลาทำนั่น ทำนี่ให้ตัวเอง พลเคยอยากทำอะไรแล้วไม่ได้ทำเพราะไม่มีเวลามั้ยล่ะ ก็เอาเวลาว่างตอนนี้ไปทำซะ อยู่คนเดียวมันก็มีความสุขไปอีกแบบนะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:58:46 น.  

 
เพื่อนเอ๋ย คงสนุกได้ใจใช่ไหมทริปนี้อ่ะ


โดย: phavinee_p IP: 119.42.122.203 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:14:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aoigata
Location :
Biel Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add aoigata's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.