|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แขกดอยที่อินเนอร์ มองโกลเลีย
ต่อจากบล็อกที่แล้ว ที่พาไปเที่ยวทะเลทราย ที่อินเนอร์มองโกลเลีย มาบล็อกนี้ดูกันสะหน่อยว่าคนแถวโน้น เค้ากินอะไรกันบ้าง เริ่มแรกเท่าที่เห็น ก็จะคล้าย ๆ คนปักกิ่งนะ กินเจี่ยวจึ 饺子(คล้าย ๆ ครือ ๆ กะเกี๊ยวมีไส้ข้างในให้เลือกเยอะแยะ) เปาจึ 包子ก็จะเหมือน ๆ คล้าย ๆ ซาลาเปาบ้านเรานี่แหละ เพียงแต่ของเค้าเนี่ย จะกินเป็นเรื่องเป็นราวกว่าบ้านเรา คือกินเป็นอาหาร ไม่ได้กินเป็นของกินเล่นเหมือนบ้านเรา แถมไส้ก็ไม่ใช่แค่ไส้เค็ม ไส้หวานเหมือนบ้านเรา มีหลากหลายไส้กันเลยทีเดียว ทั้งไส้เนื้อหมู เนื้อวัว ไส้ผัก เรียกว่ามีเยอะแยะตาแปะไก่ให้เลือก ใครใคร่กินไส้ไหนก็สั่งได้ตามใจชอบ เช้าแรกที่ไปถึงออร์โดส เพื่อนหลงพาไปกินอาหารเช้า ก็ซาลาเปานี่แหละ พี่แกจะสั่ง 10 ลูกต่อคน พลรีบส่ายหน้าดิกเลย กินไม่หมดแน่ ๆ
พวกคุณชาย ทั้งหลายเค้ากินกับซุป 汤 (ทาง) แต่พลไม่อยากกินซุป (อาหารประเภทซุป ๆ เนี่ยบอกตรง ๆ ว่าไม่ชอบกิน) หลงเลยสั่งอย่างอื่นมาให้กิน ตอนแรกไม่รู้ว่าอะไร เค้าก็คะยั้นคะยอเหลือเกิน พลก็เอา สั่งก็สั่งกินก็กิน พอพนักงานเอามาเสริฟ กรูเอ๊ย ไม่ใช่ซุปก็คล้าย ๆ ซุปแหละวะ มันก็ข้าวต้มบ้านเราดี ๆ นะเอง แต่เป็นข้าวสีดำ คล้าย ๆ ข้าวเหนียวดำบ้านเรา แถมเป็นข้าวต้มจริง ๆ นะ ไม่มีรสชาดอะไรเล๊ยยยย สักนิดเดียว จำใจเขี่ย ๆ คน ๆ กินไปสองสามช้อน ไม่ไหวจะเคลีย ไม่ชอบกินข้าวต้ม และแล้วพวกคุณชายทั้งหลายก็บรรเลงเพลงยุทธ ซดกันโฮกฮาก ๆ กระเหรี่ยงหน้าดำ ก็ได้แต่นั่งมองลอกแลก ๆ นึกในใจ กินกันเบา ๆ ได้ไหมเนี่ย
และแล้วก็ถึงคราวที่ได้เป็นแขกตี้ แหม รู้สึกเป็นเกียรติเหลือเกิน ไม่นึกไม่ฝันว่ากระเหรี่ยงหน้าดำ ๆ อย่างพลจะได้รับเกียรติเช่นนี้ ก็ตอนทีไปเมือง หางจิ่นฉี นี่แหละ ที่ต้าเจี่ย แล้วก็ลูกและเพื่อนของเค้า พาพลไปกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารมองโกล มองจากข้างนอก พลกรี๊ดกร๊าดน่าดูเลย คือเค้าทำเป็นกระโจม ๆ เหมือนบ้านคนมองโกลที่เห็นตามโปสเตอร์ หรือรูปภาพที่เค้าถ่ายมาจากมองโกลเลียเลยนะ (กะว่ากินข้าวเสร็จจะออกมาถ่ายรูป) แต่ข้างในเนี่ย เค้าก็ประยุกต์เป็นแบบทันสมัยหน่อย มีแอร์ติดอย่างดี ตกแต่งก็พอใช้ได้ ไม่ได้เลิศหรูอะไร แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เริ่มแรกก็เป็นอาหารจำพวกจานเย็น จานแรกเป็นผักดองน่าจะเป็นกระหล่ำปลี กับผักอะไรอีกอย่างไม่รู้จักอะ เปรี้ยวมากกกกกกกก
จานต่อมา จะเรียกว่าอะไรดีอะ มันน่าจะเป็นโยเกิร์ตนะ (เล่าให้เพื่อนที่ปักกิ่งฟัง เค้าก็ว่าแถวนั้นนะ โยเกิร์ตเค้าอร่อย และขึ้นชื่อ) ผสมมากับเม็ด ๆ สีเหลือง หลงเล่าว่าเม็ดเหลือง ๆ อันนี้ปลูกได้เฉพาะแถวนี้นะ ดู ๆ ไปคล้ายเม็ดถั่วเหลืองอะ แต่เล็กกว่าหน่อยนึง แข็ง ๆ
มีเสริฟมาต่างหากด้วย หน้าตาเป็นอย่างนี้ แข็งมากขอบอก เวลากินต้องใช้พลังในการขบเคี้ยวน่าดู
จานต่อมาเป็นเหมือนผัดบะหมี่ แต่เส้นบะหมี่บ้านเค้าออกจะใหญ่นิดนึง แถมสีสันไม่ค่อยน่ากิน อุตส่าห์เลี่ยงไปมาแล้วนะ แต่หลงดันคะยั้นคะยอ (เขียนถูกปะเนี่ย) ให้กิน เอ้ากินก็กิน รสชาดหยึย ๆ ออกเผ็ด ๆ
จานต่อมา พลเรียกไม่ค่อยถูก ใครพอรู้วานแก้ไขให้ทีนะ เท่าที่รู้ มันเป็นประมาณว่า พอเค้ารีดนมแพะ หรือแกะมา ก่อนที่จะทำโยเกิร์ต มันจะมีฝ้า ๆ นมลอยอยู่ข้างบน เค้าก็จะช้อน ๆ เอาฝ้า ๆ บนหน้านม เอามาทำเป็นแผ่น ๆ อย่างนี้ กินกับซุปชานมแพะ ก็อร่อยพอใช้
แล้วก็มาถึงของร้อนบ้าง เป็นซุปชานมแพะ หรือแกะนี่แหละ (เพื่อนที่ปักกิ่งบอกอีกแล้ว ว่าของเค้าอร่อยขึ้นชื่อมากกกกกกกก ) ตอนยกมาเสิร์ฟพลแบบตกใจ ใหญ่มาก
ตอนกินเนี่ย เค้าก็ตักแบ่งใส่ถ้วยเล็ก ๆ ซิ้มต้าเจี่ยเนี่ย เธอตักเจ้าเม็ดสีเหลือง ๆ ใส่ลงไปด้วย ส่วนคนอื่นเนี่ย ก็ตักใส่ถ้วยเป็นพอ ว่าแล้วก็บรรเลงเพลงซด ซู๊ด ๆ ซ๊าด ๆ กันระงมเซ็งแซ่ไปหมด พลก็เอ้า 入乡随俗 (รู่เซียงสุยสู) เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เค้ากินพลก็กิน แต่ไม่ได้ซดเสียงดังเหมือนเค้าเด้อ กินไปได้คำ มันมีรสชาดอะไรที่ไหนเนี่ย ไม่เห็นจะอร่อยเลย
อันต่อมา ไม่รู้จะเรียกอะไร เห็นแล้วนึกถึงโรตีกรอบ เพียงแต่ไม่มีน้ำตาลเคลือบมาแค่นั้นเอง รสชาดใด ๆ ไม่มีอีกตามเคย พลใช้กินกับซุปชานมแพะ มีตัวช่วยก็แล้ว ซุปก็ยังไม่อร่อยในความคิดของพล
เจ้าชานมแพะเนี่ย มีตัวเสริมมาช่วยสองอย่าง คือชีสแพะ (มั้ง คือไม่แพะก็แกะเนี่ยแหละ) กับเนย ใครอยากใส่ตัวไหนก็ตามสบาย พลเลือกใส่เนยไปในซุปหน่อยนึง ก็ยังไม่อร่อย อันนี้เป็นชีส
เจ้านี่คือเนย
จานต่อมาเป็นไส้กรอกเลือด บอกตรง ๆ เลยนะ ว่าพลไม่ได้แตะสักคำเลย เสิร์ฟมากับน้ำจิ้ม ตอนนั้นนึกอยู่ในใจว่าถ้าใครมาคะยั้นคะยอให้กินไส้กรอกเลือดนี่นะ จะกรี๊ดใส่หน้าเลยละ จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ ไส้กรอก ไส้อั่วบ้านเรานะ เพียงแต่มันดูเหมือนไม่สุกดีแค่นั้นเอง หรือพลจะคิดมากไปก็ไม่รู้แน่ แต่ที่แน่ ๆ ไม่กล้ากิน
มาถึงทีเด็ด เด็ดสุด ๆ เลยนะ ทำเอาพลอยากลุกหนีออกจากวงกินข้าวเลยจริง ๆ ก็จะอะไรละ เค้าเล่นเสิร์ฟ หัวแพะ หรือแกะไม่รู้อะ ต้มมาสะเปื่อย แถมอ้าปากมันสะแบะเลย น่ากลัวสุด ๆ ไม่ได้ดูน่ากินเลยสักนิด ดูเอาเองละกัน จะหาว่าพลดัดจริตก็ยอมละ
หนุ่มมองโกลที่นั่งใกล้ ๆ พลนะ พี่แกเล่นควักลูกตาแพะออกมากินอะ พลเห็นแล้วแบบต้องเบือนหน้าหนี คือแบบทนไม่ไหวจริง ๆ แล้วหนุ่ม ๆ มองโกลเนี่ยนะ ดื่มเหล้ากันจัดมาก สั่งอาหารมาเยอะแยะ ไม่ค่อยจะกินกันหรอกนะ ได้แต่ดื่ม 白酒 (ป๋ายจิ่ว) หรือเหล้าขาวนะเอง ดื่มอย่างเดียวพอว่า สูบบุหรี่ 抽烟 (โชวเยียน) กันโขมงโฉงเฉงอีกแนะ พลนึกว่าอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตตอนที่เค้าพ่นดรายไอซ์สะอีก เยอะมากกกกกก ทนไม่ไหวต้องส่งข้อความไปให้คุณคำรณช่วยเหลือ
พอคุณคำรณโทรมา พลก็ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ก็บ่น ๆ กะเค้าไปว่าไม่ไหวจริง ๆ นะเธอ ฉันกินอะไรแทบไม่ได้เลย แต่เค้าคะยั้นคะยอให้กินอยู่นั่นแหละ จะทำไงดี ไหนจะเหล้าอีก บอกว่าไม่ดื่ม ๆ แม่มก็จะให้ดื่มให้ได้ เป็นไรกันมากไหมเนี่ย ตาคำรณฟังก็ได้แต่หัวเราะ พี่แกก็คงไม่รู้จะช่วยไงอะน้อ เรื่องหัวแพะเนี่ย หลงกระซิบว่า เธอเป็นแขกพิเศษเลยนะ เค้าถึงได้เสิร์ฟเธออย่างนี้เนี่ย นึกในใจว่าฉันควรจะดีใจไหมเนี่ย
นั่งนึก ๆ อยู่ว่ากรูจะทำไงดีวะ ไม่อยากให้พวกเค้ารู้สึกว่าเราไม่อยากกินอาหารเค้า เลยลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่หลงเดินตามออกมา ถามว่าจะไปไหน พลก็ว่าจะไปห้องน้ำ หลงเลยบอก ตามมานี่ห้องน้ำมันอยู่ข้างนอกร้านอาหาร แถมตอนพาพลเดินไป หลงการันตรีสะด้วยนะ ว่าห้องน้ำที่นี่ต้องเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตของเธอเลยนะ ฉันมั่นใจ
ตอนได้ยินก็ไม่ได้คิดไรมาก แต่พอเดินไปถึงหน้าห้องน้ำ เริ่มเอะใจ พอเข้าไปในห้องน้ำเท่านั้นแหละ พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย อยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ แบบเสียสติ จะบรรยายยังไงให้นึกภาพกันออกดีนะ
ตอนเป็นเด็กประถม ปิดเทอมหน้าร้อนทีไร พ่อพลก็จะส่งพลไปอยู่บ้านป้าทุกหน้าร้อนเลยนะ แล้วบ้านป้าเนี่ย ก็ยังแบบบ้าน ๆ ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ห้องน้ำห้องส้วมไม่ต้องไปพูดถึง ตอนนั้นเด็กไง ห้องน้ำไม่มีไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่ห้องส้วมเนี่ย บ้านป้าแกใช้วิธีขุดหลุมลึก ๆ แล้วใช้ไม้สองอันพาดปากหลุม ใครอยากจะมาถ่ายหนักถ่ายเบาก็ทับ ๆ ถม ๆ กันไป เวลาทำธุระเสร็จก็ต้องใช้ไม้เช็ดก้นเอา อิ๊วววววว นึกภาพกันออกหรือยัง แมลงวงแมลงวันก็บินกันให้ว่อน แต่อันนั้นนะ หลุมเดียวไง
แต่ที่หางจิ่นฉีเนี่ย หลายหลุมเรียง ๆ กันไป แต่ดีกว่าบ้านป้าพลหน่อยตรงที่ปากบ่อเนี่ย เค้าราดซีเมนต์ แข็งแรงกว่าว่างั้นเถอะ แต่ที่เด็ดแสนเด็ดเนี่ย ก็คือว่า มันเป็นแบบจีน ๆ ไง คือมันก็จะมีผนังกั้นคล้ายเป็นห้อง ๆ แต่ไม่มีประตู คือใครทำธุระอยู่ห้องหน้าสุด คนที่จะผ่านไปห้องท้าย ๆ ก็ต้องเห็นแน่นอน และที่เด็ดกว่าเด็ดสุดคือ แมลงวันประมาณล้านแปด บินกันให้ว่อนเลย ไหนจะภาพ เสียง สี กลิ่น เรียกว่ามากันครบเลยทีเดียว พลขี้หดตดหายทันที อยากจะกลับปักกิ่งสะให้รู้แล้วรู้รอด พอออกมา ได้แต่ยิ้มแหะ ๆ ใส่หลง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก นึก ๆ แล้วว่าจะพูดไรก็คงไม่เหมาะ เค้าอยู่กันมาอย่างนี้ ร้อยวันพันปี เค้าก็ไม่เดือดร้อน เราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม แต่ออกมาเนี่ยจากที่อาหารไม่อร่อยอยู่แล้ว ก็แทบจะกินอะไรต่อไม่ได้เลย
แต่อาหารมื้อมันยังมีต่ออีกนะ อาหารที่กิน ๆ ไปเนี่ย มันยังไม่ใช่อาหารกินจริง แค่อาหารกินเล่นเท่านั้น อาหารจานหลักของเค้ามากันสุดท้ายเลยนะ จานใหญ่มาก เป็นผัดเนื้อแกะ กับจะบอกว่ายังไงดี มันเหมือนแป้ง ๆ อะ แล้วก็มันฝรั่ง ปรุงนานมาก เพราะพลเห็นว่าปรุงตั้งแต่เดินไปเข้าห้องน้ำ จนกลับมานั่งตั้งนานก็ยังไม่มาเสิร์ฟ แต่อารมณ์ตอนนั้นคือกินแทบจะไม่ลงแล้วจริง ๆ นะ หลังจากห้องน้ำ แต่ลอง ๆ กินดูก็อร่อยอยู่ แต่กินไม่ไหวจริง ๆ แล้วซิ้ม กับ ตี๋ ๆ ทั้งหลายนะ ก็ไม่ค่อยกิน สั่งกันมาเยอะแยะ พอพลถามว่าแล้วทำไมพวกคุณไม่ค่อยกินกันละ เค้าก็ว่า เค้ากินอาหารพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เบื่อแล้วไง แต่นี่เค้าสั่งมาให้พวกพลกิน เค้าว่าพวกเธอเนี่ย เป็นแขกพิเศษ ได้ฟังแล้ว ดีใจน้ำตาไหลปรี่ ๆ เลย
สรุปว่าสติแตกตั้งแต่ไปเข้าห้องน้ำ ออกมา ไม่ได้ถ่ายรูปกระโจมจากข้างนอกมาให้ดูเลย เสียดายจริง ๆ
หลังจากไปเที่ยวดูทะเลทรายก็มาถึงมื้อเย็นกันสักที ใจแบบไม่เอานะไม่เอา อย่าพากรูไปเลี้ยงอะไรอีกนะ กรูดื่มน้ำก็นอนได้แล้ว ไม่อยากกิน แต่ด้วยความมีอัธยาศัยไมตรีของหนุ่ม ๆ มองโกลเค้าก็พาไปเลี้ยงอาหารเย็น
ร้านที่เค้าพาไปกินเนี่ยเป็นร้านบ้าน ๆ แบบข้างทาง ใครขับรถผ่านที ฝุ่นนี่ฟุ้งตลบอบอวลไปหมด คือมันก็ไม่ถึงกะเข้ามาในร้านแบบเต็ม ๆ หรอกแต่เห็นแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ไงว่า แหม ฝุ่นมันคลุ้งได้ใจไปหนึ่งดวงจริง ๆ
จานแรกเค้าเป็นปลา เหมือนปลาทอดพริกบ้านเราอะ แต่เห็นหน้าตาแล้ว พลไม่อยากจะกินเลยจริง ๆ ลองกินไปหน่อยนึง บอกไม่ถูกว่ายังไง รู้แต่ว่าไม่อร่อย
จานต่อมา เค้าว่ามันเป็นหมู กินหรือเปล่าจำไม่ได้อะ
ต่อมาเป็นเต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า กินไปหน่อย ไข่เยี่ยวม้าเนี่ยชอบกินเฉพาะตอนทำผัดกระเพรา ไข่เยี่ยวม้าที่เค้าเสริฟมาเป็นออร์เดิร์ฟเนี่ย ไม่กินจริง ๆ ให้ตายยังไงก็ไม่กิน (พลเรื่องมากไปไหนเนี่ย อะไร ๆ ก็ไม่แหลก ทีน้ำพริกปลาร้าละแหลกล่ายแหลกลี )
ต่อมาเป็นยำเห็ดหูหนู ก็พอกินได้
จานนี้อร่อยสุด ๆ แล้วอะ จากอาหารทั้งหมดที่ได้กิน ขอยกจานนี้ให้เป็นที่หนึ่งเลยละกัน ตอนแรกไม่กล้ากินให้จางกินก่อน จางก็ว่ากินได้ ๆ พลเลยลองกิน หะแรกจางเธอว่าเป็นเต้าหู้ แต่พลกินแล้ว พลว่ามันเหมือนหมูยออะ อร่อยมาก อาตี๋ทั้งหลายพอเห็นพลชอบกิน แหม รีบสั่งมาให้เบิ้ลกันเลยทีเดียว อร่อยได้ใจไปอีกดวงเลยจ้า
จานถัดมาเป็นถั่วงอกผัด (มั้ง) กินได้อยู่
หลังจากจานนี้แล้ว อาหารก็ไม่มีเสริฟอีก พลก็ว่าคงหมดแล้วมั้ง อาตี๋ทั้งหลายก็ทั้งดื่มทั้งสูบ 一边喝酒一边抽烟 (อีเปียนเหอจิ่ว อีเปียนโชวเยียน) แล้วก็อีกตามเคย คะยั้นคะยอให้พลดื่มเหล้าอยู่นั้นแหละ เค้าว่าเป็นธรรมเนียมของเค้า มีแขกมาเยือน ก็ต้องดื่มต้อนรับกันหน่อย แขกก็ต้องดื่มเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเค้าด้วย พลนะอยากจะกรี๊ดใส่หน้าจริง ๆ กลั้นใจดื่มไปจอกนึง แม่มก็ยังไม่หยุดกัน จะบ้าตาย ใครอย่าไปเอาหนุ่มมองโกลเป็นลูกเป็นผัวเชียวเน้อ จะหาว่าไม่เตือน
นั่งเม้าท์ไป มองโน่นนี่ไป เห็นพ่อครัว แล้วแบบแหมจะไหวไหมละนะพ่อคุณ หุ่นสะมาสะโอดสะองแท้ ๆ สงสัยอาหารตัวเองยังไม่ถูกปากตัวเองเลยมั้ง นั่งกันนานมาก นานจนพลคิดว่าคงจะกลับบ้านกันแล้ว ที่ไหนได้หลงมากระซิบว่ายังมีอาหารเด็ดสำหรับแขกพิเศษ คือปลาจากแม่น้ำเหลือง 黄河 (หวงเหอ) หมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำเหลืองมากนักไง พลก็ได้แต่คิด ตาย ๆ จะกินเข้าไปไหวไหมละเนี่ย
อร่อยใช้ได้เลยนะ กินไปแล้วนึกถึงปลาช่อนบ้านเราอะ แล้วนะเสิร์ฟทีตั้งสี่ตัว ตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แต่พลนะกินอย่างอื่นจนอิ่มไปก่อนหน้าแล้วไง อาหารที่กินเข้าไปก่อนหน้านี่ ตอนนั้นกระจุกรวมกันอยู่ที่คอหอยแล้ว
กว่าจะเสร็จจากอาหารเย็นมื้อนั้นได้ ไม่รู้จะร้องเพลงอะไรกันเลยทีเดียว ทั้งบุหรี่ ทั้งเหล้า กินเสร็จก็สักสี่ทุ่มกว่าแล้วมั้ง ยังมีการพาไปเที่ยวเธคแถวนั้น ตอนแรกได้ยินนึกว่าหูฝาด คือมันเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ไง ไม่นึกว่าจะมีดิสโก้เธค ไอ้เราก็อยากจะกลับไปนอน แต่เค้าจะไปกัน เอ๊าไปก็ไป พอไปถึงเธค ขนาดเป็นคืนวันเสาร์นะ แทบจะไม่มีคน ผีจะหลอกตาย หน้าเวทีมีแปะ กับ ซิ้ม เต้นยอก ๆ แยก ๆ อยู่สองสามคน ต๊าย ๆ นี่หรือเธค พอหนุ่มมองโกลสั่งเบียร์ หลงมากระซิบพลว่า ไปเต้นดีกว่านะ ถ้านั่งอยู่เค้าต้องคะยั้นคะยอให้ดื่มอีกแน่เลย พลก็เลยออกไปเต้นสักพัก แต่แบบไม่ไหว เต้นไม่เป็น อายตัวเอง กลับไปนั่งโต๊ะดีกว่า ดีว่ามีคนสั่งน้ำผลไม้มาด้วย แต่ก็ยังไม่วายเจ้ากรรมนายเวร อีหนุ่มมองโกลผอม ๆ มันก็เสือกจะมาชนขวดกะพลอยู่นั่นแหละ แล้วนะไม่เบียร์แม่งไม่ยอม อยากจะกรี๊ดใส่หน้ามันจริง ๆ
ผ่านคืนนั้นมาได้ ดีใจน้ำตาแทบไหล นึก ๆ อยู่ในใจกรูอยากกลับปักกิ่ง
ตอนเช้าตื่นมา หลงกับจางตื่นนอนออกไปข้างนอกหมดแล้ว เหลือแต่พลกับซิ้มต้าเจี่ยสองคน คุยกันพอรู้เรื่องว่า อั๊วจะพาลื้อไปกินข้าวเช้า พลก็เออ ๆ ออ ๆ จริง ๆ นะไม่ได้หิวเลย หะแรกแกพาไปหน้าหมู่บ้านแก เดินถามร้านโน้นร้านนี้ว่ามีอาหารชื่อ....นี้หรือยัง (ฟังไม่รู้เรื่อง) แต่รู้เรื่องที่เค้าตอบมาว่า ตอนนี้ไม่มี จะมีก็ตอนบ่ายหรือตอนเย็นโน่นแหละ
หะต่อมา ซิ้มเลยโบกแท็กซี่ แล้วโทรนัดกะหลงว่าอั๊วกำลังจะไปตรงนี้ ๆ นะ ลื้อตามไปสมทบละกัน ตอนอยู่ในแท็กซี่ พลละกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ คือแท็กซี่นะเล็กมาก แต่ตัวซิ้มแกใหญ่เกินรถ เข้ารถปุ๊บปิดประตูรถไม่แน่นไง ผลนะหรอ นั่งรถไป คุยโทรศัพท์ไป ประตูรถก็ไหว ๆ เปิดเข้าเปิดออก ซิ้มก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย มัวแต่คุยโทรศัพท์ จนถึงตอนเข้าโค้งประตูเปิดจนอ้า พลหัวเราะก๊ากออกมาเลยแล้ว
สุดท้ายก็ไปถึงร้านอาหารแบบข้างทาง ตอนลงรถเจอหลงกับจางพอดี เห็นปลาท่องโก๋เค้าแล้วแบบอลังการงานสร้างมาก คนอื่น ๆ เค้าสั่งก๋วยเตี๋ยวมากิน แต่พลแบบยังไม่หิวมากไง เลยสั่งปลาท่องโก๋มาสองชิ้น (ไม่ได้เป็นคู่นะ มาเป็นเดี่ยว ๆ ) ใหญ่ยาวแค่ไหน ดูเอาเองละกัน
ยาวแท้ยาวว่าเน้อปาท่องโก๋ที่นั่น มองโต๊ะข้าง ๆ เหมือนเค้าจะสั่งมากินกับน้ำเต้าหู้ (มั้ง) สีมันเหมือนน้ำเต้าหู้บ้านเราจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร ส่วนซิ้ม หลง แล้วก็จาง สั่งก๋วยเตี๋ยวมาบรรเลงเพลง ซู๊ดซ๊าดกันคนละชาม
ซิ้มกินไปก็ถามพลไปว่าอิ่มไหม จะอิ่มหรอ แค่สองชิ้น พลก็เลยว่าเพิ่มอีกสองชิ้นก็ได้ แต่เผอิญมันหมดสะแล้ว ซิ้มก็พยายามมาก ที่จะหาอย่างอื่นมาให้กิน พลก็ว่าไม่ต้อง ๆ อิ่มแล้ว แต่แกก็พยายามมาก คือซิ้มแกน่ารักนะ กลัวแขกจะไม่อิ่ม แต่มันมากไปนะซิ้มนะ กะจะให้อ้วนกลับปักกิ่งกันเลยทีเดียว
ก่อนกลับเมืองออร์โดส ก็ทำกับข้าวให้ซิ้มกินสองอย่าง อย่างที่เล่าให้เมื่อครั้งที่แล้ว คือแกงเขียวหวาน กับ แกงเลียง ซิ้มชอบอกชอบใจ บอกว่ามาเปิดร้านอาหารที่นี่กันเถอะ แล้วกลับมาอีกนะ ปากพลก็บอกว่าเอาไว้มีเวลาแล้วจะมาอีกนะซิ้ม แต่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ มาบ่อย ๆ คงไม่ได้ ส่วนในใจนะหรอ ครั้งเดียวก็พอแล้วมั้งซิ้ม
ซิ้มเนี่ย ตอนเจอหน้าพลครั้งแรก คำถามแรกที่ซิ้มถามพลคือ แต่งงานหรือยัง พอคุณคำรณไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ซิ้มแกก็ถามคำถามนี้แหละกับคุณคำรณ สงสัยว่าการแต่งงานนี่ สำคัญมากสำหรับซิ้ม หรืออาจจะสำคัญสำหรับคนแถวโน้นก็ได้ คุณคำรณเนี่ย เธอว่าซิ้มถึงขั้นทำให้อารมณ์เสีย พอรู้ว่าคุณคำรณยังไม่แต่งงาน ซิ้มก็เฝ้าถามอยู่นั้นแหละว่าทำไมยังไม่แต่งงานสะที ซิ้มหนอซิ้ม ถ้าพลไปเปิดร้านอาหารแถวโน้นจริง ๆ สงสัย ซิ้มจะต้องหาเมียให้แหง ๆ ฟ้าผ่าตายเลยนะซิ้ม
ป.ล.มีอยู่อย่างที่ช๊อบชอบ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา คือตอนนั่งรถแท็กซี่ผ่านตลาด เห็นรถกระบะ น่าจะรถหกล้อนะ ที่กระบะหลังรถ มีพวกผักสวนครัว พวกหอมผักชี ผักเล็ก ๆ น้อย ๆ เค้าเล่นยกเอามาขายแบบแซะหน้าดินมาเลย คือเรื่องความสดเนี่ยหายห่วง สดแท้ ๆ เพราะยกมาเป็นดินทั้งกระแบะเลยทีเดียว เสียดายเห็นแว็บ ๆ แค่สองรอบ ตอนอยู่ในรถทั้งนั้นเลย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกันเลย
Create Date : 27 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 14:47:56 น. |
|
30 comments
|
Counter : 2114 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หกพันไมล์ วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:12:24:17 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:12:46:05 น. |
|
|
|
โดย: JewNid IP: 124.157.186.118 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:13:24:19 น. |
|
|
|
โดย: หญิงอวบ IP: 89.8.11.194 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:14:44:24 น. |
|
|
|
โดย: Thairabian วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:15:41:51 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:17:31:30 น. |
|
|
|
โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:19:20:46 น. |
|
|
|
โดย: Thairabian วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:20:55:51 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:0:01:49 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:15:53:11 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:19:04:17 น. |
|
|
|
โดย: คุณนายก้อ วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:20:42:52 น. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:8:14:59 น. |
|
|
|
โดย: แก้ม IP: 116.48.132.200 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:9:38:51 น. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:8:23:06 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:14:34:41 น. |
|
|
|
โดย: Thairabian วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:19:21:49 น. |
|
|
|
โดย: Bananarumba วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:20:06:00 น. |
|
|
|
โดย: ป้ากิ๋ม (kim_tiger ) วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:21:06:40 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:27:07 น. |
|
|
|
โดย: phavinee_p IP: 119.42.122.203 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:14:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
55555 เที่ยงนี้จะทานอะไรลงมั้ยเนี่ย