Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
ต้มยำกุ้งกลับมาหลอกหลอน อีกแล้วครับท่าน

วิกฤตการณ์ “ต้มยำกุ้ง” เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๔๐ จากกรณีปัญหาทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารระบบการเงินและการคลังของประเทศ โดยรัฐบาลในขณะนั้น

วิกฤตการณ์ “ต้มยำกุ้ง” รอบสองที่มีการเปิดประเด็นโดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มิใช่กรณีความรุนแรงหรือปัญหาทางด้านเศรษฐกิจดังเช่นในอดีต แต่เป็นกรณีปัญหาทางด้านการเมือง จากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วย จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี และจังหวัดสงขลา เมื่อพิจารณาจากการดำรงความมุ่งหมายในการแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ซึ่งเกิดปัญหาต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ จนถึงปัจจุบัน พบว่า จังหวัดทางภาคใต้มีการก่อความไม่สงบขึ้นเป็นระยะๆ ตามสภาวะแวดล้อมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จากข้อเรียกร้องของหะยีสุหลง โต๊ะมีนา ที่มีต่อรัฐบาลไทยภายใต้การนำของหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ให้รัฐบาลเพิ่มความสำคัญต่อ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต้องการให้มีการปกครองแบบพิเศษ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยาลา นราธิวาส และสตูล ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในขณะนั้นมิได้กล่าวถึงจังหวัดสงขลาแต่ประการใด

จากเอกสารที่เจ้าหน้าที่จับได้จากผู้ต้องหาในกรณีมัสยิด
กรือเซะ มีข้อมูลเกี่ยวกับ “เบอร์จีฮัด ดี ปัตตานี” อันเป็นเอกสารปลุกปั่นและส่งเสริมการใช้กำลังในการแบ่งแยกดินแดน โดยอ้างว่าเป็นการสนับสนุนศาสนาอิสลาม และเพื่อพระเกียรติ์ของพระเจ้า ดังนั้นผู้เข้าร่วมขบวนการจะได้รับการสรรเสริญและได้รับผลตอบแทนจากความดีที่ได้กระทำในครั้งนี้ การปลุกระดมนี้แผ่อิทธิพลไปทั่วในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับการขยายปริมาณการก่อการร้ายให้มีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ (สถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์. ๒๕๔๙:๒-๓)

ขบวนการ "พูโล" หรือ "องค์การปลดแอกสหพันธ์รัฐปัตตานีหรือ "องค์การปลดปล่อยปัตตานี" (PATTANI UNITED LIBERATION ORGANIZATION = P.U.L.O.) เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ และเริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ มีชื่อเสียงคุ้นเคยกับต่างประเทศในเครือศาสนาอิสลาม สมาชิกส่วนใหญ่ประกอบด้วยเด็กหนุ่ม - สาว ชาวมุสลิม นักเรียน นักศึกษา ที่มีหัวรุนแรง มีความรู้และมีอุดมการณ์ ปัจจุบันเป็นขบวนการที่มีความเคลื่อนไหวมากกว่าขบวนการอื่น ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ (วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร. ๒๕๔๙:๒) จากข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ จึงเป็นที่เชื่อกันในวงการข่าวและการทหารว่า พื้นที่ในประเทศมาเลเซีย เป็นพื้นที่ซึ่งกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิบัติการก่อการร้ายในประเทศไทย

ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะชนผ่านทางสื่อมวลชนประเภทต่างๆ เมื่อวันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๙ ในประเด็นว่า (www.en.wikipedia.org/wiki/South_Thailand_insurgenvcy) ร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซีย เป็นเครือข่ายในการสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ขบวนการก่อความไม่สงบในภาคใต้ของประเทศไทย โดยวิธีการรวบรวมเงินจากนักธุรกิจ การขู่กรรโชก หรือการเรียกค่าคุ้มครอง ซึ่งในกรณีนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงของมาเลเซียนาย Fu Ah Kiow ได้ทำการปฏิเสธ และกล่าวว่า ข้อความที่นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวหานั้นปราศจากมูลความจริงโดยสิ้นเชิง แต่หลังจากที่มีการกล่าวหาดังกล่าวแล้ว ในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ คณะครูในจังหวัดยะลาและนราธิวาสตัดสินใจงดการสอนเนื่องจากหวาดกลัวภัยจากการลอบสังหาร

การวิเคราะห์สถานการณ์และการจัดทำข้อพิจารณาเชิงวิชาการในกรณี “ต้มยำกุ้ง” ผู้ศึกษาได้ทำการค้นคว้าแบบจำลอง เพื่อกำหนดกรอบแนวความคิดในการวิเคราะห์สถานการณ์ และจัดทำข้อพิจารณาเชิงวิชาการ โดยทำการวิเคราะห์องค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง แล้วสังเคราะห์เพื่อตกผลึกแนวความคิด โดยใช้แนวทางวิพากษ์วิธีอันจะนำไปสู่ความเข้าใจอย่างชัดเจนถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสามารถเสนอแนวทางในการดำเนินการในกรณีนี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดถือผลประโยชน์แห่งชาติเป็นที่ตั้ง ปรากฏผลดังต่อไปนี้

ตัวแบบในการพิจารณา
จากความละเอียดอ่อนของปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติทางด้านการเมืองทั้งในและต่างประเทศ ด้านสังคมจิตวิทยา และการทหาร โดยตรง จึงมีความจำเป็นจะต้องพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องในหลายประเด็น โดยใช้ทฤษฎีของสไนเดอร์ บรัค และ ซาแป็ง ซึ่งได้สร้างแบบจำลองแนวทางการกำหนดนโยบายในมุมมองของผู้กำหนดนโยบาย โดยแยกตัวแปรอิสระออกเป็น ๔ ด้านใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้ (ผศ.ดร.อัษฎากร เอกแสงศรี. ๒๕๔๓:๑๐-๑๑)

๑. สภาวะแวดล้อมภายใน

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเครือข่ายการระดมเงินและการสนับสนุนของร้านต้มยำกุ้งซึ่งเป็นร้านอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย พร้อมกับมีการยืนยันจาก พล.อ.สนธิฯ ผบ.ทบ. ซึ่งได้กล่าวว่า (//www.parliament .go.th/ news/news_detail.php?prid=40395)

“...เราต้องรู้เรื่องของหลักศาสนา ซึ่งหลักศาสนาข้อหนึ่งบอกว่า การมีรายได้จะต้องบริจาค หรือ ซากาด เมื่อได้เงินมา 100 บาท เราจะต้องทำบุญส่วนหนึ่ง เงินที่ได้มาหลักจากที่เสียภาษีแล้ว เงินก้อนหนึ่งจะต้องไปทำบุญ ซึ่งเป็นเงินที่สามารถทำอะไรก็ได้ ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ อันนี้ตนคงตอบไม่ได้ว่าเขาไปให้ที่ไหนบ้าง

เมื่อนักข่าวถามว่า เมื่อเขามีความบริสุทธิ์ใจ ทางกองทัพได้ตรวจสอบติดตามเรื่องนี้อย่างไรบ้าง หรือจะประสานขอความร่วมมือกับประเทศมาเลเซียดูแลในเรื่องการส่งเงินมาสนับสนุน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คิดว่าทางมาเลเซียจะต้องคุยกับเขาให้เข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้เมื่อภาพออกมา หรือ ให้มาจริงๆ จะมีผลกระทบอย่างไรจะต้องไปศึกษา แต่ทราบว่าในหลักการจะต้องมีการบริจาคเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจจะมาให้ญาติพี่น้องเขาก็ได้...”

การให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.สอดคล้องกับท่าทีของปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนย้ายเงินเข้าสู่ประเทศไทย โดยได้กล่าวว่า
(//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000144639)

“...เรื่องนี้เมื่อบุคคลระดับผู้นำรัฐบาล อย่างนายกรัฐมนตรีออกมาให้ข้อมูลการสนับสนุนการเงินให้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ แสดงว่า จะต้องมีฐานข้อมูลที่แน่นหนาเพียงพอ เพราะการที่ข้อมูลเหล่านี้จะรายงานมาถึงระดับผู้นำได้ จะต้องมีการกลั่นกรองมาพอสมควร...”

จากท่าทีของ ผบ.ทบ.และ นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ได้นำมาพิจารณาในที่นี้ ล้วนเป็นแนวทางที่สนับสนุนคำกล่าวของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี โดยตรง ซึ่งมีผลกระทบต่อระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อันเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า มาเลเซีย ละเลย ไม่พยายามปราบปราม หรือไม่มีความสามารถในการปราบปรามองค์การก่อการร้ายที่ตั้งอยู่ในประเทศของตน และหากมองในแง่ร้ายลึกไปกว่านั้น คำกล่าวดังกล่าวเท่ากับการกล่าวหาว่า มาเลเซีย เป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งรัฐบาลไทยไม่มีหลักฐานใดๆ รองรับข้อมูลที่กล่าวหานี้เลย จึงเป็นผลก่อให้เกิดความไม่พอใจและแสดงออกมาอย่างชัดเจนของทางฝ่ายมาเลเซีย ดังที่ผู้ศึกษาได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าบุคคลสำคัญระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงของมาเลเซียได้ปฏิเสธคำกล่าวนี้โดยสิ้นเชิง ซึ่งหากมองในแง่ดี ข้อมูลที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เสนอต่อสาธารณะ ย่อมเป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลมาเลเซีย จะต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในของตนเองว่าไม่มีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด หรือหากรัฐบาลมาเลเซียรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มดังกล่าว การแสดงท่าทีของประเทศไทยในลักษณะนี้ ย่อมเป็นการปรามมิให้มาเลเซียขยายระดับของความช่วยเหลือให้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งแนวความคิดนี้นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้มองในมุมนี้ เพราะเห็นว่าบทบาทของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีที่แสดงออกมานั้น ย่อมต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่าต้องการสกัดแหล่งทุนในการก่อความไม่สงบในภาคใต้

ในส่วนของนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองต่างประเทศ ได้แสดงทัศนะในเชิงขัดแย้งต่อคำกล่าวของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และตำหนิการกระทำดังกล่าว มีอยู่ในหลายประเด็น ดังเช่น ผศ.ดรงชิดชนก ราฮิมมูรา แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้แสดงทัศนะว่า (//www.hunsa.com/2005/view.php?cid=23562&catid=87)

“...ธุรกิจร้านอาหารไทยในมาเลเซียที่เรียกกันติดปากว่า "ร้านต้มยำ" นั้น ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเมนูเด็ด "ต้มยำกุ้ง" ที่ถูกปากถูกใจ ประกอบกับวัฒนธรรมของชาวมาเลย์ที่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน ทำให้ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูอย่างยิ่งในมาเลเซีย ทั้งนี้ พบว่าคนไทยที่อยู่ในธุรกิจร้านต้มยำมีไม่ต่ำกว่า ๘๐,๐๐๐ คน และแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่มคือ

๑. เจ้าของร้านต้มยำ ซึ่งเดิมเป็นคนไทย ที่ได้เข้าไปบุกเบิกธุรกิจนี้เป็นรุ่นแรกๆ เมื่อเกือบ ๒๐ ปีก่อน จนปัจจุบันได้สัญชาติมาเลเซีย และมีฐานะร่ำรวยไปแล้ว โดยคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่พื้นเพเดิมมาจากจังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และพัทลุง แต่ไม่มีคนจาก ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
๒. กลุ่มแรงงานสตรีในร้านต้มยำ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นคนจาก ๓ จังหวัดชายแดน โดยเจ้าของร้านติดต่อผ่านทางเครือญาติ แล้วดึงๆ กันไป บางหมู่บ้านไปกันหลายสิบคน เพราะรายได้ดี
๓. กลุ่มแรงงานชายในร้านต้มยำ ซึ่งคนกลุ่มนี้เข้าไปทำงานหลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวดชายแดนภาคใต้แล้ว แต่ทำงานไม่ค่อยทน ไม่เหมือนกับแรงงานผู้หญิง

แรงงานในร้านต้มยำเกือบ ๑๐๐% เป็นคนสัญชาติไทยที่ข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซียโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว มีอายุ 1 เดือน ซึ่งวีซ่าประเภทดังกล่าวไม่สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานในการประกอบอาชีพได้ ฉะนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้ไปลักลอบทำงาน ก็จะต้องมาจ๊อบพาสปอร์ตทุกเดือน บางรายต้องยอมจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อขอโอกาสทำงานต่อไป...”

จากผลการวิจัยของ รศ.ดร.ชิดชนกฯ จะเห็นได้ว่า การที่จะกล่าวว่าร้านต้มยำกุ้ง เป็นแหล่งระดมเงินสำหรับการก่อความไม่สงบนั้น รัฐบาลยังไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ มายืนยันได้ และในขณะเดียวกัน ผลการวิจัยก็เป็นเครื่องโต้แย้งคำกล่าวของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี โดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งในประเด็นนี้ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ(//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000144442)
ได้ตำหนิ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีว่า กล่าวโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ ส่งผลให้กระบวนการทางการทูตชะงักงัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงทัศนะว่าไทยควรติดต่อขอโทษต่อรัฐบาลมาเลเซียในการแสดงความเห็นในเชิงลบต่อประเทศมาเลเซีย

๒. โครงสร้างทางสังคมและพฤติกรรมของประชาชน

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชนในประเทศมาเลเซีย ทั้งในลักษณะเครือญาติ และความเป็นมุสลิมเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงย่อมไม่สามารถตัดความสัมพันธ์เหล่านี้ออกไปได้ จากท่าทีเรื่องต้มยำกุ้งที่ประเทศไทยเสนอข้อมูลไว้ ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจต่อรัฐบาลมาเลเซีย และปรากฏว่าได้มีการเสนอข่าวในลักษณะแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ดังเช่น กรณีของบุตรชาย ดร.มหาเธร์ โมหัมมัด ที่ได้กล่าวว่ามาเลเซียเสนอที่จะจัดการเจรจาระหว่าง ไทย กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ณ ประเทศบรูไน ต่อเนื่องจากที่เคยจัดมาแล้ว ณ เกาะลังกาวี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้ได้รับการปฏิเสธจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยโดยทันที ซึ่งหากมีการเจรจาดังกล่าวขึ้นจริง แสดงว่ารัฐบาลไทยได้ยกระดับความสำคัญของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบให้เป็นองค์การก่อการร้ายระดับชาติ อันจะส่งผลให้กลุ่มเหล่านี้ได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลมากขึ้นในการดำเนินนโยบายในเวทีการเมืองของโลก

๓. สภาวะแวดล้อมภายนอก

จากความผิดพลาดของรัฐบาลในกรณีตากใบ หรือการที่มีข่าวอุ้มฆ่าในสมัยรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันก็ยอมรับโดยการกล่าว “ขอโทษ” ของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้นานาประเทศมีความเคลือบแคลงการดำเนินนโยบายในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในกลุ่มมุสลิม และองค์การสากลต่างๆ เช่น องค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยให้การรับประกันด้านความปลอดภัยภายในโรงเรียน โดยระบุว่า องค์การยูนิเซฟวิตกอย่างยิ่งกับผลกระทบจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย เพราะภายใต้กฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โรงเรียนจะต้องได้รับการดูแลให้เป็นเขตปลอดความรุนแรง เพื่อป้องกันเด็กนักเรียน ครูและโรงเรียน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและการคุกคามในรูปแบบต่างๆ (www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=13959)

หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมหรือสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศได้ จะเป็นการนำไปสู่การแทรกแซงที่ทวีระดับมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบโดยตรง

๔.การกำหนดแนวทางในการปฏิบัติ

ในกรณี ต้มยำกุ้ง รัฐบาลยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะมีการขยายผลต่อจากที่ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไร มีเฉพาะแนวทางในระดับยุทธวิธี เช่น การกำหนดวิธีการที่จะตรวจสอบที่มาของเงินและการเคลื่อนย้ายเงินเข้าสู่ประเทศไทย เพียงเท่านั้นที่มีความชัดเจน ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ในระดับยุทธศาสตร์ประเทศไทยยังไม่ได้ประโยชน์มากนักจากการเสนอข่าวนี้แก่สาธารณชน

สรุป

ต้มยำกุ้ง เป็นการเปิดประเด็นการวิพากษ์ในระดับประเทศประเด็นใหม่ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีความหวาดระแวงต่อกันในระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคคลสองสัญชาติ การข้ามพรมแดน ไป – มา ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ การแสดงท่าทีและแนวความคิดในลักษณะแทรกแซงการเมืองภายในของประเทศไทย และ ฯลฯ ซึ่งเป็นการสะสมความขัดแย้งระหว่างประเทศให้ทวีปริมาณมากยิ่งขึ้น ไทยอาจจะได้รับประโยชน์จากการแสดงข้อมูลอันเป็นการป้องปรามต่อมาเลเซีย มิให้เกื้อกูลต่อองค์การก่อการร้ายในภาคใต้ของประเทศไทย (ในกรณีที่มาเลเซียมีส่วนรู้เห็นจริง) แต่ในการพิจารณาทางด้านการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว การกระทำของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่แสดงความเห็นโดยขาดหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ถือได้ว่าเป็นความเพลี่ยงพล้ำอีกประการหนึ่งของประเทศไทยในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ และอาจจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเนื่องไปอีกในระยะยาว

บรรณานุกรม

วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร. ปัญหาขบวนการก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ. กรุงเทพ:อัดสำเนา.๒๕๔๙.

สถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์. การศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจระหว่างพื้นที่

๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้กับจังหวัดสงขลา-สตูล ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ. กรุงเทพ:อัดสำเนา. ๒๕๔๙.

อัษฎากร เอกแสงศรี, ผศ.ดร. การกำหนดนโยบายต่างประเทศ:ทฤษฎีและแนววิเคราะห์. กรุงเทพ:โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. ๒๕๔๓,

//www.en.wikipedia.org/wiki/South_Thailand_insurgenvcy

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000144442

//www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=13959)

//www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=40395)

//www.hunsa.com/2005/view.php?cid=23562&catid=87



Create Date : 30 ธันวาคม 2549
Last Update : 30 ธันวาคม 2549 10:33:04 น. 11 comments
Counter : 758 Pageviews.

 
ขออย่าให้ภาวะวิกฤติ เกิดขึ้นอีกเลยนะคะ

ภาวะคนตกงาน ข้าวของแพง

โจรผู้ร้ายชุกชุม

ไม่อยากให้เกิดอีกเลยจริง ๆ ค่ะ


....

hApPy NeW yEaR
ขอให้มีความสุขมาก ๆ
สมปรารถนาในทุกสิ่งนะคะ






โดย: โสดในซอย วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:10:46:32 น.  

 

เป็นบุญหัวกะบาลของไอ่อ่ำ ที่มันยังไม่ถูกล้างขมองอิ่ม ด้วยวิธีคิดแบบคัดลอกสำเนากึ่งสำเร็จรูปโรงเรียน วปอ.
วิ่งเต้นเข้ามาเรียนแต่ละรุ่นๆ หาแววเพชรกล้าทำยายาก




โดย: น้อยก็หนึ่ง IP: 58.8.118.55 วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:11:36:53 น.  

 
ขอบคุณ คุณ "โสดในซอย" ที่กรุณาส่งความปรารถนาดีมาเนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่ครับ

สำหรับผม ก็เป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่งที่เป็นวันหยุดเท่านั้น แต่ความดีใจ อิ่มใจ ก็เพราะได้รับความเอื้ออาทร เกื้อกูลจากเพื่อนๆ ที่หวังดี ดังเช่นที่คุณโสดในซอยได้แสดงให้เห็น ณ ที่นี้ และขอให้สมปรารถนาในสิ่งที่ประสงค์เช่นเดียวกัน


โดย: พ.อ.อนุชาติ บุนนาค (anuchartbunnag ) วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:11:57:09 น.  

 
ขอให้โลกนี้มีแต่สันติสุข
สวัสดีปี2007จ๊า
ขอให้มีความสุขมากๆๆนะจ๊า


โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:12:54:34 น.  

 
ขอบคุณ คุณ "บ้านโคกโจด" ขอให้มีความสุขเช่นเดียวกันครับ


โดย: พ.อ.อนุชาติ บุนนาค (anuchartbunnag ) วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:12:59:56 น.  

 

แต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน
มีใจเมือง ไม่ใช่คอยปรับตัวอ่อนไหวไล่ตาม
ความคิดนโยบายของคนอื่นเป็นกระแสหลัก

หรือจีนจะต้องเพิ่มค่าเงินหยวนตามดอลลาร์
สหรัฐ เวียตนาม พม่าต้องเป็นประชาธิปไตย
อิหร่าน เกาหลีเหนือ ต้องหยุดเรื่องนิวเคลียร์
แต่ อิสราเอล อังกฤษ สหรัฐ จีน รัสเซีย OK.

ผู้นำไทยเราก็ต้องระมัดระวังอย่าทำให้เพื่อน
บ้านที่รายรอบตัว เขารู้สึกไม่สบายใจ คำพูด
(ที่วิเคราะห์เดาใจแทนผู้นำมาเลเซียเสียเอง)

ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ เป็นสุภาพบุรุษพูดน้อย
พูดตรง พูดมีเหตุผลมากกว่าผู้นำหลายๆ คน

อธิปไตยและความเป็นผู้นำในแต่ละประเทศ
เป็นบุคลิกภาพของประเทศ ที่ชัดเจน จริงใจ
ท่านยืนพูดที่ประชุมเอเปค ฝรั่งยังปรบมือให้
คนไทยเราส่วนใหญ่ก็ชื่นชมนายกฯ สุรยุทธ์
องคมนตรี,ผบ.ทบ.,ผบ.สส. ก็ต้องให้เกียรติ


โดย: พุ่มสกี้ IP: 58.8.118.55 วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:13:11:01 น.  

 

งานเลี้ยงเล็กๆ ที่บ้านลาดพร้าว.. อาจบ-เคยพูดกึ่งเล่น
กึ่งสอนพวกเรา(ซึ่งกำลังกรึ่ม) ว่า.. รู้มั๊ยว่าอาเนี่ยะเป็น
นายทหารที่ทำความเคารพเท่ห์สวยที่สุดในกองทัพบก

สวัสดีปีใหม่ จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละเทอญ


โดย: (",) IP: 58.8.118.55 วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:13:44:22 น.  

 
ขอบคุณครับคุณ พุ่มสกี้ (".) ที่เขียนมาผมเข้าใจดี และเดาว่าคุณน่าจะเป็นชั้น ๗ เพราะเรียกท่านว่า อาจบ


โดย: พ.อ.อนุชาติ บุนนาค (anuchartbunnag ) วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:16:27:15 น.  

 







สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้คุณจขบและครอบครัวมีแต่ความสุข
โรคภัยไม่มี
มีโชคมีลาภมีเงินมีทอง
รวยๆ เฮงๆ ตลอดปีและก้อตลอดไปค่ะ





โดย: icebridy วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:23:04:10 น.  

 
ขอบคุณสำหรับพรของคุณ Icebridy ขอพรนั้นจงสนองตอบคุณเป็นทวีคูณครับ


โดย: พ.อ.อนุชาติ บุนนาค IP: 58.9.91.232 วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:23:36:16 น.  

 
ทำไม คนที่กำลังคิดแยกดินแดนไปไม่หวนดิดถึงอนาคตของลูกหลานบ้างว่าจะอยู่กันอย่างไร แยกแล้ว ประเทศไหนจะกล้ารับรองความเป็นรัฐฯ ให้กับพวกท่าน ในเมื่ออดีตเราเคยอยู่กันได้โดยไม่มีการแบ่งแยกศาสนาเชื้อชาติและภาษา ยังอยู่กันได้อย่างสงบสุขหรือเพราะการศึกษาทำให้เปลี่ยนไป



โดย: pattani IP: 61.19.67.185 วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:14:30:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

anuchartbunnag
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add anuchartbunnag's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.