สรุปการบรรยายเรื่อง การก่อการร้ายในอิสราเอล กรณีศึกษาวิกฤตการณ์เลบานอน
พล.ต.ยูเซฟ เบน ฮานัน ผอ. The Foreign Defense Assistance and Defense Export Organization of the Israeli (อดีต ผอ.วปอ.อิสราเอล) มีภารกิจในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการป้องกันประเทศอิสราเอล รวมทั้งการหาแหล่งยุทโธปกรณ์เพื่อเสริมสร้างกองทัพ พล.ต.ฮานันฯ เคยดำรงตำแหน่ง ผอ.วปอ.อิสราเอล ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๗ และเป็นที่ปรึกษา กห.ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๙-๒๕๔๐ สำเร็จการศึกษาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ในวันที่ ๒๑ มี.ค.๕๐ ได้เดินทางมาทำการบรรยาย เรื่อง การก่อการร้ายสากล-ภัยคุกคามของโลกประชาธิปไตย: กรณีศึกษาวิกฤตการณ์เลบานอน ณ ห้องประชุมกระทรวงการต่างประเทศ ถ.ศรีอยุธยา ภายใต้การสนับสนุนของ ฯพณฯ ยาเอล รูบินสไตน์ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ในฐานะที่เป็นผู้หนึ่งซึ่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ และเห็นว่าข้อมูลหลายประการที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย อย่างน้อยก็เพื่อกระจายองค์ความรู้ให้แก่สังคมได้รับทราบ จึงได้สรุปโดยย่อและนำเสนอในเวบบล็อก ดังต่อไปนี้ครับ
หัวข้อการบรรยาย ๑. ความเป็นมาของการก่อการร้าย ๒. รูปแบบของภัยคุกคามอันเนื่องมาจากการก่อการร้าย ๓. การเสริมสร้างขีดความสามารถในการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย
ความเป็นมาของการก่อการร้าย การก่อการร้ายในตะวันออกกลางในยุคปัจจุบันเกิดขึ้นบ่อยครั้งในกรุงเทลอาวีฟ ส่วนใหญ่เป็นการระเบิดพลีชีพของกลุ่มผู้คลั่งศาสนา โดยมุ่งที่จะทำร้ายประชาชนทั่วไปให้ประสบความยากลำบากในการดำเนินชีวิตในรูปแบบปกติ อันเป็นการทำลายขวัญและส่งผลกระทบถึงความมั่นคงแห่งชาติโดยตรง ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวนี้ได้แพร่กระจายไปในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกในปัจจุบัน และประเทศไทยก็เป็นตัวแบบที่น่าศึกษา โดยเฉพาะ กทม. ซึ่งเป็นสถานที่ที่ง่ายในการก่อการร้าย เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศหลายล้านคนในแต่ละปี ทั้งนี้ ความเป็นจริงก็คือ ในโลกนี้ไม่มีประเทศใดที่สามารถแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยสมบูรณ์ อิสราเอลพยายามสร้างฉนวนกั้นในพื้นที่ชายแดนซีเรีย มีลักษณะเป็นถนนเลียบแนวชายแดนร่วมกับรั้วตาข่าย พร้อมระบบตรวจจับทางอิเล็กทรอนิกส์ และการตรวจการณ์ด้วยสายตาโดยใช้บอลลูน ทำให้ลดการสูญเสียจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายลงได้บางส่วน
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มิได้เกิดจากคนที่เป็นและไม่เป็นมุสลิมเท่านั้น เพราะในสงครามโลกครั้งที่ ๒ เยอรมันและฝรั่งเศสต่างเป็นคริสเตียน ก็ฆ่าฟันกันล้มตายไปมากมาย ซึ่งประเทศต่างๆ จะต้องร่วมมือกันต่อต้านภัยจากการก่อการร้ายอันเป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติ ทุกประเทศจะต้องตระหนักและเตรียมรับมือกับภัยคุกคามนี้ เช่น ร่วมมือกันควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุน การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีผู้สนับสนุนที่อยู่ในประเทศต่างๆ นั่นเอง ด้วยคนที่มีความรู้สูงที่อาจจะสำเร็จการศึกษาจากอเมริกา อังกฤษ หรือในประเทศที่มีการก่อการร้ายนั้นๆ แนวหน้าในการป้องกันคือ สื่อมวลชน ที่จะนำเสนอสถานการณ์แก่สังคมด้วยความถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
รูปแบบของภัยคุกคามอันเนื่องมาจากการก่อการร้าย สำหรับกรณีของอิสราเอลเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางในปัจจุบันนี้ เริ่มต้นเมื่อ ๒๕ มิ.ย.๔๙ โดยนักรบชาวปาเลสไตน์ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลของกลุ่มฮามาส ทำการโจมตีที่ตั้งทางทหารของอิสราเอลที่พรมแดน อิสราเอล-กาซา สังหารทหาร ๒ คน และจับเป็นเชลย ๑ คน และในวันต่อมานักรบปาเลสไตน์ ๓ กลุ่ม ซึ่งประกอบกลุ่ม The Popular Resistance Committee-PRC กลุ่มนักรบติดอาวุธของฮามาสในปาเลสไตน์ และกองกำลังอิสลาม ร่วมกันจับตัวสิบโทกิลัด ชาลิต วัย ๑๙ ปี เพื่อต่อรองให้อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษหญิงและเด็กซึ่งถูกกุมตัวในฐานะที่กระทำการต่อต้านรัฐยิว อิสราเอลจึงใช้กำลังทหารเข้าปฏิบัติการตั้งแต่ ๒๘ มิ.ย.๔๙ เป็นต้นมา โดยใช้กำลังพลประมาณ ๕,๐๐๐ คนพร้อมอาวุธหนัก รุกเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเพื่อกดดันปาเลสไตน์ให้ปล่อยตัวทหารอิสราเอล และตั้งแต่ ๑๒ ก.ค.๔๙ ฝ่ายติดอาวุธของกลุ่ม เฮซบอลลาห์ เริ่มปฏิบัติการ สัจจสัญญา (Operation Truthful Promise) ทำการโจมตีข้ามพรมแดนเลบานอน มีนายทหารอิสราเอล ๘ นายเสียชีวิต และถูกจับเป็นเชลย ๒ นาย จากนั้นจึงตามมาด้วยการแก้แค้นของฝ่ายอิสราเอล ในชื่อ ปฏิบัติการล้างแค้น (Operation Just Reward) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ปฏิบัติการเบนเป้า (Operation Change of Direction) และก่อให้เกิดความรุนแรงของความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งใหม่ ซึ่งสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
การเสริมสร้างขีดความสามารถในการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย ในการตอบโต้การโจมตีจากกลุ่มก่อการร้าย จะต้องให้ความสำคัญต่อการข่าว และเทคโนโลยีในการพิสูจน์ทราบ (ทางยุทธวิธี) เช่น การใช้บอลลูนตรวจการณ์ การพัฒนาเรด้าสำหรับภารกิจต่างๆ การใช้อากาศยานไร้นักบิน (UAV) การชี้เป้าด้วยเรเซอร์ เครื่องรบกวนการสื่อสารทางวิทยุ การวางระบบเครือข่ายการสั่งการ แม้แต่อุปกรณ์ตรวจการณ์ในที่มืด ซึ่งกองทัพอิสราเอลได้จัดให้มีในอัตรายุทโธปกรณ์ประจำกายของทหารทุกนายไว้อย่างพร้อมสรรพ
ในการจัดกำลังเคลื่อนที่เร็ว และการเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงทำลายเป้าหมาย กองทัพอิสราเอล สามารถปฏิบัติการได้ภายในเวลาจำกัดนับเป็นนาที โดยมีการจัดตั้งกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว พร้อมอาวุธจู่โจมที่เหมาะสม เช่น เฮลิคอปเตอร์ ที่สามารถเข้าทำลายที่มั่นของฮิสบอเราะห์ซึ่ง ชี้เป้าโดย UAV และกองทหารสามารถเคลื่อนที่ไปในจุดปะทะได้ภายในเวลาอันสั้น รวมทั้งมีการพัฒนายุทโธปกรณ์ของตนเองขึ้น อันเป็นการออกแบบอาวุธที่เหมาะสมต่อการสู้รบกับกลุ่มก่อการร้ายในเมือง เช่น ปืนอัตโนมัติประจำกายที่สามารถหักงอลำกล้องได้ (MTAR) กล้องตรวจการณ์ในความมืด โดยใช้หลักนิยมในการพัฒนาอาวุธบนพื้นฐานของภารกิจและสภาพแวดล้อมของอิสราเอลโดยตรง และกองทัพอิสราเอลมีความเห็นว่ายุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาไม่เหมาะสมต่อพฤติกรรมของทหารและสภาวะแวดล้อมโดยทั่วไปในอิสราเอล ยกตัวอย่างเช่น Spike Missile ที่อิสราเอลพัฒนาขึ้นเอง และสามารถสั่งทำลายตนเองได้หากพบว่าเป้าหมายที่กำหนดนั้นมีความผิดพลาดหรืออาจจะมีผลกระทบต่อพลเรือน ฯลฯ เป็นต้น
(อาวุธประจำกาย Mtar ซึ่งอิสราเอลพัฒนาขึ้นใช้สำหรับการรบในเมืองโดยเฉพาะ สามารถโค้งลำกล้องปืนไปในทิศทางของข้าศึก และทำการยิงได้ในขณะผู้ยิงไม่จำเป็นต้องโผล่ออกจากที่กำลังเพื่อทำการเล็ง Mtar ผลิตขึ้นเพื่อทดแทนอาวุธปืนอูซี่และกาลิลี่ มีความคล่องตัวสูง ยาวประมาณ ๗๒๐ ม.ม.หนัก ๒.๘ ก.ก. ผลิตโดยบริษัท Israel Military Industries)
สรุป การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามทุกประเทศในโลก ในระดับยุทธศาสตร์ ประชาคมโลกจำเป็นจะต้องร่วมมือกันสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันและต่อต้านการขยายตัวของการก่อการร้าย ส่วนในทางการปฏิบัติด้านยุทธวิธีนั้น แนวความคิดในการป้องกันและปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายจะต้องได้รับการพัฒนาในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของประชาชนโดยทั่วไปในประเทศนั้นๆ และออกแบบพัฒนายุทโธปกรณ์ที่เหมาะสม การนำระบบอาวุธสำเร็จรูปจากประเทศมหาอำนาจผู้ส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์มาใช้โดยไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมและหลักนิยมที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ นอกจากจะเป็นการสูญเปล่าทางด้านงบประมาณแล้ว ยังไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายได้อย่างแท้จริง
Create Date : 13 เมษายน 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2550 10:57:18 น. |
Counter : 2309 Pageviews. |
|
|
|