|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
▶▶▶ติช กว๋าง ดึ๊ก ชื่อก้องโลก : ภิกษุหัวใจโพธิสัตว์ ถวายชีวิตในกองเพลิง สืบอายุพระศาสนาในเวียดนาม.
บทความเพื่อบูชา พระสงฆ์ผู้มีหัวใจเสียสละเพื่อพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต.
ติช กว๋าง ดึ๊ก : พระผู้มีหัวใจพระโพธิสัตว์ - วันที่ 11 มิถุนายน 2559 ซึ่งหากย้อนไปใน ปี พ.ศ. 2506 คือ เมื่อราว 53 ปี ที่แล้ว.
- ได้มีเหตุการณ์สำคัญ และยิ่งใหญ่ในแวดวงพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น ที่ประเทศเวียดนามใต้.
- นั้นคือ เหตุการณ์การจุดไฟเผาตัวเอง ของ พระสงฆ์ชาวเวียดนาม ที่ชื่อ ติช กว๋าง ดึ๊ก ที่สี่แยก ถนนกลางกรุงไซง่อน.
- เพื่อประท้วง "การไม่ให้ความเท่าเทียมกันทางศาสนากับของพุทธศาสนา ของรัฐบาลโง ดิ่ญ เสี่ยม".
- วันนี้ 11 มิ. ย. เป็นวันครบรอบ การเสียสละชีวิต อันยิ่งใหญ่ ของ พระสงฆ์ชาวเวียดนาม นามว่า ติช กว๋าง ดึ๊ก ซึ่งต้องถือว่า... "แม้น รูปสลาย กายแตกดับ แต่นามเป็นอมตะ จารึกโลกคู่พระศาสนาตลอดไป".
- ผมอยากจะให้ พระสงฆ์ไทย และพระสงฆ์ทั่วโลก ได้ร่วมกัน จดจำ รำลึก คุณูปการ อันเด็ดเดี่ยว ที่ควรค่าแก่การค่อมเศียร น้อมลงคารวะ ด้วยหัวใจแห่งพุทธบุตร ในการเสียสละเพื่อพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ครับ.
เรื่องราวเหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์เวียดนาม - วันแห่งการเสียสละชีพของท่าน "ติช กว๋าง ดึ๊ก" พระภิกษุมหายาน ชาวเวียดนาม.
- 11 มิถุนายน พ.ศ.2506 ศาสนาพุทธในเวียดนาม ตรงกับสมัยที่ประเทศเวียดนามใต้ มีประธานาธิบดี คือ "นาย โง ดินห์ เดียม".
- ในช่วงนั้น พระพุทธศาสนาในเวียดนามใต้ถูกทำลายเป็นอย่างมาก. - เนื่องจาก โง ดินห์ เดียม พี่ชาย คือโง เดียม ถึก และน้องชาย คือ โง ดิน นูห์ ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลสำคัญ และทรงอิทธิพลสุดในรัฐบาลเวียดนามในสมัยนั้น.
- ทั้ง 3 ท่านนี้ ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ได้พากันกดขี่ข่มเหงประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธอย่างที่สุด.
- นายโง ดินห์ เดียม ประธานาธิบดี ของ เวียดนาม ก่อนวันวิสาขบูชา ที่ ๘ พฤษภาคม ปี ๒๕๐๖.
- โดยรัฐบาลได้ออกนโยบาย เพื่อบังคับให้ประชาชนที่นับถือพระพุทธศาสนา ต้องตกอยู่ในสถานะที่แทบเรียกว่า ต่ำยิ่งกว่าชนชั้นค่ำสุดในประเทศในยุคนั้น.
- เช่น ได้ออกคำสั่งให้ประชาชนทุกบ้าน ห้ามชักธงธรรมจักร หรือสัญญาลักษณ์ใด ๆ เกี่ยวกับศาสนาพุทธปรากฎให้เห็นเป็นอันขาด.
- มีบันทึกไว้ว่า ถ้าพุทธศาสนิกชนในเมืองเว้ ชักธงทางพุทธศาสนาขึ้น เจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะนำธงลงจากเสา แล้วนำไปเผาทิ้งทันที.
- ที่สำคัญจะมีโทษอย่างรุนแรง จนประชาชนชาวพุทธหวาดผวา หลบ ๆ ซ่อน ๆ ในการทำกิจกรรมทางพระศาสนา.
- สุดท้ายเหตุการณ์นี้ ทำให้ชาวพุทธในประเทศเวียดนาม โกรธแค้น และออกมาเดินขบวนประท้วงเป็นจำนวนมาก.
- รัฐบาลมิจฉาทิฎฐิ ได้สั่งทหารเข้าปราบปรามชาวพุทธอย่างรุนแรง และเด็ดขาด.
- เหตุการณ์นี้ ประวัติศาตร์ได้บันทึกไว้ว่า .. "เป็นเหตุให้พระภิกษุ และชาวบ้านเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แทบจะหมดพระสงฆ์ไปจากเวียดนามเลยทีเดียว".
วันที่ชาวพุทธทั่วโลกจะต้องจดจำ - วันนั้น ตรงกับวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2506 พระภิกษุในพุทธศาสนา มหายาน ที่นามว่า ติช กว๋าง ดึ๊ก อายุ 73 ปี จาก วัดเทียนมู่.
- ได้ทนเห็นความทารุณโหดร้าย ในการใช้อำนาจรัฐปราบปรามเข่นฆ่าชาวพุทธต่อไปไม่ไหว.
- ท่านจึงได้ตั้งใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์ร้าย ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ได้ ก่อนที่ชาวพุทธจะล้มตายไปมากกว่านี้.
- ท่านจึงตั้งใจมอบชีวิตแก่พระพุทธศาสนา.
- จุดประสงค์ของท่าน "เพื่อต้องการให้รัฐบาลชั่วในขณะนั้น ได้หยุดปราบปรามชาวพุทธ มอบความเท่าเทียมต่อประชาชนที่ต่างศาสนา".
- ท่านจึงได้ทำการสร้างมหากุศลครั้งนิ่งใหญ่ ด้วยการใช้น้ำมันราดตัวเอง และจุดไฟเผาตัวเอง ที่สี่แยกกลางกรุงไชง่อน ดังภาพเหตุการณ์.
- โดยท่านติช กว๋าง ดึ๊ก กล่าวว่า..,
"ขอเอาชีวิตน้อย ๆ ของ ท่านนี้ เผื่อเป็นประทีปส่องใจอันมืดมน ของ พี่น้องชาวเวียดนาม ข้าพเจ้าขอตายเพื่อไถ่บาปพี่น้องชาวเวียดนามทุกๆ คน ขอให้เลิกเข่นฆ่ากัน
ข้าพเจ้าไม่ได้ตายเพราะความโง่เขลา ข้าพเจ้าไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะมิจฉาทิฏฐิ แต่ข้าพเจ้าตายเพื่อคนหูหนวกจะได้ยิน เพื่อคนตาบอดจะได้มองเห็น เพื่อยุติการเข่นฆ่าสายเลือดเดียวกัน".
- โดยก่อนหน้านั้น ท่านติช กว๋าง ดึ๊ก ท่านได้เขียนจดหมายถึง รัฐบาล นายโง ดินห์ เดียม ในการเสียสละตนเองครั้งนี้ว่า..
1. เพื่อป้องกันพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาดั้งเดิมของประเทศชาติ.
2. ขอเตือนการกระทำที่บีบคั้น และฆ่าพระภิกษุ แม่ชี และคนทั่วไปในประเทศ.
3. ขอร้องให้ท่านมอบอิสรภาพให้แก่ผู้นำชาวพุทธทั้งหลาย ในคณะกรรมการป้องกันพระพุทธศาสนา พระภิกษุ แม่ชี และพุทธศาสนิกชนที่ถูกจับขังอยู่ในขณะนี้.
4. ให้ยุติสถานการณ์เลวร้าย และเลิกจับพระภิกษุ แม่ชี และพุทธศาสนิกชนอีก.
5. ให้เลิกองค์การคณะสงฆ์รวมทั้งบุคคลที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาหลอกลวงปิดบังความจริงเป็นเหตุให้ประชาชนโง่เขลา.
สรุป - ขอให้ชาวพุทธทุกท่านในปัจจุบันนี้ ได้ร่วมกันกราบคารวะการจากไปของท่าน ติช กว๋าง ดึ๊ก พระสงฆ์ผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่เพื่อพระศาสนา.
- ขอให้พระพุทธศาสนาในเมืองไทย จงอย่าได้ถูกทำลาย โดย บุคคลที่มีมิจฉาทิฏฐิ ดังเช่นอดีตอันแสนเจ็บปวดในเวียดนามใต้ในครั้งนั้นเลย.
- ขอให้พระพุทธศาสนาจงอยู่คู่สถาบันพระมหากษัตริย์ และเมืองไทยตราบนานเท่านาน เทอญ.
ติช กว๋าง ดึ๊ก ชื่อก้องโลก : ภิกษุหัวใจโพธิสัตว์ ถวายชีวิตในกองเพลิง สืบอายุพระศาสนาในเวียดนาม.
- เป็นพระรูปที่ท่านจุดไฟเผาตัวเอง เพื่อประท้วงรัฐบาลเวียดนาม
- ซึ่งภาพ และข่าวนี้ ปรากฎเผยแพร่อย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จนช่างภาพที่ชื่อ มัล คอล์ม บราวน์ ได้รับรางวัล พูลิตเซอร์
- เหตุการณ์ครั้งนั้น ครบรอบ 53 ปี พอดีในวันนี้ คือเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2506 ที่ผ่านมา.
- จุดประสงค์ที่ผมคิดจะหยิบเรื่องนี้ มานำเสนอ ก็ด้วยเหตุ 2 ประการหลัก ๆ คือ
1. เพื่อบูชาหัวใจรักในพระศาสนา ของ หลวงพ่อ ติช กว๋าง ดึ๊ก ที่ต้องถือว่า เป็นผู้มีหัวใจเด็ดเดี่ยว สละแม้กระทั้งชีวิต เพื่อพระพุทธศาสนา.
- ท่าน ติช กว๋าง ดึ๊ก รูปนี้ ชาวเวียดนาม ถือว่า ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งภายหลัง เมื่อนำสรีระของท่านไปทำพิธีเผา ปรากฎว่า ส่วน ของ "หัวใจท่านกลับไม่ไหม้ไฟ".
2. เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เตือนสติคนไทย และชาวพุทธในประเทศไทยทุกคน ว่า ...
- หากยังเป็นมิจฉาทิฎฐิอยู่ มัวหลงในกระแสโลกสมมติ เมาในอำนาจ ทะเลาะขัดแย้งกันไม่จบสิ้น ไม่สามัคคีกันสักที ดังที่เป็นอยู่ขณะนี้นั้น.
- ให้ระวังไว้เถอะว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มันอาจเกิดขึ้นในประเทศไทยเราก็ได้.
ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจ ท่านเจ้าคุณเบอร์ลิน
Cr:cancalmyourmind.blogspot.com
Create Date : 29 ธันวาคม 2559 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2559 7:53:10 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3305 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 29 ธันวาคม 2559 เวลา:9:49:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- ❀จันทร์ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑✼ภาพหมู่พระธรรมยาตราที่วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
- ❀ภาพ ณ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
- ❀ชมภาพ วัดโบสถ์(บน) ,วัดไผ่หูช้าง ,วัดนครอินทร์ ,วัดคลองขวาง จังหวัด นครปฐม - นนทบุรี
- ❃วันที่๒๒มีนาร่วมพัฒนาชุมชน วัดบ่อทอง ,วัดตาก้อง ,วัดรางกำหยาด ,วัดบัวแก้วเกษร ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม
- ✿ภาพชุดชุมชนร่วมพัฒนา วัดบัวแก้วเกษร ,วัดนาราภิรมย์ ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม, ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑
- BlogGang.com
|
|
|
|
ประเทศไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพุทธมามกะ