|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
อังกฤษอเมริกัน ๒
No-Fly Zone
มารศรี ดูข่าวสิ ประเทศมหาอำนาจกำลังเข้าไปกำจัดแมลงวันในลิเบีย ประหลาดจัง
อะไรกัน เพ้อเจ้ออะไรของเธออีกแล้ว ก็ดูสิ เขาประกาศ no-fly zone ในลิเบีย แปลว่า เขตห้ามแมลงวัน ไม่ใช่เหรอ แต่ฉันสงสัยจังเลยว่าเขาทำยังไง ถึงจะลงทุนติดป้ายประกาศว่าแมลงวันห้ามเข้าก็เหอะ แมลงวันมันจะอ่านออกเหรอ นี่เธอ อย่าแกล้งปัญญาอ่อนหน่อยได้ไหม หรือถึงไม่แกล้งก็อย่าแสดงออกให้มันชัดนัก fly ไม่ได้มีความหมายอย่างเดียวสักหน่อย ก็จริงอยู่ ถ้าเป็นนาม fly แปลว่า แมลงวัน แต่นี่เขาใช้เป็นกริยา แปลว่า บิน no-fly zone ก็หมายถึง เขตห้ามบิน อ้าว แล้วทำไมไม่ใช้ว่า no-flying ล่ะ ที No-smoking area ยังแปลว่า บริเวณห้ามสูบบุหรี่ เลย อืมม์ ก็จริงของเธอ ที่ถูกต้องควรจะเป็น no-flying zone แต่ทหารอเมริกันชอบใช้ศัพท์ย่อ หรือไม่ย่อก็ตัดให้กระชับ เพื่อความรวดเร็วในการสื่อสาร ความจริงถ้าจะเป็น no-flight zone ก็จะได้ทั้งความกระชับและความถูกต้องทางภาษา แต่เขาใช้ no-fly zone มาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่สมัยบอสเนียแล้ว ก็สรุปได้ว่าความถูกต้องทางภาษาไม่ใช่สิ่งที่ทหารสนใจนัก แล้วเวลาเขาประกาศ no-fly zone มีอะไรมั่งที่เขาห้ามบิน นกบินได้หรือเปล่า แล้วค้างคาวล่ะ ไม่ว่านกหรือค้างคาวก็อ่านหนังสือพิมพ์ออกพอ ๆ กับแมลงวันของเธอนั่นแหละ นกที่ได้ดูหนังสือพิมพ์เป็นประจำก็คงมีแต่นกในกรงกระมัง แต่เป้าหมายหลักของการประกาศ no-fly zone ก็คือห้ามเครื่องบินรบของประเทศฝ่ายตรงข้าม เช่นในกรณีลิเบียนี่ก็ห้ามเครื่องบินของลิเบียบิน เพราะเท่าที่ผ่านมารัฐบาลลิเบียใช้เครื่องบินรบถล่มพวกต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเป็นพลเรือน บาดเจ็บล้มตายมากมาย ยังงี้เขามีรายการหรือเปล่าว่าเครื่องบินแบบไหนบินได้ แบบไหนบินไม่ได้ เป็นแบบ no-fly list น่ะ no-fly list นั่นความหมายคนละเรื่องเลยนะ นั่นหมายถึงรายชื่อบุคคลที่รัฐบาลสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือเกี่ยวโยงกับผู้ก่อการร้าย จึงห้ามขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ แต่บางทีก็เชื่อถือไม่ได้เหมือนกัน เช่นมีวุฒิสมาชิกชื่อดังโดนห้ามขึ้นเครื่องเพราะมีชื่ออยู่ใน no-fly list ที่พ้องกัน พนักงานก็สุดแสนซื่อบื้อ หรือซื่อตรงต่อหน้าที่ แล้วแต่จะมอง ทำให้กว่าจะรู้เรื่องกันท่านวุฒิสมาชิกก็ตกเครื่องไปเรียบร้อย แล้วนี่ fly ยังมีความหมายอย่างอื่นอีกหรือเปล่า มีสิ แปลว่า ซิปเป้ากางเกง เช่น Your fly is open. = ซิปเป้ากางเกงของคุณเปิดอยู่ แล้วยังเป็นวิเศษณ์สแลงวัยรุ่นอีกด้วย แปลว่า ดี สวย เยี่ยม.
Superfly
อะไรกัน มารศรี fly นอกจากแปลว่า แมลงวัน ซึ่งเป็นแมลงที่น่าขยะแขยงแล้ว ในภาษาสแลงยังแปลว่า ดี สวย เยี่ยม ได้อีกเหรอ ใช่แล้ว แต่เวลาใช้เป็นสแลงเธออย่าออกเสียงว่า ฟลาย แบบปกติล่ะ ควรจะออกเสียงให้ดำมืด เป็น ฟล่า เช่น That songs groove sure is fly! = จังหวะเพลงนั้นเด็ดจริง ๆ ได้จ้ะ แล้วจะจำไว้พูดกับพี่มืดบนฟลอร์เต้นรำ เผื่อเขาจะได้ยิ้มตอบถ้าคลับมันมืดเกินไป นี่เธอ ไม่ PC เลยนะ ถ้าไปอเมริกาอย่าพูดแบบนั้นเชียว คนดำฟันขาวอะไรแบบนี้น่ะ คนอเมริกันเขารับไม่ได้ เอาล่ะ กลับเข้าเรื่อง เหนือกว่า fly ก็ยังมี superfly มาจากชื่อหนังแนว Blaxploitation ยุค 70s ซึ่งมีดนตรีประกอบโดย Curtis Mayfield เป็น soundtrack ที่ทำเงินมากกว่าตัวหนังเสียอีก ฉันไม่เคยฟังมั้ง แต่เธอพูดว่าหนังแนวอะไรนะ Blaxploitation เป็นคำสนธิ เอ หรือเป็นคำจำลองก็ไม่รู้ มาจาก black = ดำ บวกกับ exploitation = การใช้ประโยชน์อย่างเอารัดเอาเปรียบ เวลาใช้ exploitation กล่าวถึงหนังจะหมายถึงหนังที่โฆษณาหวือหวาแต่เนื้อหาไร้รสนิยม พยายามกระตุ้นให้คนอยากดูโดยเน้นด้านโป๊เปลือย สยองขวัญ ความรุนแรง เลือดท่วมจอ ฯลฯ เพื่อกลบเกลื่อนต้นทุนที่ต่ำ ส่วนใหญ่เป็นหนังที่ดูเอาความมันส์ชั่วขณะ แต่บางเรื่องก็กลายเป็น cult classic ได้เหมือนกัน Quentin Tarantino ก็พยายามเลียนแบบหนังแนว exploitation จากยุค 70s โดยสร้างเรื่อง Grindhouse ซึ่งทำได้เหมือนมาก แล้ว Blaxploitation คืออะไร เน้นความดำเป็นจุดขายเหรอ ใช่เลย หนังแนว Blaxploitation นำแสดงโดยคนดำ โดยมากพระเอกเป็นหนุ่มใหญ่ผิวดำหุ่นกำสลัด เอ๊ย กำยำ มากล้นไปด้วยเสน่ห์และความสามารถเชิงบู๊ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาราเต้หรือกังฟู ถ้ามีคนขาวบ้างก็มักจะรับบทเป็นผู้ร้ายหรือ The Man คนขาวรับบทเป็น The Man? รับบทเป็นผู้ชายเหรอ เธอจะบอกอะไรมากกว่านั้นหน่อยได้ไหม The Man ในภาษาคนดำไม่ได้แปลว่า ผู้ชาย แค่นั้น แต่หมายถึง คนขาวที่มีอำนาจ มีอิทธิพล คอยกดขี่เอารัดเอาเปรียบคนดำ ดังนั้นคนดำจะใช้วิธีอะไรก็ได้เพื่อเอาชนะ The Man ให้ได้ เพราะ The Man คุมทั้งระบบ มีทุกอย่างเหนือกว่า ยกเว้นความเก่งกาจของพระเอกดำอย่าง Superfly ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติด หรือ Shaft พระเอกหนัง blaxploitation อีกเรื่องที่ดีหน่อยตรงที่เป็นนักสืบรับจ้าง และมี soundtrack โดย Isaac Hayes ที่ fly จริง ๆ แมลงวันกับยาต้ม
โอเค มารศรี เราดูคำว่า fly ในหลายความหมายแล้ว ทีนี้เธอคงจะต้องบอกฉันว่ามีสำนวนอะไรมั่งที่ใช้คำว่า fly ในรูปต่าง ๆ ใช่ปะ เปล่าสักหน่อย แต่ในเมื่อเธอยกประเด็นขึ้นมา แสดงว่าเธออยากรู้ ดังนั้นฉันก็จะบอกเธอ กะแล้วเชียว นี่ไม่ต้องมากะแล้วเชียวเลยนะ เธอรู้หรือเปล่าว่าเด็กในแอฟริกาไม่มีใครสอนสำนวนภาษาอังกฤษให้เขา แต่นี่เธอมีคนสอนให้ฟรี ๆ ยังมา I knew it! = กะแล้วเชียว อีก ฉันนึกว่าเด็กในแอฟริกาอดอยากไม่มีอาหารกินซะอีก นั่นด้วย ตกลงเธอจะให้ฉันเล่าให้ฟังหรือเปล่าว่า fly มีใช้ในสำนวนอะไร ยอมแล้วจ้า เล่าก็เล่า ข้าน้อยจะตั้งใจฟังโดยดี ก็ได้ เธอรู้จักไหมว่า ointment คืออะไร ไม่ต้องมาถามฉันหรอกน่า เธอจะเล่าก็เล่าไปเลย ไม่ต้องปูพื้น ฉันเตรียมฟังอยู่ ointment เป็นยาน้ำที่ใช้ภายนอก มีน้ำมันเป็นพื้น แต่บางทีระหว่างที่ต้มยานี้อยู่ ก็มีแมลงวันเจ้ากรรมหล่นลงไปในหม้อ ทำให้ยาเสียทั้งหม้อ จึงมีสำนวน fly in the ointment ขึ้นมา หมายถึงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้งานใหญ่เสีย อย่างในหนังที่พระเอกจับพลัดจับผลูเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ที่ผู้ร้ายกำลังคิดการใหญ่ เช่น Die Hard หรือ Under Siege ก็กล่าวได้ว่าพระเอกเป็น a fly in the ointment ของผู้ร้าย แต่ถ้าแมลงวันตกลงไปในน้ำมันเดือดมันก็ตายสิ แต่พระเอกในหนังไม่ยักกะเป็นอะไร ฉันถึงบอกอย่างไรเล่าว่าพระเอกเป็น fly in the ointment ของผู้ร้าย คือผู้ร้ายมองว่าพระเอกเป็นปัญหาเล็กน่ารำคาญใจซึ่งอาจทำให้งานใหญ่เสียได้ จึงพยายามกำจัดพระเอก แต่ความที่นึกว่าเป็นปัญหาเล็กก็เลยประมาทไปหน่อย ส่งลูกน้องไม่กี่คนไปจัดการกับพระเอก ทั้ง ๆ ที่ความจริงควรส่งไปสักร้อยคนจะได้สมน้ำสมเนื้อ แต่ผู้ร้ายไม่ได้มีกำลังมากมายขนาดนั้นนี่ และจะไปรู้ได้ไงว่าพระเอกเก่งเหลือเชื่อขนาดนั้น มันไม่สมเหตุสมผลที่จู่ ๆ จะส่งคนเป็นร้อยไปจัดการกับคน ๆ เดียว ก็จริง It would fly in the face of logic. ถูกต้องของเธอ อะไรนะ เมื่อกี้พูดถึง fly in the ointment แมลงวันหล่นลงไปในหม้อยาต้ม คราวนี้เป็น fly in the face of logic แมลงวันหล่นลงไปเกาะใบหน้าของตรรกะ ยังงั้นเหรอ เปล่าจ้ะ คราวนี้ fly ไม่ใช่แมลงวันแล้ว แต่เป็นกริยาบิน fly in the face of logic หมายความว่า ขัดกับหลักเหตุผลอย่างชัดเจน ไม่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย นึกภาพสิ ตรรกะกำลังมุ่งไปทางหนึ่ง แต่โดนสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลนี้โดนลมพัดปลิวมาแปะอยู่ที่หน้า.
หนังสือ ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก 600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ.สามเสนใน กท. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com
Credit ☆☆ - //www.dailynews.co.th
Create Date : 24 มีนาคม 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2554 4:39:38 น. |
Counter : 4868 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เตยจ๋า 11 เมษายน 2554 7:04:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตยจ๋า 11 เมษายน 2554 7:10:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตยจ๋า 14 พฤษภาคม 2554 20:45:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตยจ๋า 14 พฤษภาคม 2554 20:49:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตยจ๋า 14 พฤษภาคม 2554 20:53:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- ❀จันทร์ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑✼ภาพหมู่พระธรรมยาตราที่วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
- ❀ภาพ ณ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
- ❀ชมภาพ วัดโบสถ์(บน) ,วัดไผ่หูช้าง ,วัดนครอินทร์ ,วัดคลองขวาง จังหวัด นครปฐม - นนทบุรี
- ❃วันที่๒๒มีนาร่วมพัฒนาชุมชน วัดบ่อทอง ,วัดตาก้อง ,วัดรางกำหยาด ,วัดบัวแก้วเกษร ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม
- ✿ภาพชุดชุมชนร่วมพัฒนา วัดบัวแก้วเกษร ,วัดนาราภิรมย์ ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม, ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑
- BlogGang.com
|
|
|
|
มารศรี ช่วยหยิบแม็กบนโต๊ะให้ฉันหน่อยสิ
เอ่อ อะไรนะ แม็กอะไร
ก็ที่เย็บกระดาษนั่นไง ภาษาไทยเรียกว่าแม็ก แบบที่เรียกผ้าอนามัยว่าโกเต๊ก เรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บน่ะ ตาย ดีใจจังที่ฉันรู้สิ่งที่เธอไม่รู้ คิก ๆ
ก็ฉันจะไปรู้ทุกอย่างได้อย่างไรเล่า ในภาษาอังกฤษ mag (แมก) เป็นคำย่อจาก magazine ซึ่งแปลว่า นิตยสาร หรือถ้าเป็น mac (แม็ค) ก็อาจแปลว่าเสื้อกันฝน หรือถ้า M ตัวใหญ่ เป็น Mac สมัยนี้ก็หมายถึงคอมพิวเตอร์ของบริษัท Apple ถ้าจะพูดว่าเครื่องเย็บกระดาษต้องเรียกว่า stapler (สเต๊เผล่อร์)
เออ ๆ ๆ... อ้าว แม็กตัวนี้กระสุนหมดนี่
นี่เธอ พูดถึงปืนหรือเครื่องเย็บกระดาษกันแน่ เธอหมายถึง staples ใช่ไหมที่หมด
ไม่รู้จักหรอก สเตโป้งสเตเปิ้ลอะไรของเธอ ฉันหมายถึงลวดเย็บกระดาษในเครื่องนี้น่ะ
นั่นแหละ เขาเรียกว่า staples ถ้าพูดถึงหลายๆ ตัว แต่ถ้าพูดถึงตัวเดียวก็คือ staple เป็นนาม แต่เขียนเหมือนกับกริยาที่แปลว่า เย็บ (กระดาษ)
เดี๋ยวเธอก็คงจะบอกฉันต่อหรอกว่า staple ยังใช้เป็นวิเศษณ์ได้ด้วย
ใช่ เก่งมาก รู้ได้อย่างไร
อ้าว เป็นได้ด้วยจริง ๆ อ้ะ ฉันแค่มั่ว ๆ เอง เพราะเห็นเธอชอบพูดว่าศัพท์ภาษาอังกฤษมักทำหน้าที่ได้มากกว่าหนึ่งอย่าง
คราวนี้เธอมั่วถูก ลองทายซิว่า staple ถ้าเป็น adjective แปลว่าอะไร
อั่ม... แปลว่า ที่เย็บติดกัน ใช่ปะ แบบกระดาษหลาย ๆ หน้าที่เย็บติดกันน่ะ
Good try. เป็นความพยายามที่ดี แต่ไม่ใช่ แบบที่เธอพูดนั้นเขาใช้คำว่า stapled เช่น The pages were stapled together. = หน้ากระดาษ (หลายแผ่น) ถูกเย็บติดกัน ถ้า staple เป็นวิเศษณ์จะหมายถึงอะไรที่เป็นพื้นฐาน สำคัญ จำเป็น เป็นหลัก เช่นพืชที่ปลูกสำหรับกินเป็นอาหารหลักของชาติก็เรียกว่าเป็น staple crop = พืชหลัก เช่น Rice is a staple crop in most Asian countries. = ข้าวเป็นพืชหลักในประเทศเอเชียส่วนใหญ่
ยังดีนะที่เธอบอก ไม่งั้นฉันคงจะเข้าใจผิดเปล่า ๆ ว่าเทคโนโลยีสมัยนี้เขาปลูกลวดเย็บกระดาษกันได้ด้วย.
Bread and butter
แล้วทีนี้เธอก็คงจะบอกฉันต่อว่า staple ถ้าใช้เป็นนาม นอกจากจะแปลว่า ลวดเย็บกระดาษ แล้ว ยังมีความหมายอื่นอีกด้วย ใช่หรือเปล่า มารศรี
จริงของเธอ แต่ก็ความหมายทำนองเดียวกับที่ใช้เป็นวิเศษณ์นั่นแหละ นั่นคือ สิ่งที่เป็นหลัก สิ่งที่ต้องมี เช่น Brainless soap operas are a staple of Thai television. = ละครน้ำเน่าไร้สมองเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของโทรทัศน์ไทย
มารศรี เธออย่าบังอาจมาว่าละครทีวีของฉันนะ ถามจริง ๆ เธอเคยดูหรือเปล่า ถ้าดูก็จะรู้ว่ามันเป็นกระจกสะท้อนสังคมไทยอย่างดีทีเดียว
สังคมไทยมีการแย่งผู้ชายกันมากขนาดนั้นเลยหรือ สังคมไทยมีการทำตาขึงใส่กัน มีการตบตี มีการข่มเหง หรือกระทั่งข่มขืน ผู้หญิง โดยฝีมือพระเอกนะ ไม่ใช่ผู้ร้าย มากขนาดนั้นเชียวหรือ
ก็ใช่สิยะ เธอมัวแต่อยู่ในโลกหอคอยงาช้างของเธอ จะไปรู้ได้ยังไงว่าชาวบ้านเขาอยู่กันยังไง เธอคิดว่าเธอรู้จักประชาชนคนไทยเหรอ หลังจากที่ไปอยู่เมืองนอกซะตั้งนานขนาดนั้น เรื่องหึงหวง อิจฉาริษยา เคียดแค้น ผูกใจเจ็บ ตบตี ข่มขืน แม้แต่ยิงกันตายเพราะความหึงหรือขัดผลประโยชน์ ก็เป็นเรื่องธรรมดา เธอดูหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์สิ นี่แหละคือ staple ของสังคมไทยของจริง เธออย่ามาทำตัวเหนือกว่าหน่อยเลย
ฉันไม่ได้...ฉัน...I had no idea. ฉันนึกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ทีวีใช้มอมเมาประชาชนเสียอีก เป็นการบันเทิงแบบ escapism (เอ็สเก๊พผิสสึ่ม) เปิดโอกาสให้หลบหนีจากชีวิตประจำวัน นึกไม่ถึงว่าจะเอามาจากชีวิตจริงอย่างที่เธอว่า จนกลายเป็น bread and butter ของการวางผังรายการทีวี
Bread and butter อะไรของเธอ เราพูดถึงละครทีวี ไม่ใช่รายการทำอาหาร
เปล่าจ้ะ bread and butter เป็นสำนวน หมายถึงสิ่งพื้นฐาน ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่ใช้หากิน ทำนองเดียวกับ staple นั่นแหละ
ก็แล้วทำไมไม่ใช่ staple ให้รู้แล้วรู้รอดล่ะ ฉันเพิ่งจำได้หยก ๆ เธอก็มาเพิ่มศัพท์ตัวใหม่อีกแล้ว
ก็ในภาษาอังกฤษเขาไม่นิยมใช้ภาษาซ้ำซาก ถึงมี synonyms (ซิ้นหนะหนิ่มส) = คำที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายกัน เยอะมากอย่างไรเล่า ที่เขาใช้ bread and butter ในความหมายเดียวกันกับ staple ก็เพราะว่าขนมปังกับเนยเป็นอาหารหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับฝรั่ง แต่ถ้าเธอไปพูดว่า sticky rice and fermented fish = ข้าวเหนียวกับปลาร้า แทน เขาก็ไม่เข้าใจหรอกว่านั่นคือ staple ของเธอ
Stock characters
แหม มารศรี ฉันไม่ได้กินข้าวเหนียวกับปลาร้าเป็นอาหารหลักซะหน่อย ดังนั้นจะเรียกมันว่าเป็น staple แบบ bread and butter ของฝรั่งก็คงไม่ถูก เวลาไปฟู้ดคอร์ทกับเพื่อนแล้วเขาสั่งส้มตำปูเค็มไม่ใส่ปลาร้า ฉันยังไม่กล้าอยากบอกว่าฮ่วย ของอร่อยมันอยู่ตรงนั้น กลัวเพื่อนจะหาว่าฉันเป็นลาว
อะไรนะ เธอไม่กล้ากินของที่เธอโปรด เพราะกลัวเพื่อนจะล้อ identity ของเธออย่างนั้นหรือ
เธอไม่สังเกตเหรอว่าในละครทีวี คนที่มาจากพื้นเพเดียวกับฉันมักจะเป็นคนใช้หรือตัวตลก เออ แต่เธอไม่ดูละครทีวีนี่นะ ฉันว่าถ้าดูก็ดีนะ เธอจะได้เข้าใจสังคมไทยมากขึ้น
อืมม์ ฉันคิดว่าเข้าใจ สมัยก่อนคนผิวดำในหนังอเมริกันก็มีแต่รับบทคนใช้กับตัวตลกเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าคนดูไม่ชอบนะ อย่าง Hattie McDaniel รับบทคนใช้จนเป็นคนดำคนแรกที่ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองจากหนังเรื่อง Gone With the Wind ถ้าเธอเคยดู คงจำได้ว่า Scarlett มีพี่เลี้ยงผิวดำตัวอ้วน ๆ ที่ชอบดุเธออยู่เรื่อย ซึ่งทำให้คนดูในรัฐภาคใต้ไม่ค่อยชอบใจเพราะรู้สึกว่าทาสควรรู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ควรดุเจ้านาย แม้ว่าจะเป็นเจ้านายที่ทาสคนนั้นเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กก็ตาม
แหม เธอทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะ เปรียบเทียบฉันกับทาสเนี่ย
เปล่าจ้ะ ประเด็นของฉันคือเพียงว่าทุกสังคมมี stock characters ที่นิยมใช้ใน pop culture อย่างหนัง เพลง ละคร นิยาย คนดำที่เป็นคนใช้หรือพี่เลี้ยงนั่นก็เป็น stock character ที่สมัยนี้เราไม่ค่อยเห็นกันแล้ว แต่ก็ยังมีแบบอื่น ๆ เช่นพวกนกดำที่พูด jive talk กันในหนังการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง Dumbo หรือนักค้ายาเสพติดที่แต่งตัวฉูดฉาด ขับรถ Cadillac สีสด แต่ stereotypes พวกนี้ตอนหลัง ๆ โดนหาว่าเป็น racist = เหยียดผิว ไปหมด แม้ว่าจะมีพื้นฐานอยู่ในความจริงก็ตาม
ช้า ๆ หน่อย แม่มารศรี พูดไทยปนฝรั่งอีกแล้ว ไม่น่ารักเลย stereotype นั่นพอฟังออก เพราะเธอเคยพูดถึง แต่ stock character นี่มันอะไรของเธอ
เอ้า ยกตัวอย่างให้เธอฟังก็ได้ นางเอกที่ก๋ากั่นเป็นทอมบอยในตอนแรก ๆ พระเอกที่เผยตัวเองว่าเป็นเศรษฐีหรือตำรวจในตอนจบ คนใช้ที่เป็นพวกนายว่าขี้ข้าเพชร
ขี้ข้าพลอย...แต่โอเค เข้าใจ หมายถึงตัวละครที่ใช้ในละครบ่อย ๆ แต่ไม่เหมือน stereotype นี่
ถูกต้อง แต่ stereotypes บางทีก็กลายเป็น stock characters เหมือนกัน ดูง่าย ๆ คือพวกเรื่องเล่าตลก สมัยก่อนที่นิยมใช้ชาวต่างชาติเป็น butt of the joke = ตัวที่ถูกล้อเลียนเชิงดูถูก เช่น Polish jokes นี่ก็จะล้อเลียนความโง่เง่าของ Pollacks = คนเชื้อชาติโปแลนด์ โดยเฉพาะที่เพิ่งมาอเมริกา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วชาวโปแลนด์ฉลาดจะตายไป แต่ตอนหลัง racial stereotypes กลายเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในสังคมอเมริกันก็เลยหันมาล้อเลียนความโง่เง่าของสาวผมบลอนด์แทน เป็น blonde jokes แทน Polish jokes แล้ววันหลังฉันจะเล่าตัวอย่างให้ฟัง.