|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
MALALSIA TRULY ASIA TRIP (Part 2)
ยามเช้า กับ เซเลมบัง ยามบ่าย กับ มะละกา และยามค่ำ กับ กัวลาลัมเปอร์
มาเล่าต่อเมื่อคืนลืมมาเล่า มัวแต่นั่งตอบจดหมาย(ราวกับเป็นดารา)และนั่งให้ผู้ชายชวนไปปักกิ่งอยู่...เลยลืมมาต่อ
เช้าวันที่ 2 เราเริ่มตื่นกันตั้งแต่ 7.30 น. โดยที่คืนที่ผ่านดิฉันแทบไม่ได้นอนเลย นอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็เกือบเช้า นอนไม่หลับจนอยากจะลุกมาขัดห้องน้ำออกแรง เผื่อจะหลับแต่เกรงใจประชาชีข้างห้องกับน้องแมวที่หลับอยู่ 555 สาเหตุที่นอนไม่หลับเพราะ แปลกที่ รวมทั้งเมื่อวานตื่นเต้นเกินไปหน่อย
หลังจากที่เราตื่นแล้วก็ไปกินข้าวกันที่ห้องอาหารของโรงแรม ที่โรงแรมมีพวกแม่บ้านแถวนั้นมา อาโรบิค ยามเช้าด้วย แต่ยัยไทยสองคนนี้ยังไม่ตื่นดี...เดินโทรมเป็นศพกันมากินข้าวกันสองคน และเมื่อกินเสร็จเราก็รีบไปแต่งตัว เพื่อจะไปเที่ยวในตัวเมือง เซเลมบังกันต่อเลย เพราะเมื่อวานไม่ได้เที่ยว และที่ต้องรีบไปเพราะตอน 10.30 เราจะต้องนั่งรถบัสออกไปมะละกากันแล้ว
ทางเดินจากโรงแรม เนื่องจากโรงแรมอยู่บนเขา เลยต้องเดินลงเขามาเที่ยว 555
สำหรับเมืองเซเลมบัง เป็นเมืองขนาดไม่ใหญ่นัก เป็นเมืองที่มีลักษณะความเป็น Colonial อยู่มากทีเดียว และรวมถึงการผสมของวัฒนธรรม ของอินเดีย และจีน ดูได้จากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ของเมืองนี้ มีทั้งโบสถ์ สุเหร่า และอาคารไสตล์จีน ผสมกันอยู่ สิ่งที่แปลกตาของเมืองนี้คือ เราพบคนฮินดู เดินเข้าเดินออกในโบสถ์กันด้วย แปลกดี 555
เสียดายที่เรามีเวลาน้อยกับเมืองนี้ เพราะจริงๆ อยากไปเที่ยว Lake Gardens แต่ก็ไม่มีเวลาไปแล้วแถมเรามองออกตามไหล่เขาเห็นบ้านสไตล์ colonial เต็มพรืดไปหมดเลยแต่เวลาก็ไม่มีสำหรับเรา......
เมืองนี้นักท่องเที่ยวไปไม่มาก เราสองคนจึงดูแปลกตาสำหรับผู้คนเมืองนี้ เดินไปไหนก็จะถูกมองตลอด และ บางคนก็ส่งยิ้มให้ เหมือนสงสัยว่ามันมาทำไมแถวนี้
ปล.ข้อดีของการมา มาเลย์เซียคือยามเช้าคุณสามารถเดินไป 7-11 เพื่อไปหา The Sun อ่านฟรีได้ เค้ามีแจกฟรี เพราะตลอดการเที่ยวดินแดนเสือเหลือง มีหนังสือพิมพ์อ่านฟรีทุกวัน
ยามเช้าตรู่ของ Seremban
ภาพวาดแสนคลาสสิค บนกำแพงตึกย้านอินเดียนทาวน์
โบสถ์สวย ๆ ใกล้ๆ โรงแรมของเรา
นี้อีกโบสถ์หนึ่งเดินถัดไปหน่อย หลังนี้เดินเข้าไปดูข้างในด้วยสวยมาก ๆ แต่ไม่กล้าถ่ายรูปเพราะมีคนอยู่ในโบสถ์
หลังจากเดินเที่ยวจนได้เวลาแล้ว เราก็ต้องอำลาจากเมืองที่แสนอากาศดี คนมีน้ำใจ นี้ไปแล้ว เพราะจุดหมายข้างหน้าของเราคือมะละกา ยังอีกยาวไกลนัก
นายอู๋เจี้ยนหาวกับเตียงในโรงแรม Seri Seremban
พนักงานหนุ่มเสื้อดอกที่โรงแรมนี้น่ารักมาก ยิ้มแย้มตลอดเวลา ทำให้บรรยากาศที่โรงแรมดูอบอุ่นขึ้น แต่บรรยากาศหนุ่มรอบ ๆ โรงแรมไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่มีแต่พวกเชื้อมาเลย์ อินเดีย ไม่สเปคเลย 5555
Create Date : 25 มีนาคม 2548 |
Last Update : 25 มีนาคม 2548 21:26:29 น. |
|
17 comments
|
Counter : 931 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แมวจรจัดรักตี๋ IP: 203.152.11.250 วันที่: 29 มีนาคม 2548 เวลา:14:21:36 น. |
|
|
|
โดย: แมว IP: 203.152.11.250 วันที่: 29 มีนาคม 2548 เวลา:14:36:30 น. |
|
|
|
โดย: แมวอีกนั้นล่ะ IP: 203.152.11.250 วันที่: 29 มีนาคม 2548 เวลา:14:47:21 น. |
|
|
|
โดย: ก้อยังเปงแมว IP: 203.152.11.250 วันที่: 29 มีนาคม 2548 เวลา:14:57:47 น. |
|
|
|
โดย: ryo IP: 222.123.70.240 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:11:28:27 น. |
|
|
|
โดย: tacky IP: 222.123.70.240 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:11:29:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แถมลุงที่นั่งอีกข้างของน้องขวัญก็อยากผสานสัมพันธ์ไทย - มาเลย์เหลือเกิน มาถามว่าพูดจีนกลางได้ไหม พูดจีนกวางตุ้งได้ไหม ยั้นพูดฮกเกี้ยนได้ไหมอีก แต่น้องขวัญเธอก็ปฏิเสธไป เพราะจีนกลางเธอพูดได้นิดหน่อยเนื่องจากเรียนมา 2 คอรส์แต่ไม่อาจหาญไปคุยกับลุงด้วย จีนกวางตุ้ง เธอเคยดูแต่ซีรีย์ฮ่องกง และสามารถร้องเพลงประกอบภาพยนต์ สตาร์รันเนอร์ได้เท่านั้น และฮกเกี้ยนเธอร้องได้เป็นเพลงมาจิ.......ลุงเลยอดคุยไป 5555
เราใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงจึงมาถึง Central Bus Terminal ของเมืองมะละกา แต่มันก็ยังไม่พาเราไปถึงจุดหมายเพราะเราต้องต่อรถเมล์เข้าไปในตัวเมืองอีก ตอนแรกก็งงๆ ว่าจะขึ้นรถสายไหน พอดิบพอดีไปเจอหนุ่มญี่ปุ่น แกงค์หนึ่ง เราก็กะพึ่งพาอาศัย ปรากฏว่าหนุ่มญี่ปุ่นก้ช่วยอะไรเราไม่ได้เพราะมันไม่ถามอะไรเลยได้แต่ยืน อึ้ง ทึ่ง และหมุนวน เราจึงต้องช่วยตัวเองโดยการไปถามประชาสัมพันธ์ และ เราก็ได้คำตอบว่า สาย 76 จะช่วยท่านได้ รถเมล์สายนี้จะนำพาเราไปสู่จุดหมาย และก่อนเราจะไปขึ้นรถเมล์ เราก็ไปจองตั๋วรถทัวร์ กลับ KL ตอน 5.30 ไว้ทันที เล่นเอาพนักงานอึ้งๆ ว่ามันเพิ่งมาถึงมะละกามันริจะกลับ KL ตอนเย็นเลยเหรอ